คุณลักษณะของบรรดาผู้ยำเกรง ประการที่ 23

คุณลักษณะของบรรดาผู้ยำเกรง ประการที่ 23

 

อิมามอะลี(อ)ได้กล่าวอีกคุณลักษณะหนึ่งว่า การเป็นคนที่มีความดี คนที่ประพฤติแต่ความดี ชีวิตของเขาในตอนกลางวันที่เขาใช้ชีวิตกับชีวิตสังคมนั้น เขามีแต่ความดีให้กับมนุษย์ เขาไม่เคยทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่เป็นภัยต่อมนุษย์และเป็นคนที่มีความยำเกรงต่อพระผู้เป็นเจ้าอย่างแท้จริง


อีกลักษณะหนึ่งเกี่ยวข้องกับอุดมการณ์ อุดมคติของเขา ซึ่งท่านอิมามอะลี(อ) กล่าวว่า ชีวิตของเขา เขาไม่เคยเข้าไปอยู่ในสิ่งที่เป็นเท็จ เขาไม่เคยเข้าไปอยู่ในสิ่งที่เป็นโมฆะหรือชีวิตของเขานั้นเขาอยู่กับสัจธรรม เขาไม่เคยออกจากสัจธรรม เขาไม่รวมกลุ่มในหมู่คนชั่ว เขาไม่รวมกลุ่มกับคนที่อธรรม เขาไม่รวมกลุ่มกับทุกแนวคิด ทุกอุดมการณ์ที่ไม่เป็นจริงและในเวลาเดียวกันไม่ว่า อะไรจะเกิดขึ้นกับเขา เขาไม่เคยออกจากสัจธรรม เขาคือผู้ที่ยืนหยัดอยู่ในสัจธรรมซึ่งอันนี้ชี้ให้เห็นถึงคุณสมบัติที่สำคัญ เราจะเห็นบุคคลมากมายที่อาจจะทำตัวเป็นนักรบ ผู้ทรงศีลทำตัวเป็นคนดีแต่บางเหตุการณ์บางกรณีที่เขาต้องชี้ผิดชี้ถูกกับไม่กล้า หลายสิ่งหลายอย่างที่เกิดขึ้นในสังคมของมนุษย์เขาไม่กล้าที่จะชี้ผิดชี้ถูกจึงทำให้เขานั้นไม่อยู่กับสัจธรรมที่แท้จริง หรือเหมือนกับเขาออกจากสัจธรรม ในบางกรณีหรือในเหตุการณ์ที่ปกติก็แสดงตนเป็นผู้ที่อยู่กับสัจธรรมเมื่อถึงเหตุการณ์ที่เขาจะต้องเลือกระหว่างความจริงกับสิ่งที่เป็นเท็จซึ่งถ้าเขาเลือกความจริงก็จะมีผลที่ไม่พึงประสงค์ตามมาอาจจะทำให้เขาเป็นที่ไม่พอใจต่อคนจำนวนหนึ่ง ผลประโยชน์ที่เขาเคยได้รับ เขาอาจจะไม่ได้รับ เขาก็จำเป็นที่จะต้องหยุด บางครั้งหยุดพูดความจริง ซึ่งสิ่งนี้ ไม่ใช่ คุณลักษณะของผู้ทรงธรรมที่แท้จริงผู้ทรงธรรมที่แท้จริงนั้น เขายืนหยัดอยู่ตลอดเวลาไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับเขา เหตุการณ์จะเลวร้ายสักแค่ไหนเขาไม่มีวันที่จะไปอยู่กับสิ่งที่เป็นเท็จ ไม่มีวันที่จะออกห่างสัจธรรม


ท่านอิมามอะลี(อ) กล่าวว่า


إنْ بُغِیَ عَلَیْهِ صَبَرَ حَتَّی یَکُوْنَ الله ُ هُوَ الَّذِیْ یَنْتَقِمُ لَهُ
 

“ เมื่อเขาถูกรังแก ถูกกลั่นแกล้ง ถูกข่มเหง เขาจะอดทนในสิ่งที่เขาถูกกระทำจนกว่าอัลลอฮ์(ซบ.)จะทรงทำการชำระแค้นให้กับเขา”


