เว็บไซต์ อิมาม อัลฮะซะนัยน์ (อลัยฮิมัสลาม)เพื่อคุณค่าและสารธรรมอิสลาม

การเตรียมตัวเพื่อรอคอยการมาของท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.) ตอนที่ 2

0 ทัศนะต่างๆ 00.0 / 5

 

การเตรียมตัวเพื่อรอคอยการมาของท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.) ตอนที่ 2

การตื่นตัวและการยืนหยัดต่อสู้ของประชาชาติมุสลิมก่อนการมาของท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.ญ.)

 

       

ท่ามกลางคำรายงาน (ริวายะฮ์) ของอิสลามนั้น เราจะพบคำรายงานจำนวนหนึ่งที่อธิบายถึงสภาวะเงื่อนไขและเหตุการณ์ต่าง ๆ ในยุคของการปรากฏตัว (ซุฮูร) ของท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.ญ.) ในฮะดีษบทหนึ่งได้ชี้ให้เห็นว่า ก่อนการปรากฏตัวของท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.) นั้น ประชาชาติมุสลิมในภูมิภาคตะวันออกกลางจะยืนหยัดขึ้นต่อสู้เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการจัดตั้งรัฐบาลของท่าน โดยที่ท่านศาสนทูตแห่งอัลลฮ์ (ซ็อลฯ) ได้กล่าวว่า

 

يخرج ناس من المشرق فيوطّئون للمهدى يعنى سلطانه

“ประชาชนกลุ่มหนึ่งจากทิศตะวันออกจะยืนหยัดขึ้น โดยที่พวกเขาจะเตรียมพื้นฐานสำหรับมะฮ์ดี หมายถึงอำนาจการปกครองของเขา” (1)

      

และหนึ่งในเหตุการณ์เหล่านั้นที่ปรากฏให้เราเห็นแล้ว นั่นก็คือ การยืนหยัดขึ้นของบุรุษผู้หนึ่งจากเมืองกุม ซึ่งในช่วงของการใกล้การปรากฏตัว (ซุฮูร) ของท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.ญ) นั้น ท่านจะเรียกร้องเชิญชวนประชาชนไปสู่สัจธรรม ด้วยกับการสนับสนุนของพวกเขาและการช่วยเหลือจากพระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงสูงส่ง ท่านจะจัดตั้งขบวนการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ขึ้น โดยไม่มีศัตรูใดสามารถทำลายมันได้ (2)

 

      

  เกี่ยวกับเรื่องนี้ มีคำรายงานจากท่านอิมามมูซา กาซิม (อ.) ที่ได้กล่าวว่า :

 

رجل من قم يدعو الناس إلى الحق يجتمع معه قوم قلوبهم كزبر الحديد لا تزلهم الرياح و العواصف لا يملون من الحرب و لا يجبنون و على الله يتوكلون و العاقبة للمتقين.

"บุรุษผู้หนึ่งจากเมืองกุม จะเรียกร้องเชิญชวนประชาชนไปสู่สัจธรรม ชนกลุ่มหนึ่งจะรวมตัวอยู่กับเขา หัวใจของพวกเขาประหนึ่งดังชิ้นส่วนของเหล็ก โดยที่ลมและพายุทั้งหลายจะไม่ทำให้พวกเขาพลั้งพลาด พวกเขาจะไม่เหนื่อยหน่ายจากสงคราม พวกเขาจะไม่หวาดหวั่น และพวกเขาจะมอบหมายต่อพระผู้เป็นเจ้า และผลสุดท้ายจะเป็นของมวลผู้ยำเกรง" (3)

 

       

ดังที่ท่านทั้งหลายได้เห็นแล้วว่าท่านอิมามมูซา กาซิม (อ.) ได้บอกข่าวเกี่ยวกับการยืนหยัดขึ้นของบุรุษผู้หนึ่งจากเมืองกุม ซึ่งบุรุษผู้นี้จะเรียกร้องเชิญชวนประชาชนไปสู่สัจธรรม และจะมีประชาชนจำนวนหนึ่งรวมตัวขึ้นเคียงข้างเขา หัวใจของคนกลุ่มนี้จะมั่นคงแข็งแกร่งประดุจดังชิ้นส่วนของเหล็ก การเผชิญหน้ากับสิ่งเลวร้ายและความทุกข์ยากต่าง ๆ ที่มาประสบก็ไม่อาจทำให้พวกเขาเหนื่อยหน่ายจากการยืนหยัดต่อสู้และหวาดกลัวใด ๆ และเป็นไปตามคำกล่าวของริวายะฮ์ (คำรายงาน) นี้ที่ว่า การพึ่งพิงและการมอบหมายต่อพระผู้เป็นเจ้าของประชาชนกลุ่มนี้ ที่เป็นสาเหตุทำให้การยืนหยัดต่อสู้ของพวกเขาดำเนินไปสู่บั้นปลายสุดท้ายที่ดีงามและไปถึงซึ่งชัยชนะ

 

       

ตามการยืนยันของประวัติศาสตร์ บุรุษผู้มีเกียรติท่านนี้คือ ท่านอิมามโคมัยนี (ร.ฮ.) และไม่มีใครที่คู่ควรเหมาะสมสำหรับคุณลักษณะเช่นนี้ได้นอกจากท่านเพียงเท่านั้น ทั้งนี้เนื่องจากท่านอิมามโคมัยนี (ร.ฮ.) ได้ใช้ชีวิตในการศึกษาและการสอนอยู่ในเมืองกุมเป็นเวลายาวนานหลายปี และหลังจากที่ท่านได้เห็นถึงการทรยศของมุฮัมมัด ริฎอชาห์ (กษัตริย์อิหร่าน) ท่านได้เรียกร้องเชิญชวนประชาชนมาสู่สัจธรรมความจริง และปลุกพวกเขาให้ลุกขึ้นต่อต้านและจัดการกับความอธรรมของยะซีดแห่งยุคสมัย

 

      

