เกียรติยศและศักดิ์ศรีอันสูงส่งของท่านหญิงฟาฏิมะฮ์

เกียรติยศและศักดิ์ศรีอันสูงส่งของท่านหญิงฟาฏิมะฮ์(ซ.)

 

ท่านหญิงฟาฏิมะฮ์(ซ.) ได้รับเกียรติยศและศักดิ์ศรีอันสูงส่ง ซึ่งเป็นเกียรติที่ไม่มีใครเข้าถึงได้เหมือนนาง เป็นไปไม่ได้ที่จะกล่าวถึงบุคลิกภาพของนางในทุกแง่มุม ดังนั้นในบทความนี้จงจะขอกล่าวถึงเพียงบางเรื่องเท่านั้น

 

 

1. นาง คือผู้เป็นที่รักของอัลลอฮ์

 

นางคือบ่าวผู้บริสุทธิ์ของอัลลอฮ์ และจะทำการเคารพภักดีต่อพระองค์และแสวงหาความใกล้ชิดกับพระองค์อยู่เสมอเพื่อให้ความเป็นบ่าวของนางมีความสูงส่งเหนือสถานะอื่นใดของนาง ดังนั้น จึงไม่มีความหรูหราฟุ้งเฟ้อ ความเพียรพยายาม หรือการยึดติดใดที่จะมาขัดขวางนางจากการทำหน้าที่ของนางได้อย่างเต็มที่ การที่ท่านศาสดา(ศ็อลฯ) ชื่นชมและยกย่องสถานะของนางก็เนื่องจากข้อเท็จจริงที่นางเป็นผู้มีความยำเกรงและใกล้ชิดกับอัลลอฮ์ หาใช่เพราะนางเป็นบุตรสาวของท่านศาสดา(ศ็อลฯ) แต่อย่างใดไม่

 

ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ความรู้จักคิด และความเพียรพยายามทั้งหมดของท่านหญิงฟาฏิมะฮ์ (ซ.) ล้วนแล้วแต่เพื่อความพึงพอพระทัยของอัลลอฮ์ทั้งสิ้น นางยอมจำนนต่อความยิ่งใหญ่และสูงส่งของพระผู้เป็นเจ้าจนนางได้อุทิศสละทุกสิ่งที่อย่างของนางไปในปนทางของพระองค์ ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งของนาง  สถานะของนาง  สร้อยของนาง ชุดแต่งงานของนาง หรือสิ่งอื่นใด ดังนี้แล้ว นางจะไม่เป็นที่รักของอัลลอฮ์ได้หรือ?

 

2. นาง คือที่รักของท่านศาสดา(ศ็อลฯ)

 

ท่านศาสดา(ศ็อลฯ) ได้กล่าวว่า นางคือส่วนหนึ่งของร่างกายและวิญญาณของท่าน ดังนี้

 

بضعة منه و روحة الذي بين جنبيه

 

ในสมัยอวิชชาซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากของท่านศาสดา(ศ็อลฯ) นางเป็นเสมือนมารดาของบิดาของนางเองในนครมักกะฮ์ นางทำความสะอาดบาดแผลและล้างสิ่งสกปรกที่ผู้คนขว้างปาใส่ศีรษะของท่านศาสดา(ศ็อลฯ) ด้วยมือเล็กๆ ของนาง และเป็นผู้ปลอบโยนท่าน บางครั้งนางถึงกับร้องไห้ให้กับความโดดเดี่ยวของท่านและปลอบประโลมร่างกายที่บอบช้ำของท่าน

 

นางเป็นที่ปรึกษาให้กับบิดาของนางในช่วงเวลาแห่งการอพยพ และนางเป็นที่รักของท่านอย่างมากจนท่านหญิงอาอีชะฮ์เคยกล่าวไว้ว่า

"ไม่มีใครเป็นที่รักของท่านศาสดา(ศ็อลฯ) มากไปกว่าฟาฏิมะฮ์อีกแล้ว ท่านไปบ้านของนางทุกวันและถามถึงความรู้สึกของนางอยู่เสมอ เมื่อนางจะออกเดินทาง ฟาฏิมะฮ์(ซ.) จะเป็นคนสุดท้ายที่ท่านจะไปหาก่อนออกเดินทาง และเมื่อกลับมาถึง ฟาฏิมะฮ์(ซ.) จะเป็นคนแรกที่ท่านไปหา

 

แม้ในวาระสุดท้ายของท่าน นางยังเป็นผู้ที่ใกล้ชิดที่สุดของท่านศาสดา(ศ.) ท่านได้กระซิบที่หูของนางว่า

"ฟาฏิมะฮ์ลูกรัก จงนั่งลงใกล้ฉัน แล้วอ่านคัมภีร์กุรอาน" ใช่แล้ว เสียงอ่านคัมภีร์กุรอานอันแผ่วเบาของท่านหญิงฟาฏิมะฮ์(ซ.) สามารถปลอบประโลมท่านศาสดา(ศ.) ได้

 

3. นาง คือภรรยาที่รักของท่านอะลี(อ.)

 

หากไม่มีท่านอะลี(อ.) ก็คงไม่มีใครคู่ควรที่จะเป็นสามีของท่านหญิงฟาฏิมะฮ์(ซ.) การแต่งงานของนางได้ถูกกำหนดด้วยพระบัญชาของพระผู้เป็นเจ้า นางเป็นภรรยาที่มีความอ่อนโยนและเป็นสัญลักษณ์อันสมบูรณ์แบบแห่งความมั่นใจของสามีของนาง...

 

นางไม่เคยใช้จ่ายทรัพย์สินของครอบครัวไปเพื่อการประดับประดาเลย และไม่เคยสร้างความขมขื่นใจให้กับสามีของนางแม้แต่น้อยในเรื่องความเย้ายวนใจทางโลกที่ไม่จีรัง

 

พวกท่านทั้งสองมีบ้านหลังหนึ่งที่สร้างจากดินเหนียว บ้านที่ปราศจากการตกแต่งประดับประดา แต่เต็มไปด้วยความสะอาด, ความจริงใจ, ความศรัทธา, ความยำเกรง และความบริสุทธิ์ ภาชนะของพวกท่านประกอบไปด้วยถ้วยไม้และเครื่องปั้นจากดิน แต่ถ้วยแห่งจิตวิญญาณของพวกท่านนั้นเต็มไปด้วยความยิ่งใหญ่และมากล้นไปด้วยน้ำใสใจจริงและความสนิทเสน่หา

 

ขอขอบคุณเว็บไซต์อะฮ์ลุลบัยต์อะคาเดมี