ฐานะภาพของสตรีในโลกทัศน์อิสลาม ตอนที่ 3

ฐานะภาพของสตรีในโลกทัศน์อิสลาม ตอนที่ 3

 

ในประวัติศาสตร์อิสลามได้บันทึกถึงประวัติของเหล่าบรรดาสตรีผู้ดีเด่นและผู้ทรงคุณธรรมจำนนมากมาย และสำหรับสตรีที่มีตำแหน่งและความสูงส่งเหนือกว่าเหล่าบรรดาสตรีทั้งหลาย ท่านเหล่านั้นคือ ท่านหญิงคอดิญะฮ์ เป็นภริยาคนแรกขอท่านศาสดา มุฮัมมัด (ศ็อลฯ) และเป็นภริยาผู้เป็นที่รักที่สุด นางเป็นสตรีท่านแรกที่เชื่อในความเป็นศาสดาของท่าน และนางได้พิสูจน์ให้เห็นการสนับสนุนที่มั่นคงต่อท่าน ในช่วงปีที่เผชิญกับความยุ่งยากลำบากครั้งแรกในภารกิจแห่งการเป็นศาสดาของท่าน ท่านที่สองคือท่านหญิง ฟาติมะฮ์ (ซ)เป็นบุตรีของท่านศาสดา (ศ็อลฯ) และเป็นภริยาของท่านอะลี และเป็นมารดาของอิมาม ฮะซัน ฮุเซน สตรีผู้ซึ่งเป็นแบบอย่างให้กับบรรดาสตรีทั้งหลาย ท่านที่สามคือ ท่านหญิงอาซิยะห์ นางคือ ภรรยาของฟิรอูน ที่กดขี่ข่มเหง และสถาปนาตนเองเปรียบเสมือนพระเจ้าของบรรดาสรรพสิ่งทั้งหลาย พระนางอาซิยะห์ เป็นผู้ที่รักและให้การศรัทธาต่อความเป็นเอกภาพของพระองค์อัลลอฮ์ (ซ.บ) โดยไม่สั่นคลอน และหวาดกลัวต่อการกระทำของฟิรอูนเลยแม้แต่น้อย และท่านสุดท้าย คือ ท่านหญิงมัรยัม มารดาของท่านนบีอีซา (อ) นางซึ่งได้บรรลุถึงระดับทางจิตวิญญาณอันสูงส่ง พระนางคือผู้ภักดีและเป็นบ่าวที่สูงส่งของพระผู้อภิบาลแห่งสากลโลก


ทรรศนะในการดูถูกและเหยียดหยามศักดิ์ศรีของบรรดาสตรีนั้น อิสลามได้ทำการรณรงค์ และยืนหยัดแสดงถึงความจริง และความถูกต้องในศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของบรรดาสตรีทั้งหลาย และยังให้เกียรติในสถานภาพของพวกนาง ซึ่งหน้าที่อันประเสริฐยิ่งที่บรรดาสตรีนั้นมีคือ หน้าที่ของมารดา หน้าที่ของภริยา รวมถึงศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ ซึ่งไม่ว่าจะเป็นชาย หรือหญิงย่อมไม่มีความแตกต่างกัน


ในอีกทรรศนะหนึ่งที่จะขอกล่าว ซึ่งเกี่ยวข้องกับเรื่องของการละเว้นการใช้ชีวิตครอบครัว ในบางศาสนาถือว่าเพศสัมพันธ์โดยเนื้อแท้แล้วไม่สะอาด ตามการปฏิบัติของผู้ที่ยึดถือตามศาสนาเหล่านี้ถือว่า เฉพาะบุคคลที่ใช้ชีวิตโดยไม่เกี่ยวข้องกับเพศคู่นั้น จะสามารถบรรลุถึงฐานะทางจิตวิญญาณอันสูงส่งได้ท่านั้น ซึ่งโดยธรรมชาติของความเป็นมนุษย์นั้นการใช้ชีวิตอย่างสันโดษ และขัดกับตัวตนของความเป็นมนุษย์นั้น แน่นอนย่อมเกิดอุปสรรค และต้องใช้ชีวิตอย่างอดกลั้น อย่างหนักหน่วง และอาจจะสูญเสียการควบคุมตนเองลงไปได้ ฉะนั้น มันจะเป็นการดีกว่าหากการดำรงชีวิต เป็นไปตามธรรมชาติตัวตนอันแท้จริงของมนุษย์


อิสลามได้ถือว่า การสมรสนั้นเป็นสิ่งที่ดี และการครองชีวิตโดยไม่สมรสนั้นเป็นการกระทำที่ไม่บริสุทธิ์


อิสลามได้วางบทบัญญัติระเบียบกฎเกณฑ์ต่างๆ และข้อจำกัดต่างๆในส่วนที่เกี่ยวกับความสัมพันธ์นี้เพื่อเหตุผลต่างๆ ทางสังคมแต่อิสลามไม่เคยพิจารณาว่าสิ่งนี้เป็นเรื่องของความไม่สมควรและเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจ


ในหลายๆเรื่องที่อิสลามมีคำอธิบายและได้ชี้แจงอย่างเด่นชัด โลกและชั้นฟ้า หมู่เมฆและลมชนิดต่างๆ พืชพันธุ์และสัตว์ชนิดต่างๆ ทั้งหมดเหล่านี้ได้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อมนุษย์ อิสลามไม่เคยกล่าวว่า สตรีถูกสร้างมาเพื่อบุรุษ แต่อิสลามกลับบอกว่า บุรุาและสตรีนั้น แต่ละฝ่ายถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเกื้อกูลต่อกัน

 

هُنَّ لباسُ لکُم وَ انتُم لباسُ لهُنَّ
 

“นางทั้งหลายเป็นอาภรณ์สำหรับสูเจ้า (ผู้ชาย) และสูเจ้าก็เป็นอาภรณ์สำหรับนางทั้งหลาย” ซูเราะฮ์ 2 อายะฮ์ 187

 

สิ่งที่อิสลามได้ชี้แจง และวางกฏเกณฑ์ไว้นั้น มิได้หมายความถึงการตีกรอบที่ไร้ซึ่งความหมาย แต่อิสลามได้วางฐานการดำเนินชีวิตอย่างสมบูรณ์ไว้ให้กับมนุษย์ โดยความสมบูรณ์ที่มนุษย์จะได้รับนั้น ย่อมต้องได้มาซึ่งการชี้นำจากผู้ที่สร้างมัน

 

อ้างอิง สรุปจาก หนังสือ สิทธิสตรีในอิสลาม


ขอขอบคุณบล็อกเกอร์ lacha