ชีวประวัติอิมามฮะซัน อัลมุจญ์ตะบาอ์ (อ.) ตอนที่สาม
ชีวประวัติอิมามฮะซัน อัลมุจญ์ตะบาอ์ (อ.) ตอนที่สาม
ช่วงวัยรุ่นของอิมามฮะซัน อัลมุจญ์ตะบาอ์
รายงานต่างๆที่เกี่ยวกับช่วงวัยหนุ่มของอิมามฮะซัน (อ.) นั้นมีจำนวนจำกัด ตัวอย่างเช่น มีการกล่าวไว้ในหนังสือ อัล-อิมามัต และอัซ-ซิยาซะฮ์ ว่า อุมัร บิน ค็อตฏอบ ได้สั่งให้ฮะซัน บิน อะลีได้เข้าร่วมในฐานะเป็นพยาน ในสภาที่ปรึกษาทั้งหกคน เพื่อแต่งตั้งตำแหน่งเคาะลีฟะฮ์ (๔๑)
ในบางแหล่งข้อมูลของอะฮ์ลิซซุนนะฮ์ รายงานว่า อิมามฮะซันและอิมามฮุเซน (อ)เข้าร่วมในสงคราม อัฟริกิยะห์ ในปีที่ ๒๖ ฮ.ศ.(๔๒) และสงครามฏอบะริสตาน ในปีที่ ๒๙ ฮ.ศ. หรือ ปีที่ ๓๐ ฮ.ศ.[๔๓] รายงานเหล่านี้มีทั้งผู้สนับสนุนและฝ่ายตรงข้าม
ญะอ์ฟัร มุรตะฎอ อามิลี กล่าวว่า เมื่อพิจารณาถึงปัญหาทางด้านสายรายงานของพวกเขาและการต่อต้านของบรรดาอิมาม (อ.) ต่อวิธีการพิชิต ถือว่า รายงานเหล่านี้ได้ถูกกุขึ้นมา ขณะที่อิมามอะลี (อ.) ก็ไม่ได้อนุญาตให้อิมามฮะซันและอิมามฮุเซน (อ)เข้าร่วมในสมรภูมิศิฟฟีน นี่ถือเป็นการยืนยันอีกด้วย [ ๔๔] ] วิลเฟรด มาเดลอง เชื่อว่า อิมามอะลี (อ.) อาจต้องการที่จะให้ ฮะซัน บุตรชายของเขาทำความรู้จักกับกิจการของสงครามตั้งแต่อายุยังหนุ่ม และเพิ่มประสบการณ์ในการทำสงครามของเขา (๔๕) ยังมีรายงานต่างๆที่เกี่ยวข้องกับยุคสมัยดังกล่าว ที่ว่า เมื่อใดก็ตามที่ประชาชนจะฟ้องร้องต่ออะลี เกี่ยวกับอุษมาน เขาก็จะส่งฮะซัน บุตรชายของเขา [๔๖] ตามรายงานของบะลาซะรี กล่าวว่า ในเรื่องของการก่อจราจลของประชาชนในช่วงสุดท้ายการปกครองของเคาะลีฟะฮ์อุษมาน ซึ่งนำไปสู่การปิดล้อมบ้านของเขาและตัดขาดการส่งน้ำให้เขา และในที่สุดเขาก็ถูกสังหารเสียชีวิต ฮะซัน บินอะลี และน้องชายของเขา ได้รับคำสั่งจากอิมามอะลี (อ.) พร้อมด้วยบุคคลอื่นๆ ได้ปกป้องบ้านของอุษมาน (๔๗) กอฎี นุอ์มาน อัล-มัฆริบี (เสียชีวิตในปี ๓๖๓ ฮ.ศ.) และผู้เขียนหนังสือ ดะลาอิลุลอิมามัต เขียนว่า หลังจากที่กลุ่มก่อจราจลได้ตัดขาดการส่งน้ำ อิมามฮะซัน อัลมุจญ์ตะบาอ์ (อ.) ได้นำน้ำไปให้กับอุษมานตามคำสั่งของบิดาของเขา (๔๘) มีรายงานว่า ฮะซัน บินอะลี ได้รับบาดเจ็บในเหตุการณ์นี้ด้วย (๔๙) แต่ทว่านักวิชาการชีอะฮ์บางคน เช่น อัลลามะฮ์อามีนี เชื่อว่า