เว็บไซต์ อิมาม อัลฮะซะนัยน์ (อลัยฮิมัสลาม)เพื่อคุณค่าและสารธรรมอิสลาม

สี่สิบฮะดีษจากอิมามศอดิก (อ.)

0 ทัศนะต่างๆ 00.0 / 5

สี่สิบฮะดีษจากอิมามศอดิก (อ.)

 

 

ท่านอิมามศอดิก (อ.) กล่าวว่า..

 

1. จงตรวจสอบจิตใจทุกวัน

 

เป็นการดีสำหรับมุสลิมทุกคนที่รู้จักเรา ที่ได้ปฏิบัติภารกิจของตนตลอดทั้งวัน ให้ทำการตรวจสอบตัวเอง ถ้าพบว่าเป็นความดีให้เพิ่มพูนการกระทำนั้น แต่ถ้าพบว่าเป็นความผิดบาปให้ทำการขออภัยโทษในการกระทำนั้น เพื่อว่าวันกิยามะฮฺจะได้ไม่ลำบาก

 

2. การยืนหยัด

 

หากชีอะฮฺของเราได้ยืนหยัด มวลมลาอิกะฮฺจะยื่นมือมาช่วยเหลือ จะนำเอาเมฆมาเป็นร่มเงาให้กับพวกเขา พวกเขาจะทำการขวนขวายในตอนกลางวัน และบริโภคริสกี (ปัจจัยยังชีพ) ทั้งที่อยู่เหนือและใต้ฝ่าเท้าของพวกเขา และพวกเขาจะไม่ทูลขอสิ่งใดจากอัลลอฮฺ นอกจากพระองค์จะประทานให้เอง

 

3. ความอัปยศของเล่ห์เหลี่ยมและความอิจฉา

 

บุคคลใดก็ตามได้ใช้เล่ห์เหลี่ยมกับพี่น้องของเขา ได้ดูถูกเหยียดหยามและวิวาทกัน อัลลอฮฺทรงเตรียมไฟนรกไว้เป็นที่พำนักสำหรับเขา และบุคคลใดอิจฉาริษยาผู้ศรัทธาอีมานในใจของเขาจะกลายเป็นน้ำ ดุจดังเกลือได้ละลายในน้ำ

 

4. ความยำเกรง การขวนขวาย และการช่วยเหลือมุอฺมิน

 

จงอย่าทำลายมัซฮับ (แนวทาง) ของเจ้า ฉันขอสาบานต่ออัลลอฮฺว่าไม่มีใครไปถึงวิลายะฮฺของเราเด็ดขาด นอกเสียจากว่าต้องมีความยำเกรง มีการขวนขวายพยายามบนโลก และให้การช่วยเหลือพี่น้องเพื่ออัลลอฮฺ และผู้ที่ทำการกดขี่บุคคลอื่นถือว่าไม่ใช่ชีอะฮฺของเรา

 

5. ผลของการเชื่อมั่นต่ออัลลฮอฮฺ

 

บุคคลใดเชื่อมั่นต่ออัลลอฮฺ พระองค์จะให้สิ่งสำคัญแก่เขาทั้งโลกนี้และโลกหน้าอย่างพอเพียง จะรักษาสิ่งที่สูญหายไปจากเขา และช่วยอะไรไม่ได้สำหรับผู้ทีไม่คำนวณ  เพราะทุกๆ การทดสอบมีความอดทน ทุกๆ ความโปรดปรานมีการขอบคุณ และทุกๆ ความยากลำบากมีความง่ายดาย

 

6. คำบัญชาจริยธรรมเชิงปฏิบัติ

 

