ชีวประวัติอิมามฮุเซน

ชีวประวัติอิมามฮุเซน0%

ชีวประวัติอิมามฮุเซน ผู้เขียน:
กลุ่ม: ห้องสมุดศาสดาและวงศ์วาน

ชีวประวัติอิมามฮุเซน

ผู้เขียน: ศาสตราจารย์เชคอะลีมุฮัมมัด อะลีดุคัยยิล
กลุ่ม:

ผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชม: 52993
ดาวน์โหลด: 4818


รายละเอียด:

ชีวประวัติอิมามฮุเซน ชีวประวัติอิมามอะลี ซัยนุลอาบิดีน
ค้นหาในหนังสือ
  • เริ่มต้น
  • ก่อนหน้านี้
  • 149 /
  • ถัดไป
  • สุดท้าย
  •  
  • ดาวน์โหลด HTML
  • ดาวน์โหลด Word
  • ดาวน์โหลด PDF
  • ผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชม: 52993 / ดาวน์โหลด: 4818
ขนาด ขนาด ขนาด
ชีวประวัติอิมามฮุเซน

ชีวประวัติอิมามฮุเซน

ผู้เขียน:
ภาษาไทย

แต่เขากล้าแกร่งยิ่งกว่าคนเหล่านั้น เขาฟาดฟันด้วยดาบจนพวกแตกกระเจิงราวกับฝูงลูกแกะที่เผ่นหนีจากสุนัขป่า เขาสามารถเข้าไปต่อกรกับคนในคราวเดียวกันได้ถึง 30 , 000 คน จนเขาเหล่านั้นล้มตายไปกับมือของเขาเหมือนฝูงตั๊กแตนที่กระจัดกระจาย ต่อจากนั้นเขาย้อนกลับไปยังที่พักของเขาพลางกล่าวว่า

ไม่มีพลังใดๆ และไม่มีอำนาจใดๆ นอกจากโดยอัลลอฮฺผู้ทรงสูงสุด ผู้ทรงยิ่งใหญ่ ”

ต่อจากนั้น ท่าน(อฺ)รีบรุดมุ่งไปยังทางที่จะไปแม่น้ำอัล-ฟะรอต โดยมีอัมรว์ บินฮัจญาจพร้อมด้วยทหารจำนวน 4 , 000 คนวางกำลังสะกัดกั้นอยู่คนเหล่านั้นเข้ามาล้อมท่าน (อฺ) อย่างกระชั้นชิด

แต่ท่าน(อฺ)ก็สามารถแหวกพวกเขามาจนพ้นและให้ม้าได้ดื่มน้ำ ครั้นเมื่อท่าน(อฺ)ยื่นมือออกไปเพื่อที่จะวักน้ำดื่ม พลันก็มีเสียงชายคนหนึ่งตะโกนว่า

“ ท่านยังอยากจะลิ้มรสน้ำอยู่อีกหรือ ของหวง(หมายถึงเด็กและสตรี)ของเจ้ายับเยินป่นปี้หมดแล้ว ”

ท่าน(อฺ)ถึงกับทิ้งน้ำโดยไม่ยอมดื่ม แล้วมุ่งหน้าไปที่จะกระโจม ปรากฎว่าทุกคนยังอยู่กันสบายดี

ท่านอิมามฮุเซน(อฺ)กลับกระโจมที่พัก

ท่านอิมาม(อฺ)ได้หวลกลับมาหาครอบครัวเพื่อทำการอำลาเป็นคำรบสองพร้อมกับสภาพที่ได้รับบาดเจ็บ พลางกล่าวว่า

“ พวกเจ้าจงเตรียมตัวเผชิญกับการทดสอบอันใหญ่หลวง และจงรับรู้ไว้ว่า อัลลอฮฺจะทรงคุ้มครองพวกเจ้า ปกปักรักษาพวกเจ้า และช่วยให้พวกเจ้าปลอดภัยพ้นจากความชั่วร้ายของเหล่าศัตรูและจะทรงบันดาลให้บั้นปลายของพวกเจ้าเป็นไปด้วยความดีงาม และจะทรงลงโทษ ศัตรูของพวก

เจ้าด้วยวิธีการต่างๆ และจะทรงบันดาลให้ความสูญเสียในคราวนี้เป็นความโปรดปรานและเกียรติคุณด้วยประการต่างๆ แก่พวกเจ้า ดังนั้น จงอย่าอุทธรณ์และจงอย่าให้ลิ้นของพวกเจ้าพูดอะไรออกมาที่เป็นการบั่นทอนจนสุดความสามารถของพวกเจ้า ”

