ความยิ่งใหญ่ของท่านหญิงฟาฏิมะฮฺ ผู้เป็นแก้วตาดวงใจแห่งศาสดา ตอนที่ 1

 

มัคลูกหนึ่ง ที่ถูกเทิดเกียรติ ทั้งชั้นฟากฟ้าและแผ่นดิน

“เป็นดั่งแก้วตาดวงใจแห่งศาสดา เป็นเทียนทองส่องทางผู้ศรัทธานิรันดร์”

 

อัลฮัมดุลิลละฮฺ ก่อนอื่นต้องขอชุโกรต่อเตาฟีก ในค่ำคืนอันจำเริญ ค่ำคืนแห่งความสุขสันต์ของมัคลูก(สิ่งสรรสร้างของพระผู้เป็นเจ้า) ทั้งหมด ค่ำคืนที่เป็นอีด ทั้งในชั้นฟ้าและแผ่นดิน เจ้าภาพที่แท้จริงในค่ำคืนนี้ และในวันนี้ ท่านอิมามมะฮฺดี(อ)จะต้องมีความปิติสุขเป็นอย่างมาก เพราะตรงกับวันประสูติของผู้ที่ทำให้เกิดการประสูติขึ้นมาในโลกนี้

 

ค่ำคืนของการประสูติของมัคลูกหนึ่ง ที่ทำให้สิ่งต่างๆทั้งหมด ได้ถือกำเนิดขึ้นมา มัคลูกที่ยิ่งใหญ่ มัคลูกที่อัลลอฮฺ(ซบ) รวมถึงนบี ,อิมาม ,มวลมะลาอิกะฮ์ ,อัมบิยาและ มุอ์มินีน เคารพและให้เกียรติที่สุด มัคลูกหนึ่งจากบรรดาสิ่งที่อัลลอฮฺ(ซบ)ได้ทรงสร้างมา

 

ด้วยกับเนี๊ยะมัต(ความโปรดปราน)ของอัลลอฮฺ(ซบ) จึงเป็นฮิกมะฮ์หนึ่งที่ทายาท (ท่านอยาตุลลอฮฺ ซัยยิดรุฮุลลอฮ มูซาวี โคมัยนี(รฎ.)) ผู้สืบสานทั้งสายเลือดและจิตวิญญานท่านนี้ ทำให้คนทั้งโลกได้รู้จักท่านหญิงฟาฏิมะฮฺ(อ)และอะฮฺลุลบัยตฺ(อ)อย่างแท้จริง เช่นนี้แล้ว จึงไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่วันถือกำเนิดของท่านทั้งสองจะตรงกัน

 

คำนะซีฮัต

ก่อนที่จะเข้าสู่เรื่องราวของมัคลูกที่ยิ่งใหญ่ ขอกล่าวนะซีฮัตเล็กๆน้อยๆประการหนึ่ง ที่มีประโยชน์ต่อพี่น้องไปตลอดชีวิตและขอให้ยึดถือนะซีฮัตอันนี้อย่างเคร่งครัดทั้งชายและหญิงทั้งหมด

ในที่นี้ หมายถึง “การให้เกียรติต่ออัลกุรอาน”

ในขณะที่อัลกุรอานกำลังถูกอ่าน ตรงนี้เป็นคำสั่งของพระมหาคัมภีร์อัลกุรอาน พี่น้องจดเอาไว้ แล้วท่องให้จำขึ้นใจและยึดถือนะซีฮัตอันนี้ ไปตลอดชีวิต

อยู่ในซูเราะห์ อัลอะอฺร็อฟ โองการที่204

 

وَإِذَا قُرِئَ الْقُرْآنُ فَاسْتَمِعُوا لَهُ وَأَنصِتُوا لَعَلَّكُمْ تُرْحَمُونَ

 

“และเมื่ออัล-กุรอานถูกอ่านขึ้น ก็จงสดับฟังอัล-กุรอานนั้นเถิด และจงนิ่งเงียบ เพื่อว่าพวกเจ้าจะได้รับการเอ็นดูเมตตา”

 

คำอธิบาย : เมื่ออัลลอฮฺ(ซบ)ได้ตรัสว่า “เมื่ออัลกุรอานได้ถูกอัญเชิญขึ้น จงฟัง {ถ้าจะแปลแบบหนักๆ แบบนักเลง ก็คือ จงฟังและshut up หุบปากของเจ้าเสีย} และเน้นว่า จำต้องสดับรับฟังอย่างเงียบๆไม่สมควรอย่างยิ่งที่เราจะพูดคุย (ไม่รับฟัง) อีกทั้งไม่ใช่เพียงให้ฟัง

 

ซึ่งพี่น้องต้องตระหนักไว้ เวลาได้ยินเสียงคนอัญเชิญอัลกุรอานดังขึ้น เราต้องหยุดทันที กรณี ถ้าเราไม่อยากฟัง หรือไม่สะดวกที่จะฟัง เราต้องลุกไปนั่งตรงอื่นในที่ๆเราไม่ได้ยิน

 

คำว่า “ فَاسْتَمِعُوا”{ฟัสตะมิอู} “จงฟัง” ตรงนี้ คือคำสั่ง ในวิชาฟิกฮฺถือว่า เป็นวาญิบ ไม่ใช่แค่ฟังที่วาญิบแต่การเงียบเพื่อฟังก็เช่นกัน

 

ดังนั้น พี่น้องจะเห็นว่า บรรดาอะเล็มอุลามาอฺย้ำเตือนว่า เป็นวาญิบ ที่จะต้องฟังอย่างเงียบๆ สมมุติว่ามีการลืม ได้มีการพูดคุยขึ้นมาในระหว่างนั้น ก็ให้ชี้ไปที่อัลกุรอาน เป็นการเตือนกัน ให้รู้ว่า นี่คือวัฒนธรรมของมุสลิมทุกมัซฮับ ถือเป็นหน้าที่ของมวลมุสลิม เพื่อหรือเผื่อว่า เจ้าจะได้รับความเมตตาจากอัลลอฮ์(ซบ) เพราะการสดับรับฟังอัลกุรอานนั้น มนุษย์จะได้รับความเมตตาจากพระองค์

 

ทว่ากลับกัน ถ้าอัลกุรอานกำลังถูกอัญเชิญ ในระหว่างนั้น เราคุยกันไป ไม่ได้สนใจในพจนารถของอัลลอฮ์(ซบ)เลยนั้น พึงสังวรณ์ไว้เถิด ไม่เพียงแต่จะไม่ได้รับความเมตตา แต่บางครั้งอาจจะถูกสาปแช่งด้วย

 

ดังนั้น คนเราผิดพลาดกันได้ แต่เมื่อผิดพลาดก็จะต้องเรียนรู้วิธีการให้เกียรติต่ออัลกุรอาน ด้วยการเปลี่ยนแปลงตนเองและปฏิบัตอย่างเคร่งครัด

 

นี่คือ คำนะซีฮัตที่อยากจะเน้นย้ำให้กับทุกคน อินชาอัลลอฮฺ ขอให้คำนะซีฮัตนี้ถูกจดจำ ไปจนลมหายใจสุดท้ายของชีวิต

 

บรรยายพิเศษโดย ฮุจญตุลอิสลาม ซัยยิด สุไลมาน ฮุซัยนี

ขอขอบคุณเว็บไซต์ Syedsulaiman