ศาสดามุฮัมหมัดและวงค์วานแบบฉบับแห่งมนุษย์ ผู้เปี่ยมด้วยคุณงามความดี

ศาสดามุฮัมหมัดและวงค์วานแบบฉบับแห่งมนุษย์ ผู้เปี่ยมด้วยคุณงามความดี0%

ศาสดามุฮัมหมัดและวงค์วานแบบฉบับแห่งมนุษย์ ผู้เปี่ยมด้วยคุณงามความดี ผู้เขียน:
กลุ่ม: ห้องสมุดศาสดาและวงศ์วาน
หน้าต่างๆ: 132

ศาสดามุฮัมหมัดและวงค์วานแบบฉบับแห่งมนุษย์ ผู้เปี่ยมด้วยคุณงามความดี

ผู้เขียน: เชค มุฮ์ซิน ชะรีอัต
กลุ่ม:

หน้าต่างๆ: 132
ผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชม: 37456
ดาวน์โหลด: 5875

รายละเอียด:

ศาสดามุฮัมหมัดและวงค์วานแบบฉบับแห่งมนุษย์ ผู้เปี่ยมด้วยคุณงามความดี
ค้นหาในหนังสือ
  • เริ่มต้น
  • ก่อนหน้านี้
  • 132 /
  • ถัดไป
  • สุดท้าย
  •  
  • ดาวน์โหลด HTML
  • ดาวน์โหลด Word
  • ดาวน์โหลด PDF
  • ผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชม: 37456 / ดาวน์โหลด: 5875
ขนาด ขนาด ขนาด
ศาสดามุฮัมหมัดและวงค์วานแบบฉบับแห่งมนุษย์ ผู้เปี่ยมด้วยคุณงามความดี

ศาสดามุฮัมหมัดและวงค์วานแบบฉบับแห่งมนุษย์ ผู้เปี่ยมด้วยคุณงามความดี

ผู้เขียน:
ภาษาไทย

พร้อมกับจับกุมครอบครัวของท่านมาเป็นนักโทษ

พวกเขาไม่ได้รักษากฎเกณฑ์แห่งคุณค่าของมนุษย์ขั้นพื้นฐานที่

สำคัญเลย ดังตัวอย่างเช่น พวกเขาปฏิเสธไม่ยอมให้น้ำดื่มแก่

ท่านอิมามและสหายของท่าน ท่ามกลางสภาพอากาศที่ร้อนระอุของอิรัก และเป็นผลให้ บรรดาเด็กที่ร่วมเดินทางมากับท่านอิมามฮุเซน(อ.) ร้องบอกกันอย่างไม่หยุดหย่อนว่า

“พวกเรากระหายน้ำ”

ท่านอิมามฮุเซน (อ.)มีบุตรชื่อ อะลี อัซกัรที่มีอายุเพียงหกเดือนซึ่ง

กำลังจะตายเพราะพวกเขาไม่ยอมให้น้ำ ท่านอิมามฮุเซน(อ.)ได้อุ้มเขาไว้ในอ้อมแขนและกล่าวกับบรรดาศัตรูว่า “เด็กทารกน้อยคนนี้ไร้เดียงสา เขากำลังจะตายเพราะกระหายน้ำ หากเจ้าคิดว่าข้าฯใช้เขาเป็นโล่มนุษย์ จงนำเขาไปและให้น้ำแก่ขาเองเถิด” ทันใดนั้นและก่อนที่ท่านอิมามจะพูดจบ

ได้มีลูกธนู สามแฉกพุ่งเข้ามาปักที่ลูกกระเดือกของเด็กคนนั้น

๑๒๑

 ท่านอิมามฮุเซน(อ.) ได้ซับเลือดที่พุ่งออกมาจากกระเดือกของลูกชายของท่านและโยนขึ้นไปบนท้องฟ้า พร้อมกับกล่าวว่า

“ข้าพเจ้าสามารถแบกรับหายนะนี้ไว้ได้ เพราะมันจะช่วยพลิกฟื้น

ความยุติธรรมและศาสนาของพระผู้เป็นเจ้าได้”

