ระบบของมนุษยชาติในอนาคต ตอนที่ 3
ระบบของมนุษยชาติในอนาคต ตอนที่ 3
ถึงแม้ว่าตุรกีจะถูกมองว่าพัฒนาเข้าใกล้ระบบอิสลามมากขึ้น จนคนบางกลุ่มทึกทักเอาว่าตุรกีจะเป็นความหวังของโลกอิสลามในอนาคต แต่โดยเนื้อแท้แล้วตุรกียังยึดมั่นอยู่กับแนวความคิดหรือระบบของมุสตอฟา เคมาล (Kemalism) ที่เป็นปฏิปักษ์ต่ออิสลามอย่างเหนียวแน่น
อียิปต์ซึ่งปัจจุบันกลับสู่ระบบการปกครองโดยทหารอีกครั้งหนึ่ง หลังจากทำลายขบวนการอิควานอัลมุสลิมูนลงอย่างราบคาบ สภาพการณ์ของอียิปต์ในปัจจุบัน แสดงว่าอียิปตืยังยึดมั่นอยู่กับระบบของกามาล อับดุลนาซิร (Gamalism) อย่างเหนียวแน่น ซึ่งก็มิได้ยึดมั่นในระบบของอิสลามอย่างแท้จริงแต่อย่างใดเช่นกัน
ซาอุดิอาระเบีย ซึ่งปัจจุบันเปลี่ยนระบบการสืบสันตติวงศ์จากพี่ไปสู่น้อง สู่ระบบอาสู่หลานและกำลังพัฒนาไปสู่การสืบสันตติวงศ์แบบจากพ่อไปสู่ลูก กระนั้นผู้ปกครองซาอุดิอาระเบียก็ยังยึดมั่นแนวทางของบิดาผู้สถาปนาราชวงศ์คืออับดุลอะซีซ อาลิสะอู๊ดอย่างเหนียวแน่น ระบบที่ว่าคือ การปกครองระบบกษัตริย์แบบสมบูรณาญาสิทธิราช (Absolute Monarchy) โดยยอมมอบตัวเองให้อยู่ภายใต้การคุ้มครองของมหาอำนาจอย่างสิ้นเชิง
ส่วนอุดมการณ์ทางศาสนาดำเนินตามแนวคิดของมุฮัมมัด บินอับดุลวะฮาบ ซึ่งเป็นยาพิษเคลือบไว้ด้วยน้ำเชื่อม เมื่อแรกอมรู้สึกหวาน แต่จะมีพิษถึงตาย ถ้าอมต่อไปเรื่อยๆ
ไม่ว่าจเป็น Kemalism, Gamalism หรือ Absolute Monarchy ล้วนอยู่ภายใต้อิทธิพลและถูกครอบงำโดยระบบใหญ่คือ ทุนนิยมประชาธิปไตยและสังคมนิยมคอมมูนิสต์ ซึ่งเป็นประดิษฐกรรมที่เป็นเสมือนสองปีกทางการเมือง การปกครองและเศรษฐกิจของผู้คุมระบบสูงสุดของโลกนี้
ท่ามกลางความแตกต่างทั้งทางระบบหลักและระบบย่อยของประเทศมุสลิมต่างๆ ผู้ปกครองของประเทศมุสลิมทั้งหมดสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสงบและสามัคคี เพราะอยู่ภายใต้เจ้านายเหนือหัวคนเดียวกัน และภายใต้อุดมการณ์เดียวกันคืออุดมการณ์ Secularism หรืออุดมการณ์ที่แยกศาสนาออกจากการเมือง หรือแยกศาสนจักรออกจากอาณาจักร หรือกล่าวอย่างง่ายๆ คืออุดมการณ๋ที่ไม่เอาอิสลามนั่นเอง
พลันที่อิมามโคมัยนีปฏิวัติอิสลามในอิหร่านสำเร็จเมื่อ ค.ศ. 1979 โค่นระบบเซคิวลาร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกอิสลามนั่นคือการปกครองของชาห์ปาห์ลาวี ซึ่งอยู่ภายใตการอำนวยการและควบคุมอย่างใกล้ชิดจากทั้งสหรัฐอเมริกาและอังกฤษลงได้ และประกาศสถาปนาสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่านขึ้น พร้อมกับแนะนำระบบการปกครองแบบ วิลายะตุลฟากิฮ์ เป็นครั้งแรก
(หลังจากมึนงงอยู่สักพักใหญ่) บรรดาผู้ปกครองประเทศมุสลิมและมหาอำนาจก็ค่อยๆ ทยอยกันประกาศจุดยืนเป็นปฏิปักษ์ต่อสาธารณรัฐอิสลามอย่างเปิดเผยและแข็งกร้าว
37 ปีผ่านไปสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่านยังยืนอยู่อย่างสง่าผ่าเผย ผ่านวิกฤตต่างๆ ที่สาหัสสากรรจ์นับครั้งไม่ถ้วน เป็นการประกาศความสำเร็จของระบบวิลายะตุลฟะกีฮ์กลายๆ
รัศมีแห่งสาธารณรัฐอิสลามกำลังเจิดจรัสจ้า จนแทงนัยน์ตาประชาคมโลกมากขึ้นเรื่อยๆ และเสมือนเป็นการรอคอยต้อนรับอิมามมะฮ์ดี (อ.) ผู้ปลดปล่อยโลกนี้จากความอยุตธรรมไปสู่ความยุติธรรม
และนี่คือระบบของมนุษยชาติในอนาคต!
บทความโดย อาจารย์ฟารีด เด่นยิ่งโยชน์
ขอขอบคุณเฟสบุค อาจารย์ฟารีด เด่นยิ่งโยชน์