ต่อจากนั้น ท่าน(อฺ)ได้หันไปทางท่านหญิงซะกีนะฮฺ บุตรีคนหนึ่งของท่าน(อฺ)ซึ่งท่าน(อฺ)ยังเห็นว่าเธอยังเป็นเด็กที่อ่อนเยาว์กว่าผู้หญิงคนอื่นๆที่ร้องให้คร่ำครวญอยู่ ท่าน(อฺ)หยุดยืนใกล้เธอด้วยความปวดร้าวทรมาณ

ฝ่ายอุมัร บินซะอัดได้หันกลับมายังทหารของตนแล้วกล่าวว่า

“ พวกเจ้าจะพินาศกันแล้ว จงรีบบุกจู่โจมเข้าไปหาเขาในทันทีที่เขายุ่งอยู่กับตัวเองและบรรดาของหวงของเขา ขอสาบานด้วยพระนามของอัลลอฮฺว่าถ้าพวกเจ้าขืนชักช้าพวกเจ้าอาจจะพลาดโอกาสที่อำนวยให้แก่พวกเจ้าในการสังหารเขา ”

ดังนั้นพวกทหารฝ่ายศัตรูจึงบุกเข้าไปยิงท่าน(อฺ)ด้วยธนู จนกระทั่งดอกธนูพลาดไปถูกฝากระโจมและปลายธนูบางดอกก็เสียบไปที่ผ้ของบรรดาสตรี จนพวกเธอพากันหวีดร้องด้วยความตื่นตระหนกและเข้าไปในกระโจมเพื่อจะคอยดูว่าท่านอิมามฮุเซน(อฺ)จะแก้ไขสถานการณ์อย่างไร

ปรากฏว่าท่านอิมามฮุเซน(อฺ)บุกออกไปหาคนเหล่านั้นด้วยความโกรธจัด จนกระทั่งพวกเขาแตกกระเจิง ดอกธนูพุ่งมาหาท่าน(อฺ)ทุกทิศ จากนั้นท่านก็กลับไปยังที่พักอีก พลางกล่าวรำพันหลายครั้งว่า

“ ไม่มีพลังใดๆ และไม่มีอำนาจใดๆ นอกจากโดยอัลลอฮฺผู้ทรง สูงสุดผู้ทรงยิ่งใหญ่ ”

ความฮึกเหิมของทหารฝ่ายศัตรู

ท่านอิมามฮุเซน(อฺ)ยืนหยุดพักยังบริเวณที่พัก บัดนี้ท่าน(อฺ)เริ่มอ่อนเพลียกับการสู้รบเหลือเกินแล้ว เลือดในตัวนั้นเล่าก็ไหลรินออกมาไม่หยุดในยามนั้นท่าน(อฺ)ได้ขอน้ำดื่มสักครั้งหนึ่ง

แต่ชิมรฺกล่าวว่า

“ ท่านจะมิได้ลิ้มรสของมันจนกว่าจะถูกนำสู่กองไฟ ”

เสียงอีกคนหนึ่งร้องขึ้นว่า

“ ฮุเซนเอ๋ย ท่านดูที่แม้น้ำอัล-ฟะรอตซิ มันมากมายท่วมท้นอย่างไรถึงกระนั้นท่านก็มิได้ดื่มมันหรอกจนกว่าจะตายไปเพราะความกระหาย ”

ท่านอิมามฮุเซน(อฺ)กล่าวตอบเขาว่า

“ ข้าแต่อัลลอฮฺ ขอให้เขาตายด้วยความกระหาย ”

อะบุลฮะตูฟได้ยิงธนูถูกตรงหน้าผากของท่าน(อฺ)ท่าน(อฺ)ดึงมันออกมาทันที ปรากฎว่ามีเลือดไหลอาบทั่วใบหน้า ท่าน(อฺ)กล่าวว่า

“ ข้แต่อัลลอฮฺ แน่นอน พระองค์ทรงประจักษ์ถึงสิ่งที่ข้าได้รับมาจากบ่าวผู้ทรยศของพระองค์แล้ว ข้าแต่อัลลอฮฺ ขอได้โปรดคิดคำนวณพวกเขาให้ละเอียด และโปรดสังหารพวกเขาอย่าให้เหลือ และอย่าได้ปล่อยพวกเขาไว้ในหน้าแผ่นดินแม้แต่คนเดียว และอย่าได้ทรงอภัยโทษให้แก่พวกเขาเลยอย่างเด็ดขาด ”