แต่บรรดาศัตรูของท่านแสดงให้เห็นถึง ความโหดร้ายและป่าเถื่อน

อย่างคาดไม่ถึง และไม่เคยได้พบเห็นมาก่อน เช่น หลังจากที่ได้ตัดศรีษะของท่าน อิมามฮุเซน (อ.) และสหายของท่านแล้ว พวกเขาได้เข้าโจมตีกระโจมที่พักของครอบครัวของท่านอิมามฮุเซน(อ.)และวางเพลิงจนกระโจมไหม้หมด

โทมัส มามาริคได้กล่าวว่า

“แม้ว่านักบวชของเราได้ทำให้ผู้คนอาลัยต่อพระเยซูคริสต์ โดยเตือนพวกเขาถึงความรักของเขา ความรักที่แท้จริง ก็เปรียบไม่ได้กับหายนะที่ท่านอิมามฮุเซน(อ.)ได้รับ ซึ่งเสมือนขนนกที่อยู่เบื้องหน้าภูเขาลูกมหึมาซึ่งเปรียบเทียบไม่ได้เลยกับสิ่งเลวร้ายที่ ท่านอิมามฮุเซน(อ.)ได้ประสบ”

๑๒๒

ดังนั้น ท่านอิมามฮุเซน (อ.)ไม่ได้เป็นเช่นอาชญากรที่ฉ้อโกงที่ปฏิวัติและทำลายทุกสิ่งบนเส้นทางของท่านเพื่อบรรลุเป้าหมายที่ได้วางไว้

ท่านอิมามได้มีคำสอนอันสูงส่งซึ่งไม่เป็นที่ยอมรับโดยผู้นำทางศาสนาที่ทุจริตและทรราชย์ในยุคของท่าน

 ดังนั้น ท่านอิมามและบรรดาสหายของท่านจึงถูกสังหารหมด

อิรฟานของท่านอิมามฮุเซน(อ.)

อาชูรออ์มีหลายแง่มุมซึ่งไม่สามารถที่จะสืบค้นมารวบรวมไว้ที่นี่ได้

ทั้งหมด

 มุมมองทางด้านอิรฟาน ของศาสนาอิสลาม เพราะการเคลื่อนไหว

ของท่านอิมามฮุเซน(อ.)เต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก อารมณ์อันบริสุทธิ์ของอิรฟาน

๑๒๓

 แท้จริงแล้ว ท่านอิมามฮุเซน (อ.)และสิ่งที่ท่านทำในวันอาชูรออ์

คือ ความเสียสละอย่างสูงสุด การมอบชีวิตด้วยเหตุแห่งพระองค์อัลลอฮ์ (ซ.บ.) คือการเสียสละอย่างสูงสุด เราสามารถสละเงิน สละสิ่งที่เรารักมากให้กับการกุศล หรือเวลาอันมีค่าให้กับการศึกษาของบุตรของเราได้ เราสามารถเสียสละความภูมิใจจอมปลอมในเชื้อชาติ สีผิว ภาษาและชาติกำเนิด สำหรับนิกายของเราได้ เราสามารถรับชาวมุสลิมคนอื่นเป็นพี่น้องของเราได้

แต่ท่านอิมามฮุเซน(อ.)สามารถทำสิ่งดังกล่าวเหล่านั้นได้

และท่านไม่ถามถึงสิ่งตอบแทนใด ๆ อีกด้วย

وَلا تَقُولُوا لِمَن يُقْتَلُ فِي سَبِيلِ اللَّهِ أَمْوَاتٌ بَلْ أَحْيَاءٌ

وَلَكِن لَاّ تَشْعُرُونَ

“และพวกเจ้า อย่ากล่าวแก่ ผู้ที่ถูกฆ่าในทางของพระองค์อัลลฮ์ (ซบ.)ว่า พวกเขาได้ตาย หามิได้ พวกเขายังมีชีวิตอยู่ แต่ทว่าพวกเจ้าไม่รู้สึก”

(๒:๑๕๔)

๑๒๔

ท่านอิมามฮุเซน(อ.)ยังสอน พวกเราว่า ให้อยู่อย่างสงบ การใช้อำนาจกดขี่ข่มเหงผู้อื่นเป็นสิ่งผิด หากท่านอิมามฮุเซน(อ.)ได้ให้สัตย์ปฏิญาณว่า จะจงรักภักดีต่อผู้ปกครองเผด็จการ ท่านก็จะสามารถรักษาคอของท่านไว้ได้และดูเหมือนว่าจะได้รับตำแหน่งอันสูงส่งจากผู้ปกครองที่อธรรมอีกด้วย ผู้ซึ่งจะอนุญาตให้ท่านทำการนมาซ ถือศีลอด และประกอบพิธีกรรมอื่นๆ ได้

