เว็บไซต์ อิมาม อัลฮะซะนัยน์ (อลัยฮิมัสลาม)เพื่อคุณค่าและสารธรรมอิสลาม

ความกลัวการลงโทษ และ ความหวังในความเมตตาของพระผู้เป็นเจ้า

0 ทัศนะต่างๆ 00.0 / 5

ความกลัวการลงโทษ และ ความหวังในความเมตตาของพระผู้เป็นเจ้า

         

  เราทุกคนทราบดีว่า หนึ่งในคุณลักษณะ (ซิฟัต) อันวิจิตรและสูงส่งของพระผู้เป็นเจ้า คือ พระองค์ทรงไว้ซึ่งความเมตตาอันสูงสุด

 

«هُوَ أَرْحَمُ الرَّاحِمِینَ»

 

“พระองค์คือผู้ทรงเมตตาที่สุดในหมู่ผู้เมตตาทั้งหลาย” (1)

 

และความเมตตาของพระองค์นั้นมาก่อน และมีมากกว่าความกริ้วโกรธของพระองค์ ในดุอาอ์เญาชันกะบีร ได้กล่าวว่า :

 

 

يا مَنْ وَسِعَتْ كُلَّ شَيْء رَحْمَتُهُ يا مَنْ سَبَقَتْ رَحْمَتُهُ غَضَبَهُ

 

“โอ้ ผู้ซึ่งความเมตตาของพระองค์นั้นแผ่ปกคลุมทุกสิ่ง โอ้ ผู้ซึ่งความเมตตาของพระองค์นำหน้าความกริ้วโกรธของพระองค์” (2)

 

         

  และนี่เองคือเหตุผลที่ทำให้คนเราส่วนใหญ่เกิดความลำพองใจ และเป็นเหตุทำให้พวกเขาอาจหาญในการทำความชั่วและการละเมิดฝ่าฝืนต่อพระผู้เป็นเจ้า ในขณะที่เรามีความหวังในความเมตตาจากพระผู้เป็นเจ้านั้น เราก็จะต้องไม่ลืมอีกด้านหนึ่งของพระองค์

 

«فَإِنَّ اللَّهَ شَدِيدُ الْعِقَابِ»

 

“แท้จริงอัลลอฮ์เป็นผู้ทรงลงโทษที่รุนแรงยิ่ง” (3)

           

ความเกรงกลัวพระผู้เป็นเจ้าเป็นสิ่งที่มีคุณค่าอย่างมาก และจำเป็นที่เราทุกคนจะต้องพยายามขวนขวายให้เกิดสิ่งนี้ขึ้นในตัวของเรา หากเราปรารถนาความดีงามในชีวิต จำเป็นที่จะต้องฝึกฝนและสร้างความกลัวต่อพระผู้เป็นเจ้า ความกลัวจากความกริ้วโกรธของพระองค์นี้ให้เกิดขึ้นในหัวใจของเราให้ได้ แล้วเราจะบรรลุสู่บั้นปลายที่ดีงาม คัมภีร์อัลกุรอานได้กล่าวว่า :

 

 

وَأَمَّا مَنْ خَافَ مَقَامَ رَبِّهِ وَنَهَى النَّفْسَ عَنْ الْهَوَى فَإِنَّ الْجَنَّةَ هِىَ الْمَأْوَى

 

“และส่วนผู้ที่หวั่นกลัวต่อการยืนเบื้องหน้าองค์พระผู้อภิบาลของเขา และได้หักห้ามจิตใจจากอารมณ์ใฝ่ต่ำ ดังนั้นสวรรค์จะเป็นที่พำนักของเขา” (4)

 

         

