ชื่อของศาสดามุฮัมมัด(ศ็อลฯ) ในพระคัมภีร์ไบเบิล ตอนที่ 1

ชื่อของศาสดามุฮัมมัด(ศ็อลฯ) ในพระคัมภีร์ไบเบิล ตอนที่ 1

 

คัมภีร์อัลกุรอาน กล่าวว่า ศาสดาเยซูได้กล่าวว่า หลังจากท่านจากโลกไป ศาสดาผู้มีชื่อว่า อะหมัด ก็จะมา

 

وَإِذْ قَالَ عِيسَى ابْنُ مَرْيَمَ يَا بَنِي إِسْرَائِيلَ إِنِّي رَسُولُ اللَّهِ إِلَيْكُمْ مُصَدِّقًا لِمَا بَيْنَ يَدَيَّ مِنَ التَّوْرَاةِ وَمُبَشِّرًا بِرَسُولٍ يَأْتِي مِنْ بَعْدِي اسْمُهُ أَحْمَدُ

 

และจงรำลึก เมื่ออีซา บุตรมัรยัม ได้กล่าวว่า โอ้วงศ์วานอิสรออีลเอ๋ย แท้จริงฉันเป็นรอซูลของอัลลอฮ์มายังพวกท่าน เป็นผู้ยืนยันสิ่งที่มีอยู่ในคัมภีร์เตารอตก่อนหน้าฉัน และเป็นผู้แจ้งข่าวดีถึงรอซูลคนหนึ่ง ผู้จะมาภายหลังฉัน ชื่อของเขาคือ “อะหมัด”


บทที่ 61 โองการที่ 6

 

และคัมภีร์อัลกุรอาน กล่าวอีกโองการหนึ่งว่า ชื่อของศาสดามุฮัมมัด ได้ถูกบันทึกไว้ในคัมภีร์โตร่าและไบเบิล

 

الَّذِينَ يَتَّبِعُونَ الرَّسُولَ النَّبِيَّ الْأُمِّيَّ الَّذِي يَجِدُونَهُ مَكْتُوبًا عِنْدَهُمْ فِي التَّوْرَاةِ وَالْإِنْجِيلِ

 

บรรดาผู้ปฏิบัติตามรอซูล นบียุลอุมมี ซึ่งพวกเขาพบเขา ถูกจารึกไว้ ณ ที่พวกเขา ทั้งในคัมภีร์เตารอต และในคัมภีร์อินญีล(ไบเบิล)


บทที่ 7 โองการที่ 157

 

เกริ่นนำ


โมเช่ฮ์ บุตรของ จอห์น موشيه بن يوحنا เดิมเป็นชาวคริสต์นิกาย เนสโตเรียน เป็นชาวอาร์มีเนีย ทางตะวันตกเฉียงเหนือของอิหร่าน เกิดปีฮ.ศ.ที่ 1420 และตายปีฮ.ศ.ที่ 1330 (111 ปีที่แล้ว)

 

นิกาย Nestorianism เนสโตเรียน ( มีที่มาจาก เนสโตริอุส บิชอปแห่งกรุงคอนสแตนติโนเปิล หรือโรมันตะวันออก ปัจจุบันคือตุรกี (ดำรงตำแหน่งปี 428-431 AD)

 

แก่นของลัทธิเนสโตเรียนคือ วิพากษ์สถานะของคริสต์ร่างมนุษย์ว่าไม่เพอร์เฟกต์โดยเนื้อแท้ อันแยกออกต่างหากจากคริสต์ในร่างศักดิ์สิทธิ์


และมารีคือผู้ให้กำเนิดคริสต์ร่างมนุษย์ (ไม่ใช่ผู้ให้กำเนิดคริสต์ร่างศักดิ์สิทธิ์) ซึ่งควรถูกเรียกว่า ‘mother of Christ’ จึงจะเหมาะสมกว่าที่จะเรียกว่า 'Mother of God’

 

คำสอนของบิชอปเนสโตริอุสนี้ไปขัดแย้งกับหลักคำสอนของคริสต์นิกายโรมันคาธอลิก ทำให้ลัทธิเนสโตเรียนถูกกำจัดออกไปจากกรุงคอนสแตนติโนเปิลและแอนทิออก(ตุรกี)ในช่วงศตวรรษที่ 5-6 แห่งคริสต์ศักราช )

 