จุดเริ่มต้นของการยืนหยัดต่อสู้อันยิ่งใหญ่นี้เกิดขึ้นในปี 1342 สืบเนื่องมาจากการที่ท่านอิมามโคมัยนี (ร.ฮ.) ได้กล่าวโจมตี มุฮัมมัด ริฎอชาห์ ด้วยคำพูดต่าง ๆ ที่รุนแรง เหตุการณ์นี้ทำให้ท่านอิมามโคมัยนี (ร.ฮ.) ถูกจับกุมในวันที่ 15 เดือนโครด๊อด ปี 1342 ซึ่งประเด็นดังกล่าวนี้โดยตัวของมันเองได้กลายเป็นพื้นฐานไปสู่การลุกฮือและการนองเลือดของประชาชน ในวันที่ 15 เดือนโครด๊อด ปี 1342

 

      

ประชาชนมุสลิมในอิหร่านได้รับความทุกข์ยากจากความอธรรมและการกดขี่ของเหล่ากษัตริย์ชาฮ์มาช้านาน จึงได้ตอบรับการเรียกร้องเชิญชวนไปสู่สัจธรรมของท่านอิมามโคมัยนี (ร.ฮ.) และพวกเขาทำให้การยืนหยัดต่อสู้ของอิสลามและของประชาชนได้เริ่มต้นขึ้นเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของอิหร่าน

 

       การยืนหยัดต่อสู้ของประชาชนในวันที่ 15 เดือนโครด๊อด ปี 1342 นั้น แม้จะนำไปสู่การสูญเสียชีวิตและการนองเลือด และดูตามรูปการภายนอกแล้วจะไม่บังเกิดผล แต่ในช่วงเวลา 15 ปีต่อมาการยืนหยัดต่อสู้นี้ก็บรรลุผลในที่สุด ทำให้รัฐบาลของสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่านกลายเป็นของขวัญสำหรับประชาคมโลก รัฐบาลซึ่งตามริวายะฮ์ (คำรายงาน) นั้น จะเป็นส่วนหนึ่งจากปัจจัยพื้นฐานที่สำคัญในการปรากฏตัว (ซุฮูร) ของท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.ญ.) อินชาอัลลอฮ์ (หากพระผู้เป็นเจ้าทรงประสงค์)

 

      

ประเด็นสำคัญที่สามารถเห็นได้จากริวายะฮ์ (คำรายงาน) บทนี้ก็คือ บรรดาผู้สนับสนุนและให้การช่วยเหลือบุรุษผู้มีเกียรติท่านนี้ หัวใจของพวกเขามีความแข็งแกร่งและมั่นคง พวกเขาจะไม่หวาดกลัวและจะไม่รู้สึกเหนื่อยหน่ายต่อเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่ยากลำบาก ความไว้วางใจของผู้ช่วยเหลือเหล่านี้อยู่กับพระผู้เป็นเจ้า และในที่สุดพวกเขาก็จะได้รับชัยชนะ

 

      

สิ่งที่น่าพิศวงก็คือ คำอธิบายเหล่านี้มีความสอดคล้องอย่างสมบูรณ์กับคุณลักษณะต่าง ๆ ของผู้สนับสนุนและผู้ให้การช่วยเหลือของอิมามโคมัยนี (ร.ฮ.) ทั้งนี้เนื่องจากบุคคลเหล่านั้นประหนึ่งดังชิ้นสวนต่าง ๆ ของเหล็กอันแข็งแกร่ง ไม่มีความหวาดกลัวแม้แต่การถูกสังหารและการเป็นชะฮีด ด้วยเหตุผลดังกล่าวนี้เองตลอดระยะเวลา 15 ปี พวกเขาได้ยืนหยัดต่อสู้กับระบอบการปกครองที่กดขี่ของกษัตริย์ชาฮ์ด้วยความกล้าหาญ เป็นไปตามริวายะฮ์ (คำรายงาน) ข้างต้น ผลสุดท้ายของการยืนหยัดต่อสู้ของผู้ช่วยเหลือของบุรุษผู้นี้ คือชัยชนะในการเคลื่อนไหวต่อสู้ของพวกเขา พวกเขาได้วางรากฐานการปกครองของสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่านขึ้น

 

      

ตลอดประวัติศาสตร์จวบจนถึงขณะนี้ ยังไม่เคยพบว่ามีบุรุษที่ยิ่งใหญ่และเป็นนักวิชาการศาสนาอย่างเช่นท่านอิมามโคมัยนี (ร.ฮ.) ที่ยืนหยัดต่อสู้ขึ้นในเมืองนี้ และให้การอบรมขัดเกลาบรรดาผู้ช่วยเหลือที่มีความเด็ดเดี่ยวและแข็งแกร่งจนถึงขั้นที่สามารถยืนหยัดเผชิญหน้ากับเหตุการณ์อันหนักหน่วงแห่งยุคสมัยได้ ในที่สุดด้วยกับการช่วยเหลือของพระผู้เป็นเจ้า พวกเขาได้ทำให้การยืนหยัดต่อสู้ของพวกเขาบรรลุสู่ชัยชนะ แน่นอนในหน้าประวัติศาสตร์เรายังไม่เคยพบเห็นบุคคลเช่นนี้ที่สามารถทำให้การยืนหยัดต่อสู้นี้ได้เกิดขึ้นในเมืองกุม และหลังจากนี้เราก็คงไม่อาจที่จะคาดหวังสิ่งดังกล่าวนี้ได้เช่นเดียวกัน ทั้งนี้เนื่องจากในขณะนี้รัฐบาลของสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่าน ในฐานะที่เป็นรัฐบาลที่ทำหน้าที่เตรียมพร้อมพื้นฐานการปรากฏตัว (ซุฮูร) ของท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.) ได้ถูกจัดตั้งขึ้นแล้ว จึงไม่มีปัจจัยที่จะนำไปสู่การยืนหยัดต่อสู้เช่นนี้เกิดขึ้นอีกในเมืองกุม เหตุเพราะว่ารัฐบาลอิสลามของอิหร่านเป็นรัฐบาลที่นักวิชาการศาสนาและบรรดามัรเญี๊ยะอ์ตักลีดผู้ยิ่งใหญ่จะไม่คัดค้านต่อต้านมัน

 

      

  และในฮะดีษ (วจนะ) อีกบทหนึ่ง ท่านอัลลามะฮ์มัจญ์ลิซี ได้อ้างรายงานจากท่านอิมามบากิร (อ.) ซึ่งท่านศาสดา (ซ็อลฯ) กล่าวว่า :

