ชื่อของศาสดามุฮัมมัด(ศ็อลฯ) ในพระคัมภีร์ไบเบิล ตอนที่ 3

ชื่อของศาสดามุฮัมมัด(ศ็อลฯ) ในพระคัมภีร์ไบเบิล ตอนที่ 3

 

ฟารา กลีตูส


Parakletos


فَارَقَلِيْطَ
 

ผู้ได้รับการสรรเสริญ

 

ผม(โมเช่ฮ์)ได้ออกไปบอกพวกลูกศิษย์และเห็นพวกเขากำลังทบทวนปัญหาวิชาการ การทบทวนของพวกเขานำไปสู่ความขัดแย้งในประเด็นความหมายของคำว่า ฟารอกอลีตอ - فَارَقَلِيْطَا – ในภาษาเฮบรู(ซุรยานี) ซึ่งแตกมาจากภาษากรีก(ยูนานี)คือ บีร กอลีตูส – بيريقليطوس


(มีความหมายว่า الممدوح والمحمود كثيراً ) ซึ่งตรงกับภาษาอาหรับคือ มุฮัมมัด และ อะหมัด ที่ท่านนักบุญยอห์นเจ้าของพระคัมภีร์ไบเบิลฉบับที่ 4 ที่ได้กล่าวถึงการมาของบุคคลผู้นี้จากพระเยซู

 

หมายเหตุ – ปัจจุบัน คำ (ฟารอกอลีตอ) ได้ถูกให้ความหมายว่า “ผู้ปลอบประโลมใจ”

 

ดู ยอห์น บทที่ 14,15,16 :

 

ยอห์น บทที่ 14 โองการที่ 16


เราจะทูลขอพระบิดา และพระองค์จะทรงประทาน(ฟาร่อก่อลีตอ)อีกผู้หนึ่งให้แก่ท่าน เพื่อพระองค์จะได้อยู่กับท่านตลอดไป

 

I will pray the Father, and he shall give you another Comforter, that he may abide with you for ever
I will ask the Father, and he will give you another Advocate to be with you always

 

ยอห์น บทที่ 15 โองการที่ 26


แต่เมื่อพระองค์(ฟารอกอลีตอ)ที่เราจะใช้มาจากพระบิดา มาหาท่านทั้งหลาย คือพระวิญญาณแห่งความจริง ผู้ทรงมาจากพระบิดานั้นได้เสด็จมาแล้ว พระองค์นั้นจะทรงเป็นพยานถึงเรา

 

But when the Comforter is come, whom I will send unto you from the Father, even the Spirit of truth, which proceedeth from the Father, he shall testify of me
When the Advocate comes whom I will send you from the Father, the Spirit of truth that proceeds from the Father, he will testify to me

 

ยอห์น บทที่ 16 โองการที่ 7


เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลาย คือการที่เราจากไปนั้นก็เพื่อประโยชน์ของท่าน เพราะถ้าเราไม่ไป พระองค์(ฟาร่อก่อลีตอ)ก็จะไม่เสด็จมาหาท่าน แต่ถ้าเราไปแล้ว เราก็จะใช้พระองค์มาหาท่าน


I tell you the truth; It is expedient for you that I go away: for if I go not away, the Comforter will not come unto you; but if I depart, I will send him unto you
I tell you the truth, it is better for you that I go. For if I do not go, the Advocate will not come to you But if I go, I will send him to you

 

ตามที่พระเยซูตรัสว่า ในอนาคตจะมี”ฟารอกอลีตอ”มาภายหลังจากข้าพเจ้า

 

การสนทนาของพวกเขาเริ่มขยายวงกว้างขึ้นในประเด็นนี้ มีการถกเถียงกันนานและส่งเสียงดังลั่นและหยาบคาย แต่ละคนก็มีความเห็นเอกเทศน์เป็นของตัวเองในวรรคนี้ จนการถกเถียงของพวกเขาในปัญหานี้จบลงโดยปราศจากผลลัพท์ แล้วต่างคนได้แยกย้ายกันไป

 

ส่วนผมกลับมาหาบาทหลวง ท่านกล่าวกับผมว่า ลูกรักของพ่อ พวกเขาได้ค้นคว้าและสนทนากันถึงเรื่องอะไรในวันนี้ตอนที่พ่อไม่อยู่ ? ผมได้เล่าให้ท่านฟังว่า พวกเขามีความเห็นไม่ตรงกันสักคนในความหมายคำว่า “ฟารอกอลีตอ” ผมยังเล่าให้ท่านฟังถึงทัศนะของนักศึกษาแต่ละคนในเรื่องนี้

 

ท่านถามผมว่า : แล้วเจ้าเลือกทัศนะของใครล่ะในเรื่องนี้


ผมตอบท่านว่า ผมเลือกตามทัศนะของท่าน...(ผู้เขียนไม่ได้เอ่ยชื่อไว้) ที่อธิบายไว้ครับ

 

บาดหลวงกล่าวว่า ความหมายมันไม่ได้ถูกจำกัดไว้แค่นั้นหรอก แต่ความจริงที่แท้จริงนั้นมันแตกต่างจากคำพูดของพวกเขาทั้งหมด เพราะไม่มีใครรู้จริงถึงความหมายของชื่อนี้และการอธิบายถึงมันในเวลานี้ นอกจากผู้เชี่ยวชาญในวิชาการจริงๆแต่ก็มีน้อยเหลือเกิน


