เว็บไซต์ อิมาม อัลฮะซะนัยน์ (อลัยฮิมัสลาม)เพื่อคุณค่าและสารธรรมอิสลาม

อัลกุดส์ (โดมทองแห่งศรัทธา ) ตอนที่ 2

0 ทัศนะต่างๆ 00.0 / 5

อัลกุดส์ (โดมทองแห่งศรัทธา ) ตอนที่ 2


โดย ฮุจญตุลอิสลาม วัลมุสลีมีน ซัยยิด สุไลมาน ฮูซัยนี

 

ยิว คือใคร...
ยิว คือ พวกไหน...
 ยิว คือ ประชาชาติใด?

 

เราจะต้องทำความรู้จักชาติเหล่านี้
ใครคือ ผู้ยึดครองมัสยิดุลอักศอ
ใครคือ ผู้ยึดครองอัลกุดส์
ใครคือ ผู้ยึดครองแผ่นดินปาเลสไตน์


คำตอบ : คือ ยิว


แน่นอน !
ถ้าหากเราจะสืบประวัติชาวยิว อยากจะรู้ถึงพฤติกรรม นิสัย อุดมการณ์และแนวคิดของประชาชาตินี้ และที่ๆดีที่สุดที่เราจะกลับไปดู คือ พระมหาคัมภีร์อัลกุรอาน
พระมหาคัมภีร์อัลกุรอานไม่เคยตำหนิ ไม่เคยประจานประชาชาติใดมากเท่ากับประชาชาตินี้และตำหนิมากที่สุดด้วย มีอายะฮ์มีโองการเป็นร้อยๆโองการ อยู่ในพระมหาคัมภีร์ อัลกุรอาน ที่แยกแยะความคิด แนวคิดและอุดมการณ์ของชนชาตินี้


ทำไมอัลกุรอาน จึงเคียดแค้นชิงชังประชาชาตินี้มากที่สุด ถ้าเราจะพูดให้เข้าใจง่าย


คำตอบ ก็คือ เพราะประชาชาตินี้เป็นประชาชาติที่ทรยศต่อพระผู้เป็นเจ้ามากที่สุดประชาชาติหนึ่ง ไม่มีประชาชาติใดที่ทรยศไปมากกว่าประชาชาตินี้ ประชาชาตินี้เคยอยู่ในสภาพของผู้ถูกกดขี่ในสมัยของฟาโรห์(ฟิรเอาน์) อัลลอฮ์(ซ.บ)จึงได้ส่ง นบีมูซา(อ)มาเพื่อปลดปล่อยพวกเขาให้พ้นจากสภาพทุกข์ อันนั้น ยุคสมัยหนึ่งประชาชาตินี้ ถูกกดขี่ ถึงขั้นที่

อัลกุรอานบอกว่า เด็กๆของพวกเจ้าจะถูกเชือดเว้นไว้แต่ผู้หญิง


อัลลอฮ์(ซ.บ)ได้ส่งนบีมูซา(อ) มาเพื่อปลดปล่อยพวกเขา ให้พ้นจากการกดขี่ของฟิรเอาน์ และเมื่อได้จมฟิรเอาน์ ลงทะเลแดง นบีมูซา(อ)ก็พาพวกเขาขึ้นอีกฝั่งหนึ่งของทะเลแดง ทันทีที่พวกเขาขึ้นบก พฤติกรรม ธาตุแท้อันชั่วช้าของประชาชาติเหล่านี้ก็เริ่มปรากฏขึ้น


ซึ่งเนื้อหาในคัมภีร์อัลกุรอานนั้นมีมากมาย พี่น้องที่สนใจสามารถหาดูได้ อ่านดูได้ ในรูปแบบต่าง


พวกเขาขึ้นบกได้ไม่นาน ทั้งๆที่พวกเขาได้เห็นกองทัพฟิรเอาน์จมที่ทะเลแดง ได้เห็นถึงอำนาจที่ยิ่งใหญ่ของอัลลอฮ์(ซ.บ) แต่พวกเขาก็เริ่มออกจากแนวทางพระผู้เป็นเจ้า โดยการปั้นลูกวัวขึ้นมาเพื่อที่จะกราบไหว้ บูชา