รายงานเหล่านี้ถูกกุขึ้นมา [๕๐] ซัยยิดมุรตะฎอ ถือว่า หลังจากที่สงสัยว่า อิมามอะลี (อ.) ได้ส่งอิมามฮะซันและอิมามฮุเซน (อ.) เพื่อทำการปกป้องอุษมาน เหตุผลของการกระทำนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้มีการสังหารเคาะลีฟะฮ์โดยเจตนาและจัดหาอาหารและน้ำให้แก่ครอบครัวของเขา ไม่ใช่เพื่อป้องกันไม่ให้เขาถูกปลดออกจากตำแหน่งเคาะลีฟะฮ์ของบรรดามุสลิม เพราะเขานั้นสมควรที่จะถูกปลดออกจากตำแหน่งเคาะลีฟะฮ์ของบรรดามุสลิม เนื่องจากการกระทำผิดของเขา (๕๑)
ภรรยาและบุตรของอิมามฮะซัน อัลมุจญ์ตะบาอ์
มีรายงานที่แตกต่างกันเกี่ยวกับจำนวนภรรยาและบุตรของฮะซัน บินอะลี (อ.) แม้ว่า แหล่งข้อมูลทางประวัติศาสตร์ได้กล่าวถึงภรรยาของอิหมามฮะซัน (อ.) สูงสุดถึง ๑๘ คน ด้วยกัน [๕๒] แต่ตัวเลข เช่น ๒๕๐ [๕๓] ๒๐๐ [๕๔] ๙๐ [๕๕] และ ๗๐ [๕๖] ก็ถูกกล่าวถึงสำหรับจำนวนภรรยาของเขาอีกด้วย
บางแหล่งข้อมูล กล่าวถึงการแต่งงานและการหย่าร้างหลายครั้งของเขา เรียกเขาว่า มิฏลาก (ผู้หย่าร้างอย่างมากมาย) (๕๗) นอกจากนี้ พวกเขายังได้กล่าวว่าฮะซัน บินอะลี (อ.) มีทาสหญิงรับใช้เป็นจำนวนมาก และบางคนก็มีบุตรกับเขาด้วย (๕๘)
ประเด็นที่เกี่ยวกับการหย่าร้างของอิมามฮะซัน (อ.) ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์ทางประวัติศาสตร์ สายรายงาน และเนื้อหาในแหล่งข้อมูลทางโบราณและร่วมสมัยบางแหล่ง (๕๙) ตามคำกล่าวของมาเดลอง ระบุว่า บุคคลแรกที่เผยแพร่ข่าวลือว่า อิมามฮะซัน (อ.) มีภรรยาถึง ๙๐ คน คือ มุฮัมมัด บิน กัลบี และ มะดาอินี (เสียชีวิต ๒๒๕ ฮ.ศ.) ถือว่า จำนวนเลขเหล่านี้ ก็ถูกกุขึ้นมาด้วยเช่นกัน ในขณะเดียวกัน กัลบีเองก็กล่าวถึงชื่อของผู้หญิงเพียงสิบเอ็ดคน ซึ่งการแต่งงานของพวกนางทั้งห้าคนกับอิมามฮะซัน (อ.)นั้นเป็นเรื่องที่น่าสงสัย [๖๐] กุรอชีย์ ถือว่า ข่าวเหล่านี้ถูกสร้างขึ้นโดยพวกอับบาซียะฮ์โดยมีจุดประสงค์เพื่อเผชิญหน้ากับบรรดาซัยยิดฮะซะนีย์ (๖๑)
นอกจากนี้ ยังมีความแตกต่างในเรื่องจำนวนบุตรของอิมามมุจญ์ตะบาอ์ (อ.) โดยเชคมูฟีด กล่าวว่า จำนวนบุตรของเขามีถึง ๑๕ คนด้วยกัน (๖๒)
ฏอบัรซีย์ ระบุว่า บุตรของอิมามฮะซัน (อ.)มี ๑๖ คน และยังถือว่าอบูบักร์ เป็นบุตรคนหนึ่งของเขาที่ถูกสังหารเสียชีวิตในเหตุการณ์วันอาชูรอ (๖๓)