ขออยู่กับผู้สัจจริง
หมายเหตุ
1. ศ่อฮีฮฺบุคอรี เล่ม 2 หน้า 163 และเล่ม 1 หน้า 158 หมวดว่าด้วย “การวะฟาตของมูซา” และหมวดว่าด้วย “ความชอบที่จะฝังคนตายในแผ่นดินอันศักดิ์สิทธิ์
2. ศ่อฮีฮฺเล่ม 2 หน้า 309 หมวดว่าด้วย “ความดีของมูซา(อฺ) จาก กิตาบุ ฟะฏออิล”
3. จาก “ตัฟซีรอัฏ-ฏ็อบรี” เล่ม 14 หน้า 109, “ตัฟซีรอิบนุกะษีร” เล่ม 2 หน้า 570
4. รายงานโดยท่านติรมีซีในหนังสือ “ศ่อฮีฮฺติรมีซี” เล่ม 5 หน้า 329, อีกทั้งท่านนะซาอี และอิมามอะฮฺมัด
5. จาก “ศ่อฮีฮฺมุสลิม” เล่ม 2 หน้า 362 หมวดว่าด้วย “เกียรติของอะลี บินอะบีฏอลิบ”
6. รายงานโดยท่านฮากิมใน “มุซตัดร็อก” เล่ม 3 หน้า 149 จากท่านอิบนิอับบาซ ท่านกล่าวว่า “นี่คือฮะดีษศ่อฮีฮฺ”
7. จาก “มุซนัดอิมามอะฮฺมัด บินฮัมบัล” เล่ม 4 หน้า 126
8. จาก “ศ่อฮีฮฺบุคอรี” เล่ม 7 หน้า 99 หมวดว่าด้วย “การอนุญาตให้โกรธและใช้ความรุนแรงตามคำสั่งของอัลลอฮฺ(ซ.บ.)”
9. จาก “ศ่อฮีฮฺมุสลิม” ใน “กิตาบฟะฏออิลุศ-ศ่อฮาบะฮฺ”, “มุซนัดอะฮฺมัด บินฮัมบัล” เล่ม 4 หน้า 398
10. รายงานโดย อัล-กอฎี ในหนังสือ “ดะอาอิมุล-อิสลาม”
11. ดังเช่น พวกที่อะบูบักรฺได้ทำสงคราม และให้ชื่อว่า พวกเขาเป็นพวกมุรตัด(ตกศาสนา)
12. จากกรณีที่แสดงความชิงชังต่ออุษมาน บินอัฟฟาน โดยศ่อฮาบะฮฺจำนวนมากจนกระทั่งได้ฆ่าเขาเสีย
13. เช่น การทำสงครามญะมัล สงครามศิฟฟีน สงครามนะฮฺรอวาน และอื่นๆ
14. ฮะดีษที่ว่า “อัมมารนั้น พวกละเมิดศาสนาจะเข่นฆ่าเขา”
15. จาก “ศ่อฮีฮฺติรมีซี” เล่ม 5 หน้า 328, “ศ่อฮีฮฺมุสลิม” เล่ม 2 หน้า 362, “อัน-นะซาอี ฟิล เคาะศออิศ”, “กันซุลอุมมาล” เล่ม 1 หน้า 44
16. ดังฮะดีษที่ว่า “อิมามหลังจากฉันมี 12 คน คนแรกคืออะลี คนสุดท้ายคืออัล-กออิม พวกเขาทั้งหมดเป็นค่อลีฟะฮฺของฉันและทายาทของฉัน”
17. จาก “ศ่อฮีฮฺบุคอรี” เล่ม 1 ใน “กิตาบุล-อิลมิ”, “ศ่อฮีฮฺติรมิซี” ใน “กิตาบุล-อิลมิ” เช่นกัน
18. จาก “อักดุล-ฟะรีด” ของ อิบนิอับดุร ร็อบบะฮฺ และ “อัล-ฟุศูลุล-มุฮิมมะฮฺ” ของ อิบนิศิบาฆ อัล-มาลิกี เล่ม 3 หน้า 42
19. การอ่าน “บิซมิลลาฮฺ” ในนมาซ มัซฮับมาลิกีถือเป็นมักรูฮฺ มัซฮับชาฟีอีถือเป็นวาญิบ มัซฮับฮะนาฟีถือเป็นมุซตะฮับ ส่วนมัซฮับฮัมบาลีถือว่าให้อ่านค่อยๆ ในนมาซที่อ่านออกเสียง
20. จาก “อัศศ่อวาอิก” ของอิบนุฮะญัร หน้า 136 และ 227, “อัลญามิอุศศ่อฆีร” ของซะยูฏี เล่ม 2 หน้า 132 , “มุซนัดอะฮฺมัด” เล่ม 3หน้า 17 และ เล่ม 4 หน้า 366
21. จาก “นะฮฺญุล-บะลาเฆาะฮฺ” เล่ม 2 หน้า 190
22. จาก “นะฮฺญุล-บะลาเฆาะฮฺ” เล่ม 3 หน้า 439
23. ตัวอย่างในเรื่องนี้คือรายงานที่เล่าโดยอะบูฮุร็อยเราะฮฺ เช่น อัลลอฮฺ(ซ.บ.) สร้างอาดัม ตามรูปลักษณ์ของพระองค์ แต่อิมามญะอฺฟัร ศอดิก(อฺ) ได้ให้ความกระจ่างในข้อนี้ว่า แท้จริงท่านศาสดาแห่งอัลลอฮฺ(ศ)ตำหนิชายสองคนที่กำลังด่าทอกัน คนหนึ่งกล่าวว่า “ขอให้อัลลอฮฺ(ซ.บ.)สาปแช่งใบหน้าของท่านและใบหน้าคนที่คล้ายท่าน” ท่านศาสนทูต(ศ) จึงกล่าวกับคนนั้นว่า “แท้จริง อัลลอฮฺทรงสร้างอาดัมมาในรูปลักษณ์ของเขานั่นเอง” หมายความว่า ถ้าท่านด่าคนที่หน้าตาคล้ายกับเขา ก็เท่ากับด่าอาดัมด้วย เพราะอาดัมคล้ายกับเขานั่นเอง
24. จาก “ศ่อฮีฮฺบุคอรี” เล่ม 2 หน้า 47, เล่ม 5 หน้า 179, เล่ม 6 หน้า 33
25. จาก “ศ่อฮีฮฺบุคอรี” เล่ม 4 หน้า 226, เล่ม 5 หน้า 47-48, และ “ศ่อฮีฮฺมุสลิม” เล่ม 1 หน้า 114-122
26. จาก “ศ่อฮีฮฺบุคอรี” เล่ม 8 หน้า 197
27. จาก “ศ่อฮีฮฺบุคอรี” เล่ม 8 หน้า 182
28. จาก “ศ่อฮีฮฺบุคอรี” เล่ม 8 หน้า 187, หน้า 202 ยืนยันว่าอัลลอฮฺ(ซ.บ.) มีมือและมีนิ้ว
29. โองการนี้บรรดาอิมามแห่งอะฮฺลุลบัยตฺ(อฺ) อธิบายว่า ในวันนั้นใบหน้าคนกลุ่มหนึ่งจะสวยงามสดใส และมองดูความเมตตาของพระผู้อภิบาลของพวกเขาอยู่
30. จาก “นะฮฺญุลบะลาเฆาะฮฺ” อธิบายโดย มุฮัมมัด อับดุฮฺ เล่ม 1 คุฏบะฮฺที่ 1
31. จาก “อะกออิด อิมามียะฮฺ”
32. จาก “อัลบิดายะตุ-วันนิฮายะฮฺ” ของอิบนิกะษีร อ้างจาก อิมามอะฮฺมัด, มุสลิม, อะบูดาวูด และติรมิซี
33. จาก “ศ่อฮีฮฺมุสลิม” ใน “กิตาบ ฟะฏออิล” เล่ม 7 หน้า 95, “มุซนัดอะฮฺมัด” เล่ม 1 หน้า 162, เล่ม 3 หน้า 152
34. จาก “ศ่อฮีฮฺบุคอรี” เล่ม 7 หน้า 29
35. จาก “ศ่อฮีฮฺบุคอรี” เล่ม 4 หน้า 68
36. จาก “ศ่อฮีฮฺบุคอรี” เล่ม 1 หน้า 123, เล่ม 2 หน้า 65
37. จาก “ศ่อฮีฮฺบุคอรี” เล่ม 1 หน้า 37, หน้า 44, หน้า 171
38. จาก “ซุนันดาริมี” ใน “กิตาบุ้ลร่อกอก”
39. จาก “ศ่อฮีฮฺมุสลิม” บทว่าด้วยเรื่อ “ฟะฏออิล อุษมาน” เล่ม 7 หน้า 117