อัลลอฮ์(ซ.บ) ได้ตักเตือน ได้ลงโทษพวกเขา และเมื่อพวกเขาได้ทำการเตาบะฮ์กลับตัว พระองค์ก็ทรงส่งความเมตตา แต่เมื่อช่วงเวลาผ่านไป เขาก็เริ่มทรยศอีก ลักษณะการทรยศมีหลายรูปแบบ เช่น การก่อกวนท่านนบีมูซา(อ) ในรูปแบบต่างๆ


ถ้าหากเราดู ซูเราะฮ์อัล-บะกอเราะฮ์ (อัล-บะกอเราะฮ์ แปลว่า ลูกวัว) ซึ่งเรื่องลูกวัว ก็คือเรื่องของพวกเขาเหล่านี้


ในซูเราะฮ์อัล-บะกอเราะฮ์ มีช่วงหนึ่ง อัลลอฮ์(ซ.บ) สั่งให้พวกเขาทำกุรบาน โดยให้พวกเขาเชือดวัวหนึ่งตัว เขาถามย้อนกลับไปย้อนกลับมา เป็นสิบๆคำถาม กว่าเขาจะได้เชือด


قلوا ادعوا لنا


บอกซิว่าอัลลอฮ์(ซ.บ)จะเอาวัวแบบไหน? เอาวัวสีอะไร? เอาวัวตัวผู้หรือตัวเมีย...จะเอาวัวที่กินหญ้าหรือไม่กินหญ้า


พวกเขา ถามนบี ถามกลับไปกลับมา กว่าเขาจะได้ปฏิบัติตามคำสั่งของอัลลอฮ(ซบ)


วัวเพียงตัวเดียวกับการรังควานนบีมูซา(อ) อย่างมากมาย จนกระทั่งอัลลอฮ์(ซ.บ)นั้นได้ตัดสินให้


นบีมูซา(อ) ทิ้งประชาชาตินี้ หลังจากนั้น ประชาชาตินี้ก็เริ่มลำพองตน (ตะกับโบร) เพราะเริ่มต้นของประชาชาตินี้ นั้นคือ ประชาชาติที่ได้รับบารอกะฮฺ(สิริมงคลต่างๆ )จาก

อัลลอฮ์(ซ.บ) อย่างมากมาย


يا بَني‏ إِسْرائيلَ اذْکُرُوا نِعْمَتِيَ الَّتي‏ أَنْعَمْتُ عَلَيْکُمْ وَ أَنِّي فَضَّلْتُکُمْ عَلَي الْعالَمينَ

โอ้บนีอิสรออีล จงรำลึกเนี้ยะมัตต่างๆที่อัลลอฮ์(ซ.บ)ได้ประทานแก่พวกเจ้า และครั้งหนึ่งพระองค์ได้ทำให้เจ้านั้นสูงส่งกว่าประชาชาติอื่นๆทั้งหมด

 

บรรดาศาสดานั้นถูกส่งไปยังพวกเขามากที่สุด แต่แล้วเมื่อวันเวลาผ่าน ไป ความจองหอง ความลำพอง ความชาญฉลาดที่อัลลอฮ์(ซ.บ)มอบให้แก่พวกเขา เขากลับใช้ไปในหนทางที่ผิดและผิดเป้าหมาย


จนกระทั่งวันหนึ่ง เป็นศัตรูกับพระเจ้า เขาประกาศตัวเป็นปฏิปักษ์กับพระผู้เป็นเจ้า ที่พระองค์ทรงปลดปล่อยพวกเขาให้พ้นจากความอัปยศในน้ำมือของฟิรเอาน์