 

ان عن يمين الله عزوجل ـ او عن يمين العرش ـ قوما منا على منابر من نور وجوههم من نور, وثيابهم من نور, تغشى وجوههم إبصار الناظرين دونهم, قال إبوبكر: من هم يا رسول الله؟ فسكت, فقال الزبير: من هم يا رسول الله؟ فسكت, فقال عبدالرحمن:من هم يا رسول الله؟ فسكت, فقال على عليه السلام من هم يا رسول الله؟ فقال: هم قوم تحابوا بروح الله على غير انساب و لا اموال اولئك شيعتك و انت امامهم يا على

“แท้จริงทางด้านขวาของอัลลอฮ์ผู้ทรงเกริกเกียรติ ผู้ทรงเกรียงไกร หรือทางด้านขวาของอะรัช (บัลลังก์) จะมีชนกลุ่มหนึ่งจากเรานั่งอยู่บนมิมบัร (ธรรมมาส) ต่าง ๆ จากนูร (รัศมี) ใบหน้าของพวกเขาก็เป็นนูร (รัศมี) และเสื้อผ้าของพวกเขาก็เป็นนูร (รัศมี) ใบหน้าของพวกเขาจะทะลุทะลวงสายตาของผู้มองคนอื่น ๆ จากพวกเขา”

 

       

อบูบักรได้กล่าวขึ้นว่า “โอ้ท่านศาสนทูตแห่งอัลลอฮ์พวกเขาเป็นใครกันหรือ?” ท่านศาสนทูตนิ่งเงียบ ดังนั้นซุบัยร์จึงกล่าวขึ้นว่า “โอ้ท่านศาสนทูตแห่งอัลลอฮ์ พวกเขาเป็นใครกันหรือ?” ท่านก็ยังคงนิ่งเงียบ อับดุรเราะฮ์มานก็ได้กล่าวว่า “โอ้ท่านศาสนทูตแห่งอัลลอฮ์พวกเขาเป็นใครกันหรือ?” ท่านก็ยังคงนิ่งเงียบ ดังนั้นท่านอะลี (อ.) จึงกล่าวว่า “โอ้ท่านศาสนทูตแห่งอัลลอฮ์พวกเขาเป็นใครกันหรือ?” ท่านกล่าวตอบว่า “พวกเขาคือกลุ่มชนที่ต่างมีความรักใคร่ต่อกันด้วยสื่อของรูฮุลลอฮ์ โดยมิได้มีความเกี่ยวข้องใด ๆ ทางเชื้อสาย และมิได้มีส่วนร่วมใด ๆ ทางทรัพย์สิน โอ้อะลีเอ๋ย! พวกเขาเหล่านั้นคือชีอะฮ์ของเจ้า และเจ้าคืออิมามของพวกเขา” (4)

 

       

คำรายงาน (ฮะดีษ) อีกบทหนึ่งจากหนังสืออ้างอิงหลายเล่มที่มีความน่าเชื่อถือ (มุอ์ตะบัร) ของชาวอะฮ์ลิซซุนนะฮ์ ได้อ้างรายงานคำพูดมาจากท่านศาสดามุฮัมมัด (ซ็อลฯ) ซึ่งท่านได้อ่านโองการนี้คือ

 

و ان تتولوا يستبدل قوما غيركم ثم لا يكونوا امثالكم

“และหากพวกเจ้าหันหลังออก (จากศาสนา) พระองค์จะทรงเปลี่ยนชนกลุ่มอื่นจากพวกเจ้า แล้วพวกเขาจะไม่เป็นเหมือนพวกเจ้า”

(บทมุฮัมมัด โองการที่ 38)

 

  ผู้ที่อยู่ต่อหน้าท่านศาสนทูตแห่งอัลลอฮ์ (ซ็อลฯ) ได้ถามขึ้นว่า :

 

يا رسول الله من هولاء الذين ان تولينا استبدلوا بنا؟

“โอ้ท่านศาสนทูตแห่งอัลลอฮ์! พวกเขาเหล่านั้น ซึ่งหากพวกเราหันหลังออก (จากศาสนา) แล้วพวกเขาจะมาแทนที่พวกเรานั้นคือใคร?”

 


فضرب رسول الله على منكب سلمان, ثم قال: هذا و قومه والذى نفسى بيده لوكان الايمان منوطا بالثريا لتناوله رجال من فارس

       ดังนั้นท่านศานทูตแห่งอัลลอฮ์ (ซ็อลฯ) จึงได้ตบไปที่ไหล่ของซัลมาล ต่อจากนั้นท่านกล่าวว่า “คือบุรุษผู้นี้และกลุ่มชนของเขา ขอสาบานต่อพระผู้ซึ่งชีวิตของฉันอยู่ในพระหัตถ์ของพระองค์ มาตรว่าศาสนาถูกแขวนอยู่ที่ดาวลูกไก่ แน่นอนยิ่งเหล่าบุรุษจากเปอร์เซียจะไขว่คว้าเอามันมาได้” (5)

 

      

จากคำพูดของบรรดานักวิชาการผู้ยิ่งใหญ่ร่วมสมัย ได้วิเคราะห์และอธิบายถึงช่วงเวลาที่กำลังดำเนินอยู่ในขณะนี้ อย่างเช่นท่านอิมามโคมัยนี (ร.ฮ.) ผู้วางรากฐานการปฏิวัติอิสลามแห่งอิหร่าน และท่านอิมามอะลีคอเมเนอีผู้นำสูงสุดของการปฏิวัติอิสลาม ได้ชี้ให้เห็นว่าสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ อันยิ่งใหญ่และน่าพิศวงในทุก ๆ ด้านของภูมิภาคและของโลก ที่เริ่มต้นขึ้นจากการปฏิวัติอิสลามในอิหร่าน ที่กำลังจะนำไปสู่การปฏิวัติครั้งใหญ่ของท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.) และเรากำลังอยู่ในยุคใกล้การปรากฏตัวของท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.)

