ระบบของมนุษยชาติในอนาคต ตอนที่ 1

 

เมื่อพระผู้เป็นเจ้าทรงสร้างมนุษย์ ไม่ได้ทรงปล่อยให้มนุษย์ใช้ชีวิตในโลกนี้ตามยถากรรม ทรงส่งคู่มือในการดำเนินชีวิตมาด้วย นั่นคือคัมภีร์ของพระองค์ นอกจากนั้นยังทรงส่งผู้อธิบายและแนะนำการใช้คู่มือด้วยเช่นกัน นั่นคือบรรดาศาสดาของพระองค์

 

คู่มือการใช้ชีวิตของพระองค์จะประกอบด้วยคำอธิบายการใช้ชีวิตทุกแง่ทุกมุม ทั้งการใช้ประโยชน์จากร่างกายและจิตวิญญาณที่พระองค์มอบให้มาทั้งสองส่วน ถ้าหากเปรียบกับรถยนต์ก็เสมือนตัวถัง (ร่างกาย) และเครื่องยนต์ (จิตใจและสมอง) ผู้แนะนำวิธีการใช้ชีวิต ก็เป็นผู้เชี่ยวชาญอย่างแท้จริง รู้และเข้าใจองค์ประกอบ วิธีการใช้งานอย่างถูกต้องและขีดความสามารถของรถยนต์ (มนุษย์) คัน (คน)นี้

 

ว่ารถคันนี้วิ่งได้ด้วยความเร็วเท่าใด พลังของเครื่องยนต์มีกี่แรงม้า ความแข็งแรงของตัวถังเป็นอย่างไร ในถนนประเภทใดควรใช้ความเร็วเท่าใด และในเส้นทางใดที่ควรหลีกเลี่ยงหรือไม่ใช้เลย เรียกว่าจิปาถะครบเครื่องทีเดียว

 

นอกจากนั้นยังอธิบายด้วยว่า ถ้าไม่ปฏิบัติตามคู่มือและคำแนะนำอย่างเคร่งครัดจะเกิดอะไรขึ้น

 

ตั้งแต่พระผู้เป็นเจ้าทรงสร้างมนุษย์และให้มาใช้ชีวิตในโลกนี้ มีทั้งผู้ที่ปฏิบัติตามคู่มือและคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญอย่างเคร่งครัด และในขณะเดียวกันก็มีผู้ที่ละเมิด ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคู่มือและผู้เชี่ยวชาญดังกล่าว

 

กอบีลบุตรชายคนโตของศาสดาอาดัม (อ.) สังหารน้องชายคือฮาบีล

 

ท่านศาสดานุฮ์ (โนอาห์) (อ.) ต้องสูญเสียภรรยาและบุตรชายไป เพราะทั้งสองคนฝ่าฝืนไม่ยอมเชื่อฟังท่าน ทั้งยังไม่ยอมขึ้นเรือของท่านในวันน้ำท่วมโลก แต่ผู้ปฏิบัติตามท่านที่โดยสารไปกับเรือ 80 กว่าคนรอดปลอดภัย

 

ท่านศาสดาอิบรอฮีม (อ.) หรืออับราฮัมซึ่งเป็นผู้ดำเนินตามแนวทางของศาสดานุฮ์ (อ.) และเป็นผู้เชี่ยวชาญที่พระผู้เป็นเจ้าส่งลงมาแนะนำวิธีการดำเนินชีวิตตามคู่มือของพระองค์ ก็ต้องต่อสู้กับนัมรูด (นิมรอด) หัวหน้าใหญ่ของผู้ฝ่าฝืนระบบหรือคู่มือของพระองค์ในสมัยนั้น

 

ท่านศาสดามูซา (อ.) หรือโมเซส พร้อมพี่ชายคือศาสดาฮารูน (อ.) หรืออารอน ก็ต้องเผชิญหน้ากับฟิรอูน (ฟาโรห์) แห่งอียิปต์ ด้วยสถานการณ์เดียวกับท่านศาสดาอิบรอฮีม (อ.) บรรพบุรุษของท่าน

 

ทั้งนิมรอดและฟาโรห์ เป็นผู้กดขี่และเป็นทรราช เนื่องจาก นอกจากตัวเองจะเป็นผู้ละเมิดระบบของพระผู้เป็นเจ้าแล้ว ยังบังคับประชาชนให้ละเมิดด้วย ตั้งตนเป็นพระเจ้า แล้วบังคับให้ประชาชนสักการะบูชาตนเอง และสร้างพระเจ้าคู่เคียงกับพระองค์ แล้วบังคับประชาชนให้สักการะพระเจ้าเหล่านั้นไปพร้อมกับตนด้วย

 

จนกระทั่งถึงยุคท่านศาสดาอีซา (อ.) บุตรมัรยัม ก็ต้องเผชิญหน้ากับชนชาติยิวซึ่งเป็นชนชาติของท่าน ที่ละเมิดและฝ่าฝืนระบบของพระเจ้า ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม การปกครองและศาสนา เป็นชนชาติยิวที่เคยทรยศต่อพระผู้เป็นเจ้าในสมัยท่านศาสดามูซา (อ.) ซึ่งพวกเขาหล่อลูกวัวทองคำขึ้นเพื่อสักการะบูชาแทนพระผู้เป็นเจ้า หลังจากท่านศาสดามูซา (อ.) ขึ้นไปเฝ้าพระผู้เป็นเจ้าเพียง 40 วัน

 

หลังจากท่านศาสดาอีซา (อ.) ถูกยกขึ้นสู่ฟากฟ้าได้ประมาณ 500 กว่าปี ศาสดาหรือผู้แนะนำคนสุดท้ายของพระผู้เป็นเจ้าก็ปรากฏขึ้นคือในคาบสมุทรอาหรับ ท่ามกลางชนชาติที่ป่าเถื่อนไร้อารยธรรมที่สุดในขณะนั้น เพื่อนำระบบของพระผู้เป็นเจ้ามาแนะนำให้พวกเขา เสมือนเป็นห้องทดลองระบบของพระผู้เป็นเจ้า ก่อนที่จะถูกนำออกไปใช้กับมนุษยชาติทั้งหมดในเวลาต่อมา

 

ระบบดังกล่าวเรียกว่าอิสลาม มีคู่มือชื่ออัลกุรอาน ศาสดาหรือผู้แนะนำการใช้คู่มือคนดังกล่าวมีนามว่ามุฮัมมัด อัลมุศฏอฟา (ซ็อลฯ) ซึ่งบรรดาศาสดาทุกคนก่อนหน้านี้ได้แจ้งการปรากฏของท่านไว้

 

หลังจากท่านศาสดามุฮัมมัด (ซ็อลฯ) ผู้เป็นศาสดาท่านสุดท้าย หลังจากท่านจะไม่มีศาสดาอีกแล้ว เพราะท่านคือคอตะมันนะบียีน (ศาสดาท่านสุดท้าย(

 

แต่คู่มือการดำเนินชีวิตของท่านที่พระผู้เป็นเจ้ามอบให้ คืออัลกุรอานยังคงอยู่

 

เมื่อคู่มือการดำเนินชีวิตของมนุษย์ยังคงอยู่ แล้วผู้แนะนำหรืออธิบายการใช้คู่มือดังกล่าวหลังจากท่านศาสดา (ซ็อลฯ) คือใคร

 

เป็นปริศนาธรรมที่น่าครุ่นคิดและไตร่ตรองยิ่งนัก

 

บทความโดย อาจารย์ฟารีด เด่นยิ่งโยชน์

ขอขอบคุณเฟสบุค อาจารย์ฟารีด เด่นยิ่งโยชน์