ถ้าหากเราดูในพระมหาคัมภีร์อัลกุรอาน พวกเขาเริ่มเบื่อที่จะฟังศาสดา เพราะศาสดาบอกว่า อัลลอฮ์(ซ.บ)ว่าอย่างนั้นว่าอย่างนี้ อัลลอฮ์(ซ.บ)สั่งให้ทำอย่างนั้น สั่งให้ทำอย่างนี้ ทั้งๆที่เขาเห็นการช่วยเหลือจากอัลลอฮ์(ซ.บ) ในรูปลักษณะของมุอ์ญิซาต(ปาฏิหาริย์) อย่างมากมาย ดังนั้น เขาจึงเริ่มค่อยๆปฏิเสธ


เรามาดูโองการหนึ่งที่อยู่ใน ซูเราะฮ์ อัลมาอิดะฮ์ โองการที่ 64


ที่พวกเขากลายเป็นประชาชาติที่ถูกสาปแช่ง


วันหนึ่งเมื่อมีคำสั่งจากอัลลอฮ์(ซ.บ) พวกเขาก็บอกกับศาสดา ที่นำข่าวจากอัลลอฮ(ซบ) พอได้แล้ว อัลลอฮ์ อัลลอฮ์ อะไรกัน


وَقَالَتِ الْيَهُودُ يَدُ اللّهِ مَغْلُولَةٌ


เรามัดมืออัลลอฮ์(ซ.บ)ไว้หมดแล้ว


 ตอนนี้ พระองค์ไม่สามารถที่จะทำอะไรได้แล้ว หมายความว่า ไม่มีอำนาจแล้ว อำนาจของมัคลูก คือ การพันธนาการ ซึ่งเป็นคำพูดในเชิงอุดมการณ์ คือ เราได้ยึดอำนาจของพระองค์ ไว้หมดแล้ว


คำสั่ง จากอัลลอฮ์ (ซ.บ)นั้นพอแล้ว โองการก็ลงมา


غُلَّتْ أَيْدِيهِمْ


อัลลอฮ(ซ.บ) นั้นได้ยินคำพูดของพวกเขาที่บอกว่า พระเจ้านั้นได้ถูกพันธนาการแล้ว อัลลอฮ์(ซ.บ) บอกกับพวกเจ้าว่า อำนาจของพวกเจ้านั้นแหละที่จะถูกยึด


นี่คือ ประชาชาติที่เชื่อในพระผู้เป็นเจ้า ประชาชาติที่ศาสดานับหมื่นองค์ถูกส่งลงมายังพวกเขา มีอายะฮ์ ว่า นบีในบนีอิสรออีลนั้นถูกส่งลงมาเป็นหมื่นๆองค์ นบีทั้งหมดนั้น หนึ่งแสนสองหมื่นสี่พันองค์ นั่นคือความเชื่อของพวกเขา คือ พวกเขาเริ่มปฏิเสธอำนาจของอัลลอฮ์(ซ.บ)

 

นั่นคือ ทัศนะของประชาชาตินี้ที่มีต่อพระผู้เป็นเจ้า


เมื่อเขาเริ่มมีพฤติกรรมต่างๆเหล่านี้ อัลลอฮ์(ซ.บ)ก็เริ่มเปิดเผยพฤติกรรมของพวกนี้ว่า ประชาชาตินี้อันตรายสักขนาดไหน?


หลังจากนั้น เมื่อศาสดาเริ่มชักชวน คะยั้นคะยอ เริ่มชักชวนพวกเขาให้กลับสู่ทางนำ สู่คำสั่งของพระผู้เป็นเจ้า


พวกเขาก็ขยับพฤติกรรมมากขึ้นไปอีก โดยเริ่มมีความคิดที่จะฆ่าบรรดาศาสดา


เบื้องต้น คือ ปฏิเสธพระผู้เป็นเจ้า แต่ปฏิเสธอย่างไร มันไม่ขาดเพราะยังมีศาสดาของพระผู้เป็นเจ้าอยู่ ในมือของเขา พวกเขาจึงเริ่มฆ่าบรรดาศาสดา และถ้าเราดูในพระมหาคัมภีร์อัลกุรอานนั้น พวกเขาได้ฆ่าบรรดาศาสดาเป็นจำนวนมาก


