เว็บไซต์ อิมาม อัลฮะซะนัยน์ (อลัยฮิมัสลาม)เพื่อคุณค่าและสารธรรมอิสลาม

อิมามชาฟีอี รำพันความรักต่อลูกหลานท่านศาสดา

0 ทัศนะต่างๆ 00.0 / 5

อิมามชาฟีอี รำพันความรักต่อลูกหลานท่านศาสดา

 

การมอบความรักให้กับอะฮลุลบัยต์ของศาสดามุฮัมมัด(ศ) เป็นวาญิบและข้อบังคับสำหรับผู้นับถือศาสนาอิสลามทุกคน

 

อบูอับดุลลอฮ มุฮัมมัด บิน อิดรีส บิน อับบาส รู้จักในนามของ “อิมามชาฟีอี” (ฮศ 150-204)  ผู้นำมัซฮับชาฟีอี หนึ่งในมัซฮับของอะฮลิซุนนะฮ์ ถือกำเนิดในกาซ่า ปาเลสไตน์ เป็นชาวกุเรช จากทางเชื้อสายของบิดา และมารดา

 

 

หนึ่งในบทกวีอันเป็นตำนานของท่านที่ยังคงสืบทอดต่อมา คือ บทกวีที่กล่าวเกี่ยวกับ ความประเสริฐของอะฮลุลบัยต์(อ)

ครั้งหนึ่งท่านเคยกล่าวใน พิธีฮัจญ์ ต่อหน้าประชาชนทุกคนและต่อหน้าบุคคลที่แสดงท่าทีเป็นศัตรู และเกลียดชังต่ออะฮลุลบัยต์ (อ) ในช่วงที่สถานการณ์มีความน่าวิตก ท่านได้ถ่ายทอดความรู้สึกของท่านที่มีต่ออะฮลุลบัยต์ ผ่านบทกวีนี้

 

يا راكِباً قِف بالمُحَصَّبِ مِن منيً
وَاهتِف بِقاعِدِ خَيفِها وَالنَّاهِضِ
سَحَراً إذا فاضَ الحَجيجُ إلي مِنيً
فَيضاً كَمُلتَطِمِ الفُراتِ الفائِضِ إن كانَ رَفضاً حُبُّ آلِ مُحمَّدٍ
فَليَشهَدِ الثَّقَلانِ أنّي رَافضِي

 

ความหมาย

“โอ้ผู้ขี่พาหนะ จงหยุดอยู่ บนกองกรวด แห่งมินานี้ก่อนเถิด”
“จงแจ้งข่าวแก่ ผู้นั่งต่างแคว้น และผู้ยืน”
“เมื่อผู้แสวงหาบุญมาถึงมินา ดั่งเสียงคำรามแห่งแม่น้ำฟุรอต”
“เมื่อนั้นจงป่าวประกาศเถิดว่า”
“มาตรแม้น การรักวงศ์วานของมุฮัมมัด จะทำให้ข้า เป็นรอฟิเฎอะฮ์ แล้วไซร้”
“ขอให้ ญิน และ มนุษย์ ทั้งสองจงเป็นพยานเถิด ว่า แท้จริง ข้าคือ รอฟีฎีย์”

 

อ้างอิง : ดีวาน อัลอิมามชาฟีอีย์ (ديوان الإمام الشافعي) หน้า 93 สำนักพิมพ์ ดารุลกุตุบ อัรอาราบีย์ ปีที่พิมพ์  ฮศ ¬1414 สถานที่พิมพ์ เบรุต เลบานอน

 

ประเด็นสำคัญในบทกวีของอิมามชาฟีอี คือ การมอบความรักให้กับอะฮลุลบัยต์ของศาสดามุฮัมมัด(ศ) เป็นวาญิบ หรือ ข้อบังคับสำหรับผู้นับถือศาสนาอิสลามทุกคน

ทั้งนี้อิมามชาฟีอี ยังเชื่ออีกว่า ผู้ใดก็ตามที่ไม่ได้กล่าวศอลาวาตให้กับครอบครัวของศาสดามุฮัมมัด(ศ) นมาซของเขาเป็นโมฆะ ดั่งถูกบันทึกในบทกวีนี้

 

يَا آلَ بَيتِ رَسولِ الله حُبُّكُمُ
فَرضٌ مِنَ الله في القُرآنِ أنزَلَهُ
كَفاكُم مِن عظيمِ القَدرِ أنّكُم
مَن لَم يُصلِّ عَلَيكُم لَا صَلَاةَ لَهُ

 

ความว่า


“โอ้อะฮลุลบัยต์รอซูลุลลอฮ์”
“รักพวกท่าน คือ ข้อบังคับจากอัลลอฮ ในอัลกุรอาน”
“เพียงสิ่งเดียวก็เพียงพอที่จะเอ่ยถึงความยิ่งใหญ่ของพวกท่าน”
“มันผู้ใดมิได้ศอลาวาตให้พวกท่าน ไม่มีนมาซสำหรับเขา”

อ้างอิง : หนังสือเล่มเดียวกัน หน้า 155

 

ในอีกบทกวีหนึ่ง อิมามชาฟีอี ได้กล่าวยกย่องท่าน อิมามอาลี บิน อบีฏอลิบ (อ) ว่า

 

إنّا عَبــيدٌ لِفتيً أنزلَ فِيـــهِ هَل أتَي
إلي مَتــي أكتُمُهُ؟ إلي مَتي؟ إلي مَتي؟

 

ความว่า


“แท้จริงแล้ว เรานี้ คือ บ่าวผู้น้อยของมหาบุรุษคนนั้น ซึ่ง โองการ ฮัลอะตา ถูกส่งลงมาให้แก่เขา”
“จะปกปิดมันอีกนานแค่ไหนกัน อีกนานเท่าไหร่ อีกนานเท่าใดกัน?”

 

อ้างอิง : หนังสือเล่มเดียวกัน หน้า 59

 

ในอีกบทหนึ่ง อิมามชาฟีอี ได้กล่าวอย่างชัดเจน ถึงการให้ชะฟาอัตของบรรดาอะฮลุลบัยต์ และท่านยังหวังอีกว่า ท่านจะเป็นผู้หนึ่งที่ได้รับชะฟาอัต….. ซึ่งท่านได้รำพันบทกวีว่า

 

لَئِن كانَ ذَنبِي حُبُّ آلِ محمَّدٍ
فذلِكَ ذَنبٌ لَستُ عَنهُ أتوبُ
هُمُ شُفَعائي يومَ حَشري و مَوقِفي إذا
كثرتني يوم ذاك ذنوب

 

ความว่า


“หากบาปของข้า คือ การรักอาลิมูฮัมมัด (ศ) แล้วไซร้”
“ข้าจะไม่กลับตัวจากบาปนั้น”
“พวกเขาคือผู้ให้ชะฟาอัตของข้า ในวันแห่งการรวมตัว ในวันที่ต้องหยุดอยู่ของข้า(วันกิยามัต)
“แม้ว่าในวันนั้น ข้าจะมีบาปหนาก็ตาม”

 

อ้างอิง หนังสือเล่มเดียวกัน หน้า 48

 

แปลและเรียบเรียงโดย : มูฮัมหมัด  เบเฮสตี้


ขอขอบคุณเว็บไซต์ เลิฟฮุเซน

 

กรุณาแสดงความคิดเห็นด้วย

ความคิดเห็นของผู้ใช้งานทั้งหลาย

ไม่่มีความคิดเห็น
*
*

เว็บไซต์ อิมาม อัลฮะซะนัยน์ (อลัยฮิมัสลาม)เพื่อคุณค่าและสารธรรมอิสลาม