คำว่า “مَقَامَ رَبِّهِ” มีการอรรถาธิบายความหมายไว้หลายอย่าง หนึ่งในคำอรรถาธิบายเหล่านั้นคือ “مقامه عند ربّه” “การยืนของมนุษย์ ณ เบื้องพระพักตร์ขององค์พระผู้อภิบาลของเขา (ในวันชาติหน้า)” เพราะฉะนั้นหากเรากลัวสิ่งดังกล่าว การดำเนินชีวิตในโลกนี้เราจะต้องพยายามปฏิบัติตนไปตามคำสั่งใช้ของพระผู้เป็นเจ้า หลีกเลี่ยงข้อห้ามและการละเมิดฝ่าฝืนต่อพระองค์ แล้วเราจะพบกับบั้นปลาย หมายถึง ชีวิตที่ดีงามและผาสุกไพบูลย์ในปรโลก

 

 

ความเกรงกลัวพระผู้เป็นเจ้า คือคุณลักษณะของ “อิบาดุรเราะห์มาน”

         

ในอัลกุรอาน บทอัลฟุรกอน พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงตรัสถึงปวงบ่าวเฉพาะของพระองค์ โดยเรียกพวกเขาว่า “อิบาดุรเราะห์มาน” (ปวงบ่าวของพระผู้ทรงเมตตา) เกี่ยวกับคุณลักษณะประการที่สี่ของปวงบ่าวกลุ่มนี้ พระองค์ทรงตรัสว่า :

 

وَالَّذِينَ يَقُولُونَ رَبَّنَا اصْرِفْ عَنَّا عَذَابَ جَهَنَّمَ إِنَّ عَذَابَهَا كَانَ غَرَامًا إِنَّهَا سَاءَتْ مُسْتَقَرًّا وَمُقَامًا

 

“และบรรดาผู้ที่กล่าวว่า ข้าแต่พระผู้อภิบาลของเหล่าข้าฯ โปรดทรงปัดป้องการลงโทษของนรกให้พ้นไปจากเหล่าข้าฯ ด้วยเถิด เพราะการลงโทษของมันนั้นคือความทุกข์ทรมานที่ยาวนาน แท้จริงมันเป็นที่พำนักและสถานที่อยู่ที่เลวร้ายยิ่ง” (5)

         

ในโองการนี้พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงชี้ถึงคุณลักษณะที่โดดเด่นของปวงบ่าวเฉพาะของพระองค์ ซึ่งนั่นก็คือ “คุณลักษณะของความเกรงกลัวและความยำเกรงต่อพระองค์” กล่าวอีกสำนวนหนึ่งก็คือ พวกเขามีความหวั่นกลัวอย่างมากต่อการลงโทษของพระผู้เป็นเจ้า ซึ่งจะเป็นผลที่เกิดจากการละเมิดฝ่าฝืนพระองค์ และพวกเขามีความเชื่ออย่างมั่นคงว่า การละเมิดคำสั่งพระผู้เป็นเจ้านั้น หมายถึงการเชื่อฟังคำสั่งของมาร (ชัยฏอน) และการกระทำเช่นนี้จะเป็นสื่อทำให้เขาต้องได้รับโทษทัณฑ์จากพระผู้เป็นเจ้า และการเข้าสู่ไฟนรก

         

อย่างไรก็ดี ความกลัวต่อพระผู้เป็นเจ้าในที่นี้ หมายถึง ความกลัวต่อหน้าที่รับผิดชอบต่างๆ ที่มนุษย์ได้ถูกมอบหมายจากพระองค์ กลัวจากการที่เราจะบกพร่องต่อการปฏิบัติตามหน้าที่และภารกิจที่ได้รับมอบหมาย หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ กลัวจากความผิดบาปและการละเมิดฝ่าฝืนต่อพระองค์ ดังที่ท่านอิมามอะลี (อ.) ได้กล่าวในเรื่องนี้ว่า :

 

لَا يَرْجُوَنَّ أَحَدٌ مِنْكُمْ إِلَّا رَبَّهُ وَ لَا يَخَافَنَّ إِلَّا ذَنْبَه

 