 

      

ท่านอิมามโคมัยนี (ร.ฮ.) ได้กล่าวว่า "การปฏิวัติอิสลาม คือจุดเริ่มต้นการปฏิวัติโลกของท่านบะกียะตุลลอฮ์ (อิมามมะฮ์ดี (อ.))" (6)

      

ท่านอิมามคอเมเนอี "การบรรลุความเป็นจริงอย่างสมบูรณ์ของสัญญาแห่งพระผู้เป็นเจ้า หมายถึงชัยชนะของสัจธรรมเหนือความเท็จ เป็นการสร้างประชาชาติแห่งอัลกุรอานและอารยะธรรมใหม่แห่งอิสลามที่ได้เกิดขึ้นแล้ว..."

     

  "เราจะถูกนับว่าเป็นผู้รอคอยที่แท้จริงได้ก็ต่อเมื่อเรามีการเตรียมพร้อมพื้นฐานเพื่อการมาปรากฏตัว (ซุฮูร) ของท่านมะฮ์ดีผู้ถูกสัญญา (อัรวาฮุนาละฮุลฟิดาอ์) ความจำเป็นในการเตรียมพร้อมนั้นได้แก่ การปฏิบัติตามบทบัญญัติและอำนาจการปกครองของอัลกุรอานและอิสลาม ก้าวแรกสำหรับอำนาจการปกครองของอิสลามและการเข้าใกล้ของประชาชาติมุสลิมในยุคแห่งการปรากฏตัว (ซุฮูร) ของท่านมะฮ์ดีผู้ถูกสัญญา (อัรวาฮุนาละฮุลฟิดาอ์วะอัจญะลัลลอฮุฟะร่อญะฮ์) นั้นได้ย่างก้าวไปแล้วโดยประชาชาติอิหร่าน และนั่นก็คือการสร้างอำนาจการปกครองแห่งอัลกุรอาน"

      

ท่านอายะตุลลอฮ์ ฮาซันซอเดฮ์ออมูลี "กรณีแวดล้อมและพยานหลักฐานต่าง ๆ ชี้ให้เห็นว่า การปฏิวัติอิสลามและระบอบอันศักดิ์สิทธิ์ของสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่านคือ "ซุฮูรซุฆรอ" (การปรากฏกายเล็ก) ของท่านบะกียะตุลลอฮ์ อัลอะซ็อม (อิมามมะฮ์ดี-อ.)" เป็นช่วงเวลาระหว่างสองรุ่งอรุณของรัฐบาลโลกของท่านอิมามซะมาน (ดวงวิญาณของเราขอพลีเพื่อท่าน)"

 

การแจ้งข่าวดีเกี่ยวกับการปรากฏกายของท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.) จากคำพูดของบุคคลสำคัญทางศาสนา ภายหลังจากการเริ่มต้นของกระแสการตื่นตัวของอิสลาม

      

ในขณะที่การตื่นตัวของอิสลามเกิดขึ้นมาเกือบสองปี ซึ่งในตลอดช่วงเวลาสั้น ๆ ดังกล่าวนี้ ได้มีการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ที่ยิ่งใหญ่เกิดขึ้นในตะวันออกกลางและทั่วโลก ตามการยอมรับของทั้งมิตรและศัตรู ทั้งหมดต่างเชื่อว่าโลกของมนุษยชาติกำลังย่างก้าวเข้าสู่ขั้นตอนและช่วงเวลาใหม่แห่งอายุขัยของมัน การตื่นตัวของมนุษยชาติในทั่วทุกมุมโลกจากตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือจนถึงยุโรปและอเมริกา การยืนหยัดต่อสู้และการเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องของบรรดาผู้ถูกกดขี่ (มุสตัฎอะฟีน) ในการต่อต้านบรรดามหาอำนาจผู้กดขี่ ขบวนการเคลื่อนไหวของประชาชนและการประท้วงคัดค้านอย่างเป็นประวัติการในยุคของระบอบการครอบงำ วิกฤตเศรษฐกิจที่ปกคลุมอยู่ทั่วโลก และท้ายที่สุดก็คือการสั่นคลอนและการล่มสลายของระบอบต่าง ๆ ทางวัตถุนิยม ซึ่งแม้แต่ผู้ที่คลางแคลงใจและเชื่ออะไรยากก็ได้ไปถึงบทสรุปแล้วว่า สถานการณ์การเปลี่ยนแปลงอันยิ่งใหญ่ที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้ อาจจะมีส่วนสัมพันธ์โดยตรงกับคำสัญญาต่าง ๆ ที่ศาสนาทั้งหลายได้กล่าวถึงเกี่ยวกับอำนาจการปกครองที่ยุติธรรม และสันติภาพที่จะเป็นตัวขับเคลื่อนโลกให้มุ่งไปสู่ทิศทางดังกล่าว ท่ามกลางสิ่งดังกล่าวนี้ การแจ้งข่าวดีของบุคคลสำคัญทางศาสนาอิสลามก็เป็นเครื่องสนับสนุนถึงความถูกต้องของสิ่งดังกล่าว

      

ในเนื้อหาส่วนนี้ เราจะขอนำเสนอตัวอย่างส่วนหนึ่งของคำพูดและการแจ้งข่าวดีของบุคคลสำคัญทางศาสนาในตลอดช่วงสองปีที่ผ่านมา โดยที่บางส่วนมีความชัดเจนมากเกี่ยวกับยุคสมัยแห่งการรอคอยของมนุษยชาติ

 

       

ท่านอิมามอะลี คอเมเนอี : “เหตุการณ์ต่าง ๆ ที่ปัจจุบันกำลังเกิดขึ้นในแอฟริกาเหนือ ประเทศอียิปต์ ประเทศตูนิเซียและประเทศอื่น ๆ อีกบางประเทศ สำหรับเราประชาชนชาวอิหร่านนั้นมีความหมายอีกอย่างหนึ่ง มันมีความหมายที่เป็นพิเศษ นี่ก็คือสิ่งที่ถูกกล่าวถึงอยู่เสมอมาในนามของการตื่นตัวของอิสลามที่สืบเนื่องมาจากชัยชนะของการปฏิวัติอิสลามที่ยิ่งใหญ่ของชาติอิหร่าน วันนี้มันกำลังแสดงตัวมันเอง ด้วยเหตุนี้ทศวรรษนี้จึงมีความสำคัญยิ่ง” (7)

