ชีวประวัติอิมามฮะซัน อัลมุจญ์ตะบาอ์ (อ.) ตอนที่สอง
ชีวประวัติอิมามฮะซัน อัลมุจญ์ตะบาอ์ (อ.) ตอนที่สอง
ตำแหน่งอิมามัตของอิมามฮะซัน อัลมุจญ์ตะบาอ์
ฮะซัน บินอะลี เป็นอิมามคนที่สองของชีอะฮ์ เขาได้รับตำแหน่งอิมามัต หลังจากการเป็นชะฮีดของอิมามอะลี (อ.) ในวันที่ ๒๑ เราะมะฎอน ๔๐ ฮ.ศ. และดำรงตำแหน่งนี้ เป็นเวลา ๑๐ ปี [๑๔] เชคกุลัยนี (เสียชีวิตในปี ๓๒๙ ฮ.ศ.) ในหนังสือ อัล-กาฟีย์ ซึ่งเป็นกลุ่มริวายะฮ์ที่เกี่ยวข้องกับการแต่งตั้งฮะซัน บิน อะลี ดำรงตำแหน่งอิมามัต [๑๕] บนพื้นฐานจากริวายะฮ์หนึ่ง รายงานว่า อิมามอะลี (อ.) ก่อนการเป็นชะฮีดของเขาและเขาได้มอบหนังสือและอาวุธ (วะดาอิอ์อัลอิมามัต) ให้กับฮะซัน บุตรของเขา ท่ามกลางบรรดาบุตรของเขาและผู้อาวุโสของชีอะฮ์และประกาศว่า ศาสดามุฮัมมัด (ศ็อลฯ) ได้สั่งให้แต่งตั้งฮะซัน เป็นตัวแทนของอิมามอะลี (๑๖) ตามบางริวายะฮ์ รายงานว่า เมื่ออิมามอะลีเดินทางไปยังเมืองกูฟะฮ์ เขาได้มอบบางส่วนจากวะดาอิอ์อัลอิมามัตให้กับท่านหญิงอุมมุซะละมะฮ์ และอิมามฮะซัน (อ.) หลังจากที่กลับมาเมืองกูฟะฮ์ ได้รับช่วงต่อจากนั้น (๑๗) เชคมูฟีด (เสียชีวิต ๔๑๓ ฮ.ศ.) ยังกล่าวไว้ในหนังสือ อัลอิรชาดของเขา ด้วยว่า ฮะซัน (อ.) เป็นตัวแทนของบิดาของเขา ในหมู่บุตรหลานและบรรดาศอฮาบะฮ์ของเขา (๑๘) สำหรับการเป็นตัวแทนของอิมามฮะซัน มุจญ์ตะบาอ์ อ์ (อ.) ได้ให้เหตุผลด้วยฮะดีษ สิบสองเคาะลีฟะฮ์ (๑๙) ด้วยเช่นกัน [๒๐] ในช่วงสองสามเดือนแรกของการเป็นอิมามัตของอิมามฮะซัน (อ.) เขาได้อาศัยในเมืองกูฟะฮ์และดำรงตำแหน่งเคาะลีฟะฮ์
ในช่วงวัยเด็กและวัยหนุ่ม
ตามคำกล่าวที่เป็นที่รู้จัก [๒๑] ระบุว่า อิมามฮะซัน (อ.) ถือกำเนิดในวันที่ ๑๕ เราะมะฎอน ปีที่ ๓ แห่งฮิจเราะฮ์ศักราช เชคกุลัยนีและเชคฏูซี ถือว่า อิมามฮะซัน (อ.) ถือกำเนิดในปีที่สองแห่งฮิจเราะฮ์ศักราช ([๒๒] เขาถือกำเนิดที่เมืองมะดีนะฮ์ [๒๓] และศาสดามุฮัมมัด (ศ็อลฯ) ได้อ่านอะซานที่หูขวาของเขาและอิกอมะฮ์ที่หูซ้ายของเขา [๒๔] และในวันที่เจ็ดแห่งวันถือกำเนิดของเขา เขาได้เชือดแกะตัวหนึ่งเพื่อทำการอะกีเกาะฮ์ให้กับเขา (๒๕)
บนพื้นฐานจากบางรายงานของอะฮ์ลิซซุนนะฮ์ กล่าวว่า ก่อนที่ศาสดามุฮัมมัด (ศ็อลฯ) จะตั้งชื่อให้อิมามฮะซัน อิมามอะลี (อ.)ได้เลือกชื่อ ฮัมซะฮ์ [๒๖] หรือ ฮาร์บ [๒๗] ให้กับอิมามฮะซัน (อ.)แล้ว แต่เมื่อศาสดาได้ถามชื่อของเด็กทารกนี้ อิมามอะลีก็ตอบว่า ฉันจะไม่ก้าวล้ำเหนือศาสนทูตของอัลลอฮ์ในการตั้งชื่อลูกของเขา เป็นอันขาด [๒๘] บากิร ชะรีฟ อัลกุเราะชีย์ หนึ่งในนักค้นคว้าวิจัยของชีอะฮ์ได้ยกเหตุผลที่ปฏิเสธรายงานเหล่านี้ (๒๙)