ผมจึงหมอบตัวลงแทบเท้าทั้งสองของอาจารย์และกล่าวว่า โอ้คุณพ่อทางจิตวิญญาณครับ ท่านมีความรู้ดีมากกว่าใครอื่น นับแต่เริ่มอายุ(การเรียน)จนถึงบัดนี้ ผมเรียนจบหมดทุกอย่างเหมือนทุกคนที่จบ


ผมมีความเป็นชาตินิยมในความเป็นคริสต์เหมือนชาวคริสต์อื่นๆ และผมเคร่งครัดศาสนาเหมือนผู้เคร่งครัดทั้งหลาย ผมไม่เคยหยุดอ่านและทบทวนบทเรียน นอกจากเวลาสวดมนต์และเทศนาเท่านั้น


อะไรจะทำร้ายท่าน หากท่านจะทำดีต่อผม โดยอธิบายให้ผมเข้าใจถึงความหมายของชื่ออันมีเกียรตินี้หรือ ?

 

ท่านอาจารย์ได้ร่ำไห้ออกมา พลางกล่าวว่า โอ้ลูกรักทางจิตวิญญาณของพ่อ พ่อขอสาบานต่อพระเจ้าว่า เจ้านั้นเป็นที่รักยิ่งของพ่อ พ่อไม่เคยหวงแหนสิ่งใดต่อเจ้าเลย ทั้งๆที่การเผยสิ่งนั้นเป็นประโยชน์อันใหญ่หลวงต่อการทำความรู้จักความหมายของชื่ออันมีเกียรตินี้ แต่ว่าผู้นับถือคริสตศาสนาจะต้องฆ่าพ่อและเจ้าด้วย เพียงแค่เผยแพร่ความหมายของชื่อนี้ออกไป ยกเว้นเจ้าจะให้สัญญากับพ่อว่า จะไม่นำความหมายของชื่อนี้ไปประกาศ ไม่ว่าจะตอนที่พ่อมีชีวิตอยู่หรือตายแล้วก็ตาม หมายความว่า เจ้าจะต้องไม่เอ่ยชื่อพ่อ เพราะมันจะเป็นเหตุให้พวกเขามุ่งมาทำร้ายพ่อแหลกเป็นชิ้นๆตอนพ่อยังมีชีวิต รวมทั้งเครือญาติและผู้ติดตามพ่อ(จะต้องเดือดร้อนด้วย)หลังจากพ่อเสียชีวิตแล้ว และคงหนีไม่พ้นที่พวกเขาจะตรงมาขุดหลุมศพพ่อแล้วเผาร่างพ่อ หากพวกเขารู้ถึงความหมายที่แท้จริงของชื่อนี้ว่ามันมาจากพ่อ(เป็นคนอธิบาย)


ผมได้สาบานต่อพระเจ้าผู้ทรงสูงส่ง ผู้ทรงยิ่งใหญ่ ผู้ทรงอำนาจ ผู้ทรงมีชัย ผู้ทรงทำลายล้าง ผู้ทรงหยั่งรู้ ผู้ทรงชำระโทษ ต่อพระคัมภีร์ไบเบิล ต่อพระเยซู ต่อพระแม่มารี ต่อบรรดาศาสดาและคนดีทั้งหลาย ต่อทุกพระคัมภีร์ที่พระเจ้าประทานมา และต่อพระและแม่ชีทั้งหลายว่า ผมจะไม่เผยความลับของท่านตลอดกาล ทั้งในยามท่านมีชีวิตหรือหลังจากที่ตายไปแล้ว


หลังจากที่ท่านเชื่อใจผมแล้ว ท่านกล่าวว่า ลูกรักทางจิตวิญญาณของพ่อ แท้จริงชื่อนี้คือนามหนึ่งจากบรรดาชื่ออันจำเริญของท่านศาสดาของพวกมุสลิม มันมีความหมายว่า (อะห์มัดและมุฮัมมัด (แปลว่าผู้ที่สรรเสริญพระเจ้ามากที่สุดและผู้ถูกสรรเสริญถึงเขามากที่สุดในหมู่มนุษย์ )


จากนั้น บาทหลวงได้มอบกุญแจบ้านหลังเล็ก(ที่กล่าวไว้แต่ต้น)แก่ผม แล้วขอให้ผมไปเปิดหีบของชายคนหนึ่ง และนำคัมภีร์ของชายคนนั้นมาให้ท่าน ผมได้ทำตามนั้น ผมเอาคัมภีร์มามอบให้ท่านสองเล่ม ซึ่งคัมภีร์ทั้งสองเล่มบันทึกเป็นลายมือภาษากรีกและเฮบรูบนหนังสัตว์ (มีอายุบันทึกไว้)ก่อนที่ศาสดาคนสุดท้ายจะปรากฏ ผมเห็นคัมภีร์ทั้งสองเล่มมีคำ “ฟารอกอลีตอ”ทั้งสองเล่มแปลว่า อะหมัด และ มุฮัมมัด

 

โปรดติดตามตอนต่อไป


บทความโดย เชคญะวาด สว่างวรรณ