40. จาก “ศ่อฮีฮฺบุคอรี” เล่ม 2 หน้า 232,234
41. จาก “ศ่อฮีฮฺบุคอรี” เล่ม 3 หน้า 114, เล่ม 7 หน้า 96
42. จาก “ศ่อฮีฮฺบุคอรี” เล่ม 3 หน้า 288, เล่ม 2 หน้า 3 หมวดว่าด้วย “วันอีดทั้งสอง”
43. จาก “มุซนัดอะฮฺมัด บินฮัมบัล” เล่ม 6 หน้า 75
44. จาก “ตัฟซีรญะลาลัยนฺ” ในการอธิบายโองการที่ว่า “และเจ้าซ่อนไว้ในจิตใจของเจ้าซึ่งสิ่งที่อัลลอฮฺเป็นผู้เปิดเผยมัน”
45. จาก “ศ่อฮีฮฺมุสลิม” เล่ม 7 หน้า 136 หมวดว่าด้วย “ฟะฏออิล อาอิชะฮฺ”
46. เมืองญะรีดอยู่ทางภาคใต้ของประเทศตูนีเซีย ห่างจากก็อฟศ่อฮฺ 92 ก.ม. เป็นบ้านเกิดของอะบูกอซิม ชาบี นักกวีผู้มีชื่อเสียง และคิฏิรฮุเซนซึ่งเป็นหัวหน้าคณะในมหาวิทยาลัยอัซฮัร และนักปราชญ์ส่วนใหญ่ของประเทศตูนีเซียก็กำเนิดที่เมืองนี้
47. รายงานโดยบุคอรี ใน “ศ่อฮีฮฺ” เล่ม 3 หน้า 152 บทว่าด้วย “การเป็นพยานโดยคนตาบอด” ท่านกล่าวว่า บินอะบีด อิบนุมัยมูนได้เล่าว่า : อีซา(อฺ)ได้แจ้งให้ทราบว่า จากนางอาอิชะฮฺกล่าวว่า ท่านนบี(ศ)ได้ยินชายคนหนึ่งอ่านอัล-กุรอานในมัสญิด ท่าน(ศ)กล่าวว่า “เป็นความเมตตาจากอัลลอฮฺ(ซ.บ.)แน่นอน เขาได้ทำให้ข้าพเจ้านึกถึงโองการนี้ขึ้นมาได้ ที่ข้าพเจ้าได้ทำตกหล่นไปในซูเราะฮฺนี้” ขอให้ท่านผู้อ่านพิจารณาดูให้ดีเถิด จะเป็นได้ว่าน่าแปลกใจเสียเหลือเกิน ศาสนทูต(ศ)ท่านนี้ทำโองการอัล-กุรอานตกหล่น และถ้าหากไม่มีชายตาบอดนี้อ่านโองการนั้นๆ ขึ้นมา จะต้องเกิดความเสียหายอย่างแน่แท้ “อัซตัฆฟิรุลลอฮฺ ข้าขออภัยต่ออัลลอฮฺ(ซ.บ.) เพราะเรื่องเหลวไหลอย่างนี้”
48. จาก “ศ่อฮีฮฺมุสลิม” เล่ม 6 หน้า 24 บทว่าด้วย “อิมามที่ดีและเลว”
49. จาก “ศ่อฮีฮฺมุสลิม” เล่ม 6 หน้า 20 บทว่าด้วย “กิจการที่จำเป็นของญะมาอะฮฺเมื่อฟิตนะฮฺปรากฏ
50. จาก “ศ่อฮีฮฺมุสลิม” เล่ม 6 หน้า 4 บทว่าด้วย “มนุษย์จะต้องปฏิบัติตามพวกกุเรช และตำแหน่งค่อลีฟะฮฺจะอยู่ในพวกกุเรช”
51. จาก “ศ่อฮีฮฺมุสลิม” เล่ม 6 หน้า 3, “ศ่อฮีฮฺบุคอรี” เล่ม 8 หน้า 105 และ 128
52. จาก “ศ่อฮีฮฺมุสลิม” เล่ม 6 หน้า 23 บทว่าด้วย “จำเป็นต้องปฏิเสธนักปกครอง”
53. จาก “ศ่อฮีฮฺบุคอรี” เล่ม 8 หน้า 127 บทว่าด้วย “อิซติคลาฟ”
54. จาก “ศ่อฮีฮฺบุคอรี” เล่ม 8 หน้า 106 บทว่าด้วย “ข้อพึงรังเกียจต่อความอยากได้อำนาจปกครอง”
55. จาก “ศ่อฮีฮฺบุคอรี” เล่ม 8 หน้า 106 บทว่าด้วย “ข้อพึงรังเกียจต่อความอยากได้อำนาจปกครอง”
56. จาก “ศ่อฮีฮฺมุสลิม” เล่ม 6 หน้า 3 บทว่าด้วย “การเป็นค่อลีฟะฮฺในพวกกุเรช”
57. จาก “ยะนาบีอุล-มะวัดดะฮฺ” เล่ม 3 หน้า 104
58. จาก “ยะนาบีอุล-มุวัดดะฮฺ” เล่ม 3 หน้า 105
59. อัต-ติรมิซี, อะบูดาวูด, อิบนิมาญะฮฺ, มุซนัดอะฮฺมัด บินฮัมบัล เล่ม 2 หน้า 332
60. จาก “ศ่อฮีฮฺบุคอรี” เล่ม 7 หมวดว่าด้วย อัล-เฮาฏ์ เล่ม 5 หน้า 192
61. จาก “ศ่อฮีฮฺบุคอรี” เล่ม 4 หน้า 63
62. จาก “ศ่อฮีฮฺบุคอรี” เล่ม 7 หน้า 112
63. จาก “ศ่อฮีฮฺบุคอรี” เล่ม 4 หน้า 144
64. จาก “อัล-อิมามะฮฺ วัซซิยาซะฮฺ” ของอิบนุกุตัยบะฮฺ เล่ม 1 หน้า 28
65. จาก “ศ่อฮีฮฺมุสลิม” เล่ม 6 หน้า 5 บทว่าด้วย “อัล-อิซติคลาฟวะตัรกะฮฺ”
66. จาก “อัล-อิมามะฮฺ วัซซิยาซะฮฺ” ของอิบนุกุตัยบะฮฺ เล่ม 1 หน้า 18
67. จาก “ศ่อฮีฮฺบุคอรี” เล่ม 8 หน้า 26 หมวดว่าด้วย “ร็อจญ์มอล-ฮับลี มิน-ซินา”
68. จาก “ตารีค อัล-คุละฟาอ์” ของอิบนุกุตัยบะฮฺ เล่ม 1
69. จาก “อัล-มิลัล-วัน-นิฮัล” ของชะฮฺริซตานี อัช-ชาฟิอี เล่ม 1 หน้า 23
70. ทั้งนี้เพราะมิใช่ว่าหลักฐานเหล่านี้จะมีเฉพาะแต่ในตำราของฝ่ายชีอะฮฺเท่านั้นหากแต่ยังมียืนยันอยู่ในตำราของฝ่ายซุนนะฮฺอีกด้วย
71. อะบีอิซฮาก อะฮฺมัด บินมุฮัมมัด บินอิบรอฮีม อัน-นัยซารี อัษ-ษะอฺละบี เสียชีวิตเมื่อ ฮ.ศ. 337 อิบนิค็อลกาน กล่าวไว้ว่า ท่านเป็นนักตัฟซีรที่มีวิชาการที่ถูกต้องคนหนึ่งแห่งยุค โดยมีหลักฐานที่มาอย่างน่าเชื่อถือยิ่ง
72. จาก “อัลญัมอุ บัยนัศศิฮาฮิซ-ซิตตะฮฺ, “ศ่อฮีฮฺ-นะซาอี”, อิบนุฮะญัร ใน “เศาะวาอิก” และรายงานโดย อิบนุอะบิ้ลฮะดีด ใน “ชัรฮฺนะฮฺญุลบะลาเฆาะฮฺ”
73. จาก “อัด-ดุรรุลมันษูร” เล่ม 3 หน้า 119
74. จาก “ฟัตฮุลบารี” เล่ม 6 หน้า 31, “อัล-บิดายะตุ วัน-นิฮายะฮฺ” เล่ม 8 หน้า 102, “ซีรุอะอฺลาม อัน-นะบะลาอ์” ของซะฮะบี เล่ม 2 หน้า 436, “อัล-อิศอบะฮฺ” ของอิบนุฮะญัร เล่ม 3 หน้า 287
75. จาก “อัค-ดุรรุล มันษูร” ของญะลาลุดดีน อัซ-ซะยูฏี เล่ม 3 หน้า 3
76. อ้างแล้ว เล่มดิม
77. จาก “อัค-ดุรรุล มันษูร” ของญะลาลุดดีน อัซ-ซะยูฏี เล่ม 3 หน้า 4