โมเช่ฮ์ บุตรของจอห์น เกิดในครอบครัวชาวคริสต์อาศัยอยู่ที่ประเทศอาร์มีเนีย จากนั้นเข้าศึกษาในโบสถ์กับนักวิชาการคริสต์มากมาย ต่อมาเขาเดินทางไปประเทศวาติกัน เพื่อศึกษาต่อในระดับสูง เขากลายเป็นศิษย์ใกล้ชิดของบรรดาบาทหลวงใหญ่ที่นั่น เขาได้รับอิทธิพลวิชาการของฝ่ายคอทอลิก

 

แต่เกิดเรื่องหนึ่งขึ้นที่นั่น ทำให้เขาเข้ารับอิสลาม เขาออกจากวาติกันกลับสู่อาร์มีเนียบ้านเกิด มารับอิสลามกับอาลิมใหญ่ มัรฮูม ฮัจยี มีรซา ฮาซัน มุจญะตะฮิด

 


จากนั้นเขาเดินทางไปศึกษาอิสลามต่อที่เฮาซะฮ์นะยัฟ เขาได้เปลี่ยนชื่อใหม่เป็น เชค มุฮัมมัด ซอดิก


เขาได้ศึกษาอิสลามระดับสูงอยู่ที่นะยัฟ 16 ปี แล้วกลับมาที่อาร์มีเนียทำหน้าที่เผยแผ่อิสลาม และเชิญชวนผู้คนสู่มัซฮับอะฮ์ลุลบัยต์ เป็นคอเต็บบรรยายในมัสยิดกลางอาร์มีเนีย
ภายใต้มิมบัรของเขา มีทั้งชาวคริสต์และมุสลิมมาร่วมศึกษากับเขา เพื่อแสวงหาสัจธรรม


หมายเหตุ - ประเทศอาร์มีเนียมีมัสยิดเพียงแห่งเดียว ชื่อว่า “มัสยิดคาบูด เยราวาน” (มัสยิดบลูหรือ Blue Mosque ) สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1765 (ปัจจุบัน 2019 ผ่านมาแล้ว 254 ปี)

 

เชค มุฮัมมัด ซอดิก เดินทางไปเมืองต่างๆมากมาย มีผู้คนให้การต้อนรับเขามากมายเช่นกัน

 

ปีฮ.ศ.ที่1305 (ปัจจุบัน 1441 ผ่านมาแล้ว136ปี)เขาเดินทางมาซิยารัตอิมามริฎอ(อ) เขาได้ปราศรัยที่ลาน ซ่อเน่ฮ์ ริซวี ประชาชนประทับใจมากต่อเรื่องราวการรับอิสลามของเขา ทั้งๆที่เขาเป็นนักวิชาการคริสต์ระดับสูงคนหนึ่ง และเป็นคริสต์โดยสายเลือดคือจากพ่อจากปู่ของเขา

 

เขาออกจากมาชัด มาที่เตหราน และได้เขาพบ กับ นาซิรุดดีน ชาฮ์ กาจาร(กษัตริย์อิหร่านสมัยนั้น) เขาเล่าเรื่องรับอิสลามให้ชาฮ์ฟัง ชาฮ์เลยมอบฉายาให้เขาว่า ฟัคคะรุลอิสลาม – ความภาคภูมิใจของอิสลาม

 

ชาฮ์ขอให้เขาเขียนหนังสือเล่มหนึ่งขึ้นเกี่ยวกับสัจธรรมของอิสลาม และความประเสริฐของดีนอิสลามเหนือดีนทั้งหลาย


เชค มุฮัมมัดซอดิก ฟัคคะรุลอิสลาม ได้แต่งหนังสือทรงคุณค่าเล่มหนึ่งชื่อว่า

 

أَنِيْسُ الْأَعْلاَمِ فِيْ نُصْرَةِ الْاِسْلاَمِ

 

อะนีซุลอะอ์ลาม ฟี นุซเราะติลอิสลาม(ไออุ่นของนักวิชาการในการรับใช้อิสลาม)

 

เป็นภาษาฟาร์ซี พิมพ์ครั้งแรกฮ.ศ. 1315 (126ปีที่แล้ว)มีสองเล่ม นำกลับมาพิมพ์ใหม่ในปี 1406 มีแปดเล่ม และเขาได้แต่งตำราอิสลามไว้อีกมากมาย


เราจะกล่าวรายละเอียดของเรื่องนี้ในตอนต่อไป

 

โปรดติดตามตอนต่อไป


บทความโดย เชคญะวาด สว่างวรรณ