ในบางริวายะฮฺกล่าวว่า บางเมืองนั้นพวกเขามีแผ่นดินเมื่อเขาเริ่มสถาปนารัฐ บางเมืองพวกเขาฆ่าศาสดาเป็นร้อยคน ในเวลาเพียงคืนเดียว แค่เพียงคืนเดียวเขาฆ่านบีได้เป็นร้อยคน และในตอนเช้า ตลาดแห่งการค้าขายเปิดอย่างปกติ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น


ลองคิดพินิจพิเคราะดู สมมุติ ว่า เมื่อคืนมีคนถูกฆ่าตายสักคนเหตุการณ์พึ่งเกิดเมื่อคืน รุ่งเช้าร้านน้ำชา ร้านอาหารนั้นจะปกติไหม?


คำตอบ ไม่ปกติแน่นอน ต้องมีการถาม ต้องมีการมุงดู มีไทยมุง แค่ยังไม่รู่ว่าใครตาย แต่มีคนตาย มีคนมาโยนศพ แต่สำหรับบนีอิสรออีล นบีถูกฆ่าตาย ถึง หนึ่งร้อยคน


รุ่งเช้า วิถีชีวิตของพวกเขาเป็นปกติ เหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น อัลกุรอานได้บอกเนื้อแท้ของพวกเขา และกุรอานก็บอกถึงเหตุผลที่พวกเขาฆ่าศาสดา


ทั้งๆที่ยุคหนึ่งสมัยหนึ่งนั้น ดุอาอฺหลัก ดุอาอฺเดียวของบนีอิสรออิล นั้น ขอให้อัลลอฮ์(ซ.บ) ส่งศาสดามายังพวกเขา ขอให้พระองค์ส่งศาสดามาชี้นำพวกเขา ขอให้พระองค์ส่งศาสดามาปลดปล่อยพวกเขา


แต่หลังจากที่อัลลอฮ์(ซ.บ) ส่งศาสดามายังพวกเขาแล้ว พวกเขากลับสังหารศาสดา !


เหตุผลสั้นๆที่อัลกุรอานพูดถึง เหตุผลที่พวกเขาฆ่าศาสดา นิดเดียวพี่น้อง


أَ فَكلَّمَا جَاءَكُمْ رَسولُ بِمَا لا تهْوَی أَنفُسكُمُ استَكْبرْتُمْ فَفَرِیقاً كَذَّبْتُمْ وَ فَرِیقاً تَقْتُلُونَ

لا تَهْوى‏ أَنْفُسُکُمُ


 เป็นเพราะไม่ถูกใจ !


อัลลอฮ์(ซ.บ)บอก
เมื่อมีบรรดารอซูลถูกส่งลงมายังเจ้า และพวกเขาไม่ถูกใจพวกเจ้าก็เริ่มต้น


استَكْبرْتُمْ


ตะกับโบร(หยิ่งยะโสโอหัง)ทันที การตะกับโบรต่อรอซูล ศาสดาที่ถูกส่งมา กลุ่มหนึ่งชี้ให้เห็นว่า
นบีมีมามากแล้ว ซึ่งอัลลอฮ์(ซ.บ) ไม่ได้พูดเป็นคนๆ แต่บอกว่า ในบรรดานบีที่มาเป็นจำนวนมากนั้น


فَفَرِیقاً كَذَّبْتُمْ


ศาสดาที่ถูกส่งลงมานั้น พวกเจ้าบอกว่า พวกเขาเป็นผู้ที่โกหกปฏิเสธไม่รับ


وَ فَرِیقاً تَقْتُلُونَ


และอีกกลุ่มหนึ่ง พวกเจ้าก็ฆ่าบรรดาศาสดาเหล่านั้นทั้งหมด

 