แล้วท่าน(อฺ)ได้ตะโกนออกไปด้วยเสียงอันดังว่า

“ ประชาชาติที่เลวร้ายที่สุดเอ๋ย พวกเจ้าทำความผิดพลาดกับมุฮัมมัด(ศ)ในเรื่องเชื้อชาติสายของเขาเสียแล้ว ต่อไปนี้ไม่ว่าพวกเจ้าจะรบกับใครพวกเจ้าจะมีแต่ความหวาดกลัวต่อเขาและจะยิ่งเพิ่มความต่ำต้อยให้แก่พวกเจ้ามากยิ่งขึ้น ในเมื่อพวกเจ้าสังหารข้า ขอสาบานด้วยพระนามของอัลลอฮฺว่า อัลลอฮฺ(ซ.บ.)ทรงให้การยกย่องข้าด้วยฐานะของผู้พลีชีพเพื่ออิสลาม ต่อจากนั้น พระองค์จะทรงแก้แค้นพวกเจ้าเพื่อข้า โดยที่พวกเจ้าไม่รู้ตัว ”

อัล-ฮุศ็อยนฺได้กล่าวว่า

“ พระองค์จะทรงแก้แค้นเพื่อท่านอย่างไรกัน โอ้บุตรของฟาฏิมะฮฺ ”

ท่านอิมาม(อฺ) ตอบว่า

“ พระองค์จะทรงให้ความเลวร้ายมาประสบกับพวกเจ้า และจะทรงบันดาลให้การนองเลือดมีขึ้นในหมู่พวกเจ้า

ต่อจากนั้นพระองค์จะทรงกระหน่ำการลงโทษแก่พวกเจ้าอย่างหนักหน่วงที่สุด ”

เป็นที่แน่นอนว่า ในขณะที่ชายคนหนึ่งขว้างท่าน(อฺ)ด้วยก้อนหินไปที่บริเวณหน้าผากของท่าน(อฺ)นั้น หยาดเลือดไหลลงอาบบนใบหน้า ท่าน(อฺ)จึงยกชายผ้าขึ้นเช็ดเลือดมิให้เข้านัยน์ตา

จังหวะนั้นเอง อีกคนหนึ่งก็ยิงธนูอันคมกริบเข้าใส่ แล้วอีกดอกหนึ่งต้องตรงที่หัวใจของท่าน(อฺ)พอดี

ท่าน(อฺ)กล่าวว่า

“ ด้วยพระนามของอัลลอฮฺและโดยอัลลอฮฺ ด้วยกับศาสนาของศาสนทูตแห่งอัลลอฮฺ(ศ) ”

ท่าน(อฺ)แหงนหน้าขึ้นสู่ฟากฟ้า แล้วกล่าวว่า

“ ข้าแต่อัลลอฮฺ พระองค์ทรงรู้ว่าเขาเหล่านั้นฆ่าคนๆ หนึ่งที่ไม่มีใครอีกแล้วในหน้าแผ่นดินนี้จะเป็นบุตรของนบี นอกจากเขาเท่านั้น ”

แล้วท่าน(อฺ)ก็ดึงธนูออกจากทรวงอกของท่าน(อฺ)ปรากฏว่าหยาดเลือดไหลนองหยาดเยิ้ม

ท่านอิมามฮุเซน(อฺ)วางมือลงใต้แผลจนกระทั่งมือของท่าน(อฺ)เต็มไปด้วยเลือด ท่าน(อฺ)ขว้างมันขึ้นไปเบื้องบนแล้วกล่าวว่า

“ มันเป็นของเล็กน้อยสำหรับข้ายิ่งนัก ในเมื่อมันบังเกิดขึ้นต่อการรับรู้ของอัลลอฮฺแล้ว ”

จากนั้นท่าน(อฺ)ได้เอามือของท่าน(อฺ)วางลงไปที่เดิมเป็นครั้งที่สองครั้นเมื่อมันเต็มมืออีก ท่านก็เอามาละเลงบนศีรษะ ใบหน้า เคราแล้วกล่าวว่า

“ นี่คือการเข้าพบกับอัลลอฮฺและท่านตาของข้า และข้าคือผู้ถูกละเลงด้วยเลือดของข้า ข้าจะกล่าวว่า ข้าแต่ท่านตา ชายคนนั้นได้สังหารข้า ”

ในขณะที่ท่าน(อฺ)กำลังกุมบาดแผลอยู่นั้น ศอลิฮ บินวะฮับก็เข้ามาแทงท่าน(อฺ)ที่บั้นสะเอว จนท่าน(อฺ)ตกจากหลังม้าลงสู่พื้นดินในสภาพแก้มขวาแนบลงกับพื้น ท่าน(อฺ)กล่าวว่า

“ ด้วยพระนามของอัลลอฮฺและโดยอัลลอฮฺด้วยกับกับศาสนาของท่านศาสนทูตแห่งอัลลอฮฺ ( ศ) ”

ต่อจากนั้นท่าน(อฺ)ยังสามารถลุกขึ้นนั่งได้ ในท่าคอยก โดยที่เลือดยังไหลเยิ้มไม่หยุดหย่อน