จงสร้างสัมพันธ์กับผู้ที่ตัดความสัมพันธ์กับท่าน จงให้แก่ผู้ที่จำกัดแก่ท่าน จงทำดีกับผู้ที่ประพฤติไม่ดีกับท่าน จงให้สลามแก่ผู้ที่ด่าทอท่าน จงยุติธรรมกับผู้ที่เป็นศัตรูกับท่าน จงให้อภัยกับผู้ที่กดขี่ท่าน เหมือนกับที่ท่านชอบให้คนอื่นอภัยให้กับท่าน จงให้การอภัยของอัลลอฮฺที่มีแก่ท่านเป็นบทเรียน ท่านไม่ได้พิจารณาดอกหรือว่าแสงแดดได้ฉายส่องทั้งคนดีและคนชั่วและฝนยังตกลงบนผู้ที่เป็นกัลญาณชน และคนบาป

 

7. อย่าเสียงดัง

 

จงลดเสียงของท่าน แท้จริงพระผู้อภิบาลของท่านทรงได้ยินทั้งเสียงที่แผ่วเบา และเสียงดัง พระองค์ทรงรอบรู้สิ่งที่ท่านปรารถนาก่อนที่ท่านจะเอื้อนเอ่ย

 

8. สวรรค์กับนรกเป็นความดีและความชั่วที่แท้จริง

 

ความดีและความชั่วทั้งหมดที่อยู่ตรงหน้าท่าน ท่านจะไม่เห็นมันทั้งสองเว้นเสียแต่ว่าภายหลังจากปรโลก เพราะว่าอัลลอฮฺผู้ทรงสูงส่งทรงพำนักความดีทั้งหมดไว้ในสวรรค์ และทรงพำนักความชั่วทั้งหมดไว้ในนรก เนื่องจากทั้งสองคือสิ่งที่ดำรงอยู่

 

9. ภาพลักษณ์ของอิสลาม

 

อิสลามคือความเปลือยเปล่า ฉะนั้นอาภรณ์ของอิสลามคือความละอาย  เครื่องประดับของมันคือเกียรติยศที่สูงศักดิ์ ความเข็มแข็งอยู่ที่การปฏิบัติคุณงามความดี แก่นของมันอยู่ที่ความยำเกรง และสำหรับทุกสิ่งนั้นย่อมมีฐานรากอันมั่นคง ฐานรากของอิสลามคือความรักที่มีพวกเราอะฮฺลุลบัยตฺ

 

10. การงานเพื่อปรโลก

 

วันนี้ยังอยู่บนโลกจงรีบปฏิบัติการงานอันเป็นสื่อที่หวังความสำเร็จในปรโลก

 

11. รางวัลของการช่วยเหลือมวลมิตรของอะฮฺลุลบัยตฺ

 

ในวันกิยามะฮฺจะไม่เหลือใครสักคนที่ให้การช่วยเหลือมุอฺมินผู้ที่เป็นมวลมิตรของเราแม้เพียงคำเดียว นอกเสียจากว่าอัลลอฮฺจะนำเขาเข้าสวรรค์โดยปราศจากการตรวจสวบ

 

12. จงหลีกเลี่ยงการโอ้อวด การวิพากษ์ และการสร้างศัตรู

 

จงหลีกเลี่ยงการโอ้อวดเพราะมันจะทำลายการงานของท่าน จงหลีกเลี่ยงการวิพากษ์เพราะมันเป็นสาเหตุให้เกิดความหายนะ และจงหลีกเลี่ยงการสร้างศัตรูเพระจะทำให้ท่านห่างไกลจากอัลลอฮฺ   

 

13. จิตวิญญาณที่สะอาดคือเครื่องมือแบ่งแยกความเป็นมุอฺมิน

 

เมื่ออัลลอฮฺทรงประสงค์ให้บ่าวเป็นคนดีพระองค์จะขัดเกลาจิตวิญญาณของเขา โดยที่พระองค์ไม่ได้แจ้งให้เขาได้รับทราบ มาก่อน เว้นเสียว่าเขาจะเข้าใจเอง และจะไม่ได้ยินว่ามีผู้ปฏิเสธมัน นอกเสียจากสิ่งที่รู้ว่าไม่ดี หลังจากนั้นพระองค์จะดลที่จิตใจของเขาให้รู้จักหน้าที่และได้ปฏิบัติ