พิธีกรรมกัรกีอาน
พิธีกรรมกัรกีอาน เป็นหนึ่งในพิธีกรรมดั้งเดิมของทางภาคใต้ของอิหร่าน ซึ่งจัดขึ้นทุกปีในคืนวันที่ ๑๕ ของเดือนเราะมะฎอน และในเวลาเดียวกันกับเป็นวันถือกำเนิดของอิมามฮะซัน (อ.) ทางภาคใต้ของอิหร่าน (๓๐) กล่าวกันได้ว่า พิธีกรรมนี้ ได้รับจากยุคสมัยของศาสดามุฮัมมัด (ศ็อลฯ) เนื่องจากการถือกำเนิดของอิมามฮะซัน (อ.) และด้วยความยินดีของศาสนทูตแห่งพระผู้เป็นเจ้า สำหรับการประสูติของหลานชายคนแรก ผู้คนต่างเดินไปที่บ้านของอิมามอะลี (อ.)และท่านหญิงฟาฏิมะฮ์ (ซ.)เพื่อแสดงความยินดีกับพวกเขา และหลังจากนั้น พิธีกรรมนี้ก็ก็ได้รับความนิยมในหมู่ชาวมุสลิมเป็นพิธีกรรมในทุกปี [๓๑]
ช่วงวัยเด็กของอิมามฮะซัน อัลมุจญ์ตะบาอ์
ไม่มีข้อมูลมากนักเกี่ยวกับช่วงวัยเด็กและวัยหนุ่มของฮะซัน บิน อะลี (อ.)[๓๒] เขาใช้ชีวิตไม่ถึงแปดปีในสมัยของศาสดามุฮัมมัด (ศ็อลฯ) และด้วยเหตุนี้ ชื่อของเขาจึงถูกกล่าวถึงอยู่ในชั้นสุดท้ายของศอฮาบะฮ์ [๓๓] ] รายงานเกี่ยวกับความรักอย่างมากของศาสดามุฮัมมัด (ศ็อลฯ) ที่มีต่อฮะซันและฮุเซน (อ.) น้องชายของเขา ซึ่งมีรายงานในแหล่งข้อมูลส่วนใหญ่ของชีอะฮ์และอะฮ์ลิซซุนนะฮ์ [๓๔]
เหตุการณ์ที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งในช่วงเวลานี้ คือ การเข้าร่วมของอิมามฮะซันกับบิดาและมารดา และน้องชายของเขา ในเหตุการณ์มุบาฮะละฮ์ของศาสดามุฮัมมัด (ศ็อลฯ) กับชาวคริสเตียนในเมืองนัจญ์รอน เขาและน้องชายของเขา เป็นตัวอย่างของคำว่า อับนาอะนา ในโองการมุบาฮะละฮ์ (๓๕) ดังที่ซัยยิดญะอ์ฟัร มุรตะฎอ กล่าวว่า อิมามฮะซัน (อ.) ยังเข้าร่วมในการให้สัตยาบัน บัยอะฮ์ริฎวาน และให้สัตยาบันต่อศาสดามุฮัมมัด (ศ็อลฯ) ( ๓๖) โองการต่างๆจากอัลกุรอานได้ถูกประทานลงมาเกี่ยวกับเขาและบรรดาอัศฮาบุลกิซาอ์ [๓๗] กล่าวกันได้ว่า เมื่อฮะซัน อายุได้เจ็ดขวบ เขาได้เข้าร่วมในมัจญ์ลิซของศาสดามุฮัมมัด (ศ็อลฯ.) และเล่าให้มารดาของเขาฟังในสิ่งที่ได้รับการวิวรณ์แก่ศาสดามุฮัมมัด (ศ็อลฯ) (๓๘)
มีรายงานจากสุลัยม์ บินกัยซ์ (เสียชีวิตในช่วงปลายศตวรรษที่ 1 ของฮิจเราะฮ์ศักราช) กล่าวว่า หลังจากการวะฟาตของศาสนทูตแห่งพระผู้เป็นเจ้า (ศ็อลฯ) และอะบูบักร ได้เข้ายึดครองตำแหน่งเคาะลีฟะฮ์ ฮะซัน บินอะลี พร้อมด้วยบิดาของเขา มารดาและน้องชายของเขา ได้ไปที่บ้านของชาวอันศอรเพื่อขอความช่วยเหลือต่ออิมามอะลี (๓๙) นอกจากนี้ เขายังคัดค้านการนั่งบนธรรมาสน์ของศาสดามุฮัมมัด (ศ็อลฯ) อีกด้วยเช่นกัน [๔๐]