ท่านหญิงฟาฏิมะฮ์ซะฮ์รอ (อ.) แบบอย่างแห่งความสมบูรณ์และคุณธรรมในอิสลาม

ตำแหน่งและฐานะของท่านหญิงฟาฏิมะฮ์ซะฮ์รอ (อ.)
ท่านหญิงฟาฏิมะฮ์ซะฮ์รอ (อ.) บุตรีของท่านศาสดามุฮัมมัด (ศ็อลฯ) ถือเป็นหนึ่งในบุคคลสำคัญที่มีสถานะและคุณธรรมอันสูงส่งในอิสลาม การเข้าใจตำแหน่งของท่านเป็นเรื่องที่เกินกว่าความคิดหรือปัญญามนุษย์ทั่วไปจะเข้าถึงได้ ด้วยเหตุนี้ บรรดานักวิชาการจึงยอมรับว่า ความยิ่งใหญ่ของท่านหญิงนั้นเป็นสิ่งที่ไม่อาจอธิบายได้โดยสมบูรณ์ เพราะท่านคือ "ฮุจญัตของฮุจญัตแห่งอัลลอฮ์" ดังที่รายงานจากอิมามอัสการีย์ (อ.) ระบุว่า:
"نحن حجج اللّه على خلقه، و جدّتنا فاطمة حجة اللّه علينا"
“เราคือฮุจญัต (ข้อพิสูจน์/หลักฐาน) ของอัลลอฮ์สำหรับสิ่งถูกสร้างทั้งปวง ส่วนย่าของเรา ท่านหญิงฟาฏิมะฮ์ คือ ฮุจญัตของอัลลอฮ์สำหรับพวกเรา”
คำกล่าวนี้ชี้ให้เห็นถึงตำแหน่งอันสูงส่งของท่านหญิงในฐานะที่เป็นข้อพิสูจน์แห่งพระผู้เป็นเจ้า แม้แต่มวลอิมามยังยอมรับฐานะของพระนางในฐานะที่เป็นผู้เหนือกว่าพวกเขา
บทบาทของท่านหญิงในชีวิต
ชีวิตของท่านหญิงฟาฏิมะฮ์ (อ.) สามารถแบ่งออกเป็นสามบทบาทหลัก ได้แก่:
บทบาทในฐานะมุสลิมผู้ศรัทธา
ท่านหญิงฟาฏิมะฮ์ (อ.) เป็นแบบอย่างที่สมบูรณ์ในแง่ของอิบาดัต (การเคารพภักดีพระเจ้า) และอัคลาก (จริยธรรม) รีวายัตมากมายกล่าวถึงความใกล้ชิดของท่านหญิงกับพระผู้เป็นเจ้า และการใช้ชีวิตที่สะท้อนคุณธรรมอันสมบูรณ์
บทบาทในสังคม
ท่านหญิงฟาฏิมะฮ์ (อ.) เป็นผู้นำทางสังคมที่กล้าหาญ ในช่วงหลังการวายชนม์ของท่านศาสดา (ศ็อลฯ) ท่านหญิงได้ต่อสู้เพื่อปกป้องสิทธิของท่านอิมามอาลี (อ.) ในฐานะคิลาฟะฮ์ การต่อสู้ของพระนางแสดงให้เห็นถึงความกล้าหาญและความมุ่งมั่นในความยุติธรรม นอกจากนี้ การตับลีฆ (เผยแผ่สาส์น) และการเทศนาของพระนางยังสะท้อนถึงความเป็นผู้นำที่ทรงพลัง
บทบาทในครอบครัว
ในฐานะภรรยาและมารดา ท่านหญิงฟาฏิมะฮ์ (อ.) เป็นต้นแบบของการสนับสนุนครอบครัว พระนางไม่เคยเรียกร้องใด ๆ จากสามี และคอยเป็นกำลังใจให้ท่านอิมามอาลี (อ.) ในทุกสถานการณ์ แม้ในยามสงคราม ท่านหญิงยังคงรักษาความสมดุลในชีวิตครอบครัวและการอบรมบุตรของตน
ความรักและการให้เกียรติจากท่านศาสดา (ศ็อลฯ)
ความสัมพันธ์ระหว่างท่านศาสดา (ศ็อลฯ) และท่านหญิงฟาฏิมะฮ์ (อ.) แสดงถึงความรักและการให้เกียรติที่ไม่ธรรมดา ท่านศาสดาเคยกล่าวว่า:
"إنّ اللهَ یَغضِبُ لِغَضَبِکِ"
“แท้จริงพระองค์อัลลอฮ์จะพิโรธเพื่อความพิโรธของฟาฏิมะฮ์”
นอกจากนี้ ท่านยังเคยกล่าวว่า:
"فاطمة بضعة منّی، من آذاها فقد آذانی"
“ฟาฏิมะฮ์คือส่วนหนึ่งจากร่างกายของฉัน ผู้ใดรังแกนาง ผู้นั้นรังแกฉัน”
คำกล่าวนี้สะท้อนถึงความสำคัญของท่านหญิงในสายตาของท่านศาสดา (ศ็อลฯ) และพระเจ้า
บทเรียนจากชีวิตของท่านหญิงฟาฏิมะฮ์ (อ.)
ชีวิตของท่านหญิงฟาฏิมะฮ์ (อ.) เป็นแบบอย่างที่ยิ่งใหญ่สำหรับมุสลิมทุกคน พระนางแสดงให้เห็นถึงความสมดุลระหว่างบทบาทส่วนตัว ครอบครัว และสังคม ทั้งยังแสดงถึงความอดทนและการเสียสละในทุกด้าน แม้ชีวิตของท่านหญิงจะสั้น แต่พระนางได้ทิ้งบทเรียนอันทรงคุณค่าให้กับโลกมุสลิม และเป็นแบบอย่างที่ไม่มีวันลบเลือน
ในฐานะที่ท่านหญิงฟาฏิมะฮ์ (อ.) เป็น “นายหญิงแห่งสตรีทั้งปวง” พระนางยังคงเป็นแรงบันดาลใจให้กับสตรีมุสลิมทั่วโลก และเป็นแบบอย่างของความศรัทธา ความอดทน และความเป็นผู้นำที่สมบูรณ์แบบในทุกมิติ
สรุปเนื้อหาจากหนังสือ มนุษย์ 250 ปี บทที่ 11