 

14. การวอนขอสุขภาพพลานามัยจาก อัลลอฮฺ

 

จงวอนขอการมีสุขภาพพลานามัยที่สมบูรณ์จากพระผู้อภิบาลของท่าน และขอทรงโปรดรักษาความสุภาพ เกียรติยศ ความสงบมั่นและความละอายแกท่าน

 

15. ตัวของดุอาอฺคือการกระทำ

 

จงมั่นขอดุอาอฺให้มากเพราะอัลลอฮฺทรงรักปวงบ่าวที่ทำการวิงวอนขอต่อพระองค์ แน่นอนพระองค์ได้สัญญากับบ่าวผู้ศรัทธาของพระองค์ว่าจะตอบรับการวอนขอของเขา ในวันกิยามะฮฺอัลลอฮฺ จะให้ดุอาอฺของเขาเป็นหนึ่งในการกระทำ และทรงเพิ่มพูนผลบุญแก่เขาในสวรรค์

 

16. จงรักมุสลิมที่ตกระกำลำบาก

 

เป็นหน้าที่ของท่านที่ต้องเป็นมิตรกับมุสลิมที่ลำบากยากแค้น เพราะใครก็ตามที่ดูถูกพวกเขาและแสดงความยโสโอหังใส่พวกเขา แน่นอนเขาได้ออกนอกศาสนาของอัลลอฮฺ และอัลลอฮฺทรงเป็นผู้ดูถูกและทำให้ตกต่ำอย่างแท้จริง แท้จริงบิดาของเราท่านศาสดา (ซ็อล ฯ) กล่าวว่า พระผู้อภิบาลของฉันได้มีบัญชาแก่ฉันว่าให้รักบรรดามุสลิมที่ลำบากยากไร้

 

17. รากเหง้าของการปฏิเสธ

 

จงหลีกเลี่ยงการอิจฉาริษยาบางคนในหมู่พวกท่าน เพราะรากเหง้าของการปฏิเสธคือความอิจฉาริษยา

 

18. การกระทำ ความรัก ความหวัง

 

สามตัวการที่นำมาซึ่งความรักได้แก่ การให้ยืม, การนอบน้อมถ่อมตน, และการอภัยแก่กัน

 

19. การกระทำที่สร้างศัตรู

 

สามตัวการที่นำมาซึ่งความโกรธกริ้ว ได้แก่หน้าไหว้หลังหลอก , การกดขี่ , ความอคติ

 

20. สัญลักษณ์ต่างๆ ของสามคน

 

มีคนสามคนไม่อาจรู้จักได้เว้นแต่ด้วยกับสามคุณลักษณะดังนี้ ความอดทนไม่อาจรู้จักได้นอกจากเวลาโมโห , ความกล้าหาญไม่อาจรู้จักได้นอกจากเวลามีสงคราม, ความเป็นพี่น้องและเพื่อนไม่อาจรู้จักได้นอกจากเวลาที่มีความต้องการ

 

21. สัญลักษณ์ของผู้กลับกลอก

 

คุณลักษณะสามประการหากพบที่ใครถือว่าคนนั้นเป็นผู้กลับกลอก แม้ว่าเขาจะดำรงนมาซและถือศีลอดก็ตามได้แก่ บุคคลที่เมื่อเขาพูดเขาจะโกหก, เมื่อเขาสัญญาเขาจะบิดพลิ้ว, และเมื่อให้ความปลอดภัยแก่เขา เขาจะทรยศ

 

22. จงอย่าไว้ใจบุคคลสามประเภท

 

จงอย่าปรึกษาหารือกับคนโง่เขลาเบาปัญญา, จงอย่าขอความช่วยเหลือจากคนโกหก, และจงอย่าไว้ใจมิตรที่เป็นผู้ปกครอง

 

23. สัญลักษณ์ของความผู้ปกครองและความยิ่งใหญ่

 

