ชื่อของศาสดามุฮัมมัด(ศ็อลฯ) ในพระคัมภีร์ไบเบิล ตอนที่ 5 ตอนจบ

ชื่อของศาสดามุฮัมมัด(ศ็อลฯ) ในพระคัมภีร์ไบเบิล ตอนที่ 5 ตอนจบ

 

ทำไมคุณพ่อจึงไม่เข้ารับอิสลาม?

 

ผม(โมเช่ฮ์)ได้ถามว่า หากเป็นจริงดังนั้น แล้วอะไรขัดขวางคุณพ่อมิให้เข้ารับอิสลามและดำเนินตามมุฮัมมัดล่ะครับ ขณะที่ท่านรู้ซึ้งว่าอิสลามเป็นศาสนาดีที่สุด และถือว่าการตามศาสดาคนสุดท้ายนี้ คือทางรอดและทางที่เที่ยงตรงไปสู่พระเจ้า ?

 

ท่านตอบว่า ลูกรักของพ่อ พ่อไม่เคยได้รับรู้ถึงความจริงของศาสนาอิสลามและรู้ว่ามันเป็นศาสนาดีที่สุด เว้นแต่หลังจากพ่อมีอายุแก่ชราภาพแล้ว ในใจพ่อตอนนี้เป็นมุสลิม ส่วนภายนอกนั้นพ่อไม่อาจทิ้งตำแหน่งผู้นำและสมณศักดิ์สูงส่งนี้ได้ ลูกก็เห็นตำแหน่งของพ่อท่ามกลางหมู่ชาวคริสต์นี่


หากพวกเขารู้ว่าพ่อมีจิตใจเอนเอียงไปทางศาสนาอิสลาม พวกเขาคงจะต้องฆ่าพ่อให้ตายแน่ แม้กระทั่งพ่อจะหนีพ้นพวกเขาแล้วก็ตาม ก็ไม่วายที่พวกเจ้าเมืองฝ่ายคริสต์ศาสนา จะต้องขอตัวพ่อคืนจากพวกเจ้าเมืองฝ่ายมุสลิม โดยอ้างว่าทรัพย์สมบัติของโบสถ์คริสต์นั้นอยู่ในมือพ่อ และพ่อได้ทำผิดคือโกงสิทธิของพวกเขา หรือไม่ก็อ้างว่า พ่อเอาสิ่งของไปจากพวกเขา พ่อได้กินมันและให้มัน


ด้วยเหตุนี้พ่อคิดว่า มันยากและหนักที่เจ้าเมืองฝ่ายมุสลิมทั้งหลายจะปกป้องพ่อไว้ได้ ถึงกระทั่งว่า พ่อจะมาขอพึ่งพวกมุสลิมด้วยการที่พ่อจะกล่าวกับพวกเขาว่า ผมเป็นมุสลิมแล้วนะ


พวกเขาจะกล่าวว่า ยินดีกับท่านด้วย ที่ท่านได้พาตัวท่านรอดพ้นจากไฟนรกญะฮันนัม แต่ขอร้องว่า อย่าได้ทวงบุญคุณกับพวกเรา เพราะท่านช่วยตัวเองให้รอดพ้นจากการลงโทษของอัลลอฮฺแล้ว โดยเข้าสู่ศาสนาแห่งสัจธรรมและแนวทางที่ถูกต้อง


ลูกรักของพ่อ แล้วจะไม่มีขนมปังและน้ำดื่มสำหรับพ่อ ทั้งๆที่พ่อเป็นอาจารย์และแก่เฒ่าท่ามกลางชาวมุสลิม ด้วยเหตุนี้พ่อก็จะต้องมีชีวิตอยู่ในความยากจน ขัดสน สับสน น่าสมเพช อับยศ มีแต่ความกังวลในสภาพที่พ่อเองก็ไม่เข้าใจภาษาของพวกเขา แล้วพวกเขาก็จะไม่รู้จักสิทธิของพ่อ ไม่ดูแลเอาใจใส่ศักดิ์ศรีของพ่อ พ่อก็จะตายในสภาพหิวโหยท่ามกลางพวกเขา และพ่อจะต้องอำลาจากโลกนี้ไปท่ามกลางความเสื่อมเสียและสิ่งปรักหักพังต่างๆ


พ่อเคยเห็นด้วยตาพ่อเองมามากมายแล้ว มีผู้คนเข้ารับอิสลาม และพวกมุสลิมไม่เคยเอาใจใส่ดูแลพวกเขา พวกเขาเหล่านั้นจึงหันหลังออกจากอิสลามไปสู่ศาสนาเดิมของพวกเขาอีกครั้งหนึ่ง


ดังนั้นพวกเขาได้ขาดทุนทั้งโลกนี้และโลกหน้า และพ่อก็เช่นกัน พ่อกลัวว่า พ่อไม่อาจทนรับความเดือนร้อนและทุกข์เข็ญต่างๆทางโลกได้ ในขณะที่จะไม่ได้รับสิ่งใดเป็นของพ่อเลยจากโลกนี้และโลกหน้า และพ่อขอขอบคุณต่อพระเจ้า ที่เป็นคนหนึ่งที่เลื่อมใสตามศาสดามุฮัมมัด(ศ)ในจิตใจ

