สาส์นอิมามริฎอ (อ.) ที่ถูกประกาศโดยชาฮ์อับดุลอะซีม (อ)

สาส์นอิมามริฎอ (อ.) ที่ถูกประกาศโดย ชาฮ์อับดุลอะซีม (อ)

 

       วันที่ 15 เชาวาล ฮิจญ์เราะฮ์ที่ 252 หนึ่งในลูกหลานของท่านอิมามฮะซัน มุจญ์ตะบา (อ.) ซึ่งมีนามว่า "อับดุลอะซีม อัลฮะซะนี" ผู้ได้รับฉายาว่า "ซัยยิดุลกะรีม" ได้เสียชีวิตลงในแผ่นดิน "เรย์" เนื่องจากวันถือกำเนิดและวันเสียชีวิตของท่านอับดุลอะซีม (อ.) ไม่เป็นที่ชัดเจนนัก แต่ในหนังสืออ้างอิงต่าง ๆ ในยุคหลังได้อธิบายว่า ชาฮ์อับดุลอะซีมซึ่งมีสร้อยนามว่า "อบุลกอซิม" และ "อบุลฟัตห์" ด้วยเช่นกันนั้น ถือกำเนิดขึ้นในวันพฤหัสบดีที่ 4 เดือนร่อบีอุลอาคิร ฮิจญ์เราะฮ์ที่ 173 ในสมัยของฮารูน อัรรอชีด ณ เมืองมะดีนะฮ์ ในบ้านของท่านอิมามฮะซัน มุจญ์ตะบา (อ.) ปู่ของท่าน และหลังจากช่วงเวลา 79 ปี 6 เดือนกับ 11 วัน แห่งของอายุขัย ท่านได้เสียชีวิตลงในวันที่ 15 เดือนชะอ์บาน ฮิจญ์เราะฮ์ที่ 252 ในสมัยการปกครองของ "อัลมุอ์ตัซซุ บิลลาฮ์" แห่งราชวงศ์อับบาซียะฮ์ 

 

       เกี่ยวกับสถานะและตำแหน่งอันสูงส่งของท่านได้มีกล่าวถึงในริวายะฮ์ (คำรายงาน) ต่าง ๆ ว่า : อบูฮัมมาด รอซี เล่าว่า : ฉันได้ไปพบท่านอิมามฮาดี (อ.) และถามปัญหาต่าง ๆ จากท่าน เมื่อฉันต้องการที่จะอำลาจากท่าน ท่านกล่าวว่า : "เมื่อใดก็ตามที่มีปัญหาต่าง ๆ เกิดขึ้นกับเจ้า ก็จงนำปัญหาเหล่านั้นไปถามอับดุลอะซีม อัลฮะซะนี และจงนำสลามของฉันไปยังเขาด้วย"

       ทำนองเดียวกันนี้ในหนังสือ "อัลอะมาลี" ของเชคซอดูก ได้อธิบายไว้ในฮะดีษ "อัรดุ ดีน" ว่า เมื่อชาฮ์อับดุลอะซีม ได้ไปพบท่านอิมามฮาดี (อ.) และได้พูดถึงความเชื่อต่าง ๆ ของตน ท่านอิมามฮาดี (อ.) ได้กล่าวว่า : "เจ้าเป็นส่วนหนึ่งจากสหายที่แท้จริงของเรา"

 

 สาส์นของท่านอิมามริฏอ (อ.) ที่มีถึงชาวชีอะฮ์ในทุกยุคสมัย

 

      เชคมุฟีดได้บันทึกสาส์นอันทรงคุณค่าของท่านอิมามริฎอ (อ.) ไว้ในหนังสือของท่าน ท่านอิมามริฎอ (อ.) ได้ส่งสาส์นี้ถึงบรรดาชีอะฮ์และหมู่มิตรของอะฮ์ลุลบัยติ์ (อ.) โดยผ่านชาฮ์อับดุลอะซีม (อ.)

