เว็บไซต์ อิมาม อัลฮะซะนัยน์ (อลัยฮิมัสลาม)เพื่อคุณค่าและสารธรรมอิสลาม

คำอธิบายโองการที่ 17-18 จากบทอัลบะกอเราะฮ์

0 ทัศนะต่างๆ 00.0 / 5

คำอธิบายโองการที่ 17-18 จากบทอัลบะกอเราะฮ์

 


مَثَلُهُمْ كَمَثَلِ الَّذِي اسْتَوْقَدَ نَاراً فَلَمَّا أَضَاءتْ مَا حَوْلَهُ ذَهَبَ اللّهُ بِنُورِهِمْ وَتَرَكَهُمْ فِي ظُلُمَاتٍ لاَّ ‏يُبْصِرُونَ (17) صُمٌّ بُكْمٌ عُمْيٌ فَهُمْ لاَ يَرْجِعُونَ‏‎(‎‏18‏‎)‎

ความหมาย :‎

‎17.อุปมาของพวกเขา (มุนาฟิกีน) เหมือนผู้ที่จุดไฟขึ้น ทว่าเมื่อไฟส่องสว่างแก่สิ่งที่รอบ ๆ ตัวเขา อัลลอฮ์ทรงดับแสงสว่างของพวกเขา และทรงปล่อยพวกเขาไว้ในความมืด พวกเขามองไม่เห็น

‎18.พวกเขาหูหนวก เป็นใบ้ และตาบอด ดังนั้นพวกเขาจึงไม่กลับมา (จากความหลงผิด)‎

คำอธิบาย :‎

สองตัวอย่างที่น่าสนใจสำหรับสภาพของมุนาฟิกีน

หลังจากที่ได้อธิบายคุณสมบัติของพวกกลับกลอกแล้ว อัลกุรอานต้องการฉายภาพลักษณ์ที่แท้จริงของพวกเขาจึงได้ยกตัวอย่างประกอบโองการข้างต้นในการอธิบาย

ตัวอย่างแรก พวกเขาคิดว่าไฟและแสงสว่างที่จำกัดของมันสามารถนำพวกเขาฝ่าฟันความมืดมิดได้ ทันใดได้มีลมพัดมาอย่างแรงและมีฝนตกหนัก หรือเชื้อเพลิงได้มอดไหม้จนหมดสิ้นไฟดับลง ทำให้พวกเขาต้องระหกระเหินยู่ท่ามกลางความมืดที่หน้ากลัวต่อไป

ชีวิตมนุษย์มีเส้นทางเดินอยู่หลายเส้นทาง แต่ทางที่ตรงไปยังจุดหมายปลายทางเร็วที่สุดมิได้มีมากกว่าหนึ่งเส้นทาง ‎ขณะที่แนวทางที่หลงผิดออกไปนั้นมีมากมาย ประกอบกับตลอดเส้นทางมนุษย์ต้องเผชิญกับความมือมิด พายุที่โหมกระหน่ำอย่างน่ากลัว และเหตุการณ์อื่น ๆ อีกมากที่จะถาถมเข้ามาบนเส้นทางของเขา จำเป็นที่มนุษย์ต้องมีดวงประทีปที่มีพลังแสงสว่างเต็มพิกัดเพื่อนำพาเขาให้รอดพ้นจากเหตุการณ์เหล่านี้ และสามารถต่อสู้กับพายุที่โหมกระหน่ำอย่างรุนแรงได้ ซึ่งดวงประทีปนั้นไม่มีสิ่งใดที่จะมีค่าไปกว่าสติปัญญา ความศรัทธา และวะฮฺยู

บรรดามุนาฟิกีนได้เลือกแนวทางแห่งการฝ่าฝืนพวกเขาคิดเอาเองว่า สามารถฟันฝ่าอุปสรรคและรักษาสถานภาพของเขาได้ทุกที่ อีกทั้งยังสามารถปกป้องตนเองให้รอดพ้นจากภยันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้ พวกเขาได้ใช้ประโยชน์จากทั้งสองด้าน และถ้าด้านใดก็ตามเขาสามารถมีอำนาจเหนือมันได้ เขาจะคิดว่าสิ่งนั้นคือของเขา ถ้าผู้ศรัทธาเป็นฝ่ายชนะเขาก็จะยืนเคียงข้างผู้ศรัทธา แต่ถ้าผู้ปฏิเสธชนะเขาก็จะอยู่กับผู้ปฏิเสธ

