เว็บไซต์ อิมาม อัลฮะซะนัยน์ (อลัยฮิมัสลาม)เพื่อคุณค่าและสารธรรมอิสลาม

จริยธรรมของอิมามริฎอ (อ.)

0 ทัศนะต่างๆ 00.0 / 5

จริยธรรมของอิมามริฎอ (อ.)

 บรรดาอิมามแห่งอะห์ลุลบัยต์ (อ.) นั้น ล้วนเป็นผู้ได้รับการคัดเลือกซึ่งอัลลอฮ์ (ซบ.) ทรงเลือกสรรพวกท่านไว้ให้เป็นทางนำ สำหรับมนุษยชาติโดยสัจธรรม กล่าวคือพวกท่านเป็นตัวอย่างสูงสุดในความเป็นมนุษย์และจริยธรรมอันประเสริฐ

 

 อิบรอฮีม บิน อับบาส ได้กล่าวว่า “ฉันไม่เคยพบว่าท่านอิมามริฎอ จะใช้วาจาหยาบกระด้างกับคนหนึ่งคนใดเลย และฉันไม่เคยพบว่าท่านจะชิงพูดตัดบทถ้อยคำของคนหนึ่งคนใด จนกว่าเขาคนนั้นจะพูดจบเสียก่อน และท่านไม่เคยปฏิเสธคนหนึ่งคนใดที่มีจุดประสงค์ในสิ่งที่ท่านมีความสามารถจะให้ได้ ท่านไม่เคยยืดเท้าและไม่เคยนั่งเอกเขนกต่อหน้าคนที่นั่งสนทนากับท่าน ท่านไม่เคยด่าว่าคนรับใช้และข้าทาสของท่านเลยสักครั้งเดียว ท่านไม่เคยทำเสียงเอิกอากในเวลาหัวเราะ หากแต่ท่านจะแสดงอาการยิ้มเท่านั้น ในยามอยู่ตามลำพังเมื่อถึงเวลารับประทานอาหารท่านจะให้คนรับใช้มานั่งร่วมกับท่านด้วยเสมอ และถ้าใครอ้างว่าเคยเห็นผู้ที่มึคุณงามความดีเหมือนอย่างท่าน ก็อย่าเชื่อถือคำแอบอ้างเช่นนั้นเลย”

 

 สหายคนหนึ่งได้ร่วมทางกับอิมามริฎอ (อ.) เพื่อเดินทางไปยังเมืองคุรอซาน เมื่อถึงเวลาอาหาร จะมีทั้งคนรับใช้และข้าทาสของท่านเข้ามาร่วมรับประทานอาหารกับท่าน สหายผู้นั้นจึงกล่าวว่า “โอ้บุตรแห่งท่านศาสดา ทำไมท่านจึงไม่จัดอาหารไว้สำหรับคนเหล่านี้สักที่หนึ่งเล่า?”

อิมามอะลี ริฎอ (อ.) ตอบว่า “แท้จริงพระผู้อภิบาล ผู้ทรงสูงสุด มีเพียงองค์เดียว และบิดาของมนุษยชาติก็เป็นคนๆ เดียวกัน และมารดาก็เป็นคนๆ เดียวกัน ส่วนรางวัลตอบแทนของแต่ละคนนั้นขึ้นอยู่กับผลงานที่กระทำ”

 

   มีชายคนหนึ่งกล่าวกับอิมามอะลี ริฎอ (อ.) ว่า “ขอสาบานต่ออัลลอฮ์ว่า ในหน้าแผ่นดินนี้ไม่มีใครประเสริฐกว่าท่านอีกแล้ว”

 ท่านอิมามริฎอ (อ.) ตอบว่า “การมีความยำเกรงได้ทำให้เขาเหล่านั้นมีเกียรติยิ่ง” มีอีกคนหนึ่งกล่าวสาบานว่า “ขอสาบานด้วยพระนามแห่งอัลลอฮ์ ท่านคือมนุษย์ที่ประเสริฐที่สุด”

  แต่อิมามริฎอ (อ.) กลับตอบว่า “อย่าสาบานอย่างนั้นเลย คนที่ประเสริฐกว่าฉันได้แก่คนที่มีความยำเกรงอัลลอฮ์มากกว่า ขอสาบานต่ออัลลอฮ์ โองการนี้ยังมิได้ถูกยกเลิก “และเราบันดาลให้พวกเจ้าเป็นประชาคมและเป็นเผ่าพันธุ์ เพื่อพวกเจ้าจะได้รู้จักกัน แท้จริงคนที่มีเกียรติยิ่งของพวกท่านตามทัศนะของอัลลอฮ์ คือคนที่ยำเกรงอัลลอฮ์มากที่สุดในหมู่พวกท่าน”