78. อ้างแล้ว เล่มดิม
79. อ้างแล้ว เล่มดิม
80. นี่คือบทฮะดีษที่ได้ชื่อว่า ฮะดีษอัล-เฆาะดีร ซึ่งรายงานกันทั้งนักปราชญ์ชีอะฮฺและซุนนะฮฺ
81. อะฮฺมัด บินฮัมบัล รายงานไว้ใน “มุซนัด” เล่ม 4 หน้า 281, ท่านฏ็อบรีรายงานไว้ในตัฟซีรของท่าน, อัร-รอซีได้รายงานไว้ใน “ตัฟซีรอัล-กะบีร” เล่ม 3 หน้า 636, อิบนุฮะญัรได้รายงานไว้ใน “อัศ-ศ่อวาอิก”, ท่นดารุกุฏนี ท่านบัยฮะกี ก็ได้รายงานไว้
82. จาก “มุซนัดอะฮฺมัด บินฮัมบัล” เล่ม 4 หน้า 372
83. อัน-นะซาอี ใน “อัล-ค่อศออิศฺ” หน้า 21
84. จาก “มุซตัดร็อก อัล-ฮากิม” เล่ม 3 หน้า 109
85. จาก “ศ่อฮีฮฺมุสลิม” เล่ม 7 หน้า 122 บทว่าด้วย “ฟะฏออิล อะลี บินอะบีฏอลิบ” ขณะเดียวกันฮะดีษนี้ อิมามอะฮฺมัด ติรมิซี อิบนุอะซากิร และท่านอื่นๆ ก็ยังได้บันทึกไว้อีกด้วย
86. อิบนุฮะญัร ในหนังสือ ศ่อวาอิก หน้า 25 อ้านจากท่านฏ็อบรอนี และอัล-ฮะกีม ติรมิซี
87. “มุซนัดอิมามอะฮฺมัด บินฮัมบัล” เล่ม 4 หน้า 281, “กันซุล-อุมมาล” เล่ม 15 หน้า 117, “ฟะฏออิลุล-ค็อมซะฮฺ มิน ศิฮาฮุซซิตตะฮฺ” เล่ม 1 หน้า 350
88. หนังสือ “อัล-เฆาะดีร” ของอัล-ลามะฮฺ อามินี จำนวน 11 เล่ม เป็นหนังสือรวบรวมรายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับฮะดีษเฆาะดีรที่นักปราชญ์อะฮฺลิซซุนนะฮฺรายงานไว้
89. จาก “ศ่อฮีฮฺบุคอรี” และ “ศ่อฮีฮฺมุสลิม” ซึ่งได้รายงานถึงเรื่องความขัดแย้งของพวกเขาหลายครั้งต่อท่านนบี(ศ)เช่นในการทำสนธิสัญญาฮุดัยบียะฮฺ, ในเหตุการณ์วันพฤหัสฯ และเรื่องการแต่งตั้งอุซามะฮฺ และอื่นๆ อีกมาก
90. เพราะพวกเขาเชื่อว่าศ่อฮาบะฮฺเหมือนดวงดาว ถ้าพวกท่านปฏิบัติตาม พวกท่านจะได้รับทางนำ
91. อ่านหนังสือ “อับดุลลอฮฺ อิบนุซะบาอ์” ของอัลลามะฮฺ อัซกะรี ก็จะรู้ว่า เป็นผู้ไม่มีตัวตนจริง หากเป็นการกุขึ้นมาของซัยฟฺ บินอุมัร ตะมีมีซึ่งรู้จักกันในนามนักกุข่าว, หรืออ่านจากหนังสือ “อัลฟิตนะตุ้ลกุบรอ” ของฏอฮา ฮุเซน, หรือประสงค์จะอ่าน “อัศศิละฮฺ บัยนัตตะเศาวุฟ วัตตะชัยยุอฺ” ของดร.มุศฏอฟา กามิล ชัยบี
92. ทั้งนี้ก็เพราะอะฮฺลุลบัยตฺ(อฺ)นั้น มั่งคงในตัวเองด้วยจริยธรรมและความรู้ เป็นผู้มีเกียรติและฐานะสูงส่งในด้านตักวา มีคุณงามความดีจนเป็นที่รักของอัลลอฮฺ(ซ.บ.)
93. มีจนบุคอรีไม่อาจกล่าวถึงชื่อของเขาได้ เล่ม 1 หน้า 126, เล่ม 7 หน้า 18, เล่ม 5 หน้า 140 นักประวัติศาสตร์ กล่าวว่า เมื่อนางทราบข่าวการถูกสังหารของอะลี (อฺ) นางถึงกับซุญูด ขอบคุณอัลลอฮฺ(ซ.บ.) และได้กล่าวบทกวีในเรื่องนั้น
94. จาก “ศ่อฮีฮฺบุคอรี” เล่ม 4 หน้า 191,201
95. จาก “อัด-ดุรรุล มันษูร” ของญะลาลุดดีน อัซ-ซะยูฏี เล่ม 3 หน้า 18
96. จาก “ตารีคุลคุละฟาอ์” ของอิบนุ กุตัยบะฮฺ เรื่อง “การบัยอะฮฺต่ออะบูบักรฺทำกันอย่างไร” เล่ม 1 หน้า 6
97. ท่านอิบนุญะรีร อัฏ-ฏ็อบรี ได้บันทึกอย่างสมบูรณ์ในหนังสือ “อัล-วิลายะฮฺ” เช่นเดียวกับท่านซะยูฏีที่รายงานไว้ใน “อัด-ดุรรุล-มันษูร” เล่ม 2 หน้า 298 คุฏบะฮฺมีความหมายเดียวกันแต่ใช้ถ้อยคำต่างกัน
98. จาก “ตัฟซีร ฟัตฮุล-เกาะดีร” ของ อัช-เชากานี เล่ม 3 หน้า 57, ท่านญะลาลุดดีน ซะยูฏี ใน “อัด-ดุรรุล-มันษูร” เล่ม 2 หน้า 298 รายงานจากท่านอิบนุอับบาซ
99. ฮากิม หัสกานี จากอะบีซะอีด อัล-คุรี ตอนตัฟซีรโองการนี้, ฮาฟิซอะบูนะอีม อิศบะฮฺฮานีในหนังสือของท่าน “ข้อความจากอัล-กุรอานที่ถูกประทานมาในเรื่องอะลี”
100. รายงานเรื่องนี้กันทุกคน เช่น อิมามอะบีฮามิด อัล-เฆาะซาลี ในหนังสือของเขา “ซิรรุล-อาละมีน” หน้า 6, อิมามอะฮฺมัด บินฮัมบัล ใน “มุซนัด” เล่ม 4 หน้า 281, ฏ็อบรี (ในตัฟซีรของท่าน) เล่ม 3 หน้า 428, ษะอ์ละบี, ดารุกุฏนี, ฟัครุร-รอซี, อิบนุกะษีร และท่านอื่นๆ
101. ฮาฟิซอะบูนะอีม อิศบะฮานี ในหนังสือของเขา “ข้อความจากอัล-กุรอานที่ถูกประทานในเรื่องของอะลี”, เคาะวาริซมี อัล-มาลิกี ในหนังสือ “อัล-มะนากิบ” หน้า 80, อัล-กันญี ชาฟิอี ใน “กิฟายะตุฏ-ฏอลิบ”, ญะลาลุดดีน ซะยูฏี ในหนังสือของเขา “อัลอิซดิฮาร ฟีมาอะก่อดะฮุชชุอะรอ มินั้ลอัชอาร”
102. จาก “ตารีค ฏ็อบรี” เล่ม 5 หน้า 31, ตารีค อิบนุลอะษัร เล่ม 3 หน้า 31, ชะเราะฮฺ นะฮฺญุล-บะลาเฆาะฮฺ ของอิบนุอะบิ้ลฮะดีด เล่ม 2 หน้า 18
103. จาก “มุซนัดอะฮฺมัด บินฮัมบัล” เล่ม 4 หน้า 370, เล่ม 1 หน้า 119, อัน-นะซาอีใน “คอศออิศ” หน้า 19, “กันซุลอุมมาล” เล่ม 6 หน้า 397, อิบนุกะษีร(ตะรีค) เล่ม 5 หน้า 211, อิบนุอะษีร ใน “อุสะดุล-ฆอบะฮฺ” เล่ม 4 หน้า 28, อิบนุฮะญัร อิซก่อลานี ใน “อัล-อิศอบะฮฺ” เล่ม 2 หน้า 408