มาลิก บินนะซัร มุ่งตรงเข้ามาพลางด่าหยาบคายแล้วฟันด้วยดาบลงไปที่

ศีรษะ ปรากฎว่าผ้าโพกหัวที่ท่าน(อฺ)สวมปิดศีระษะเต็มไปด้วยเลือดอีกเช่นกัน ท่าน(อฺ)จึงดึงออกแล้วโพกด้วยผ้าโพกศีรษะธรรมดา พลางกล่าวว่า

“ เจ้าจะไม่ได้กิน ไม่ได้ดื่มด้วยน้ำมือของเจ้าอีกและอัลลอฮฺจะทรงรวมเจ้าไว้กับพวกอธรรม ”

ท่านมุฮัมมัดและท่านอับดุลลอฮฺถูกสังหาร

ในช่วงเวลาที่ท่านอิมามฮุเซน(อฺ)อยู่ในสภาพดังกล่าวนี้ ท่านมุฮัมมัดบิน อะบีซะอีด บินอะกีล อิบนิ อะบีฏอลิบ ได้ออกมาจากกระโจม ขณะนั้นเขามีอายุเพียง 7 ขวบ เขาสวมเสื้อยาวและนุ่งผ้าผืนหนึ่งออกมา ที่หูของเขามีต่างหูอยู่ทั่งสองข้าง ที่มือกำลังถือไม้อยู่อันหนึ่ง เขาถูกตะโกนเรียกให้กลับไปแล้วเหลียวซ้ายแลขวา ปรากฎว่าฮานี บินซะบีต อัล-ฮัฏร่อพุ่งตรงเข้ามาหาเขาแล้วแย่งสิ่งของติดตัวของเขาไป จากนั้นก็เงื้อมดาบเข้าฟันเขาทันที มารดาของเขามองดูอยู่ด้วยความตระหนกตกใจสุดขีด

ท่านอับดุลลอฮฺ บิน ฮะซัน บิน อะมีรุลมุอ์มินีน(อฺ) ซึ่งขณะนั้นมีอายุเพียง 11 ปี ได้มองไปยังท่านอิมามฮุเซน(อฺ)ผู้เป็นอาที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการทำร้ายของฝ่ายศัตรู เขารีบวิ่งออกไปหาอย่างรวดเร็ว ท่านหญิงซัยนับ(อฺ)พยายามจะกักขังเขาไว้ แต่เขาปฏิเสธ ท่านอิมามฮุเซน(อฺ)จึงกล่าวแก่ท่านหญิงว่า

“ จับตัวเขาไว้เถิดน้อง ”

ซึ่งเขาก็ขัดขืนอย่างเต็มที่ แล้วกล่าวว่า

“ ขอสาบานด้วยพระนามของอัลลอฮฺ ข้าไม่ยอมพรากจากอาของข้า ”

ขณะนั้นบะฮัน บิน กะอับได้เข้ามาใช้ดาบจะฟันท่านอิมาม(อฺ)อีก เด็กน้อยกล่าวขึ้นว่า

“ ขอให้ความวิบัติพึงมีแก่เจ้าเถิด โอ้ลูกของคนสกปรก เจ้าจะฆ่าอาของข้าหรือ ?”

ทันใดนั้นบะฮัรให้สันดาปฟาดเข้าตรงตัวของท่าน(อฺ) แต่เด็กน้อยเอามือเข้าไปรับไว้ ปรากฎว่าดาบได้เฉือนเข้าที่ข้อมือ เด็กน้อย อับดุลลอฮฺ ร้องตะโกนว่า

“ ข้าแต่ท่านอา ”

ท่านอิมามฮุเซน(อฺ) ได้เข้าไปรับเขามากอด

ท่าน(อฺ)กล่าวว่า

“ บุตรของพี่ชายข้าเอ๋ย เจ้าจงอดทนกับสิ่งที่ประสบลงแก่เจ้า และจงถือเสียว่ามันคือสิ่งดี แท้จริงอัลลอฮฺ(ซ.บ.)จะทรงนำเจ้าให้ไปพบกับบรรพบุรุษของเจ้าผู้ทรงธรรม ”

ต่อจากนั้น ท่านอิมามฮุเซน(อฺ)ได้ยกมือขึ้นสู่ฟากฟ้าแล้วกล่าวว่า

“ ข้าแต่อัลลอฮฺ แท้จริงพระองค์ทำให้พวกเขาได้รับความสุขชั่วคราวจากนั้นจะทรงบันดาลให้เกิดความแตกแยกแก่พวกเขาอย่างยับเยิน และโปรดบันดาลให้พวกเขาได้ประสบกับความต่ำต้อย และอย่าได้ทรงพอพระทัยต่อพวกเขาเลยเป็นเด็ดขาด แท้จริงพวกเขาเรียกเราให้มาเพื่อจะ