แต่ท่านอิมามฮุเซน (อ.) เป็นหลานของศาสดา ผู้ที่กล่าวว่า

”หนึ่งในการทำญิฮาดที่ยิ่งใหญ่ที่สุด คือ การยืนหยัดต่อสู้กับผู้

ปกครองที่เผด็จการ และกล่าวสาส์นแห่งความสัตย์จริง”

ดังนั้น หนึ่งในสุนทรพจน์ของท่านอิมามฮุเซน (อ.) ระหว่างทางไป

กัรบาลาอ์ได้กล่าวไว้ว่า

“การอยู่ร่วมกับพวกเผด็จการคืออาชญากรรมอย่างหนึ่ง”

วิธีนี้แสดงให้แสดงถึง มูลเหตุที่ การต่อสู้ของท่านอิมามเป็นอมตะ

๑๒๕

โทมัส คาร์ไลย์ได้ถ่ายทอดเกี่ยวกับ มหากาพย์กัรบาลาอ์ ดังนี้

“บทเรียนที่ดีที่สุดที่พวกเราได้รับจากโศกนาฏกรรมของกัรบาลา คือ

ท่าน อิมามฮุเซน (อ.)และสหายของท่าน คือ ผู้มีความศรัทธาอย่างแรงกล้าต่อพระผู้เป็นเจ้า พวกเขาแสดงให้เห็นว่า ความเหนือกว่าในด้านจำนวนคนที่มากกว่าเหลือคณานับ เมื่อรู้สึกถึงความจริงและความเชื่อที่ผิด อย่างไรก็ตาม ชัยชนะของท่านอิมามฮุเซน (อ.) ด้วยคนกลุ่มน้อย ทำให้ข้าพเจ้าอัศจรรย์ใจมาก”

นักประวัติศาสตร์ชาวอเมริกัน วอชิงตัน เออร์วิง ได้เขียนไว้ว่า

“การถูกสังหารของท่านอิมามฮุเซน(อ.)เป็นเรื่องที่ ข้าพเจ้าจะหยุด

โดยไม่กล่าวถึงไม่ได้ เนื่องจากเป็นโศกนาฏกรรมที่สำคัญในประวัติศาสตร์อิสลาม ไม่มีสิ่งใดที่เลวร้ายไปกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ แม้ว่าการลอบสังหารท่านอิมามอะลี (อ.) เป็นความโศกเศร้าอย่างแสนสาหัสสำหรับมนุษย์แล้ว

๑๒๖

แต่ชะตากรรมของท่านอิมามฮุเซน บุตรอิมามอะลี (อ.) เป็นสิ่งที่น่าสยองขวัญมากกว่าซึ่งทำให้ถึงกับเสียวสันหลัง     มันคือโศกนาฏกรรมที่น่ากลัว”

เออร์วิง กล่าวอีกว่า

“จิตวิญญาณแห่งการลุกขึ้นต่อต้านผู้ปกครองที่อธรรมจะคงอยู่ตลอดไป ท่านอิมามฮุเซน บุตรอิมามอะลี (อ.) สามารถที่จะรักษาชีวิตของท่านไว้ได้ โดยการยอมจำนนต่อสิ่งทียะซีดต้องการ แต่ด้วยความรับผิดชอบต่อการเป็นผู้นำแห่งการเคลื่อนไหวของศาสนาอิสลามที่ทำให้ท่านอิมามไม่สามารถที่จะยอมให้ยะซีดเป็นผู้ปกครองได้ ท่านเตรียมพร้อมที่จะเผชิญกับภัยพิบัติอื่นต่างๆ เพื่อที่จะปลดแอกศาสนาอิสลามออกจากอุ้งมือของ

ราชวงค์บนีอุมัยยะห์ ข้าพเจ้าทราบว่า จิตวิญญาณของท่าน

อิมามฮุเซน บุตร อิมามอะลี (อ.) จะยังคงอยู่ตลอดไปภายใต้ดวงอาทิตย์ที่แผดเผาและบนพื้นทรายที่ร้อนระอุของแผ่นดินกัรบาลา ข้าพเจ้าขอแสดงความเคารพต่อท่าน