 

      เนื้อความของสาส์นมีดังนี้ คือ :

ด้วยพระนามของอัลลอฮ์ ผู้ทรงเมตตายิ่ง ผู้ทรงปรานีเสมอ

โอ้อัลดุลอะซีม! จงนำสลามจากฉันไปยังหมู่มิตรของฉัน และจงกล่าวกับพวกเขาว่า อย่าได้เปิดทางแก่ชัยฏอน (มารร้าย) เข้าสู่หัวใจของพวกเขา และจงกำชับพวกเขาให้มีความสัจจริงในคำพูดและการปฏิบัติตามความไว้วางใจ และจงกำชับพวกเขาให้นิ่งเงียบและละทิ้งจากการโต้เถียงที่ไม่ก่อประโยชน์ใด ๆ แก่พวกเขา และ (กำชับ) พวกเขาให้หันหน้าเข้าหากัน และไปมาหาสู่เยี่ยมเยือนกัน เพราะแท้จริงสิ่งนั้นจะทำให้เกิดความใกล้ชิดต่อฉัน

 

และพวกเขาจะต้องไม่ทำให้ตัวเองหมกมุ่นอยู่กับการทำลายเกียรติของกันและกัน เพราะแท้จริงฉันได้สาบานกับตัวฉันเองว่า ใครที่กระทำเช่นนั้น และทำให้หมู่มิตรคนใดของฉันโกรธ ฉันจะวิงวอนขอต่ออัลลอฮ์ให้ลงโทษพวกเขาในโลกนี้ด้วยโทษทัณฑ์ที่รุนแรงยิ่ง และในปรโลกเขาจะเป็นส่วนหนึ่งจากบรรดาผู้ที่ขาดทุน

และเจ้าจงแนะนำให้พวกเขารู้เถิดว่า แท้จริงอัลลอฮ์ได้ทรงอภัยโทษแก่ผู้ที่ประพฤติดีของพวกเขา และทรงข้ามผ่านจากผู้ประพฤติชั่วของพวกเขา นอกจากผู้ที่ตั้งภาคีต่อพระองค์ หรือทำร้ายจิตใจหมู่มิตรคนใดของฉัน หรือมีเจตนาที่จะทำร้ายเขา เพราะแท้จริงอัลลอฮ์จะไม่ทรงอภัยโทษแก่เขา จนกว่าเขาจะหันกลับจากเจตนาของเขา หากเขาหันกลับ (จากเจตนา พระองค์ก็จะทรงอภัยให้แก่เขา) แต่หากไม่เป็นเช่นนั้น จิตวิญญาณของความศรัทธาจะถูกเอาออกไปจากหัวใจของเขา และเขาจะออกจากวิลายะฮ์ (ความเป็นมิตร) ของฉัน และเขาจะไม่ได้รับโชคผลอันใดในความเป็นมิตร (วิลายะฮ์) ของเรา และฉันขอความคุ้มครองต่ออัลลอฮ์จากสิ่งนั้น"

 

ตัวบทภาษาอาหรับ

بسم الله الرحمن الرحیم

یا عبدالعظیم! أبلغْ عنّی أولیائی السلامَ وقل لهم: أن لا یجعلوا للشیطان على أنفسهم سبیلاً،

ومُرْهم بالصدق فی الحدیث وأداء الأمانة، ومُرْهم بالسکوت وترك الجدال فیما لا یَعْنیهم،

وإقبالِ بعضهم على بعض والمُزاوَرة، فإنّ ذلك قربة إلیّ. 

ولا یشغلوا أنفسهم بتمزیق بعضهم بعضاً، فإنّی آلیتُ على نفسی أنّه مَن فعل ذلك وأسخط ولیّاً من أولیائی دعوتُ الله لِیعذّبه فی الدنیا أشدّ العذاب،

وکان فی الآخرة من الخاسرین. وعرِّفْهم أنّ الله قد غفر لمحسنهم، 

وتجاوز عن مسیئهم، إلاّ مَن أشرك به أو آذى ولیّاً من أولیائی أو أضمر له سوءً، 

فإنّ الله لا یغفر له حتّى یرجع عنه، فإنْ رجع وإلاّ نُزع رُوح الإیمان عن قلبه، وخرج عن ولایتی، 

ولم یکن له نصیب فی ولایتنا، وأعوذ بالله من ذلك.

 

ขอขอบคุณเว็บไซต์ islamicstudiesth