104. จาก “มัจมะอุซซะวาอิด” ของ “ฮัยษะมี” เล่ม 9 หน้า 106, อิบนุกะษีร ใน “ตารีค” เล่ม 5 หน้า 211, อะฮฺมัด บินฮัมบัล เล่ม 1 หน้า 119
105. อิบนุกะษีร ใน “อัล-บิดายะตุ วัน-นิฮายะฮฺ” เล่ม 5 หน้า 214
106. จาก “ศ่อฮีฮฺบุคอรี” เล่ม 8 หน้า 26 บทว่าด้วย “การขว้างผู้ผิดประเวณี”
107. จาก “ตารีคฏ็อบรี”, อิบนุอะษีร เรื่อง หลังจากอุมัร บินค็อฏฏอบตาย อุษมานก็ได้รับตำแหน่งค่อลีฟะฮฺ
108. จาก “ชะเราะฮฺนะฮฺญุลบะลาเฆาะฮฺ” ของมุฮัมมัด อับดุฮฺ เล่ม 1 หน้า 88
109. จาก “ตารีคฏ็อบรี” อิบนุอะษีร เรื่อง เหตุการณ์ เมื่อ ฮ.ศ. 36, “ชะเราะฮฺนะฮฺญุลบะลาเฆาะฮฺ” ของมุฮัมมัด อับดุฮฺ เล่ม 1 หน้า 88
110. ฏ็อบรี ในหนังสือ “ดะลาอิลุล-อิมามะฮฺ”
111. จาก “ศ่อฮีฮฺบุคอรี” เล่ม 4 หน้า 195
112. จาก “ศ่อฮีฮฺบุคอรี” เล่ม 8 หน้า 26, “ตารีคฏ็อบรี” , “ตารีคุ้ลคุละฟาอ์” ของอิบนุกุตัยบะฮฺ
113. จาก “ศ่อฮีฮฺบุคอรี” เล่ม 8 หน้า 28 บทว่าด้วย “อัลร็อจมุลฮับลี มินัซซินา อิซาอะฮฺศ่อนัต”
114. นักประวัติศาสตร์ล้วนกล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ไม่มีใครเข้าร่วมที่ซะกีฟะฮฺ นอกจากชาวมุฮาญิรีน 4 คน โปรดดู “ศ่อฮีฮฺบุคอรี” เล่ม 8 หน้า 26
115. จาก “ศ่อฮีฮฺบุคอรี” เล่ม 8 หน้า 26
116. อ้างแล้ว เล่มเดิม
117. อ้างแล้ว เล่มเดิม
118. จาก “ตารีคฏ็อบรี” ตอน การเป็นค่อลีฟะฮฺของอุมัร, “ชะเราะฮฺนะฮฺญุล-บะลาเฆาะฮฺ” ของอิบนุอะบิลฮะดีด
119. จาก “อัล-อิมามะฮฺ วัซ-ซิยาซะฮฺ” ของอิบนุกุตัยบะฮฺ เล่ม 1 หน้า 25
120. จาก “อัล-อิมามะฮฺ วัซ-ซิยาซะฮฺ” ของอิบนุกุตัยบะฮฺ เล่ม 1 หน้า 18
121. จาก “ศ่อฮีฮฺมุสลิม” เล่ม 5 หน้า 75 (กิตาบุล-วะศียะฮฺ), “ศ่อฮีฮฺบุคอรี” เล่ม 7 หน้า 9
122. จาก “ศ่อฮีฮฺบุคอรี” เล่ม 4 หน้า 195
123. จาก “ศ่อฮีฮฺบุคอรี” เล่ม 8 หน้า 28, “ตารีคุล-คุละฟาอ์” เล่ม 1 หน้า 19
124. จาก “ศ่อฮีฮฺบุคอรี” เล่ม 8 หน้า 25
125. “ฏอบะกอต” ของอิบนุซะอัด ได้บันทึกเรื่องนี้ และนักประวัติศาสตร์หลายท่านก็ได้บันทึกในหัวข้อเรื่อง “การจัดทัพของอุซามะฮฺ บินซัยดฺ
126. มุฮัมมัด อับดุฮฺ ใน “ชะเราะฮฺนะฮฺญุล-บะลาเฆาะฮฺ” เล่ม 1 หน้า 88
127. จาก “ศ่อฮีฮฺมุสลิม” บท “อัล-วะศียะฮฺ”
128. จาก “ศ่อฮีฮฺมุสลิม” เล่ม 6 หน้า 2,3 และ “ศ่อฮีฮฺบุคอรี” เล่ม 8 หน้า 27
129. อ้างแล้ว เล่มเดิม หน้าเดิม
130. จาก “ศ่อฮีฮฺบุคอรี” เล่ม 2 หน้า 81, “ศ่อฮีฮฺมุสลิม” บทว่าด้วย สนธิสัญญาฮุดัยบียะฮฺ
131. จาก “ศ่อฮีฮฺบุคอรี” เล่ม 2 หน้า 76
132. จาก “ศ่อฮีฮฺบุคอรี” เล่ม 1 หน้า 37
133. จาก “ศ่อฮีฮฺบุคอรี” เล่ม 1 หน้า 45 บทว่าด้วย “ผู้ใดพบอัลลอฮฺด้วยความมีอีหม่าน เขาจะได้เข้าสวรรค์โดยไม่ต้องสงสัย”
134. จาก “ศ่อฮีฮฺมุสลิม” เล่ม 1 หน้า 61
135. จาก “ศ่อฮีฮฺบุคอรี” เล่ม 3 หน้า 168
136. จาก “มุซนัดอะฮฺมัด” เล่ม 5 หน้า 25, “มุซตัดร็อกฮากิม” เล่ม 3 หน้า 124
137. จาก “อัลมุซตัดร็อก” ของฮากิม เล่ม 3 หน้า 126
138. จาก “มุนตะค็อบ กันซุล-อุมมาล” เล่ม 5 หน้า 34
139. จาก “อัร-รยาฏุน-นัฏเราะฮฺ” ในเรื่อง “มะนากิบ อะชะเราะฮฺ ของฏ็อบรี (บท “ฟาฏออิล ของอิมามอะลี บินอะบีฏอลิบ”)
140. จาก “ศ่อฮีฮฺบุคอรี” เล่ม 4 หน้า 144, เล่ม 8 หน้า 151
141. จาก “ศ่อฮีฮฺบุคอรี” เล่ม 7 หน้า 209, “ศ่อฮีฮฺมุสลิม” บทว่าด้วย “อัล-เฮาฏ์”
142. จาก “ซุนันอิบนุมาญะฮฺ” หมวดว่าด้วย “อัลฟิตัน” เล่ม 2 ฮะดีษ ที่ 3993, “มัซนัดอะฮฺมัด” เล่ม 3 หน้า 120, “ซุนันติรมิซี” ในบทว่าด้วย “อัลอิมาน”
143. จาก “มะนากิบ” ของค่อวาริซมี หน้า 48, “อัล-อิซตีอาบ” เล่ม 3 หน้า 39, “ตัซกิเราะตุซซับฏ์” หน้า 87, “มะฏอลิบุซ-ซุอูล” หน้า 13, “ฟัยฏุล-กอดีร” เล่ม 4 หน้า 357
144. จาก “ศ่อฮีฮฺบุคอรี” เล่ม 4 หน้า 5,12, เล่ม 5 หน้า 76,77 และ “ศ่อฮีฮฺมุสลิม” เล่ม 7 หน้า 121 หมวดว่าด้วย “ฟะฏออิลุอะลี บินอะบีฏอลิบ”
145. จาก “มะนากิบค่อวาริซมี” หน้า 58, “ตัซกิเราะตุซ-ซับก์” หน้า 87
146. 88-90 จาก “ชะเราะฮฺ นะฮฺญุลบะลาเฆาะฮฺ” ของอิบนุอะบิลฮะดีด
147. จาก “ตารีค ฏ็อบรี” เล่ม 2 หน้า 319, “ตารีค อิบนุลอะษีร เล่ม 2 หน้า 62
148. จาก “ศ่อฮีฮฺมุสลิม” เล่ม 7 หน้า 120, “ศ่อฮีฮฺบุคอรี” บทว่าด้วย “ฟะฏออิลุอะลี”
149. จาก “มุซตัดร็อก ฮากิม” เล่ม 3 หน้า 128
150. จาก “ซีเราะฮฺ ฮะละบียะฮฺ”, “ฏ่อบะกอตอิบนุซะอฺด
151. จาก “กันซุล-อุมมาล” เล่ม 6 หน้า 392 ฮะดีษ 6009, “ยะนาบีอุ้ลมะวัดดะฮฺ” หน้า 73