โองการต่อมา ได้เปรียบเทียบสถานภาพของพวกกลับกลอก ซึ่งพวกเขาพยายามเติมเชื้อเพลิงให้ลุกไหม้ แต่อัลลอฮ์ทรงดับแสงสว่างของพวกเขา และพวกเขาไม่เหลือสิ่งใดอีกเลยนอกจากความมืดมิด

อิมามอะลี ริฎอ (อ.) กล่าวว่า ความหมายของโองการที่กล่าววา และทรงปล่อยพวกเขาอยู่ท่ามกลางความมืด หมายถึง ‎อัลลอฮ์ (ซ.บ.) ทรงปล่อยพวกเขาไปตามสภาพของตน[1]‎

ส่วนการที่อัลกุรอานกล่าวว่า อัลลอฮ์ (ซ.บ.) ทรงเปิดม่านกั้นออกจากภารกิจการงานของเขาหมายถึง พระองค์ทรงเปิดเผยความโกหกมดเท็จของพวกเขาให้ปรากฏชัดออกมา อัลกุรอานกล่าวว่า เมื่อพวกมุนาฟิกูนมาหาเจ้า พวกเขากล่าวว่า เราขอปฏิญาณว่า แท้จริงท่านเป็นเราะซูลของอัลลอฮ์ อัลลอฮ์ทรงรู้ดีว่า แท้จริงเจ้านั้นเป็นเราะซูลของพระองค์อย่างแน่นอน และอัลลอฮ์ทรงเป็นพยานว่า แท้จริงพวกมุนาฟิกีนเป็นผู้กล่าวเท็จอย่างแน่นอน[2]‎

พวกมุนาฟิกีนนั้นดูภายนอกเสมือนเป็นผู้มีศรัทธามั่นคง แต่ภายในของพวกเขาคือไปนรก และแม้ว่าจะมีรัศมีอยู่บ้างก็เป็นเพียงรัศมีที่อ่อนแอและมีอายุขัยสั้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ด้วยเหตุนี้ พระองค์จะถอดถอนสายตา หูและลิ้นของเขาออกจากความน่าเชื่อถือ

หลังจากนั้นตรัสว่า พวกเขาเป็นใบ้ หูหนวก และมองไม่เห็น เนื่องจากว่าพระองค์ได้ถอดถอนประสาทสัมผัสทีใช้รับรู้ความจริงออกไปจากพวกเขา และไม่ทรงนำพวกเขาออกจากแนวทางของพวกเขา พวกเขาจึงหูหนวก เป็นใบ้ ‎และตาบอด และไม่กลับมาจากความหลงผิด อย่างไรก็ตามการเปรียบเทียบลักษณะเช่นนี้ ในความเป็นจริงเพื่อสร้างความเข้าใจที่ชัดเจนเกี่ยวกับการกลับกลอก และในระยะเวลาที่ยาวไกลการกลับกลอกไม่สามารถส่งเสริมสิ่งที่เป็นจริงได้ ซึ่งสามารถเป็นได้เพียงแสงประทีปที่อ่อนแรง ไม่สามารถให้แสงสว่างในท้องทุ่งอันกว้างใหญ่ที่มืดมิด และไม่สามารถทนต่อกระแสพายุที่พัดกรรโชกได้ ในที่สุดโฉมหน้าที่แท้จริงก็จะเปิดเผยออกมา

 

กรุณาแสดงความคิดเห็นด้วย

ความคิดเห็นของผู้ใช้งานทั้งหลาย

ไม่่มีความคิดเห็น
*
*

เว็บไซต์ อิมาม อัลฮะซะนัยน์ (อลัยฮิมัสลาม)เพื่อคุณค่าและสารธรรมอิสลาม