และถ้าหากเราดูเหตุผลของการฆ่า لا تَهْوى‏ أَنْفُسُکُمُ ไม่ถูกใจ เพียงแค่ศาสดารบกวนการเป็นอยู่พวกเขา รบกวนแนวคิดอันชั่วร้ายของพวกเขา เขาก็ฆ่าทันที ไม่มีเหตุผลอื่น เมื่อมาแล้วไม่ถูกใจ


นี่คือ พฤติกรรมของพวกเขาที่มีอยู่ในหน้าประวัติศาสตร์

 

ที่นี้ มีคำถามที่ว่าพฤติกรรมเหล่านี้ ความเชื่อของพวกเขาเหล่านี้ มีอยู่เฉพาะในประวัติศาสตร์ หรือเฉพาะในบรรพบุรุษพวกเขาใช่หรือไม่?


คำตอบ คือ ไม่ และความเชื่อในลักษณะเหล่านี้ยังมีอยู่ในพวกเขา นี่คือ ลักษณะความเชื่อที่เป็นพันธุกรรมของพวกเขา


โองการที่ยืนยันว่า พันธุกรรมนี้ได้ถูกถ่ายทอดมายังทุกรุ่นของพวกเขา ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญเป็นอย่างมาก มาดูอีกบางส่วน ว่า อัลลอฮ์(ซ.บ) นั้นเปิดเผยอะไร ?


ซูเราะฮ์อาลิอิมรอน โองการที่ 181


لقد سمع الله قول الذين قالوا إن الله فقير ونحن أغنياء

 

เมื่อเจริญรุ่งเรืองเป็น มหาอำนาจทางเศรษฐกิจ (ตั้งแต่ยุคโน้น แล้วที่พวกนี้เป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ) มีผู้ที่ร่ำรวยอย่างมหาศาล


หนึ่งในผู้ที่ร่ำรวยอย่างมหาศาลที่ถูกกล่าวถึง ในคัมภีร์อัลกุรอาน คือ กอรูน


‘กอรูน’ คือ บนีอิสรออีล


กอรูนนั้นรวยขนาดไหน ในอัลกุรอานบอกว่า กุญแจของกอรูนที่ทำด้วยทองนั้น ต้องให้ชายฉกรรจ์ แบกถึง 60 คน คนที่ทำหน้าที่แบกกุญแจทองของกอรูนเพียงหนึ่งอัน ไม่ต้องถามเลยว่า กอรูนมีอะไรบ้าง ดูแค่กุญแจลูกเดียวก็พอแล้ว


إِنَّ مَفاتِحَهُ لَتَنُوأُ بِالْعُصْبَةِ أُولِي الْقُوَّةِ

 

‘กุญแจทองคำ’ กุรอานบอกว่า ต้องแบกโดย บิลอุศบะฮ์ (ชายฉกรรจ์) ในฮะดีษบอกว่า เป็นชายฉกรรจ์ 40 คน ทึ่ถือกุญแจท้องพระคลังของกอรูน


‘กอรูน’ คือ บนีอิสรออิล เป็นอัซฮาบ(สาวก)นบีมูซา


مِنْ قَوْمِ مُوسى (เป็นประชาชาติของนบีมูซา)


พวกนี้เมื่อประสบความสำเร็จในด้านเศรษฐกิจ เป็นมหาอำนาจทางเศษรฐกิจก็พูดคำหนึ่งออกมาว่า

 

قالوا إن الله فقير ونحن أغنياء


อัลลอฮ(ซบ) ยากจน เราร่ำรวย

 

ที่อัลลอฮ(ซบ)จนในทัศนะของพวกเขานั้น เป็นเพราะพระองค์สั่งให้บริจาคให้ช่วยเหลือ ให้จ่ายนู้น ให้จ่ายนี่ แสดงว่าจน
อัลลอฮ(ซบ) ยังต้องพึ่งเงินของพวกเราตลอดเวลา


نحن أغنياء


เราคือผู้ที่ร่ำรวย


 ตอนนี้สภาพทางเศรษฐกิจของเรานั้นมีมากกว่าอัลลอฮ์(ซ.บ)