 ครั้งหนึ่งในขณะที่อิมามริฎอ (อ.) กำลังตอบปัญหาเรื่องสิ่งที่อนุมัติและสิ่งที่ต้องห้ามอยู่ได้มีชาวเมืองคุรอซานคนหนึ่งเข้ามาหาท่านและกล่าวว่า “โอ้บุตรของท่านศาสดา ขอความสันติสุขพึงมีแด่ท่าน ฉันคือคนหนึ่งในหมู่ชนผู้เป็นที่รักของท่าน และเป็นที่รักของบิดาและของปู่ทวดของท่าน ฉันเองเพิ่งกลับมาจากทำฮัจญ์ และเงินทองของฉันก็ร่อยหรอจนไม่มีอะไรเหลือติดตัวฉันเลย ฉันเห็นว่าถ้าหากท่านจัดการส่งฉันกลับไปยังภูมิลำเนาของฉันได้แล้ว ขอสาบานต่ออัลลอฮ์เท่ากับฉันได้รับความโปรดปรานอย่างยิ่ง ครั้นเมื่อฉันได้ถึงยังภูมิลำเนาแล้ว ฉันจะนำเงินของฉันออกมาบริจาคในนามของท่าน ตามจำนวนที่ท่านได้มอบให้แก่ฉันเพราะฉันเองมิได้เป็นคนที่อยู่ในฐานะรับบริจาค”

อิมามอะลี ริฎอ (อ.) ได้กล่าวอย่างอ่อนโยนว่า “เชิญท่านนั่งลงเถิด ขออัลลอฮ์ทรงประทานความเมตตาแก่ท่าน”

จากนั้นท่านก็หันไปตอบคำถามผู้ที่อยู่ ณ ที่แห่งนั้นต่อไป จนกระทั่งเสร็จ แล้วอิมามก็ลุกขึ้นเดินเข้าไปในห้อง และได้ยื่นมือออกมาทางด้านหลังประตู พลางเรียกหาชาวคุรอซานคนนั้นว่า “ชาวคุรอซานอยู่ที่ไหน” ชายคนนั้นได้ขานรับ

 อิมามอะลี ริฎอ (อ.) กล่าวว่า “นี่คือเงิน 200 ดีนาร ซึ่งฉันยินดีช่วยเหลือเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทางของท่าน และไม่ต้องบริจาคในนามของฉันตามที่ท่านสัญญาหรอก” ชาวคุรอซานจึงรับเงินจำนวนนั้นไป แล้วอำลาจากอิมามริฎอ ด้วยความรู้สึกซาบซึ้งเมตตาของท่าน

หลังจากนั้นอิมามอะลี ริฎอ (อ.) จึงออกมา ได้มีสหายของท่านคนหนึ่งถามว่า “เพราะเหตุใดจึงซ่อนเร้นใบหน้ามิให้เขาเห็น โอ้บุตรของท่านศาสดา?”

อิมามอะลี ริฎอ (อ.) กล่าวว่า “เพื่อฉันจะได้ไม่เห็นความต้อยต่ำของการขอบนใบหน้าของเขา เพราะฉันได้ยินวจนะจากท่านศาสดา (ศ็อลฯ) บทหนึ่งว่า “ผู้ที่ปิดบังตนเองในเวลาทำความดีนั้น จะมีผลบุญเทียบเท่าการบำเพ็ญฮัจญ์ถึง 70 ครั้ง และเป็นการขจัดความชั่วร้ายในฐานะผู้หลอกลวงลงได้ด้วย และผู้ปิดบังตนเองในการทำความดีจะได้รับการอภัยโทษ”

 

ขอขอบคุณเว็บไซต์อาลิลเบตด็อดคอม

http://ahlbeyt.com

กรุณาแสดงความคิดเห็นด้วย

ความคิดเห็นของผู้ใช้งานทั้งหลาย

ไม่่มีความคิดเห็น
*
*

เว็บไซต์ อิมาม อัลฮะซะนัยน์ (อลัยฮิมัสลาม)เพื่อคุณค่าและสารธรรมอิสลาม