“คนหนึ่งคนใดจากพวกท่านอย่าได้หวัง (จากผู้ใด) นอกจากอัลลอฮ์เพียงเท่านั้น และอย่าได้กลัวสิ่งใดนอกจากบาปของเขาเองเท่านั้น” (6)

 

ความกลัวการลงโทษและความหวังในความเมตตาของพระผู้เป็นเจ้า

           

ผู้ศรัทธา (มุอ์มิน) จำเป็นที่จะต้องดำรงตนอยู่ในระหว่างความกลัว (เคาฟ์) และความหวัง (ร่อญาอ์) หมายถึง จะต้องมีความหวังในความเมตตาของพระผู้เป็นเจ้า ในขณะเดียวกันก็จะต้องมีความเกรงกลัวต่อการลงโทษของพระผู้เป็นเจ้าด้วย แนวทางสายกลาง (เอี๊ยะอ์ติดาล) คือสิ่งนี้นั่นเอง และการยึดถือหรือโน้มเอียงไปด้านใดด้านหนึ่งอย่างสุดโต่ง โดยละทิ้งจากอีกด้านหนึ่งนั้นจะนำมาซึ่งอันตรายที่ใหญ่หลวง ทั้งนี้เนื่องจากว่าหากเรามีความมุ่งหวังในความเมตตาของพระผู้เป็นเจ้าเพียงอย่างเดียว จะทำให้เราเกิดความลำพองใจ และสิ่งนี้เองจะเปิดโอกาสแก่ตัวเราให้ย่างก้าวเข้าสู่ความชั่วและการละเมิดฝ่าฝืนต่อพระผู้เป็นเจ้า และหากเรามีแต่ความกลัวเพียงอย่างเดียว ความกลัวโดยปราศจากความหวังก็จะนำพาเราไปสู่ความท้อแท้สิ้นหวัง สภาพเช่นนี้จะทำให้มนุษย์เกิดการหยุดนิ่ง ไร้ชีวิตชีวา ยับยั้งตนจากการพัฒนาและการขับเคลื่อนไปสู่สิ่งที่ดีงามยิ่งขึ้น

 

ด้วยเหตุนี้ ท่านอิมามมุฮัมมัด บากิร (อ.) จึงได้กล่าวว่า :

 

إِنَّهُ لَيْسَ مِنْ عَبْدٍ مُؤْمِنٍ إِلَّا وَ فِي قَلْبِهِ نُورَانِ نُورُ خِيفَةٍ وَ نُورُ رَجَاءٍ لَوْ وُزِنَ هَذَا لَمْ يَزِدْ عَلَى هَذَا وَ لَوْ وُزِنَ هَذَا لَمْ يَزِدْ عَلَى هَذَا

 

“แท้จริงไม่มีบ่าวผู้ศรัทธาคนใด นอกจากในหัวใจของเขาจะต้องมีสองแสงสว่าง (นูร) คือ แสงสว่างแห่งความกลัวและแสงสว่างแห่งความหวัง และหากทั้งสองถูกนำมาชั่งวัด จะไม่มีสิ่งใดที่มีมากไปกว่าอีกสิ่งหนึ่งเลย” (7)

 

คุณค่าของความกลัวพระผู้เป็นเจ้าในวจนะของท่านศาสดา (ซ็อลฯ) และอิมามอะลี (อ.)

         

ท่านศาสนทูตแห่งอัลลอฮ์ (ซ็อลฯ) กล่าวว่า :

 

 

أَعْلَى النَّاسِ مَنْزِلَةً عِنْدَاللَّهِ أَخْوَفُهُمْ مِنْهُ

 

“มนุษย์ที่มีตำแหน่งสูงส่งที่สุด ณ อัลลอฮ์ คือคนที่เกรงกลัวพระองค์มากที่สุดในหมู่พวกเขา” (8)

         

ท่านอมีรุ้ลมุอ์มินีน (อ.) กล่าวว่า :

 