๑๒๗

 

“โอ้นายของข้าพเจ้า บทเรียนที่ฉายแสงแห่งความกล้าหาญและ

ความเสียสละ”

ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับวัฒนธรรมตะวันออกชาวเยอรมัน คาร์บินได้

กล่าวเกี่ยวกับท่านอิมามฮุเซน บุตร อิมามอะลี (อ.) ไว้ดังต่อไปนี้

“ด้วยความเสียสละแก่ประชาชนผู้เป็นที่รักของท่าน

ท่านอิมามฮุเซน บุตร อิมามอะลี (อ.) ได้แสดงให้เห็นว่า

การเผด็จการและความชั่วร้ายจะไม่คงอยู่นิรันดร์

ท่านอิมามได้พิสูจน์ให้เห็นว่า ความสัตย์จริงและความถูกต้องจะทำให้การเผด็จการและความชั่วร้ายพ่ายแพ้ไม่ว่าพวกเผด็จการจะ

แข็งแกร่งมากแค่ไหนก็ตาม”

๑๒๘

มหาตมะ คานธี (ผู้นำทางการเมืองและจิตวิญญาณชาวอินเดีย) ได้

เขียนไว้ว่า

“ข้าพเจ้าเรียนรู้จากท่านอิมามฮุเซน บุตรอิมามอะลี (อ.) ถึงวิธีการ

ที่จะพิชิตชัยชนะในขณะที่เราถูกกดขี่ข่มเหง  และข้าพเจ้ายังได้เรียนรู้จากท่านอีกถึงวิธีที่เราถูกอธรรม แล้วยังกลายเป็นผู้ชนะ จงเลียนแบบการตายและไม่ต้องเกรงกลัวต่อมันในการต่อสู้เพื่ออิสรภาพแห่งแผ่นดินเกิดของพวกเรา ข้าพเจ้าไม่ได้นำสิ่งใหม่มาให้ชาวอินเดีย ข้าพเจ้าเพียงนำเสนอผลที่ได้รับจากความเข้าใจของข้าพเจ้าจากบุคลิกของวีรบุรุษแห่งกัรบาลาอ์ พวก

เราไม่มีทางที่จะไม่เจริญรอยตาม นอกจากจะทำตามทางนำของท่านอิมามฮุเซน บุตรอิมามอะลี (อ.) เท่านั้น”

๑๒๙

แท้จริงแล้ว วันอาชูรออ์และบทเรียนต่างๆ ที่ได้รับจากวันอาชูรออ์

ยังได้แสดงบทบาทที่สำคัญในชัยชนะแห่งสาธารณรัฐอิสลาม อิหร่าน เนื่องจาก ท่านอิมามโคมัยนี (ขอให้ดวงวิญญาณของท่านไปสู่สุคติ) เป็นผู้ที่ศรัทธาอย่างแรงกล้าต่อความเคลื่อนไหวและการต่อสู้กับการกดขี่ข่มเหงของท่านอิมามฮุเซน บุตร อิมามอะลี (อ.) แม้หลังจากชัยชนะแห่งการปฏิวัติในประเทศอิหร่านและช่วงระยะเวลา แปดปีแห่งสงครามที่เกิดขึ้นในอิหร่าน

ท่านอิมามโคมัยนีและประชาชนชาวอิหร่านยังคงยึดอาชูรออ์และท่านอิมามฮุเซน บุตรอิมามอะลี (อ.) เป็นแรงบันดาลใจ หนึ่งในสุนทรพรจ์ที่โด่งดังของอิมามโคมัยนี คือ

“ท่านอิมามฮุเซน บุตร อิมามอะลี (อ.) สอนพวกเราทุกวิธีที่จะยืนขึ้น

และต่อสู้กับความโหดร้ายและรัฐบาลทรราช ถึงแม้ว่าท่านอิมามจะทราบว่า เส้นทางที่ท่านได้เลือกจะต้องเดิมพันด้วยชีวิตของท่าน ชีวิตของบรรดาศิษย์และวงศ์ญาติของท่าน แต่ทุกคนก็ยอมเสียสละเพื่อศาสนาอิสลาม”