ช่วยเหลือเราแต่แล้วกลับมาเป็นศัตรูกับเราแล้วเข่นฆ่าเรา ”

ฮัรมะละฮฺ บิน กาฮิล ได้ยิงธนูมาที่ตัวของท่านอับดุลลอฮฺ เด็กน้อยปรากฏว่าเขาต้องขาดใจลงบนตักของผู้เป็นอานั่นเอง

การบุกโจมตีท่านอิมามฮุเซน(อฺ)

ท่านอิมามฮุเซน(อฺ) ยังคงถูกทอดทิ้งให้ทรมานอยู่อย่างนั้นต่อไปอีกซึ่งถ้าหากพวกเขาต้องการจะสังหารท่าน(อฺ)ให้เสร็จสิ้นเสียเลย พวกเขาก็ย่อมกระทำได้แล้ว เพียงแต่ว่าทหารแต่ละกลุ่มเกี่ยงงอนกันเองไม่มีใครอยากบุกเข้ามา ชิมรฺตะโกนอย่างคึกคะนองว่า

“ ทำไมพวกเจ้าจึงหยุดกันเสียเล่า พวกเจ้ามองให้เห็นหรือว่าชายคนนั้นโดยทั้งธนูและหอกจนพรุนไปหมดแล้ว จงเข้าไปจัดการเสียเร็วๆ ”

ซัรอะฮฺ บิน ชะรีก ได้เข้าไปฟันท่าน(อฺ)ตรงไหล่ซ้าย ส่วนฮุศ็อยนฺได้ยิงธนูเข้าตรงต้นคอ

ส่วนอีกคนหนึ่งก็เข้าไปฟันตรงซอกคอ ซินาน บิน อะนัซ ได้แทงที่คอเช่นกัน ต่อจากนั้นเขาก็ยิงธนูเข้าตรงคอ

ฮิลาล บินนาฟิอฺ ได้กล่าวว่า :

ฉันได้ยืนใกล้ตัวของท่านฮุเซน(อฺ)ขณะนั้น ท่าน(อฺ)มีกำลังใจดีมากขอสาบานด้วยพระนามของอัลลอฮฺว่า ฉันไม่เคยเห็นคนที่ถูกสังหารคนใดมีหยาดเลือดหลั่งไหลชโลมลงที่ตัวได้งดงามเท่ากับท่าน(อฺ) ฉันถึงตกตะลึงเพราะความงามของรัศมีที่ฉาบบนใบหน้าของเขา และความมีราศีที่งดงามจนลืมนึกถึงการที่จะฆ่า ฉันจึงเอาน้ำไปให้เขาดื่มในช่วงนั้น ปรากฎว่าท่าน(อฺ)ไม่ยอมดื่ม แล้วมีชายคนหนึ่งกล่าวกับท่าน(อฺ)ว่า

“ เจ้าจะไม่ได้ลิ้มรสชาติของน้ำ จนกว่าจะได้ลิ้มรสของไฟเสียก่อนเพราะเจ้าจะต้องดื่มน้ำที่เดือดพล่าน ”

ท่านอิมามฮุเซน(อฺ) ได้กล่าวกับเขาว่า

“ ข้านะหรือจะพบกับไฟนรก ไม่หรอก แต่ข้าต้องอยู่กับท่านตาของข้าผู้เป็นศาสนทูตแห่งอัลลอฮฺ(ศ)และต้องการจะอยู่กับท่าน(ศ)ในสถานที่พำนักของท่าน(ศ)อันเป็นสถานพำนักแห่งสัจจะใกล้กับมวลมะลาอิกะฮฺผู้มีความสามารถ และข้าจะฟ้องท่าน(ศ)ถึงพฤติกรรมของพวกเจ้าที่ทำต่อข้า แล้วพวกเขาจะโกรธแค้นด้วยกันทั้งหมด จนกระทั่งว่าอัลลอฮฺ(ซ.บ.)จะไม่บันดาลให้ความเมตตาใดๆ หลงเหลืออยู่ในหัวใจของพวกเขาเลย ”

คำวิงวอนของท่านอิมามฮุเซน(อฺ)

เมื่ออาการยิ่งรุนแรงมากขึ้น ท่านอิมาม(อฺ)ลืมตากขึ้นมองฟากฟ้า แล้วกล่าวว่า

“ ข้าแต่อัลลอฮฺผู้ทรงดำรงอยู่ในฐานภาพที่สูงสุดยิ่ง ทรงเป็นผู้มีอำนาจยิ่งใหญ่เกรียงไกร