إن الله إذا جمع الناس نادى فیهم مناد أیها الناس إن أقربکم الیوم من الله أشدکم منه خوفا

 

“แท้จริงเมื่ออัลลอฮ์ได้รวมมนุษย์ขึ้น (ในวันแห่งการฟื้นคืนชีพในปรโลก) จะมีผู้ประกาศผู้หนึ่งประกาศว่า : โอ้ประชาชนเอ๋ย! วันนี้ผู้ที่ใกล้ชิดอัลลอฮ์มากที่สุดในหมู่พวกท่าน คือผู้ที่มีความเกรงกลัวพระองค์มากที่สุดในหมู่พวกท่าน” (9)

 

ผลของความเกรงกลัวพระผู้เป็นเจ้าในริวายะฮ์ (คำรายงาน)

 

จะทำให้เกิดการยับยั้งตนจากความชั่ว : ท่านอิมามอะลี (อ.) กล่าวว่า :

 


الخَوْفُ سِجْنُ النَّفْسِ عَنِ الذُّنُوبِ، وَ رادِعُها عَنِ المَعاصي

 

“ความกลัว (ต่อพระผู้เป็นเจ้า) คือสิ่งที่จะกักขังจิตใจจากบาปทั้งหลาย และจะเป็นเครื่องปกป้องมันจากการละเมิดฝ่าฝืนต่างๆ” (10)

 

ทำให้เกิดความเกรงขามและความเคารพจากผู้อื่น : ท่านศาสดา (ซ็อลฯ) กล่าวว่า :

 


مَنْ خَافَ اللهَ أخَافَ اللهُ مِنْهُ کلَّ شَی ءٍ وَ مَنْ لَمْ یخِفِ اللهَ أخَافَهُ اللهُ مِنْ کلِّ شیءٍ

 

“ผู้ใดที่กลัวอัลลอฮ์ อัลลอฮ์จะให้ทุกสิ่งกลัวเขา และผู้ใดที่ไม่กลัวอัลลอฮ์ อัลลอฮ์จะให้เขากลัวทุกสิ่ง” (11)

 

 

ความปลอดภัยจากการลงโทษของพระผู้เป็นเจ้า : ท่านอิมามอะลี (อ.) กล่าวว่า :


ثَمَرَةُ الْخَوْفِ ألأمْنِ

 

“ผลของความกลัว (พระผู้เป็นเจ้า) คือความปลอดภัย” (12)

 

 

แหล่งที่มา :

 

(1) อัลกุรอานบท ยูซุฟ โองการที่ 54 และ 92

(2) ดุออาอ์เญาชันกะบีร, มะฟาตีฮุลญินาน

(3) อัลกุรอานบท อัลฮัชรุ โองการที่ 4

(4) อัลกุรอานบท อันนาซิอาต โองการที่ 40-41

(5) อัลกุรอานบท อัลฟุรกอน โองการที่ 65-66

(6) นะฮ์ญุลบะลาเฆาะฮ์, ฮิกมะฮ์ที่ 82

(7) วะซาอิลุชชีอะฮ์, เล่มที่ 11, หน้าที่ 168

(8) บิฮารุลอันวาร, เล่มที่ 74, หน้าที่ 180

(9) ตุฮัฟฟุลอุกูล, หน้าที่ 141

(10) ฆุรอรุลฮิกัม, ฮะดีษที่ 1987

(11) อัลกาฟี, เล่ม 2, หน้าที่ 68

(12) บิฮารุลอันวาร, เล่มที่ 70, หน้าที่ 381

 

ขอขอบคุณเว็บไซต์ซอฮิบซะมาน

กรุณาแสดงความคิดเห็นด้วย

ความคิดเห็นของผู้ใช้งานทั้งหลาย

ไม่่มีความคิดเห็น
*
*

เว็บไซต์ อิมาม อัลฮะซะนัยน์ (อลัยฮิมัสลาม)เพื่อคุณค่าและสารธรรมอิสลาม