       “การขยายตัวของกระแสคลื่นการตื่นตัวของอิสลามในโลกวันนี้ คือข้อเท็จจริงหนึ่งที่ว่า มันกำลังแจ้งข่าวถึงอนาคตที่ดีสำหรับประชาชาติอิสลาม” (8)

   

    “ยิ่งไปกว่านั้น วันนี้โลกอิสลามและทั่วทุกมุมของโลกกำลังเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ที่กำลังบอกข่าวถึงการเปลี่ยนแปลงความสมดุลต่าง ๆ ของโลก” (9)

 

       “ขบวนการการเคลื่อนไหวที่ยิ่งใหญ่ของอิสลามในช่วงล่าสุดนั้น คือจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่กว่าของอำนาจการปกครองของอิสลาม ปัจจุบันนี้เยาวชนของกลุ่มประเทศอิสลามเพื่อที่จะไปถึงยังอุดมคติและความมุ่งหวังต่าง ๆ ของตน พวกเขาได้หันหน้ามาสู่หลักคำสอนของอิสลามแทนสำนักคิดทางวัตถุนิยม ความภาคภูมิใจดังกล่าวนี้เป็นผลพวงมาจากการเคลื่อนไหวของประชาชาติอิหร่าน จุดยืนของเราคือการสนับสนุนและเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับขบวนการเหล่านี้ และเราหวังว่าขบวนการเคลื่อนไหวของอิสลามเหล่านี้จะเป็นการตัดอิทธิพลของศัตรูตัวสำคัญ หมายถึงไซออนิสต์และอเมริกาลงอย่างสมบูรณ์ สถานการณ์การเปลี่ยนแปลงในโลกอิสลามในขณะนี้ คือการแจ้งข่าวถึงอนาคตอันสดใส และเป็นสัญญาณที่บ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ที่ปรากฏชัดเจนแล้ว” (10)

 

        “ปัญหาของอเมริกาเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างหนึ่ง สิ่งนี้ได้ทำให้ประชาชนชาวอเมริกาเกิดการเคลื่อนไหวตื่นตัวในนาม "ขบวนการวอลสตรีท" นั้นเป็นเรื่องที่สำคัญ ปัญหาหนึ่งก็คือความเสื่อมทรามของระบอบทุนนิยมซึ่งเป็นที่กระจ่างชัดแล้วสำหรับประชาชนเหล่านั้น ปัจจุบันนี้ระบอบทุนนิยมอยู่ในทางตันอย่างสมบูรณ์แล้ว เป็นไปได้ว่าผลของทางตันนี้อาจจะนำไปสู่ผลต่าง ๆ ในขั้นสุดท้ายของมันในปีถัด ๆ ไป แต่วิกฤติของตะวันตกได้เริ่มต้นขึ้นแล้วอย่างสมบูรณ์ โลกกำลังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อหนึ่งของประวัติศาสตร์ ประชาชาติที่ยิ่งใหญ่แห่งอิสลามสามารถที่จะแสดงบทบาทได้ ในที่นี้เองที่อิสลามและหลักคำสอนต่าง ๆ ของอิสลาม แนวทางของอิสลามจะถูกนำมาใช้สนองตอบความต้องการของประชาคมโลก และในที่นี้ระบอบของสาธารณรัฐอิสลามจะสามารถพิสูจน์ความเป็นแบบอย่างของตัวมันสำหรับประชาคมโลกทั้งมวล” (11)

 

       “ด้วยกับการช่วยเหลือของจิตวิญญาณ (สปิริต) ของบรรดาเยาวชน ผู้ศรัทธา อาสาสมัครและผู้มีความคิดสร้างสรรค์เหล่านี้ อินชาอัลลอฮ์ (หากพระผู้เป็นเจ้าทรงประสงค์) ชาติอิหร่านจะพิชิตยอดเขาต่าง ๆ ของอำนาจแห่งโลก และอินชาอัลลอฮ์ พวกเธอจะได้ปักธงแห่งอิสลามบนยอดเขาเหล่านี้ วันนี้เรากำลังเห็นขบวนการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่แห่งอิสลามในตะวันออกกลางกำลังเติบโตและขยายตัวออกไปอย่างต่อเนื่องวันแล้ววันเล่า ซึ่งศัตรูกำลังเข้าสู่มุมอับและกำลังถอยร่น ขบวนการเคลื่อนไหวแห่งอิสลามแม้ว่าจะเป็นขบวนการเคลื่อนไหวที่ศัตรูกำลังพยายามดับมันก็ตาม แต่มันก็อยู่ในสภาพของการก้าวไปข้างหน้า ข้าพเจ้าไม่คลางแคลงสงสัยใด ๆ เลยว่า อนาคตกำลังจะเป็นของอิสลาม อนาคตจะอยู่ในอำนาจของอิสลาม และพวกเธอเยาวชนทั้งหลาย อินชาอัลลอฮ์ (หากพระผู้เป็นเจ้าทรงประสงค์) ด้วยกับการประทานความสำเร็จ (เตาฟีก) จากพระผู้เป็นเจ้า พวกเธอจะได้เห็นธงแห่งอิสลามโบกสะบัดอยู่ในทุกภูมิภาคเหล่านี้ และประชาคมแห่งอิสลามที่มีเอกภาพ มีอำนาจและมีศักดิ์ศรีจะถูกจัดตั้งขึ้น” (12)

 

      

อย่างไรก็ตาม ท่านอิมามคอเมเนอีเองก็ได้ชี้ถึงเรื่องนี้มาก่อนการตื่นตัวและการปฏิวัติในตะวันออกกลางแล้ว โดยกล่าวไว้เช่นกันว่า "เราเข้าใกล้ช่วงเวลาของการปรากฏกายของท่านอิมามซะมาน (ดวงวิญญาณของเราขอพลีเพื่อท่าน) ผู้เป็นที่รักยิ่งของมวลมนุษย์แล้ว" (13)

 

      

ท่านอายะตุลลอฮ์นูรี ฮะมาดานี หนึ่งในมัรเญี๊ยะอ์ตักลีด : “เสียงสะท้อนของประชาชนตูนิเซียเป็นเครื่องชี้ให้เห็นถึงการตื่นตัวและการรู้เท่าทันของประชาชนต่อบรรดามหาอำนาจผู้กดขี่ และการปฏิวัติทั้งหลายเหล่านี้เป็นเครื่องแสดงให้เห็นถึงการตื่นตัวและการมีความเข้าใจของประชาชาติทั้งหลายต่อบรรดามหาอำนาจผู้กดขี่ ประชาชนของโลกจะค่อย ๆ เอาชนะเหนือบรรดามหาอำนาจผู้กดขี่ และสิ่งนี้จะช่วยเตรียมพื้นฐานสำหรับการปรากฏตัว (ซุฮูร) ของท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.ญ.)” (14)

 

     

  ท่านอายะตุลลอฮ์มะฮ์ดะวี กะนี : “สถานการณ์การเปลี่ยนแปลงในภูมิภาคตะวันออกกลางและยุโรป และกระแสคลื่นของการเรียกร้องหาความยุติธรรมของประชาชาติทั้งหลายของโลก คือสิ่งที่เป็นพื้นฐานนำไปสู่การปรากฏตัว (ซุฮูร) ของท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.ญ.)”