ทรงมีการบันดาลด้วยพลังอันเข้มแข็ง ทรงมั่งคั่งเหนือมวลสรรพสิ่งโดยความยิ่งใหญ่เกรียงไกร ทรงมีเดชาสามารถตามที่ทรงประสงค์ ทรงให้ความเมตตาอย่างใกล้ชิด ทรงมีสัจจะในสัญญา ทรงประทานให้ซึ่งความโปรดปราน ทรงให้การทดสอบเป็นความดี พระองค์ทรงใกล้ชิดในยามถูก

วิงวอน ทรงระแวดระไวในสิ่งที่ทรงสร้าง ทรงรับการขออภัยจากคนกลับตัว ทรงมีเดชาสามารถในสิ่งที่ประสงค์ ทรงได้มาในสิ่งที่ทรงต้องการทรงให้การยกย่องเมื่อได้รับการขอบพระคุณ ทรงรำลึก

เมื่อได้รับการรำลึกข้าขอวิงวอนต่อพระองค์เยี่ยงคนที่มีความต้องการและคนแร้นแค้นที่ประสงค์ยังพระองค์ ข้าหวาดหวั่นกลัวเกรงพระองค์ ข้าร้องไห้อย่างทรมาณ ข้าขอความช่วยเหลือจากพระองค์

เยี่ยงคนอ่อนแอ ข้ามอบหมายตัวเองยังพระองค์ ข้าแต่อัลลอฮฺได้โปรดพิพากษาเรื่องระหว่างเรากับพวกของเรา แท้จริงพวกเขาหลอกลวงแลพฆ่าเรา หลอกหลอนเราแล้วทำลายเรา เราคือเชื้อสายแห่งนบีของพระองค์ เป็นบุตรของมุฮัมมัด(ศ)ผู้เป็นที่รักยิ่งของพระองค์ พระองค์ทรงเลือกเขามาให้

เป็นผู้เผยแผ่สาส์นของพระองค์ และทรงประทานแก่เขาซึ่งสภาวะแห่งการรับวะฮฺยู ขอได้โปรดบันดาลให้เรามีทางออก และปลอดภัยด้วยเถิดข้อแต่พระผู้ทรงเมตตาเหนือผู้มีความเมตตาใดๆ ข้ายอมอดทนตามกฎเกณฑ์ของพระองค์ ข้าแต่ผู้ทรงประทานความช่วยเหลอ โดยไม่ทรงขอความ

ช่วยเหลือจากใคร ข้าแต่ผู้ดำรงอยู่อย่างนิรันดร์ ซึ่งไม่มีการสูญสลายสำหรับพระองค์ ข้าแต่ผู้ทรงประทานชีวิตให้แก่ผู้ตาย ข้าแต่ผู้ทรงบันดาลให้ทุกชีวิตดำรงอยู่กับสิ่งที่ตนประกอบไว้ ขอได้โปรดพิพากษาระหว่างข้าฯ กับพวกเขาด้วยเถิด พระองค์คือผู้ทรงให้การตัดสินที่ประเสริฐกว่าปวงผู้ให้

การตัดสินใดๆ ”

‘ วามุฮัมมะดาฮฺ ’

( โอ้ ท่านศาสดามุฮัมมัด)

ท่านอิมามฮุเซน(อฺ)โดนอาวุธแน่นิ่งอยู่กับพื้นดิน ท่าน(อฺ)ได้อาศัยฝุ่นดินทำเป็นหมอนหนุนนอน เจ้าม้าแสนรู้ของท่าน(อฺ)ตัวนั้นวนเวียนท่าน(อฺ)ไปรอบๆ ไม่ยอมออกห่าง

อิบนุซะอัดร้องตะโกนว่า

“ ม้าจะทำร้ายพวกเจ้า มันคือม้าตัวโปรดของท่านศาสนทูตแห่ง

อัลลอฮฺ(ศ) ”

ดังนั้นพวกเขา จึงโอบล้อมม้าศึกตัวนั้นทันที แล้วเขาก็พุ่งหอกเข้าแทงที่เท้าทั้งสองของมัน

มันจึงเหยียบพวกทหารไปหลายคน

อิบนุซะอัดกล่าวว่า

“ ปล่อยมันก่อน เราจะดูว่า มันจะทำอะไรเมื่อมันไม่ถูกรบกวนแล้ว ”

แล้วมันก็เข้ามาหาท่านอิมามฮุเซน(อฺ) พร้อมกับเอาศีรษะของมันคลุกเลือดและส่งเสียงร้องก้องกังวาล ต่อจากนั้นมันก็รีบมุ่งไปยังกระโจมพร้อมกับส่งเสียงร้อง เมื่อบรรดากลุ่มสตรีได้แลเห็นร่างของท่านผู้ประเสริฐถูกย่ำยีหยาดเลือดชโลมไล้บนเรือนกาย พวกนางถึงออกมาจากที่พัก เส้นผมสยายฉาบลงบนพวงแก้ม เปิดใบหน้าออกด้วยความตื่นตะลึง ร้องเรียกตะโกนคนในครอบครัวเหมือนเป็นคนไร้เกียรติที่ต่ำต้อยต่างวิ่งกรูไปหาท่านอิมาม(อฺ)