152. จาก “มุซตัดร็อก ฮากิม” เล่ม 3 หน้า 122, “ตารีคดิมิชกฺ” ของอิบนุอะซากิร เล่ม 2 หน้า 488
153. ทำนองเดียวกับฮะดีษที่ว่าด้วยการปฏิบัติตามแนวทางของพวกยิวและนัศรอนีทีละคืบทีละศอกจนกระทั่งเข้าไปในรูแย้ และพวกเขาก็ติดตามไปด้วย รายงานโดยบุคอรีและมุสลิม
154. เช่นโองการของอัลลอฮฺ(ซ.บ.)ที่ว่า “ถ้าหากเขาได้ตายหรือถูกสังหาร สูเจ้าก็จะหวนกลับไปสู่สภาพเดิมของพวกสูเจ้า” (อาลิอิมรอน / 144) และ (อัล-ฟุรกอน / 30)
155. จาก “ศ่อฮีฮฺบุคอรี” เล่ม 7 หน้า 10, “ศ่อฮีฮฺมุสลิม” หมวดว่าด้วย “ศิฟาต มุนาฟิกีน”
156. ท่านครูได้ชี้แจงถึงเรื่องการมีชัยชนะในอัฟริกาเหนือ เมื่อสมัยอุษมาน บินอัฟฟาน เพราะถ้าหากไม่มีชัยชนะในครั้งนั้น พวกเราจะต้องไม่รู้จักอิสลาม
157. ฏ็อบรี, อิบนุลอะษีร, ยะอฺกูบี และ มัซอูดี รวมทั้งนักประวัติศาสตร์ทุกคนต่างกล่าวถึงเรื่องที่ท่านหญิงอาอีชะฮฺออกมาทำสงครามญะมัล
158. จาก “ตารีคฏ็อบรี” เล่ม 5 หน้า 153 “ตารีค อิบนุกะษีร” เล่ม 7 หน้า 227, “ตารีค ยะอฺกูบี” เล่ม 2 หน้า 127
159. ตารีค อิบนุกะซีร เล่ม 8 หน้า 131, มักอติล อัต-ตอลิบีน หน้า 70, ชะเราะฮฺ นะฮฺญุล-บะลาเฆาะฮฺ อิบนุอะบีฮะดีด เล่ม 4 หน้า 16
160. จาก “ตารีค ฏ็อบรี” ตอน ตำแหน่งค่อลีฟะฮฺของอุษมาน บินอัฟฟาน, “ตารีคอิบนุลอะษัร” ตอน การเป็นค่อลีฟะฮฺของอุษมาน บินอัฟฟาน
161. จาก “ตารีค ฏ็อบรี”, “ตารีค อิบนุอะษีร”
162. ท่านอัมมาร บินยาซิร ถูกเฆี่ยนตีจนฟกช้ำ ใช้เวลารักษานานอยู่หลายเดือน
163. ท่านอะบูซัร ฆ็อฟฟารี ถูกเนรเทศ และเสียชีวิตอยู่คนเดียว ขณะที่ถูกขับไล่ออกจากเมือง
164. ท่านอับดุลลอฮฺ บินมัซอูด ถูกทุบตีจนกระดูกหัก ทั้งหมดนี้มีบันทึกอยู่ในตำราประวัติศาสตร์อิสลามทุกเล่ม
165. ข้อนี้แสดงให้เห็นว่า ชาวอาหรับที่อาศัยอยู่นอกเขตเมืองมะดีนะฮฺนั้นชิงชังท่านอะลี เช่นเดียวกับที่ไม่รักท่านนบีมุฮัมมัด จะเห็นได้ว่า เขาเข้าพบท่านนบีโดยมิได้ให้สลาม และเรียกชื่อเฉยๆ สมจริงตามที่อัลลอฮฺ(ซ.บ.)ตรัสว่า พวกอาหรับนั้นปฏิเสธและละเมิดอย่างรุนแรง โดยไม่รับรู้ในกฏเกณฑ์ของอัลลอฮฺที่ประทานมายังศาสนทูตของพระองค์(ศ)
166. จาก “ชะวาฮิดุต-ตันซีล” ของฮัซกานี เล่ม 2 หน้า 286, “ตัฟซีรษะอฺละบี” ในซูเราะฮฺ “ซะอะละ ซาอิลุนฯ”, “ตัฟซีรกุรฏุบี” เล่ม 18 หน้า 278, “ตัฟซีร อัล-มะนาร” ของ รอชีดริฎอ เล่ม 6 หน้า 464, “ยะนาบีอุล-มะวัดดะฮฺ” ของก็อนดูซี หน้า 723, “อัลมุซตัดร็อก” ของฮากิม เล่ม 2 หน้า 502, “อัซซีเราะตุลฮะลีบียะฮฺ” เล่ม 3 หน้า 275
167. “อัล-มะอาริฟ” ของอิบนุกุตัยบะฮฺ หน้า 251
168. “มุซนัด อะฮฺมัด บินฮัมบัล” เล่ม 1 หน้า 119
169. “อันซาบุล-อัชรอฟ” ของบะลาซุรี เล่ม 1 และ เล่ม 2 หน้า 152
170. “ตารีคดิมชกฺ” เล่ม 2 หน้า 7, “อะบะกอตุ้ลอันวาร” เล่ม 2 หน้า 309
171. ดังกรณีที่ท่านอิมามอะลี(อฺ)เรียกให้ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์อัลเฆาะดีรลุกขึ้นกล่าวยืนยัน และนักประวัติศาสตร์จำนวนไม่น้อยที่กล่าวถึงเรื่องนี้ ตามที่ได้ยกมากล่าวแล้ว
172. จาก “ตารีค อิบนุอะซากิร” เล่ม 3 หน้า 5, “มะนากิบ ค่อวาริซมี” หน้า 42
173. จาก “ยะนาบีอุล-มะวัดดะฮฺ” เล่ม 2 หน้า 3 อ้างจากอัด-ดัยละมี
174. บุคอรี, มุสลิม รายงานถึงจำนวน ส่วน “ยะนาบีอุลมะวัดดะฮฺ” ระบุถึงจำนวนและรายนามด้วย
175. จาก “ศ่อฮีฮฺมุสลิม” เล่ม 8 หน้า 44
176. จากซูเราะฮฺ อัมบิยาอ์ / 23
177. จากซูเราะฮฺ อัล-บุรุจญ์ / 16
178. จากซูเราะฮฺ อัน-นิซาอ์ / 40
179. จาก “ศ่อฮีฮฺบุคอรี” เล่ม 7 หน้า 75
180. จาก “ตารีคฏ็อบรี” ตอน การปิดล้อมอุษมาน และ “ตารีค อิบนุลอะษีร”
181. จาก “มะกอฏิลุฏอลิบีน” หน้า 70, อิบนุกะษีร เล่ม 8 หน้า 131, อิบนุอะบิลฮะดีด เล่ม 3 หน้า 16
182. จาก “อัล-อิมามะฮฺ วัซ-ซิยาซะฮฺ” เล่ม 1 หน้า 151, สั่งให้เอาบัยอะฮฺของมุอาวิยะฮฺเพื่อ ยะซีด ในเมืองซีเรีย
183. จาก “มะกอฏิลุฏ-ฏอลิบีน” ตอนสังหารท่านฮุเซน
184. เช่น ชะฮีด มุฮัมมัด บาเก็ร อัศ-ศ็อดรฺ, ท่านเป็นผู้หนึ่งที่ให้คุณประโยชน์แก่ข้าพเจ้าในเรื่องนั้นมากมาย ท่านซัยยิด อัล-คูอี และอัลลามะฮฺ มุฮัมมัด ฏ่อบาฏ่อบาอี และ ท่านซัยยิดฮะกีม และอื่นๆ อีก
185. จาก “ชะเราะฮฺ นะฮฺญุลบะลาเฆาะฮฺ” ของเชคมุฮัมมัด อับดุฮฺ เล่ม 4 หน้า 673
186. เป็นความเชื่อของชีอะฮฺ ในเรื่อง “ก่อฎอ-ก่อดัร”
187. จาก “อุกดุล-ฟะรีด” ของอิบนุ อับดุร็อบะฮฺ เล่ม 3 หน้า 42