 

        “วันนี้ประชาชนที่อยู่ในจุดต่าง ๆ อันไกลโพ้นของโลกได้ลุกขึ้นแล้ว และกำลังเรียกร้องความยุติธรรมและเสรีภาพ และพวกเขากำลังมุ่งแสวงหาสิทธิของพวกเขา”

 

        “การลุกฮือต่าง ๆ เหล่านี้ที่กำลังเกิดขึ้นในกลุ่มประเทศอิสลาม ด้วยกับคำขวัญของอิสลามและศาสนา และด้วยคำขวัญต่าง ๆ ในการเรียกร้องเสรีภาพในหมู่ประเทศที่ไม่ใช่อิสลาม อินชาอัลลอฮ์ (หากพระผู้เป็นเจ้าทรงประสงค์) ขบวนการเคลื่อนไหวทั้งหมดเหล่านี้ คือพื้นฐานนำไปสู่การปรากฏตัว (ซุฮูร) ของท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.ญ.)” (15)

       

  ท่านอายะตุลลอฮ์ญะวาดี ออมูลี : “เราหวังว่าพระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงมหาบริสุทธิ์ยิ่งจะทรงทำให้ขบวนการต่อสู้แห่งอิสลามในตะวันออกกลางบรรลุผลสำเร็จ และจะทรงทำให้ขบวนการต่อสู้และการตื่นตัวของประเทศต่าง ๆ  อย่างเช่น ตูนิเซีย อียิปต์ ลิเบีย จอร์แดน เยเมนและทุกประเทศ ที่เสียงกู่ก้องคำว่า “อัลลอฮุอักบัร” (อัลลอฮ์ผู้ทรงยิ่งใหญ่) การประสิทธิ์ประสาทพรแด่ท่านศาสดาและวงศ์วานของท่านศาสดา (ซ็อลฯ) ได้ดังกึกก้องขึ้น ได้บรรลุสู่ความสำเร็จด้วยเถิด เพื่อที่ว่าตะวันออกกลางที่กำลังตื่นตัวและมีความเข้าใจแล้วจะสามารถจัดเตรียมพื้นฐานการปรากฏตัวของท่านอิมามมะฮ์ดี (จิตวิญญาณของพวกเราขอพลีแด่ท่าน)” (16)

      

  ท่านอายะตุลลอฮ์ฮาอิรี ชีราซี : “จนถึงขณะนี้การให้หลักประกันต่อพระผู้เป็นเจ้าสำหรับการปรากฏตัวของท่านอิมามซะมาน (อ.ญ.) ยังไม่สมบูรณ์ (เพียงพอ) ทั้งนี้เนื่องจากหลักประกันนี้จะต้องคู่ควรต่อสถานะและตำแหน่งของท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.) ด้วย เป็นที่ชัดเจนยิ่งว่า แม้จะด้วยกับการมีอยู่ของบรรดาชะฮีด (ผู้พลีชีพ) ผู้มีเกียรติทั้งหมดเหล่านี้ก็ตาม แต่จนถึงขณะนี้ขอบเขตที่พอเพียงของหลักประกันแห่งพระผู้เป็นเจ้าสำหรับการจัดตั้งรัฐบาลโลกของท่านอิมามซะมาน (อ.ญ.) นั้นยังไม่ถูกเตรียมพร้อม ชัยชนะของเลบานอนที่มีเหนือศัตรูในสงคราม 30 วัน และในช่วงล่าสุดนี้ การหลบหนีของจอมเผด็จของอียิปต์ และ (ชัยชนะ) ที่ค่อย ๆ ปกคลุมไปทั่วกลุ่มประเทศอาหรับทั้งหมดนั้น โดยตัวของมันคืออีกหลักประกันหนึ่งสำหรับการปรากฏตัวของท่านอิมามซะมาน (อ.ญ.) แต่อย่างไรก็ตาม จนกว่าจะถึงจุดของการปรากฏตัว (ซุฮูร) นั้นจำเป็นจะต้องมีการยืนหยัดและมีวิสัยทัศน์ที่ลึกซึ้ง” (17)

       

ฮุจญะตุ้ลอิสลามซะอีดี ผู้แทนของท่านผู้นำสูงสุดในกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติแห่งอิหร่าน : “เราเชื่อว่าการปฏิวัติ (ของอิหร่าน) คือการเตรียมพื้นฐานของรัฐบาลโลกของท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.ญ.) ทั้งนี้เนื่องจากมีปรากฏในคำรายงาน (ริวายะฮ์) จำนวนมากว่า ก่อนการปรากฏตัว (ซุฮูร) จะมีรัฐบาลหนึ่งเกิดขึ้น ซึ่งจะเตรียมพื้นฐานการยืนหยัดต่อสู้ของท่านอิมามซะมาน (อ.ญ.)”