ท่านหญิงอุมมุกุลษูม(ร.ฏ.)ร้องขึ้นว่า

“ วา....ญัดดาฮฺ(โอ้ ทวดของข้า ”

วา...มุฮัมมะดาฮฺ(โอ้ ท่านศาสนามุฮัมมัดของข้า)

วา...อะบะตาฮฺ(โอ้ บิดามารดาข้า)

วา...อะลียาฮฺ(โอ้ อะลีของข้า)

วา...ญะอฺฟะรอฮฺ(โอ้ ญะอฺฟัรของข้า)

วา...ฮัมซะตาฮฺ(โอ้ ฮัมซะฮฺของข้า)

วา...ฮะซะนาฮฺ(โอ้ ฮะซันของข้า)

นี่คือฮุเซนผู้ถูกสังหารโดนอาวุธที่ดินแดนกัรบะลาอ์ ศีรษะขาดจากคอ ผ้าโพกศีรษะและเสื้อถูกทำลายยับเยิน ”

ท่านหญิงซัยนับ(อฺ)ร้องอีกว่า

“ วา...อะคอฮฺ(โอ้ พี่ชายของข้า)

วา...อะฮฺละบัยตาฮฺ(โอ้ อะฮฺลุลบัยตฺของข้า)

ฟ้าจะต้องไม่ร่วงลงสู่ดิน ภูเขาจะต้องไม่สั่นไหวพังทลายได้ง่ายๆ ”

ต่อจากนั้นท่านหญิง(อฺ)รีบวิ่งไปจนถึงท่านอิมามฮุเซน(อฺ)ซึ่งกำลังพยุงร่างตัวเองอยู่

ขณะนั้นทหารรีบเข้ามารุมล้อมขัดขวาง อิบนุซะอัดคือคนหนึ่งในจำนวนนั้น

ท่านหญิง(อฺ)ตะคอกด้วยเสียงดังว่า

“ เจ้า อุมัร ท่านอะบาอับดิลลาฮฺถูกฆ่า เจ้ายังมองดูอยู่อย่างนี้หรือ ?”

อุมัร อิบนุ ซะอัดรีบเบือนหน้าหลบจากท่านหญิง(อฺ)ไปด้วยอาการร้องไห้จนน้ำตานองหน้า

หลังจากนั้นท่านหญิง(อฺ)ได้ร้องขึ้นว่า

“ ในหมู่พวกเจ้ามีมุสลิมสักคนไหน ?”

เงียบ ไม่มีใครตอบท่านหญิง(อฺ)แม้คนเดียว

อิบนุ ซะอัด ร้องเรียกคนทั้งหลายว่า

“ พวกเจ้าจงรีบจัดการสำเร็จโทษเขาเสียเถิด ”

ปรากฎว่า เคาลา บิน ยะซีด อัศบะฮีได้พุ่งตรงเข้าไปหมายจะเชือดคอท่านอิมามฮุเซน(อฺ) เขาเข้าไปจับศีรษะอันบริสุทธิ์แล้วฟันลงไปมือทั้งสองของท่านอิมาม(อฺ) ทันใดนั้น ชิมรฺก็รับพุ่งตัวเข้าไปเหยียบที่เท้าของท่าน(อฺ) แล้วขึ้นไปนั่งทับอกของท่าน(อฺ)

มันใช้มือจับเข้าที่เคราอันบริสุทธิ์ของท่านอิมามฮุเซน(อฺ)แล้วฟันดาบลงไป 12 ครั้ง จนศีรษะอันทรงเกียรติของท่าน(อฺ) ขาดออกจากคอ

ในทันที(2)

(2) ดูรายละเอียดเรื่องนี้ เพิ่มเติมได้ในหนังสือ อิบศอรุล-อัยนฺ ของซะมาวี , มักตัลฮุเซนของมุก็อรรอม , เยามุล-ฮุเซนที่ข้าพเจ้าเรียบเรียง

คำสดุดีของนักปราชญ์และบุคคลสำคัญต่ออิมามฮุเซน(อฺ)