188. อิบนุฮะญัร ใน “อัศ-ศ่อวาอิก” หน้า 148, “มัจมุอุซ-ซะวาอิด” เล่ม 9 หน้า 163, “ยะนาบีอุล-มะวัดดะฮฺ” หน้า 41, “อัด-ดุรรุล-มันษูร ของซะยูฏี เล่ม 2 หน้า 60, “กันซุล-อุมมาล” เล่ม 1 หน้า 168, “อุซะดุ้ลฆอบะฮฺ” เล่ม 3 หน้า 137
189. จาก “มุซตัดร็อก อัล-ฮากิม” เล่ม 3 หน้า 148
190. จาก “ศ่อฮีฮฺบุคอรี” เล่ม 8 หน้า 137
191. จาก “ศ่อฮีฮฺบุคอรี” เล่ม 3 หน้า 168, “ศ่อฮีฮฺติรมิซี” , “ศ่อฮีฮฺมุสลิม” , “ศ่อฮีฮฺอิบนุมาญะฮฺ” หมวดว่าด้วย “อัล-วะศ่อยา”
192. จาก “ศ่อฮีฮฺบุคอรี” บทว่าด้วย การป่วยของนบีและการวะฟาต เล่ม 5 หน้า 138
193. จาก “ศ่อฮีฮฺบุคอรี” เล่ม 8 หน้า 36, “ศ่อฮีฮฺมุสลิม” เล่ม 1 หน้า 67
194. จาก “ศ่อฮีฮฺบุคอรี” หมวดว่าด้วย ความรู้ เล่ม 1 หน้า 36
195. อัล-กิซฏ่อลานี ใน “อิรชาดุซ-ซารี” เล่ม 10 หน้า 298, อิบนุฮะญัร ใน “ฟัตฮุล-บารี” เล่ม 13 หน้า 230
196. จาก “ตัฟซีรอิบนุญะรีร” เล่ม 3 หน้า 38, “กันซุล-อุมมาล” เล่ม 1 หน้า 287, “อัล-มุซตัดร็อก” เล่ม 2 หน้า 14, “ตัฟซีร อัล-กิชาฟ” เล่ม 3 หน้า 253, อิบนุตัยมียะฮฺ ในบทนำของ “อุศูลุตตัฟซีร” หน้า 30, “ตัฟซีรอิบนุกะษีร” เล่ม 4 หน้า 473
197. จาก “ศ่อฮีฮฺบุคอรี” เล่ม 2 หน้า 232 บทว่าด้วย ผู้ถือศีลอดที่ตื่นเช้าในสภาพมีญุนุบ, “มุวัฏเฏาะ” ของอิมามมาลิก เล่ม 1 หน้า 272 (เรื่องการตื่นเช้าในสภาพมีญุนุบในเดือนร่อมะฎอน)
198. จาก “ศ่อฮีฮฺบุคอรี” เล่ม 7 หน้า 31 หมวดว่าด้วย “ลาฮามะฮฺ”
199. จาก “ศ่อฮีฮฺมุสลิม” เล่ม 3 หน้า 61, “ศ่อฮีฮฺบุคอรี” เล่ม 5 หน้า 86
200. จาก “ศ่อฮีฮฺมุสลิม” เล่ม 10 หน้า 31, “มุวัฏเฏาะฮฺ อิมามมาลิก” เล่ม 2 หน้า 116
201. จาก “ศ่อฮีฮฺมุสลิม” เล่ม 10 หน้า 31, บางฉบับอยู่ในเล่ม 4 หน้า 167
202. จาก “ศ่อฮีฮฺมุสลิม” เล่ม 10 หน้า 31(เรื่องการให้นม)
203. อ้างเล่มเดิม
204. จาก “ศ่อฮีฮฺมุสลิม” เล่ม 10 หน้า 32 อีกฉบับหนึ่งอยู่ในเล่ม 4 หน้า 170, “ศ่อฮีฮฺบุคอรี” เล่ม 3 หน้า 150
205. ขัดแย้งกันในเรื่องการจะทำสงครามกับพวกที่ไม่ยอมจ่ายซะกาต
206. ในเรื่องที่ดินฟะดัก ฮะดีษที่ว่า พวกเราชาวอัมบิยาอ์ ไม่มีมรดก อันใดที่เราละทิ้งไว้ถือว่าเป็นทาน
207. เรื่องการให้นมคนมีอายุแล้ว ซึ่งท่านหญิงอาอิชะฮฺรายงาน แต่ภริยาทั้งหลายของนบีคัดค้าน
208. เรื่องท่านนบี(ศ)ตื่นนอนในสภาพมีญุนุบแล้วถือศีลอด
209. เรื่องการทำอุมเราะฮฺของท่านนบี(ศ) 4 ครั้ง มี 1 ครั้งที่ทำในเดือนเราะญับ และการปฏิเสธของท่านหญิงอาอิชะฮฺ
210. ทั้งสองคนขัดแย้งกันในเรื่องมุตอะฮฺว่าฮะรอมหรือฮะลาล ดู “ศ่อฮีฮฺบุคอรี” เล่ม 6 หน้า 129
211. ค่อวาริซมี ใน “อัลมะนากิบ” หน้า 44, “อัลอิศอบะฮฺ” ของอิบนุฮะญัร เล่ม 1 หน้า 25, “กิฟายุฏฏอลิบ” หน้า 334 , “อิฮฺกอกุ้ลฮัก” เล่ม 6 หน้า 37
212. “มุซตัดร็อก อัลฮากิม” เล่ม 3 หน้า 122, “ตารีคดิมิชกฺ” ของอิบนุอะซากิร เล่ม 2 หน้า 488, “กันซุลฮะกออิก” ของมะนาวี หน้า 203, “ยะนาบีอุ้ลมะวัดดะฮฺ” หน้า 182
213. จาก “มุซนัด อิมามอะฮฺมัด บินฮัมบัล” เล่ม 5 หน้า 122, “อัด-ดุรรุล-มันษูร” เล่ม 2 หน้า 60, “กันซุล-อุมมาล” เล่ม 1 หน้า 154, “มัจญมะอุซ-ซะวาอิด” เล่ม 9 หน้า 162, “ยะนาบีอุล-มะวัดดะฮฺ” หน้า 38,183, “อะบะกอตุล-อันวาร” เล่ม 1 หน้า 16, “อัล-มุซตัดร็อก” เล่ม 3 หน้า 148
214. จาก “ศ่อฮีฮฺบุคอรี” เล่ม 4 หน้า 44
215. อิมามชัรฟุดดีนได้รวบรวมประเด็นต่างๆ เกี่ยวกับปัญหาตีความบทบัญญัติอันชัดแจ้งมากกว่าร้อยเรื่องในหนังสือ “อันนุศศุ วั้ลอิจญ์ติฮาด”
216. จาก “ศ่อฮีฮฺบุคอรี” เล่ม 2 หน้า 137 บทว่าด้วย กรุสมบัติคือ อัล-คุมซฺ
217. จาก “ศ่อฮีฮฺบุคอรี” เล่ม 2 หน้า 136 บทว่าด้วย สิ่งของที่ถูกนำออกมาจากทะเล
218. จาก “ตารีคบัฆดาด” ของท่านคอฏีบ อัล-บัฆดาดี เล่ม 14 หน้า 321, “ตารีคอิบนุอะซากิร” เล่ม 3 หน้า 119
219. (หมายเหตุจากผู้แปล) ดร.ติญานีเขียนหนังสือเล่มนี้ตั้งแต่สมัยที่อิมามโคมัยนี(ร.ฎ.) และอายะตุลลอฮฺคูอี(ร.ฏ.)ยังมีชีวิตอยู่ แต่ในปัจจุบันนี้ท่านทั้งสองเสียชีวิตไปแล้ว
220. ดังที่ท่านซะมัคชะรีได้รายงานไว้ในหนังสือ “รอบีอุลอับรอร” ว่า คนแรกที่สวมแหวนมือซ้าย ซึ่งขัดแย้งกับซุนนะฮฺนบีได้แก่ มุอาวียะฮฺ บินอะบูซุฟยาน
221. จาก “มินฮาญุซซุนนะฮฺ” ของอิบนุตัยมิยะฮฺ เล่ม 2 หน้า 143 (เรื่องความคล้ายคลึงกับพวกเราะวาฟิฎ)
222. จาก “ชะเราะฮฺ อัล-มะวาฮิบ” ของท่านซัรกอนี เล่ม 5 หน้า 13
223. ซะมัคชะรีบันทึกไว้ในหนังสือ “เราะบีอุล-อับรอร”
224. จาก “ศ่อฮีฮฺบุคอรี” เล่ม 7 หน้า 99 บทว่าด้วยเรื่องไม่อนุญาตให้ใช้ความทุจริตและความรุนแรงเพื่อคำสั่งของอัลลอฮฺ(ซ.บ.)