๑๓๐

ท่านอิมามยังทราบถึงผลที่จะตามมาว่า หากปราศจากลุกขึ้นต่อ

ต้าน ยะซีดและพลพรรคของเขา ยะซีดจะบิดเบือนอิสลามและนำเสนออิสลามในรูปแบบที่ผิดๆ เพราะพวกเขาไม่ศรัทธาในศาสนาอิสลามตั้งแต่ต้น รวมถึงพวกเขาไม่พอใจและอิจฉาริษยาบรรดาวงค์วานท่านศาสดามุฮัมหมัด(ซ็อลฯ)ที่ชอบธรรมอยู่ก่อนแล้ว

นอกจากนี้ ตัวอย่างที่ท่านอิมามฮุสเซน (อ.)ได้สอนเราว่า

เส้นทางของท่านอิมาม เป็นเส้นทางที่ถูกต้อง ในประวัติศาสตร์ทั้งมวล -โดยไม่ต้องใส่ใจถึงจำนวนที่ไม่เพียงพอ- มันคือคุณภาพที่ไม่สามารถวัดได้ มันคือ คุณภาพแห่งการญิฮาดของบรรดาผู้ที่ได้รับชัยชนะเท่านั้น..”

๑๓๑

สารบัญ

บทนำ.. ๒

ท่านนบีมุฮัมหมัด (ซ็อลฯ) ศาสดาแห่งความเมตตา ๒

ศาสดาแห่งศาสนาอิสลาม. ๖

เรื่องราวทางวัฒนธรรม และ สังคมของเมืองเมกกะ. ๘

ท่านนบีมุฮัมหมัด(ซ็อลฯ)ในช่วงวัยเด็กและวัยหนุ่ม. ๙

การสื่อสารกับเทวทูต (มะลาอิกะฮ์)และภารกิจของพระผู้เป็นเจ้า ๑๓

ท่านนบีมุฮัมหมัด (ซ็อลฯ)กับการเชิญชวนไปสู่พระองค์อัลลอฮ์ (ซบ.) ครั้งแรก. ๑๗

ไม่มีการบังคับในศาสนาอิสลาม. ๒๙

ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์. ๓๐

ในมุมมองของท่านนบีมุฮัมหมัด (ซ็อลฯ) ๓๐

บรรดาสตรีในมุมมองของท่านนบีมุฮัมหมัด (ซ็อลฯ) ๓๒

จริยธรรมและการกระทำของท่านนบีมุฮัมหมัด(ซ็อลฯ)ในการเข้าสังคม. ๔๓

การดูแลบรรดาเด็กๆและเด็กกำพร้า ๕๐

ความเคร่งครัดในศาสนาและความน่าเลื่อมใส. ๕๑

การอพยพ (ฮิจเราะห์) ๕๗

การสร้างสันติภาพและความสมานฉันท์ในเมืองมะดีนะห์. ๖๑

สงครามต่อต้านศาสดาแห่งศาสนาอิสลาม. ๖๒

การแต่งตั้งผู้สืบทอดของท่าน. ๗๐

วันสุดท้ายของท่านนบีมุฮัมหมัด (ซ็อลฯ) ๗๒

วิถีชีวิตที่เป็นแบบฉบับอันประเสริฐของท่านอิมามอะลี. ๘๗

ความเคร่งครัดในศาสนาของท่านอิมามอะลี (อ.) ๙๒

ความยุติธรรมของท่านอิมามอะลี (อ.) ๙๗

พระนางฟาติมะห์. ๑๐๕

เชื้อไขเพียงคนเดียว. ๑๐๕

ของท่านศาสดามุฮัมหมัด (ศล) ๑๐๕

แบบฉบับแห่งวิถีชีวิต. ๑๐๙

อันประเสริฐ. ๑๐๙

ของท่านอิมามฮะซัน (อ.) ๑๐๙

บุตรอิมามอะลี (อ.) ๑๐๙

แบบฉบับแห่งวิถีชีวิตอันประเสริฐ. ๑๑๔

ของท่านอิมามฮุเซน (อ.) ๑๑๔

บุตรอิมามอะลี (อ.) ๑๑๔

เป้าหมายเบื้องหลังการยืนหยัดต่อต้านของท่านอิมามฮุเซน (อ.) ๑๑๗

อิรฟานของท่านอิมามฮุเซน(อ.) ๑๒๓

๑๓๒