คุณลักษณะสามประการหากพบที่ผู้ใดถือว่าเขาเป็นหัวหน้า ผู้ที่กลืนความโกรธกริ้ว, อภัยแก่ผู้ทำความผิด, ช่วยเหลือเครือญาติด้วยกับชีวิตและทรัพย์สิน

 

24. สัญลักษณ์ต่างๆของคำพูดทีเป็นโวหาร

 

สัญลักษณ์สามประการที่บ่งบอกคำพูดที่เป็นโวหารได้แก่ พูดความหมายที่ต้องการให้ไปถึงยังจุดหมาย, หลีกเลี่ยงคำพูดที่ไร้สาระ, และพูดน้อยแต่เปี่ยมไปด้วยความหมาย

 

25. การช่วยเหลือในสามภารกิจ

 

การช่วยเหลือในภารกิจสามประการได้แก่ จงระวังคำพูดของตน, จงอยู่แต่ในบ้านของตน, และสำนึกในความผิดบาป

 

26. ความคุ้นเคย ความสงบมีในสามสิ่ง

 

ความสงบมีอยู่ในคนสามประเภทได้แก่ ภรรยาที่เข้ากันได้, บุตรธิดาที่มีความประพฤติดี, และมิตรแท้ที่จริงใจ

 

27. สัญลักษณ์ของผู้มีเกียรติ

 

ลักษณะสามประการบ่งบอกถึงการหน้าเคารพนับถือ การมีมารยาทที่ดีงาม, กลืนความโกรธกริ้ว, และระงับสายตาของตน

 

28. สามสิ่งจะนำมาซึ่งการทำความผิดบาป

 

สาเหตุสามประการที่ทำให้ชีวิตหักเห ผู้ปกครองที่กดขี่, เพื่อนบ้านที่ไม่ดี, ภรรยาที่ไม่มียางอายและปากเสีย

 

29. สัจธรรมของความจริงกับความเท็จ

 

บุคคลใดก็ตามที่เรียกร้องสิ่งที่เป็นเท็จสามประการ เขาก็จะถูกห้ามจากสิ่งที่เป็นสัจธรรมสามประการได้แก่  

 

(1) บุคคลที่เรียกร้องโลกของความเท็จ เขาจะถูกห้ามจากโลกหน้าที่เป็นสัจธรรม

 

(2) บุคคลที่แสวงหาการเป็นผู้นำด้วยความเท็จ เขาจะถูกห้ามปฏิบัติตามสิ่งที่เป็นสัจธรรม

 

(3) บุคคลที่แสวงหาทรัพย์สินด้วยวิธีการที่ไม่ถูกต้อง เขาจะถูกห้ามจากสิ่งที่คงเหลือที่เป็นสัจธรรมนั้น

 

 30. จงหลีกเลี่ยงจากสิ่งสามประการ

 

หากประชาชนมีความปลอดภัยจากสิ่งสามประการดังต่อไปนี้ เขาก็จะได้รับความปลอดภัยที่สมบูรณ์ตลอดไปได้แก่ คำพูดที่ไม่ดี , ความประพฤติที่ไม่ดี, และการงานที่ไม่ดี

 

31. ความดีที่สมบูรณ์อยู่ที่สามสิ่ง

 

ความดีนั้นจะไม่มีวันสมบูรณ์ได้ เว้นเสียแต่ว่าต้องมีคุณสมบัติสามประการดังนี้ มีการเร่งรีบในการกระทำ, นับความดีที่ทำให้น้อยที่สุด, และละเว้นการสรรเสริญเยินยอ

 

32. อีมานที่เป็นประโยชน์

 

บุคคลใดก็ตามที่ไม่มีคุณสมบัติทั้งสามประการดังต่อไปนี้ถือว่าอีมานของเขาไม่มีประโยชน์ได้แก่

 

(1)   ความอดทนที่สามารถขจัดความโง่เขลาของคนที่โง่เขลาให้หมดสิ้นลงได้

 

