เว็บไซต์ อิมาม อัลฮะซะนัยน์ (อลัยฮิมัสลาม)เพื่อคุณค่าและสารธรรมอิสลาม

ชื่อของศาสดามุฮัมมัด(ศ็อลฯ) ในพระคัมภีร์ไบเบิล ตอนที่ 2

0 ทัศนะต่างๆ 00.0 / 5

ชื่อของศาสดามุฮัมมัด(ศ็อลฯ) ในพระคัมภีร์ไบเบิล ตอนที่ 2

 

เนื้อหาที่จะเล่าต่อไปนี้ ผมได้สรุปมาจากหนังสือ


นะบียุลเราะห์มะฮ์ ผู้แต่ง มุฮัมมัด เร ชะฮ์รีย์ หน้า 29 – 38

 

เรื่อง การเข้ารับอิสลามของบาทหลวงคริสต์

 

ในหนังสือ อะนีซุลอะอ์ลาม ฟี นุซเราะติลอิสลาม นายโมเช่ฮ์ บุตรของจอห์น นักวิชาการคริสต์ที่เปลี่ยนชื่อมาเป็น มุฮัมมัด ซอดิก ได้กล่าวในบทแรกๆของหนังสือเล่มนี้ถึงเรื่องการเข้ารับอิสลามของเขา ภายใต้หัวข้อ “ บั้นปลายชีวิตที่สับสน “ ดังนี้

 

ผู้เขียน(นายโมเช่ฮ์)ได้เล่าว่า เขาเกิดย่านโบสถ์เมืองอาร์มีเนีย(อาเซอร์ไบจันอยู่ทางตะวันตกของอิหร่าน) ได้รับการศึกษาจากคณะบาดหลวงผู้ทรงคุณวุฒิ นักวิชาการและคณาจารย์ในช่วงที่ยังไม่รู้อะไรเลย หนึ่งจากบุคคลเหล่านี้คือ นักบวชยอห์นบาเกียร์ บาดหลวงยอห์น นักบวชอ๊าจญ์และอาจารย์ท่านอื่นๆแห่งนิกายโปรแตสแตนท์
ยังมีคณาจารย์จากนิกายคาทอลิคอีกเช่น นักบวชทาลู บาทหลวงกูร์กัซ และอาจารย์ท่านอื่นๆอีกมากมาย

 

(ผู้เขียนเล่าว่า) ตอนอายุสิบสองปี ผมได้ศึกษาคัมภีร์โตร่าฮ์และไบเบิลจบ ตลอดจนวิชาคริสตศาสนาทุกสาขา จนผมบรรลุขั้นบาดหลวงตามวิชาความรู้

 

ช่วงเวลาสุดท้ายแห่งการศึกษาของผมหลังอายุสิบสองปี ผมต้องการศึกษาหลักศรัทธานิกายและลัทธิต่างๆในคริสตาสนา หลังจากที่ผมได้วิจัยมาอย่างต่อเนื่อง ได้ทุ่มเทความพยายามและเดินทางไปยังบ้านเมืองต่างๆ

 

ผมได้เป็นตัวแทนเดินทางมาพบบาดหลวงผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่งที่นครรัฐวาติกัน ยิ่งกว่านั้นท่านยังดำรงตำแหน่งบิชอพแห่งคริตจักร ท่านมีสมณศักดิ์มากมาย ความโด่งดังของท่านเป็นที่รู้กันทั่วในหมู่ชาวคริสต์ เกี่ยวกับความรู้ ความถือสันโดษ ความสำรวมตนในหมู่ผู้นับถือนิกายของท่าน

 

คาทอลิคเป็นนิกายที่มีอำนาจควบคุมและดำเนินการทางศาสนจักร ต่อกษัตริย์ เจ้าเมือง ชาวบ้าน คนรวยและผู้อยู่ภายใต้การดูแล


ผู้นับถือนิกายคอทอลิคจะส่งคำถามและปัญหาศาสนาของพวกเขาไปถามนักบวชผู้นี้ พร้อมส่งค่าตอบแทนต่อคำถามของพวกเขาแก่นักบวชผู้นี้ ด้วยการถวายของขวัญอันมีค่ามากมายทั้งเงินสดและทองคำ พวกเขาได้ทำเช่นนี้เป็นการแสดงความต้องการของพวกเขาที่มีต่อนักบวช และความปรารถนาของพวกเขาในการได้รับพรจากนักบวช และพวกเขาถือเป็นเกียรติที่นักบวชได้รับเอาของกำนัลจากพวกเขา

 

ผู้เขียนได้เล่าว่า ผมได้รับการถ่ายทอดความรู้เรื่องหลักศรัทธาและรายละเอียดต่างๆของคริสตศาสนา รวมทั้งนิกายต่างๆและบทบัญญัติปลีกย่อยอีกมากมายจากบาดหลวงผู้นี้
บาดหลวงผู้นี้มีลูกศิษย์ลูกหามากมายนอกเหนือจากผม ที่มาห้องเรียนของท่านประจำวันประมาณ 400-500 คน ในห้องเรียนของท่านจึงเนืองแน่นไปด้วยพระและแม่ชี ที่สละกิจทางโลก บนบานว่าจะถือโสดไม่สมรส


พวกเขาจะสวดมนต์อยู่ในโบสถ์เป็นกลุ่มใหญ่ นิยามในหมู่ชาวคริสต์ได้เรียกพวกเขาเหล่านี้ว่าพวก “ ร็อบบานะตา”

 

แต่ท่านค่อนข้างให้ความสนิทสนมและความรักกับผมเป็นพิเศษมากกว่านักศึกษาทั้งหลาย ท่านมอบกุญแจที่พัก โกดังเก็บอาหารและเครื่องดื่มของท่านไว้ให้ผมดูแล ยกเว้นกุญแจไขบ้านเล็กๆหลังหนึ่ง อันเป็นสถานที่เก็บสมบัติโดยเฉพาะ


ผมเดาว่ามันคงเป็นคลังที่เก็บทรัพย์สมบัติของท่านนักบวช ด้วยเหตุนี้ผมจึงกล่าวกับตัวเองว่า “ สละโลกเพื่อโลก ”


ท่านแสดงความสมถะเพื่อแสวงหาเครื่องประดับทรัพย์สินทางโลก แต่ผมก็ติดสอยห้อยตามพระท่านนี้มาตลอด ตามที่กล่าวมาโดยศึกษาเล่าเรียนหลักศรัทธาของนิกายและลัทธิต่างๆจนผมอายุได้ สิบเจ็ด-สิบแปด ปี

 

มีวันหนึ่ง บังเอิญท่านเกิดป่วยไปสอนหนังสือไม่ไหว ท่านจึงกล่าวกับผมว่า ลูกรัก จงไปบอกลูกศิษย์ทั้งหลายว่า อาการของพ่อไม่เอื้ออำนวยจะสอนได้ในวันนี้

 

 

โปรดติดตามตอนต่อไป


บทความโดย เชคญะวาด สว่างวรรณ

 

กรุณาแสดงความคิดเห็นด้วย

ความคิดเห็นของผู้ใช้งานทั้งหลาย

ไม่่มีความคิดเห็น
*
*

เว็บไซต์ อิมาม อัลฮะซะนัยน์ (อลัยฮิมัสลาม)เพื่อคุณค่าและสารธรรมอิสลาม