สุนทโรวาทอิมามอะลี

สุนทโรวาทอิมามอะลี0%

สุนทโรวาทอิมามอะลี ผู้เขียน:
กลุ่ม: ห้องสมุดฮะดีษ
หน้าต่างๆ: 62

สุนทโรวาทอิมามอะลี

ผู้เขียน: สถาบันส่งเสริมการศึกษาและวิจัยเกี่ยวกับอิสลาม
กลุ่ม:

หน้าต่างๆ: 62
ผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชม: 50094
ดาวน์โหลด: 3127

รายละเอียด:

สุนทโรวาทอิมามอะลี
ค้นหาในหนังสือ
  • เริ่มต้น
  • ก่อนหน้านี้
  • 62 /
  • ถัดไป
  • สุดท้าย
  •  
  • ดาวน์โหลด HTML
  • ดาวน์โหลด Word
  • ดาวน์โหลด PDF
  • ผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชม: 50094 / ดาวน์โหลด: 3127
ขนาด ขนาด ขนาด
สุนทโรวาทอิมามอะลี

สุนทโรวาทอิมามอะลี

ผู้เขียน:
ภาษาไทย

• จงมีความละอายที่จะผละหนีจากการทำศึกสงคราม เพราะมันจะทำให้ผู้สืบตระกูลของต้องคำสาปแห่งความอัปยศ และนรกจะเป็นของท่านในวันตัดสินพิพากษา

• การหลบหนีอย่างเสียขวัญ ก็คือการสวมเสื้ออันอัปยศให้กับตัวท่านเอง และทำตัวของท่านให้เหมาะสมกับนรก

• ขอสาบานต่ออัลลอฮ์ หากในวันนี้ท่านได้หลบหนีคมดาบของศัตรูคนหนึ่งไปได้ แต่วันพรุ่งนี้ท่านจะไม่สามารถหลบหนีการตัดสินของพระองค์ผู้ทรงสูงส่งไปได้

• คนขี้ขลาดย่อมไม่มีความสุขในชีวิต

ความสูงศักดิ์

• คุณสมบัติอันยิ่งใหญ่ต่างๆ นำไปสู่ความสูงศักดิ์ และมิใช่กระดูกผุๆ ของบรรพบุรุษ

• คุณธรรมที่บุตรมีต่อบิดมารดา นับเป็นเครื่องพิสูจน์ของชาติกำเนิดที่ดี

มนุษย์มักมีความละม้ายคล้ายคลึงกับผู้ที่อยู่ร่วมสมัยกับพวกเขา มากกว่าบิดาของเขาเสียอีก

• บุตรที่เลวคนหนึ่ง ย่อมทำลายเกียรติยศทั้งมวลของบุคคลหนึ่ง และทำให้บรรพบุรุษของเขาต้องอับอาย

๔๑

ความร่ำรวย

• ผู้หนึ่งประสบกับความมั่งมีเพราะทำการเสี่ยง

• ผู้ที่เขามีความสุข ก็คือผู้ที่เขาร่ำรวยมาจากการประกอบอาชีพที่สุจริต

• เงินทองจะไม่มีวันสูญเสียไป เมื่อมันถูกใช้ไปเพื่อการรักษาชื่อเสียงที่ดีของท่านเอาไว้

• ผู้ใดก็ตามที่ไม่ได้รับผลประโยชน์จากสิ่งที่เขาเป็นเจ้าของ ก็เท่ากับว่าเขาได้สั่งสมมันไว้ให้กับภรรยาของเขาและสามีคนต่อไปของนาง

• จงอย่านับเอาบุคคลหนึ่งว่าเป็นคนรวย หากเขาไม่ยอมใช้จ่ายอะไรเลย

• ผู้ใดก็ตามที่ไม่เชื่อฟังทรัพย์สฤงคารในทางโลก ทรัพย์สฤงคารในทางโลกก็จะหันมาเชื่อฟังและปฏิบัติตามเขา

• มันช่างเป็นอาชญากรรมที่น่ารังเกียจสักขนาดไหนหนอ! ที่ไปยึดเอาทรัพย์สินของลูกกำพร้ามา

• การยึดกุมที่ชั่วร้ายที่สุด ก็คือเมื่อสิ่งของที่มีปัญหาได้ถูกมอบให้กับท่านเป็นผู้ดูแลรักษา

• การมีหนีสินมากมายจนเกินไป ทำให้คนที่มีความจริงใจต้องโกหก และคนที่มีเกียรติต้องหนีหน้า

• มันเป็นเพราะความร่ำรวยจนเกินไป ที่เป็นต้นเหตุทำให้หัวใจของมนุษย์ต้องฉ้อฉลและสั่งสมบาป

• จงแสวงหาความช่วยเหลือจากพระผู้เป็นเจ้า ให้ปลอดพ้นจากความมัวเมาในทรัพย์สมบัติ ผู้หนึ่งจะพบว่ามันเป็นเรื่องยากทีเดียวที่จะเยียวยารักษาตัวของเขาให้พ้นจากโรคนี้

๔๒

ความพึงพอใจ

• มนุษย์พึงพอใจอยู่กับความจำเป็นในเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ไม่ใช่เรื่องที่มากมายอันใด