ถ้าหากได้มีการรวบรวมคำสดุดีที่กล่าวถึงท่านอิมามฮุเซน(อฺ)ทั้งประเภทคำโคลงและร้อยแก้วเข้าด้วยกันทั้งหมดแล้ว แน่นอนจะต้องได้เป็นหนังสือจำนวนหลายเล่ม ขนาดใหญ่ที่สุดในโลกเลยทีเดียวและจะต้องมีห้องสมุดขนาดใหญ่ไว้ เพื่อบรรจุหนังสือประเภทเดียวนี้อย่างแน่แท้ ในเมื่อจำนวนหนังสือประเภทนี้มีนับเป็นพ้นๆ เล่มและมิได้มีภาษาใดที่จะไม่ประพันธ์โคลงกลอนเกี่ยวกับท่านอิมามฮุเซน(อฺ)ไม่มีภาษาใดที่มิได้บันทึกเรื่องราวการต่อสู้ของท่านอิมาม(อฺ)ไม่มีภาษาใดที่มิได้ถูกเขียนถึงประวัติของท่าน

อิมาม(อฺ) ดังนั้น ท่านอิมามฮุเซน(อฺ)คือ บุคคลอมตะตลอดกาลชั่วนิรันดร์

ในหนังสือเล่มนี้ เราจะบันทึกถ้อยคำของบรรดาสาวกท่านศาสดาบรรดานักปราชญ์รุ่นตาบิอีนและจากนักเขียนร่วมสมัยเพียงเล็กน้อยที่กล่าวสดุดีท่านอิมามฮุเซน(อฺ)

คำสดุดี 1

ท่านอุมัร บินค็อฎฎ็อบ(ร.ฏ.)

เคยกล่าวกับท่านอิมามฮุเซน(อฺ)ว่า :

“ อันที่จริงแล้ว ผู้ที่ทำให้ความคิดในศีรษะของเราปรากฏออกมาอย่างที่ท่านเห็นอยู่นี้เพียงอัลลอฮฺ หลังจากนั้นก็คือพวกท่านเท่านั้น(1)

(1) อัล-อิศอบะฮฺ เล่ม 1 หน้า 333 ระบุว่าสายรายงานศ่อฮีฮฺ

คำสดุดี 2

ท่านอุษมาน บินอัฟฟาน กล่าวถึงท่านอิมามฮะซัน

ท่านอิมามฮุเซน และท่านอับดุลลอฮฺ บิน ญะอฺฟัร(อฺ) ว่า :

“ เขาเหล่านั้นอิ่มเอมกับวิชาความรู้กันอย่างเต็มที่ และสามารถเข้าถึงความดีงามและวิทยปัญญาได้อย่างสิ้นเชิง ” ( 2)

(2) อัล-คิศอล หน้า 136

คำสดุดี 3

ท่านอะบูฮุร็อยเราะฮฺ(ร.ฏ.) ได้กล่าวว่า :

“ เมื่อท่านฮุเซน บุตรของอะลีเดินเข้ามาในชุดสวมผ้าคลุมทำให้ฉันคิดไปว่าเป็นนบีที่ถูกส่ง

มา ” ( 3)

(3) บิฮารุล-อันวาร เล่ม 10 หน้า 82

ท่านอิมามฮุเซน(อฺ)เคยทำหน้าที่จัดการกับมัยยิต แล้วนั่งอยู่ริมทางจนท่านอะบูร็อยเราะฮฺต้องเขี่ยดินออกจากเท้าของท่านด้วยชายผ้าของท่าน

ท่านอิมาม(อฺ) ได้กล่าวว่า

“ โอ้ อะบูฮุร็อยเราะฮฺ นั่นท่านทำอะไร ”

ท่านอะบูฮุร็อยเราะฮฺกล่าวว่า

“ ปล่อยให้ฉันทำไปเถิด ขอสาบานต่อ อัลลอฮฺว่า ถ้าหากคนทั้งหลายรู้ในเรื่องของท่านเหมือนที่ฉันรู้ แน่นอนพวกเขาจะยกท่านขึ้นแบกบนบ่าของพวกเขาเลยที่เดียว ” ( 4)

(4) ตารีค อิบนุอะซากิร เล่ม 4 หน้า 322

คำสดุดี 3

ท่านอับดุลลอฮฺ บินอับบาซ(ร.ฏ.)

ได้ถือเชือกจูงพาหนะของท่านอิมามฮะซัน(อฺ)และท่านอิมามฮุเซน(อฺ)แล้วเขาก็ถูกตำหนิในเรื่องนี้ จนมีคนกล่าวกับเขาว่า

“ ท่านอายุมากกว่าเขาทั้งสองคนเสียอีก ”

ท่านอิบนุอับบาซ กล่าวว่า

“ ทั้งสองคนนี้เป็นบุตรของศาสนทูตแห่งอัลออฮฺ(ศ) มันเป็นความสุขของฉันมิใช่หรือที่ได้จูงพาหนะให้แก่เขาทั้งสอง ” (5)

(5) ตารีค อิบนุอะซากิร เล่ม 4 หน้า 322