หมายความว่า คนๆนี้เขามีพระเจ้าเป็นที่พึ่ง ซึ่งแน่นอนคนดีนั้น จะต้องถูกรังแกในสังคมอยู่เสมอ เพราะความเป็นจริงในโลกนี้ คนชั่วมากกว่าคนดี และส่วนมากอำนาจจะอยู่ในมือของคนชั่ว บางครั้งบางเวลาเท่านั้นที่อำนาจอยู่ในมือของคนดี ดังนั้นตลอดระยะเวลาอันยาวนานของประวัติศาสตร์ คนที่ถูกกดขี่ข่มเหง คนที่ถูกรังแกส่วนมากจะเป็นคนดีและสาเหตุที่ถูกรังแกก็เพราะว่าเป็นคนดี ดังนั้นคนดีที่มีคุณธรรมมีจิตใจที่เข้มแข็งที่แท้จริงนั้น เขาจะอดทนต่อสิ่งเหล่านี้ การที่ถูกละเมิดการที่ถูกกดขี่ ถูกรังแก ถูกทำร้ายสิ่งเหล่านี้ไม่สามารถจะเปลี่ยนแปลงจิตใจของเขา ไม่สามารถที่จะทำให้ศรัทธาของเขาอ่อนแอลงได้ เพราะเขามีความหวังอยู่เสมอว่าเขามีพระเจ้า พระเจ้าของเขายิ่งใหญ่ กว่าทุกสิ่งทุกอย่างและวันหนึ่งพระองค์จะแก้แค้นให้กับเขา ซึ่งใครก็ตามที่ทำการละเมิดคนดีคนที่มีคุณธรรมแน่นอน พระเจ้าจะไม่ส่งปล่อยให้ผู้ละเมิดนั้นลอยนวล จริงๆแล้วคนชั่วไม่เคยลอยนวลในโลกนี้ตามทัศนะของอิสลามนั้น เขาจะถูกลงโทษอย่างแน่นอนทั้งในโลกนี้และโลกหน้า แต่บางครั้งเวลานั้นอาจจะยาวนานมาก แต่ผู้กระทำผิดลืมไปแล้วว่าที่เขาโดนสิ่งเหล่านี้เพราะอะไร คุณสมบัติที่สำคัญอันหนึ่งคือมุตตะกีน เขาจะไม่ตอบโต้ในทุกกรณี เขาจะปล่อยให้พระเจ้าเป็นผู้ตอบโต้ ซึ่งตรงนี้ก็จะต้องทำความเข้าใจด้วย เพราะถ้าไม่ทำการชี้แจงเราอาจจะเข้าใจคลาดเคลื่อนประเด็นนี้ เราไม่ได้หมายความว่าคนดีนั้นอยู่ไป ใครจะทำอะไรก็ทำหาได้เป็นเช่นนั้นไม่ เพราะในคำสั่งสอนของอิสลามนั้นมีบทบัญญัติในการต่อสู้ การญิฮาด การปกป้องสิทธิของตัวเองในคำสั่งสอนของอิสลามผู้ถูกกดขี่ที่ยอมรับการกดขี่นั้นเขาก็จะมีโทษ =ผู้กดขี่เช่นกัน


อิสลามไม่ใช่ศาสนาที่สอนให้มนุษย์ยอมจำนนต่อการกดขี่ นี่คือแง่มุมหนึ่งที่ต้องทำความเข้าใจ บางครั้งอาจจะมีโองการจากคัมภีร์อัลกุรอานที่สอนให้ผู้ศรัทธา ผู้ที่มีคุณธรรมทำการตอบโต้ผู้ที่ชั่วช้าอย่างรุนแรง เช่น ในบางโองการที่บอกว่า ตาต่อตา ฟันต่อฟัน หรือใครที่ละเมิดเจ้า เจ้าก็ต้องทำเหมือนที่เขาทำกับเจ้า แต่ในบางกรณีก็ไม่สนับสนุนให้ทำการตอบโต้เช่น ถ้าเขาทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดกับเจ้า ถ้าเจ้าจะตอบโต้เขาก็ได้ หรือถ้าเจ้าจะให้อภัยเขานั้นดีกว่า

 

ที่มา หนังสือ ซีฟัต อัลมุตตะกีน คุณลักษณะของผู้ยำเกรง


โดย ฮุจญะตุลอิสลาม ซัยยิดสุไลมาน ฮูซัยนี