บทเรียนจากนะฮ์ญุลบะลาเฆาะฮ์

"ความจำเป็นที่จะต้องรู้จักเพื่อนร่วมเดินทาง และเพื่อนบ้าน"

 

ท่านอะมีรุ้ลมุอ์มีนีน อิมามอะลี (อ) มีวจนะไว้ว่า

 "ก่อนที่จะสอบถามถึง เส้นทางของการเดินทาง จงสอบถามเกี่ยวกับเพื่อนผู้ร่วมเดินทางเสียก่อน และก่อนที่จะเลือกบ้านเป็นที่อยู่อาศัย จงสอบถามเกี่ยวกับเพื่อนบ้านเสียก่อน"

คำอธิบาย : มนุษย์เมื่อตัดสินจะเดินทางไปไหนสักสถานที่หนึ่งกับผู้อื่น จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องสอบถามเส้นทางของการเดินทางเพื่อสะดวกในการเดินทาง สู่เป้าหมาย แต่ในขณะเดียวกันสิ่งที่สำคัญไปกว่าการสอบถามเส้นทาง คือการพิจารณาถึงผู้ที่จะร่วมเดินทาง เนื่องจากว่าถ้าหากผู้ร่วมเดินทางเป็นคนที่ไม่ดี และเป็นคนชั่วเขาจะประสบกับความยากลำบากไม่มากก็น้อย แม้ว่าจะรู้และเข้าใจเส้นทางได้เป็นอย่างดี

ยกตัวอย่างง่ายๆ หากเพื่อนร่วมทางของเราคนนั้นเขาเป็นคนชั่ว เป็นพ่อค้ายาบ้า เขาอาจจะพกยาบ้าติดตัวไปด้วยในขณะที่เดินทางไปกับเรา และหากมีการตรวจค้นจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ เมื่อพบของกลางยาบ้าที่เพื่อนร่วมเดินทางนำติดตัวมา แน่นอนความผิดข้อหาครอบครองยาเสพติดไว้ในครอบครองก็จะมีสำหรับเราได้ ถึงแม้ว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาได้ในเวลาต่อมาก็ตาม หรือในกรณีอื่นๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นได้หากมีเพื่อนร่วมทางที่เป็นคนชั่ว

เช่นเดียวกันเมื่อ ต้องการจะเลือกเช่าบ้าน หรือปลูกบ้านเพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยสักหนึ่งหลัง ก่อนที่จะดูถึงทำเลที่จะสร้าง หรือสภาพของบ้านที่จะเช่า ต้องทำการพิจารณาตรวจสอบต่อเพื่อนบ้านข้างๆ เสียก่อน เพราะนานาปัญหาที่เกิดจากเพื่อนบ้านที่ไม่ดีนั้น มีให้เห็นอย่างมากมายในสังคมปัจจุบัน

ดังนั้นการมีเพื่อน ร่วมเดินทางที่เป็นคนไม่ดี การมีเพื่อนบ้านที่เป็นคนชั่ว จะนำมาซึ่งปัญหาต่างๆ อย่างมากมาย จะนำมาซึ่งความทุกข์ความไม่สบายใจต่างๆ มากไปกว่านั้นผลของการร่วมเดินทางกับคนไม่ดีในการเดินทาง หรือคบค้าสมาคมกับเพื่อนบ้านที่เป็นคนชั่ว ในการใช้ชีวิตจะส่งผลทางลบแก่จิตวิญญาณของมนุษย์อย่งหลีเลี่ยงไม่ได้ เพราะบุคคลที่ไม่ดีเหล่านั้นจะชักนำไปสู่ความชั่วช้า และหลงทางโดยไม่รู้ตัว

วจนะของท่านอะมี รุ้ลมุอ์มีนีน อิมามอะลี (อ) ได้สอนให้เราเข้าใจถึงผลลัพธ์ที่จะติดตามมาของการคบเพื่อนที่ไม่ดี และแนะนำให้ร่วมเดินทาง หรือคบค้าสมาคมกับผู้ศรัทธา ผู้ที่อยู่ในอุดมการณ์เดียวกัน ต้องมั่นใจว่าบุคคลนั้นเป็นคนมือสะอาด และเป็นคนดีจริงๆ เพื่อเขาจะได้ชี้นำเราสู่ความถูกต้อง และนำเราออกห่างจากความหายะต่างๆ ได้

ดังนั้นเมื่อใดก็ ตามที่เราเลือกเส้นทางชีวิต หรือจะปฎิบัติภารกิจใดก็ตาม หรือเกิดความสงสัยลังเล และไม่สามารถที่จะเลือกหนทางที่ถูกต้องได้ ก็จงหยุดเสีย มิเช่นนั้นเรากำลังกลายเป็นคนที่เดินไปบนเส้นทางในสภาพที่ตาบอด

 

แปลและเรียบเรียงโดย เชคมาลีกี ภักดี