    

    “สัญญาณ (อะลาอิม) ส่วนใหญ่ของการปรากฏตัว (ซุฮูร) ได้เกิดขึ้นแล้ว แต่ระหว่างสัญญาณ (อะลาอิม) กับเงื่อนไข (ชะรออิฏ) ต่าง ๆ นั้นมีความแตกต่างกัน และเป็นไปได้ว่าสัญญาณ (อะลาอิม) ของการปรากฏตัว (ซุฮูร) ทั้งหมดได้เกิดขึ้นแล้ว แต่เงื่อนไข (ชะรออิฏ) ต่าง ๆ ของการปรากฏตัว (ซุฮูร) นั้นยังไม่พร้อม”

     

   “ความพร้อมของแต่ละบุคคลและวิธีการของระบบการปกครอง คือส่วนหนึ่งจากกรณีต่าง ๆ ของบรรดาเงื่อนไขของการปรากฏตัว (ซุฮูร) ซึ่งในทิศทางนี้ แบบอย่างหนึ่งสำหรับการปกครอง (รัฐ) จะต้องถูกนำเสนอขึ้นมาเพื่อเตรียมพื้นฐานของการปรากฏกาย (ซุฮูร)”

       

  “ความพร้อมระดับภูมิภาคโดยปราศจากการเปลี่ยนแปลงของตะวันออกกลางนั้นย่อมเป็นไปไม่ได้ ซึ่งมีปรากฏในคำรายงาน (ริวายะฮ์) ว่า ประเทศต่างๆ อย่างเช่น อิรัก เลบานอน ซีเรียและอียิปต์จะมีบทบาทสำคัญในการปรากฏตัว (ซุฮูร) … ความพร้อมในระดับนานาชาติ (สากล) ก็เช่นเดียวกัน จะต้องถูกจัดเตรียมขึ้นในโลก ซึ่งปัจจุบันนี้ทั้งสี่กรณีดังกล่าวนี้กำลังก่อรูปขึ้นพร้อมกันในเวลาเดียวกัน” (18)

       

  ท่านอายุตุลลอฮ์กุลามอะลี ซ่อฟาอี ตัวแทนของท่านผู้นำสูงสุดและอิมามญุมอะฮ์ของจังหวัดบูชะฮัร : “ประเทศอิสลามในขณะนี้กำลังได้เห็นการเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ และการตะโกนกู่ก้องของประชาชาติมุสลิมในการต่อต้านอเมริกา อิสราเอลและอังกฤษ ที่กำลังดังขึ้นในดินแดนอิสลามทั้งหลาย”

    

     “การลุกฮือของประเทศมุสลิมเหล่านี้จะนำไปสู่การยกระดับของประชาชาติมุสลิม และนี่คือการแจ้งข่าวดีที่ยิ่งใหญ่สำหรับการการปรากฏกาย (ซุฮูร) ของผู้ช่วยให้รอดของมนุษยชาติ” (19)

      

   ท่านฮุจญะตุ้ลอิสลามซัยยิดมุฮัมมัด ฮุซัยนี ก็อซวีนี ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยวะลียุ้ลอัซร์ (อ.) : “ความกลัวต่อการปรากฏตัว (ซุฮูร) ของท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.) ได้กลายเป็นเหตุทำให้บรรดามหาอำนาจได้เข้ามาปรากฏตัวอยู่ในภูมิภาคตะวันออกกลางอย่างจริงจัง”

    

     “วันนี้มุมมองของเราเกี่ยวกับอิมามมะฮ์ดี (อ.) จะต้องไม่ใช่เป็นแค่เพียงมุมมองทางด้านมัซฮับ (นิกาย) และด้านศาสนาเท่านั้น แต่ทว่าจะต้องครอบคลุมทุกประเด็นทั้งทางด้านการเมือง สังคม วัฒนธรรมและด้านความเชื่อของประชาคม”

    

    “แนวคิดเกี่ยวกับ (อิมามมะฮ์ดี) ผู้ถูกรอคอยได้ถูกหยิบยกขึ้นมากล่าวถึงในเวทีทางการเมืองของโลกด้วยวิธีการอันเป็นเฉพาะในช่วงครึ่งศตวรรษที่ผ่านมา แม้กระทั่งบรรดานักพรตชาวอินเดีย (ฮินดู) ก็ได้พยากรณ์ไว้เช่นกันว่า ในอนาคตอันใกล้นี้จะมีบุรุษผู้หนึ่งจากประเทศซาอุดิอาระเบียปรากฏตัวขึ้น โดยที่เขาจะติดอาวุธทางทหารที่ทันสมัยที่สุดในโลก และจะทำลายล้างบรรดามหาอำนาจตะวันออกและตะวันตก”

   

    “คำทำนายเหล่านี้เองที่ปัจจุบันได้ทำให้บรรดามหาอำนาจตัดสินใจเข้ามาปรากฏตัวทางทหารและการเมืองในตะวันออกกลางอย่างจริงจัง และแรงบันดาลใจหลักในการปรากฏตัวของมหาอำนาจในภูมิภาคก็เนื่องมาจากมีความหวาดกลัวต่อการปรากฏตัว (ซุฮูร) ของท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.ญ.) ในตะวันออกกลาง” (20)

   

     ฮุจญะตุ้ลอิสลามพะนอฮียอน : “สามารถกล่าวได้ว่านี่คือโอกาสที่ดีที่สุดที่จะพิสูจน์ความถูกต้องชอบธรรมของขบวนการการเคลื่อนไหวแห่งอิสลามในโลก นี่คือโอกาสดีที่สุดที่จะสามารถจัดเตรียมความพร้อมขั้นพื้นฐานสำหรับการปรากฏตัว (ซุฮูร) ของท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.ญ.) เรื่องราวของบาห์เรนเพียงประเทศเดียวก็เพียงพอแล้วสำหรับแนวโน้มความเป็นเอกราชของบรรดารัฐต่าง ๆ ของอเมริกา และการล่มสลายของจักรวรรดิที่เป็นหุ่นเชิดนี้จะบรรลุสู่ความเป็นจริง” (21)

      

  ท่านอายะตุลลอฮ์อับบาส วาอิซ ฏอบะซี ผู้ดูแลฮะรัมของท่านอิมามริฎอ (อ.) ในวันแรกของปีใหม่ (90/01/01) เคียงข้างสถานฝังศพของท่านอิมามริฎอ (อ.) ในเมืองมัชฮัด ก่อนการปราศรัยของท่านผู้นำสูงสุด ท่านได้กล่าวว่า : “เสียงกู่ก้องเรียกร้องอิสลามในภูมิภาค (ตะวันออกกลาง) จะเป็นการเตรียมพื้นฐานสำหรับการปรากฏตัว (ซุฮูร) ของท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.)” (22)