225. จาก “ศ่อฮีฮฺบุคอรี” เล่ม 2 หน้า 252 บทว่าด้วย นมาซตัรวีฮฺ
226. จาก “ศ่อฮีฮฺบุคอรี” เล่ม 7 หน้า 99 บทว่าด้วยเรื่อง ไม่อนุญาตให้ใช่ความทุจริตและความรุนแรงเพื่อคำสั่งของอัลลอฮฺ(ซ.บ.)
227. จาก “ศ่อฮีฮฺบุคอรี” เล่ม 2 หน้า 35
228. จาก “ศอวาอิก” ของอิบนุฮะญัร หน้า 106, “ซะคออิรุลอะก่อบา” หน้า 64, “อัล-ริยาฏุนนะฏ่อเราะฮฺ” เล่ม 2 หน้า 215, “อิฮฺกอกุ้ลฮัก” เล่ม 7 หน้า 217
229. จาก “อะกออิดุล-อิมามียะฮฺ” เล่ม 67 หัวข้อที่ 24
230. จาก “อัล-อุดดุลฟะรีด” ของอิบนุ อับดุร็อบบะฮฺ เล่ม 3 หน้า 42
231. จาก “ศ่อฮีฮฺติรมิซี” เล่ม 5 หน้า 328, ฮากิม ในหนังสือ “มุซตัดร็อก” เล่ม 3 หน้า 148, อิมามอะฮฺมัด บินฮัมบัล ในหนังสือ “มุซนัด” ของท่าน เล่ม 5 หน้า 189
232. จาก “มุซตัดร็อก” ของท่านฮากิม เล่ม 2 หน้า 343, “กันซุล-อุมมาล” เล่ม 5 หน้า 95, “อัศ-ศอวาอิก” ของอิบนุฮะญัร หน้า 184
233. จาก “กันซุล-อุมมาล” เล่ม 6 หน้า 155, “มัจญมะอุซ-ซะวาอิด” ของฮัยษุมี เล่ม 9 หน้า 108, “อัล-อิศอบะฮฺ” ของอิบนุฮะญัร, “ญามิอุลกะบีร”, “ตารีค อิบนุอะซากิร” เล่ม 2 หน้า 99, “มุซตัดร็อก” ของท่านฮากิม เล่ม 3 หน้า 128, “ฮิลยะตุล-เอาลิยาอฺ” เล่ม 4 หน้า 349, “อิฮฺกอกุ้ล-ฮัก” เล่ม 5 หน้า 108
234. จาก “ตัฟซีรฏ็อบรี” เล่ม 13 หน้า 108, “ตัฟซีรรอซี” เล่ม 5 หน้า 271, “ตัฟซีร อิบนุกะษีร” เล่ม 2 หน้า 502, “ตัฟซีรเชากานี” เล่ม 3 หน้า 70, “ตัฟซีรซะยูฏี อัดดุรรุล-มันษูร” เล่ม 4 หน้า 45, “ชะวาฮิดุตตัซซีล” เล่ม 1 หน้า 293
235. จาก “นะฮฺญุล บะลาเฆาะฮฺ” ของท่านอิมามะลี(อฺ) เล่ม 1 หน้า 155 ท่านเชคมุฮัมมัด อับดุ ได้มีหมายเหตุอธิบายคุฏบะฮฺตอนนี้ว่า บรรดาอิมามแห่งอะฮฺลุลบัยตฺ(อฺ)นั้นถึงจะตายเป็นมัยยิต แต่ในความเป็นจริงแล้ว หาใช่มัยยิตไม่
236. จาก “ยะนาบีอุล-มะวัดดะฮฺ” เล่ม 3 หน้า 99
237. จาก “ศ่อฮีฮฺบุคอรี” กิตาบุล-อะฮฺกาม เล่ม 8 หน้า 127
238. จาก “อัล-อักดุล-ฟะรีด” ของ อิบนุอับดุร ร็อบบะฮฺ เล่ม 3 หน้า 42
239. จาก “อัศ-ศ่อวาอิก” ของอิบนิฮะญัร หน้า 148, “อัด-ดุรรุล-มันษูร” ของซะยูฏี เล่ม 2 หน้า 60, “กันซุล-อุมมาล” เล่ม 1 หน้า 168, “อุซะดุล-ฆอบะฮฺ” เล่ม 3 หน้า 137
240. จาก “นะฮฺญุล บะลาเฆาะฮฺ” เล่ม 2 หน้า 143, “ซะเราะฮฺมุฮัมมัดอับดุฮฺ คุฏบะฮฺที่ 143
241. จาก “ตัฟซีรฏ็อบรี” เล่ม 14 หน้า 134, “ตัฟซีรอิบนุกะษีร” เล่ม 2 หน้า 570, “ตัฟซีรกุรฏุบี” เล่ม 11 หน้า 272, “ชะวาฮิดุต-ตันซีล” เล่ม 1 หน้า 334
242. “มะนากิบอาลิอะบีฏอลิบ” เรื่องท่านอิมามศอดิก
243. ญะลาลุดดีน ซะยูฏี ใน “อัด-ดุรรุล-มันษูร” เล่ม 4 หน้า 661
244. จาก “ศ่อฮีฮฺบุคอรี” เล่ม 4 หน้า 78 หมวดว่าด้วย “บะดะอุล-ค็อลกฺ” บทว่าด้วย “ซิกรุรมะลาอิกะฮฺ”
245. จาก “ศ่อฮีฮฺบุคอรี” เล่ม 4 หน้า 250 บทว่าด้วย “อัลมิอฺรอจญ์” , “ศ่อฮีฮฺมุสลิม” เล่ม 1 หน้า 101 บทว่าด้วย “อัลอิสรออ์ของท่านร่อซูลุลลอฮฺและการกำหนดการนมาซ
246. อ้างเล่มเดียวกัน
247. จาก “ศ่อฮีฮฺบุคอรี” เล่ม 2 หน้า 259
248. จาก “อัด-ดุรรุล-มันษูร” ของท่านซะยูฏี
249. จาก “ซุนันบัยฮะกี” , “มุซตัดร็อก ฮากิม”
250. ท่านซะยูฏี ในหนังสือ “อัด-ดุรรุล-มันษูร” เล่ม 2 หน้า 176
251. จาก “อัฏ-ฏอบากอตุลกุบรอ” ของอิบนุ ซะอัด
252. จาก “ซุนันบัยฮะกี”
253. จาก “อัด-ดุรรุล-มันษูร” ของซะยูฏี เล่ม 2 หน้า 178
254. จาก “ศ่อฮีฮฺบุคอรี” เล่ม 7 หน้า 102
255. จาก “อัซ-ซีเราะตุลฮะละบียะฮฺ” เล่ม 3 หน้า 61
256. จาก “อิฮฺยาอุล-อุลูมุล-ดีน” ของท่านเฆาะซาลี
257. จาก “อะฮฺกามุล-กุรอาน” ของอัร-รอซี เล่ม 2 หน้า 10
258. จาก “ศ่อฮีฮฺบุคอรี” เล่ม 7 หน้า 81 บทว่าด้วยเรื่องนบี(ศ) มิใช่คนชั่ว และไม่มีความชั่วติดตัว
259. จาก “ศ่อฮีฮฺมุสลิม” เล่ม 4 หน้า 158
260. จาก “ ศ่อฮีฮฺบุคอรี” เล่ม 5 หน้า 158
261. จาก “ศ่อฮีฮฺมุสลิม” เล่ม 4 หน้า 131
262. อ้างเล่มเดิม
263. จาก “ตัฟซีรอัล-กะบีร” ของษะอฺละบี, “ตัฟซีรอัล-กะบีร” ของฏ็อบรี
264. จาก “ตัฟซีรอัล-กะบีร” ของฟัครุลรอซี
265. จาก “มุซนัดอะฮฺมัด บินฮัมบัล” เล่ม 1 หน้า 337
266. จาก “ศ่อฮีฮฺติรมิซี” เล่ม 1 หน้า 157
267. จาก “อัตะฮฺรีร วัตตันวีร” ของฏอฮิร บินอาชูร เล่ม 3 หน้า 5