หลังจากคำกล่าวอันนี้ ซูเราะฮ์ อาลิอิมรอน 181 ก็ลงมาที่กำลังจะบอกว่า เป็นพันธุกรรม


อัลลอฮ(ซบ) บอกว่า مَا قَالُواْ سَنَكْتُبُ


และคำพูดอันนี้ของพวกเจ้าจะถูกบันทึกเอาไว้ พระองค์จะคิดบัญชีในคำพูดอันนี้


และคำพูดนี้จะถูกบันทึกและการฆ่าศาสดาของพวกเจ้าจะถูกบันทึกเช่นกัน โดยที่เจ้าไม่มีสิทธิ์

 

ในมุมของการตัฟซีร(อรรถาธิบาย) บรรดาผู้รู้นักวิชาการ ได้กล่าวว่า จริงๆแล้วพวกนี้กล่าวว่า


إن الله فقير ونحن أغنياء


อัลลอฮ์(ซบ)นั้นจน แต่เรารวย


แต่ทำไมอัลลอฮ์(ซบ) บันทึกโทษของเราสองอย่าง


หนึ่ง บันทึกโทษ ที่เขาพูดคำนี้และโทษที่เขาฆ่าบรรดาศาสดา


وَقَتْلَهُمُ الأَنبِيَاءَ بِغَيْرِ حَقٍّ وَنَقُولُ ذُوقُواْ عَذَابَ الْحَرِيقِ

 

วันหนึ่งอัลลอฮ(ซบ) จะพูดเหมือนกัน ذُوقُواْ (จงชิม) عَذَابَ الْحَرِيقِ ( การลงโทษที่เผาไหม้ )


ทั้งๆที่พวกนี้พูดคำเดียว มีความผิดคือ ดูหมิ่น ดูหมิ่นพระบรมเดชานุภาพของอัลลอฮ์(ซ.บ) แต่โทษของเขาแบ่งเป็นสอง คือ คำพูดนี้จะถูกบันทึก สองความผิดแห่งการฆ่าบรรดาศาสดาของพวกเขาก็จะถูกบันทึก


บรรดานักอรรถาธิบายอัลกุรอาน ได้ทำการอธิบายว่า ถึงแม้นว่าพวกนี้จะพูดคำนี้ แต่ก็ต้องถูกลงโทษเพราะว่าพวกเขามีความคิดและความเชื่อเหมือนกัน


ซึ่งมีริวายะฮฺ(วจนะ)อย่างมากมาย ที่ว่าใครที่เชื่อการกระทำของกลุ่มชนใดกลุ่มชนหนึ่ง การกระทำของผู้หนึ่งผู้ใด ถือว่าเขามีส่วนร่วมในอาชญากรรมอันนั้นด้วย และต้องการที่จะบอกว่า ที่อัลลอฮ์(ซ.บ) ลงโทษพวกเขาทั้งสองนั้น เพราะพวกเขายังมีความเชื่ออันนี้อยู่ เพราะถ้ามีศาสดาส่งลงมายังพวกเขา เขาก็จะฆ่าอีก


คือ ประชาชาตินี้ถูกปลูกฝังให้มีการฆ่าศาสดา และจริงๆแล้ว ถ้าเราพินิจพิเคราะห์ในประวัติศาสตร์อิสลาม ได้บันทึกไว้ เพื่อจะชี้ให้เห็นว่า สิ่งต่างเหล่านี้ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปในประชาชาตินี้เลย

 

ขอขอบคุณเพจห้องมหาลัย คมความคิด
(บทบรรยายพิเศษ)

 

กรุณาแสดงความคิดเห็นด้วย

ความคิดเห็นของผู้ใช้งานทั้งหลาย

ไม่่มีความคิดเห็น
*
*

เว็บไซต์ อิมาม อัลฮะซะนัยน์ (อลัยฮิมัสลาม)เพื่อคุณค่าและสารธรรมอิสลาม