(2)   การหลีกเลี่ยงที่ทำให้เขาหลีกห่างจากการกระทำความผิดบาป

 

(3)   ความประพฤติที่ทำให้เขาสามารถมีสัมพันธ์ที่ดีกับประชาชนตลอดไป

 

33. เรื่องเกี่ยวกับความรู้

 

การแสวงหาความรู้นั้นได้แก่ การประดับประดามันด้วยกับความอดทนขันติ ความยินดีปรีดา และมีความอ่อนน้อมกับผู้ที่เรียนรู้วิชาการกับท่าน และจงอย่าเป็นผู้รู้ทียโสโอหัง เพราะความประพฤติที่ไม่ถูกต้องจะทำลายความถูกต้องของท่าน

 

34. การเชื่อถือตามความรู้จัก

 

เมื่อใดก็ตามที่กาลเวลาเป็นเวลาของการกดขี่ข่มเหง และประชาชนในยุคของมันเป็นพวกบิดพลิ้วและหักหลัง ดังนั้นการไว้วางใจกับทุกๆคนนั้นเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้

 

35. บทสรุปของผู้ที่ลุ่มหลงโลก

 

ความลุ่มหลงต่อโลกคือสาเหตุที่นำมาซึ่งความโศกเศร้าอาดูร ส่วนความตักวาและการหลีกเลี่ยงจากโลกเป็นสาเหตุของความสบายใจและสบายการ

 

36. คุณลักษณะของการเชิญชวนไปสู่ความดีและห้ามปรามความชั่ว

 

อันที่จริงผู้ที่ทำการเชิญชวนไปสู่ความดีและห้ามปรามความชั่วต้องมีคุณสมบัติสามประการดังต่อไปนี้

 

(1)   ต้องเป็นผู้รู้ในสิ่งที่เขาทำการเชิญชวนและห้ามปราม

 

(2)   ต้องมีความยุติธรรมในสิ่งที่เขาเชิญชวน และห้ามปราม

 

(3)   ต้องเป็นผู้อ่อนน้อมในการเชิญชวนและห้ามปราม

 

37. ผู้ปกครองที่กดขี่

 

บุคคลใดที่ทำการเรียกร้องความดีงามจากผู้ปกครองที่กดขี่ แต่สิ่งที่เขาได้รับคือความอธรรม ซึ่งมันไม่มีผลรางวัลตอบแทน และไม่สามารถอดทนอดกลั้นได้

 

38. ของกำนัลที่ดีที่สุด

 

มิตรที่เป็นที่รักยิ่งสำหรับฉันคือผู้ที่บอกความผิดพลาดและข้อตำหนิของฉัน

 

39. การกดขี่ที่เลวที่สุดคือการทำให้หลงทาง

 

ผู้ที่ทำการเชิญชวนประชาชนให้ภักดีกับตนเอง ขณะที่ในหมู่ของเขามีผู้รู้ที่ฉลาดกว่า เท่ากับเขาได้สร้างบิดอะฮฺและหลงทางที่สุด

 

40 ความสัมพันธ์ทางเครือญาติ

 

แท้จริงความสัมพันธ์ทางเครือญาติ และการกระทำความดีจะทำให้การตรวจสอบของเขาง่ายดาย และจะช่วยป้องกันการกระทำความผิดบาป ฉะนั้นจงสร้างสายสัมพันธ์และประพฤติดีกับครอบครัว แม้ว่าท่านจะให้สลามด้วยมารยาทที่ดีงาม และเขาไมตอบรับสลามก็ตาม

 

ขอขอบคุณเว็บไซต์อัตตักรีบ

 

กรุณาแสดงความคิดเห็นด้วย

ความคิดเห็นของผู้ใช้งานทั้งหลาย

ไม่่มีความคิดเห็น
*
*

เว็บไซต์ อิมาม อัลฮะซะนัยน์ (อลัยฮิมัสลาม)เพื่อคุณค่าและสารธรรมอิสลาม