268. หนังสือฟัศลุล-คิฏอบ มิได้อ้างถึงหลักฐานจากชีอะฮฺแต่อย่างใด ขณะเดียวกันได้อ้างถึงรายงานต่างๆ อันว่าด้วยความบกพร่องและการต่อเติมในอัล-กุรอาน ล้วนแต่รายงานโดยหนังสือศ่อฮีฮฺของฝ่ายอะฮฺลิซซุนนะฮฺ วัล-ญะมาอะฮฺ เช่น บุคอรี มุสลิม และมุซนัดอะฮฺมัด บินฮัมบัล
269. ข้อเขียนของอุซตาซมุฮัมมัด มะดะนี คณบดีกฎหมายอิสลาม มหาวิทยาลัยอัล-อัซฮัร ในวารสาร ริซาละฮฺอิสลาม ฉบับที่ 4 ปีที่ 11 หน้า 382 และ 383
270. ท่านซะยูฏี ในหนังสือ “อัล-อิตกอน” และเช่นกัน ใน “อัด-ดุรรุล-มันษูร”
271. จาก “มุซนัด อิมามอะอฺมัด บินฮัมบัล” เล่ม 5 หน้า 132
272. จาก “ศ่อฮีฮฺบุคอรี” เล่ม 2 หน้า 252
273. จาก “มุซนัด อิมามอะฮฺมัด บินฮัมบัล” เล่ม 5 หน้า 131
274. จาก “ตารีคดะมิชกฺ” ของอิบนุอะซากิร เล่ม 2 หน้า 228
275. จาก “ศ่อฮีฮฺบุคอรี” เล่ม 4 หน้า 215
276. จาก “ศ่อฮีฮฺบุคอรี” เล่ม 4 หน้า 216
277. จาก “ศ่อฮีฮฺบุคอรี” เล่ม 8 หน้า 26(การขว้างคนทำซินา ถ้ามีคู่ครองแล้ว)
278. จาก “ศ่อฮีฮฺมุสลิม” เล่ม 3 หน้า 100
279. จาก “มุซนัด อิมามอะฮฺมัด บินฮัมบัล” เล่ม 1 หน้า 221
280. จาก “มุวัฏเฏาะ” ของอิมามมาลิก เล่ม 1 หน้า 161
281. จาก “ศ่อฮีฮฺมุสลิม” เล่ม 2 หน้า 151 บทว่าด้วย รวมสองนมาซในยามพำนักอยู่ภูมิลำเนา
282. จาก “ศ่อฮีฮฺมุสลิม” เล่ม 2 หน้า 152
283. จาก “ศ่อฮีฮฺมุสลิม” เล่ม 2 หน้า 152
284. จาก “ศ่อฮีฮฺบุคอรี” เล่ม 1 หน้า 140 บทว่าด้วย เวลามัฆริบ
285. จาก “ศ่อฮีฮฺบุคอรี” เล่ม 1 หน้า 138 บทว่าด้วย เวาลาอัศริ
286. มีนิทานเรื่องหนึ่งเล่ากันว่า ผู้ชายสองคนได้ออกไปล่าสัตว์ และได้เห็นสัตว์สีดำตัวหนึ่งตั้งแต่ไกล ชายคนแรกกล่าวว่า “แท้จริงนั่นคืออีกา” แต่ชายคนที่สองแย้งว่า “มันคือลูกกวางต่างหาก” ทั้งสองคนก็โต้เถียงกัน ต่างฝ่ายต่างก็ยึดถือความคิดเห็นของตัวเองไม่ยอมแพ้แก่กัน แต่ทว่าเมื่อพวกเขาทั้งสองเข้าไปใกล้ๆ กับสัตว์ตัวสีดำนั้น ก็ปรากฏว่ามันเป็นอีกาจริง มันตกใจกลัว และบินหนีไปอย่างรวดเร็ว ชายคนแรกกล่าวว่า “เห็นไหม ฉันบอกท่านแล้วว่ามันเป็นอีกา บัดนี้ท่านยอมรับแล้วหรือยัง” แต่เพื่อนของเขาก็ยังยืนยันตามความเห็นของตัวเองอีกนั่นแหละ เขากล่าวว่า “ซุบฮานัลลอฮฺ ลูกกวางบินได้หรือนี่ ?”
287. จาก “ศ่อฮีฮฺมุสลิม” เล่ม 1 หน้า 168 บทว่าด้วย อนุญาตให้คนมีระดูล้างศีรษะของสามีได้, “ซุนันอะบูดาวูด” เล่ม 1 หน้า 68 บทว่าด้วย คนมีระดูเอาของจากมัสญิด
288. จาก “ศ่อฮีฮฺบุคอรี” เล่ม 2 หน้า 256 บทว่าด้วย การอิอ์ติกาฟในสิบคืนสุดท้าย
289. จาก “ซุนันอิมามนะซาอี” เล่ม 2 หน้า 204 บทว่าด้วย การทำให้กรวดทรายเย็นเสียก่อน เพื่อซุญูดลงไป
290. จาก “ศ่อฮีฮฺบุคอรี” เล่ม 1 หน้า 86 บทว่าด้วย ตะยัมมุม
291. จาก “ศ่อฮีฮฺมุสลิม” เล่ม 2 หน้า 64 บทว่าด้วย สถานที่ซุญูดและสถานที่นมาซ
292. จาก “มุซตัดร็อก” ของฮากิม เล่ม 3 หน้า 123, “ตารีคดะมิชกฺ” ของอิบนุอะซากิร” เล่ม 2 หน้า 234, “อัตตารีคุ้ลกะบีร” ของบุคอรี เล่ม 2 หน้า 281
293. จาก “มุซตัดร็อก อัล-ฮากิม” เล่ม 3 หน้า 128
294. จาก “ศ่อฮีฮฺมุสลิม” เล่ม 1 หน้า 48, “กันซุล-อุมมาล” เล่ม 15 หน้า 105
295. จาก “ตัฟซีร อัล-กะบีร” ของษะอฺละบี โองการมะวัดดะฮฺ, “ตัฟซีรอัล-กิชาฟ” ของท่านซะมัคชะรี, “ตัฟซีรอัล-ฟัครุล-รอซี” เล่ม 7 หน้า 405
296. จาก “ศ่อฮีฮฺบุคอรี” เล่ม 4 หน้า 20,76 และ “ศ่อฮีฮฺมุสลิม” เล่ม 7 หน้า 120
297. จาก “ศ่อฮีฮฺบุคอรี” เล่ม 1 หน้า 9 บทว่าด้วย วาญิบให้รักท่านศาสนทูตแห่งอัลลอฮฺ(ศ), “ศ่อฮีฮฺมุสลิม” เล่ม 1 หน้า 49, และมีใน “ศ่อฮีฮฺติรมิซี” เช่นกัน
298. เช่น ท่านชะฮีด มุฮัมมัดบากิร อัศ-ศ็อดร์ ในหนังสือ “บะฮฺษุ เฮาลัลมะฮฺดี”
299. จาก “ซุนันอะบูดาวูด” เล่ม 2 หน้า 422
300. จาก “ซุนันอิบนุมาญะฮฺ” เล่ม 2 เลขฮะดีษ 4082,4087
301. จาก “ซุนันอิบนุมาญะฮฺ” เล่ม 2 เลขฮะดีษ 4086
302. จาก “อัลญามิอุศศอฮีฮฺ” ของติรมิซี เล่ม 9 หน้า 74-75
303. จาก “ศ่อฮีฮฺบุคอรี” เล่ม 4 หน้า 143 บทว่าด้วย การเสด็จลงมาของอีซา บุตรมัรยัม
304. จาก “ฟัตฮุล-บารี” เล่ม 5 หน้า 362
305. จาก “อัศศอวาอิกุ้ล-มุฮัรร่อเกาะฮฺ” ของอิบนุฮะญัร เล่ม 2 หน้า 211
๒๗