 

แล้วอาจารย์ผมได้ร้องไห้ออกมา ส่วนผมก็ร้องไห้เช่นกัน หลังจากเราร้องไห้นานอยู่พักหนึ่ง


ผมกล่าวกับท่านว่า คุณพ่อที่รักครับ ท่านจะสั่งผมให้เข้ารับอิสลามได้ไหม


ท่านกล่าวว่า หากลูกต้องการโลกหน้าและการรอดพ้น เจ้าควรจะยอมรับศาสนาแห่งความจริง เพราะเจ้ายังหนุ่มแน่น พ่อว่าลูกไม่เป็นไรหรอก พระเจ้าจะทรงจัดเตรียมปัจจัยต่างๆทางโลกไว้สำหรับเจ้า ลูกคงไม่อดตายหรอก


และพ่อจะขอพรให้เจ้าเสมอ และพ่อต้องการให้เจ้าช่วยเป็นพยานให้พ่อในวันสิ้นโลกด้วยว่า แท้จริงพ่อเป็นมุสลิมในจิตใจและเป็นผู้ตามมนุษย์ที่ประเสริฐสุดคนหนึ่ง
และพ่ออยากบอกเจ้าว่า มีนักบวชมากมายที่ในใจพวกเขา ใช้ชีวิตสภาพเดียวเช่นพ่อ พวกเขาเหมือนพ่อ พ่อคือคนบาปที่ไม่อาจสลัดตำแหน่งหน้าที่ผู้นำทางโลกได้ และนอกจากนี้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่า แท้จริงศาสนาของพระเจ้าบนโลกวันนี้ คือศาสนาอัลอิสลาม

 

เมื่อผมได้เห็นพระคัมภีร์เก่าสองเล่มและได้ฟังคำอธิบายเช่นนี้จากอาจารย์แล้ว รัศมีแห่งทางนำของศาสดาคนสุดท้าย คือศาสดามุฮัมมัด(ศ)ได้มีอำนาจเหนือตัวผม และความรักที่ผมมีต่อเขาถึงขั้นที่ว่า โลกใบนี้และสิ่งที่มีอยู่ในมันในสายตาผมมันกลายเป็นซากศพไร้ค่า ตำแหน่งผู้นำทางโลกที่มีวันมลาย เครือญาติและบ้านเกิดเมืองนอนมิอาจผูกมัดขัดขวางผมไว้ได้ ผมหันหลังให้กับสิ่งเหล่านั้นทุกสิ่ง ผมได้อำลาอาจารย์ในช่วงเวลานั้น


แล้วท่านได้ขอให้ผมรับเงินจำนวนหนึ่งจากท่านไปเพื่อใช้จ่ายในการเดินทางของผม ผมรับมันมาจากอาจารย์ แล้วออกเดินทาง(จากนครรัฐวาติกัน) มุ่งหน้าสู่โลกหน้าทันที

 

การเข้ารับอิสลามของโมเช่ฮ์

 

ผมไม่พกพาสิ่งใดมานอกจากหนังสือสองสามเล่มเท่านั้น ผมทิ้งตำราทั้งหมดและทุกสิ่งที่ผมมีไว้ หลังจากการหายใจที่ยากลำบาก ผมเดินทางเข้ามาถึงเมืองอาร์มีเนียตอนเที่ยงคืนพอดี

 

และในคืนเดียวกันนั้น ผมไปเคาะประตูบ้านท่านมัรฮูมสัยยิด ฮาซัน มุจญ์ตะฮิด ซึ่งท่านปิติใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้พบกับผมหลังจากท่านรู้ว่า


ผมมาหาท่านเพื่อเข้ารับอิสลาม


ผมขอให้ท่านสอนกะลิมะฮ์ชะฮาดะฮ์(ถ้อยคำปฏิญาณตน) และหลักการอิสลามที่สำคัญ

 

ท่านมีรซา ฮาซัน ได้ถ่ายทอดทุกสิ่งและสอนความรู้ให้ผม ผมได้จดเป็นภาษาเฮบรูเพื่อจะได้ไม่ลืม


เช่นกันผมขอร้องท่านว่าอย่าได้เพร่งพรายแก่ใครเรื่องที่ผมมารับอิสลาม เพราะเกรงว่า ถ้าญาติพี่น้องและชาวคริสต์ได้ยินเรื่องนี้เข้า พวกเขาจะทำร้ายผมหรือรังควานผม
จากนั้นผมเดินไปห้องน้ำตอนกลางคืน ผมอาบน้ำฆุซุ่ลเตาบัตตัวจากชีรีกและกุโฟ้ร หลังจากออกจากห้องน้ำ ผมกล่าวกะลิมะฮ์ชะฮาดะฮ์อีกครั้งหนึ่ง และเข้าศาสนาแห่งสัจธรรมทั้งภายนอกและภายใน

 

อ้างอิงจากหนังสือ นะบียุลเราะห์มะฮ์ ผู้แต่ง มุฮัมมัด เร ชะฮ์รีย์ หน้า 29 - 38

แปลและเรียบเรียง โดย เชคญะวาด สว่างวรรณ