บทพิสูจน์เรื่อง อิมามมะฮ์ดี(อ) ประสูติแล้ว ตอนที่ 7

บทพิสูจน์เรื่อง อิมามมะฮ์ดี(อ) ประสูติแล้ว ตอนที่ 7

 

เหตุผลที่ทำให้แน่ใจว่า อิมามมะฮ์ดี(อ)ถือกำเนิดแล้ว

 

เหตุผลที่ 1

 

เป็นฮะดีษที่ได้รับการยอมรับ(มุซัลละมาต)ทั้งฝ่ายชีอะฮ์และซุนนี่ว่า อิมามมะฮ์ดี ถือกำเนิดแล้ว


เราจะยกตัวอย่าง เพียง 3 ฮะดีษเท่านั้น

 

หะดีษที่ 1 - ฮะดีษ ษะก่อลัยน์ – สองสิ่งที่สำคัญ

 

เป็นฮะดีษมุตะวาติร ท่านนบีมุฮัมมัด(ศ)ได้กล่าวไว้หลายวาระ หลายสถานที่ด้วยกัน เช่นที่

 

ฮัจญะตุลวิดาอ์ – การทำฮัจญ์ครั้งสุดท้ายของท่าน

 

ที่ฆอดีรคุม – เส้นทางกลับจากมักกะฮ์สู่มะดีนะฮ์

 

และที่บ้านท่านนบีเอง ตอนท่านใกล้จะสิ้นใจ


ซอฮาบะฮ์ได้รายงานแตกต่างกันในตัวบทฮะดีษบางคำ อันเนื่องมาจากแต่ละคน ได้ฟังฮะดีษนี้มาคนละสถานที่ คนละเวลา

 

ท่านนบีมุฮัมมัด(ศ็อลฯ) กล่าวว่า

 

إِنِّى تَارِكٌ فِيكُمْ مَا إِنْ تَمَسَّكْتُمْ بِهِ لَنْ تَضِلُّوا بَعْدِى أَحَدُهُمَا أَعْظَمُ مِنَ الآخَرِ كِتَابُ اللَّهِ حَبْلٌ مَمْدُودٌ مِنَ السَّمَاءِ إِلَى الأَرْضِ وَعِتْرَتِى أَهْلُ بَيْتِى وَلَنْ يَتَفَرَّقَا حَتَّى يَرِدَا عَلَىَّ الْحَوْضَ فَانْظُرُوا كَيْفَ تَخْلُفُونِى فِيهِمَا

 

แท้จริง ฉันได้มอบไว้ในหมู่พวกท่าน หากพวกท่านยึดมั่นต่อมัน พวกท่านจะไม่หลงทาง สิ่งแรกใหญ่กว่าอีกสิ่งหนึ่ง นั่นคือ กิตาบุลลอฮ์ คือสายเชือกที่ถ่ายทอดจากฟากฟ้าลงมายังโลก และอีกสิ่งหนึ่งคือ

อิตเราะตี อะฮ์ลุบัยต์ของฉัน และสองสิ่งนี้จะไม่แยกจากกัน จนกว่าทั้งสองจะกลับมายังฉันที่สระน้ำ ดังนั้นพวกท่านจงดูเถิดว่า พวกท่านจะรับเอาสองสิ่งนี้จากฉันไปรักษาอย่างไร

 

ศอฮิฮ์ ติรมีซี ฮะดีษที่ 2980 ตรวจทานโดยเชคอัลบานี

 

คำ “ หากยึดจะไม่หลง” คือ หากปฏิบัติตาม จะถือว่าอยู่บนหนทางที่เที่ยงตรง

 

คำ “ สองสิ่งนี้จะไม่แยกจากกัน จนกว่าจะกลับมาหาฉันที่สระน้ำ “


คือ คัมภีร์กุรอานกับอะฮ์ลุลบัยต์ จะอยู่คู่กันนับจากวันที่ท่านนบี(ศ)กล่าว ไปจนถึงวันสิ้นโลก

 

เราพบว่า ท่านนบีมุฮัมมัด(ศ)กล่าวว่า

 

الْمَهْدِيُّ مِنْ عِتْرَتِي مِنْ وَلَدِ فَاطِمَةَ

 

อัลมะฮ์ดี มาจากวงศ์วานของฉัน ถือกำเนิดจากลูกหลานของฟาติมะฮ์

 

รายงานโดย อบีดาวูด 4284 ,อิบนิมาญะฮ์ 4086, อัลฮากิม 8672,อัตต็อบรอนี 566

 

ฮะดีษบทนี้แสดงว่า อะฮ์ลุลบัยต์ต้องมีตัวตนจริง มีชีวิตอยู่คู่กับคัมภีร์กุรอานเสมอ

 

ซึ่งภาษาอาหรับเรียกว่า อิสติมร็อร (إسْتِمْراَرٌ) คือ ต้องดำเนินต่อไปเรื่อยๆ

 

เราไม่อาจตีความฮะดีษนี้เป็นอื่นได้ นอกจากต้องยอมรับว่า อิมามมะฮ์ดีถือกำเนิดมานานแล้ว
เพียงแต่ท่านได้หายตัวไป

 

เพราะถ้าเราเชื่อว่า อิมามมะฮ์ดียังไม่ถือกำเนิด แต่เขาจะถือกำเนิดในอนาคต เท่ากับว่า กุรอานกับอะฮ์ลุลบัยต์ไม่ได้อยู่คู่กัน

 

ถ้าใครเชื่อเช่นนี้ เท่ากับเขากล่าวหาว่า ท่านนบี(ศ)พูดเท็จเพราะท่านกล่าวว่า (สองสิ่งนี้จะไม่แยกกัน จนถึงวันสิ้นโลก)

 

ถ้าจะพิสูจน์ว่า ฮะดีษนี้ไม่ได้โกหก เราจำเป็นต้องยอมรับว่า ปัจจุบันนี้มีอะฮ์ลุลบัยต์นบี มีชีวิตอยู่คู่กับกุรอานมาตลอดจนถึงวันสิ้นโลก

เราจึงต้องยอมรับว่า อิมามมะฮ์ดีได้ถือกำเนิดมาบนโลกแล้ว

 

หามิเช่นนั้น ฮะดีษษะก่อลัยน์ ก็จะขัดกับความเป็นจริงในยุคปัจจุบันนี้ ทั้งๆที่ฮะดีษนี้เป็นฮะดีษที่ถูกต้องของทั้งสองฝ่าย

 

บทความโดย เชคญะวาด สว่างวรรณ

โปรดติดตามตอนต่อไป