      

  ดร.อะห์มะดี นิจาด ประธานาธิบดี สาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่าน : “ระเบียบที่เป็นอยู่ในโลกขณะนี้ได้มาถึงทางตันแล้ว และไม่สามารถที่จะดำรงอยู่ได้อีกต่อไป ทั้งนี้เนื่องจากมันได้ออกห่างจากสัญชาติญาณของมนุษย์อันเป็นธรรมชาติแห่งการสร้างของพระผู้เป็นเจ้า โลกมีความต้องการการจัดระเบียบใหม่ และมันถึงเวลาแล้วที่เราจะแนะนำแบบอย่างซึ่งออกนอกขอบข่ายของความมีอคติและความขัดแย้งต่าง ๆ ในระหว่างประชาชาติทั้งหลาย และทุก ๆ ประชาชาติจะมีความรู้สึกถึงความใกล้ชิดและการมีส่วนร่วม และแบบอย่างนี้ก็คือรัฐบาลโลกของมะฮ์ดี (อ.ญ.)”

    

    “แนวคิดระเบียบโลกของมะฮ์ดี (อ.ญ.) กำลังแพร่กระจายออกไป ซึ่งสามารถวิเคราะห์และแนะนำสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ที่เป็นอยู่ในขณะนี้ไปในทิศทางดังกล่าวนี้ได้” (23)

 

(โปรดติดตาม ตอนที่ 3 : การเตรียมพร้อมตนเองสำหรับการมาของท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.))

 

แหล่งอ้างอิง :

(1) ซุนัน อิบนุมายะฮ์ เล่มที่ 2 หน้าที่ 1368 ฮะดีษที่ 4088 ; อัลฮาวี ลิลฟะตาวา, ญะลาลุดดีน อัซซุยูฏี, เล่มที่ 2 หน้าที่ 60 ; บิฮารุลอันวาร เล่มที่ 51 หน้าที่ 87
(2) หนังสือ “อัศรุซซุฮูร” เขียนโดย อะลี กูรอนี อัลอามิลี, แปลเป็นฟาริซีโดย มะฮ์ดี ฮักกี, สำนักพิมพ์อะมีร กะบีร, ตีพิมพ์ครั้งที่สี่, ปี 1385, หน้า 222 และ 223
(3) หนังสือ “อัศรุซซุฮูร” เขียนโดย อะลี กูรอนี อัลอามิลี, แปลเป็นฟาริซีโดย มะฮ์ดี ฮักกี, สำนักพิมพ์อะมีร กะบีร, ตีพิมพ์ครั้งที่สี่, ปี 1385, หน้า 222
(4) บิฮารุลอันวาร, อัลลามะฮ์มัจญ์ลิซี, เล่มที่ 65 หน้าที่ 139, สำนักพิมพ์ มุอัซซะซะฮ์ อัลวะฟาอ์, เบรุต
(5) หนังสือ “ตัฟซีรอัลมีซาน” เล่มที่ 18 หน้า 250, อ้างจาก หนังสือ “ตัฟซีร อัดดุรรุลมันซูร”
(6) ซอฮีเฟเย่ นูร, เล่มที่ 21 หน้าที่ 108
(7) คุฏบะฮ์วันศุกร์ในกรุงเตหะราน, เนื่องในวันคล้ายวันชะฮาดัตของท่านอิมามริฎอ (อ.), วันที่ 30 ซอฟัร ฮ.ศ. 1432
(8) สาส์นถึงบรรดาฮุจญาจ ในนครมักกะฮ์, วันที่ 1 ซุลฮิจญะฮ์ ฮ.ศ. 1431
(9) คุฏบะฮ์นมาซวันศุกร์, เตหะราน, ฮะรัมท่านอิมามโคมัยนี (ร.ฮ.), เนื่องในโอกาสครบรอบ 21 ปีการอสัญกรรมของท่านอิมามโคมัยนี (ร.ฮ.), วันที่ 21 ญะมาดุษษานี ฮ.ศ. 1431
(10) คำปราศรัยเนื่องในโอกาสการเข้าพบของบรรดานักวิชาการและปัญญาชนที่เข้าร่วมในการประชุมนานาชาติอะฮ์ลุลบัยติ์ (อ.), (23/ 06 /1390 ปีอิหร่าน)
(11) คำปราศรัยในท่ามกลางฝูงชนขนาดใหญ่ของเมืองเกรมอนชา (20 / 07 / 1390 ปีอิหร่าน)
(12) การปราศรัยในท่ามกลางฝูงชนของเมืองกีลานตะวันตก ( 23 / 07 / 1390)
(13) คำปราศรัยในท่ามกลางบรรดากองกำลังอาสาสมัคร (บาซีจญ์) ในกรุงเตหะราน กลางเดือนชะอ์บาน ปี 1387 (ปีของอิหร่าน)
(14) http://www.farsnews.com/newstext.php?nn=8911070303
(15) http://www.jahannews.com/vdca0on6i49niy1.k5k4.html
(16) http://www.mehrnews.com/fa/NewsDetail.aspx?pr=s&query=%D8%AC%D9%88%D8%A7%D8%AF%DB%8C%E2%80%8C%D8%A2%D9%85%D9%84%DB%8C%20&NewsID=1274593
(17) http://www.irna.ir/NewsShow.aspx?NID=30245913
(18) http://www.mehrnews.com/fa/newsdetail.aspx?NewsID=1406422
(19) http://www.irna.ir/NewsShow.aspx?NID=30278573
(20) http://www.mehrnews.com/fa/newsdetail.aspx?NewsID=1359391
(21) http://rajanews.com/Detail.asp?id=84667
(22) http://www.farsnews.com/newstext.php?nn=9001010183
(23) http://rajanews.com/detail.asp?id=111957

แปล/เรียบเรียง : เชคมุฮัมมัดนาอีม ประดับญาติ

ขอขอบคุณเว็บไซต์ .islamicstudiesth

กรุณาแสดงความคิดเห็นด้วย

ความคิดเห็นของผู้ใช้งานทั้งหลาย

ไม่่มีความคิดเห็น
*
*

เว็บไซต์ อิมาม อัลฮะซะนัยน์ (อลัยฮิมัสลาม)เพื่อคุณค่าและสารธรรมอิสลาม