• ไม่มีทรัพย์สฤงคารใดที่จะเทียบเท่ากับความพึงพอใจ

• ผู้ใดก็ตามที่พึงพอใจอยู่กับสิ่งที่พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงมอบให้กับเขา ย่อมจะไม่เศร้าโศกกับสิ่งที่เขาไม่มี

• หากท่านไม่สามารถจะหาในสิ่งที่ท่านปรารถนาได้ ก็จงพึงพอใจกับสิ่งที่ท่านมีอยู่

ความยากจน

• จงอย่าให้ความยากจนและความผิดหวังทำให้ท่านทุกข์ใจ เพราะทองคำต้องถูกทดสอบในไฟ ผู้ศรัทธาก็ต้องถูกนำตัวไปสอบสวน

• ผู้หนึ่งที่เที่ยวโพนทนาถึงความยากจน ย่อมทำให้ตัวของเขาตกต่ำ

ความละโมบและความโลภมาก

• คนละโมบเป็นกองคลังให้กับทายาทของเขา

• คนละโมบเป็นคนจน แม้โลกทั้งใบจะเป็นของเขาก็ตาม

• เมื่อคนละโมบประสบความสำเร็จจนมากเกินขนาดของเขา กริยาท่าทางของเขาจะเปลี่ยนไป

• คนตระหนี่มักจะรู้สึกต่ำต้อยอยู่เสมอ และคนขี้อิจฉาก็จะมีโรคภัยอยู่ตลอดไป

• ความโลภทำให้ตกต่ำ

๔๓

• ความโลภมากทำให้มนุษย์ตกต่ำ ความตายมันเป็นเรื่องยากแต่ยังน้อยกว่าการไปขอให้บริจาคเสียอีก

• มันเป็นความสุขของคนดีที่ให้อาหารแก่บุคคลอื่น แต่ส่วนของพวกที่เป็นผู้ละโมบนั่นคือการแสวงหาของกินให้กับตัวของพวกเขาเอง

• ความโลภมากและความละโมบ ทำให้ความสามารถในการตัดสินและสติปัญญาต้องมืดมัวลง

• ความโลภมากเป็นระบบทาสที่ถาวร

• ผู้หนึ่งที่เขาพัฒนาอุปนิสัยของความโลภมากและความละโมบ จะถูกเชิญชวนไปสู่ความตกต่ำเลวทราม ผู้หนึ่งที่เขาโฆษณาความยากจนและเคราะห์กรรมของเขา จะต้องประสบกับความต่ำต้อยอยู่เสมอ ผู้หนึ่งที่เขาไม่สามารถควบคุมลิ้นของเขาได้ มันจะต้องพบกับความกระอักกระอ่วนใจและความไม่สบายใจ

ความบริสุทธิ์ผุดผ่อง และความเย้ายวน

• ความบริสุทธิ์ผุดผ่องนับเป็นป้อมปราการที่แข็งแกร่ง

• ความบริสุทธิ์ผุดผ่อง ทำให้ความเย้ายวนต้องอ่อนกำลังลง

• ย่อมไม่มีวิทยาญาณในความเย้ายวน

• เมื่อความสนุกสนานเริ่มขึ้น ความเย้ายวนก็จะติดตามมา แต่ความเสื่อมสลายคือตัวทำลายล้างมัน

๔๔

สุขภาพ

• สุขภาพนับเป็นทรัพย์สินที่ยิ่งใหญ่ที่สุด

• ความมีสติ คือการมีสุขภาพพลานามัย

• สองสิ่งนี้จะยังไม่เห็นคุณค่า จนกว่ามันจะอำลาจากไป นั่นคือ ความหนุ่มสาวและการมีสุขภาพ

พลานามัย

• จงสดับเถิด! ทรัพย์สินนับเป็นความจำเริญ แต่สุขภาพพลานามัยเป็นเรื่องที่ดีกว่า แต่ที่ดีกว่านั้นก็คือหัวใจที่มีคุณธรรม

• หากผู้หนึ่งมีสุขภาพที่ดี ก็นับเป็นความหรรษาที่จะมีชีวิตอยู่

• การล้มเลิกในสิ่งที่เป็นความทะยานอยาก นับเป็นการเยียวยารักษาที่มีมรรคผลที่สุด

• จงรักษาโรคภัยด้วยกับการบริจาคทาน

• จงรังเกียจท้องที่อิ่มแปร่ ซึ่งจะตามมาด้วยความป่วยไข้และฝันร้าย

• ผู้ใดก็ตามที่ไม่อดทนในการละวางไปเสียจากเนื้อที่ต้องห้าม ย่อมจะได้เห็นโรคภัยเข้ามาเบียดเบียนเขา

• การปิดบังความเจ็บป่วยของผู้หนึ่งจากแพทย์ผู้รักษาเขา ก็คือผู้ทรยศต่อสุขภาพของเขาเอง

• จงใช้อดทนอดกลั้นของท่าน เป็นผู้แก้แค้นท่านในความละโมบโลภมากของท่าน ประดุงดังผู้ที่ใช้เหล็กในการแก้แค้นศัตรู

๔๕

การบริจาคทาน และความอดทนอดกลั้น

• เมื่อท่านเลี้ยงอาหารคนจน ก็จงเลี้ยงพวกเขาให้ดีเถิด

• ผู้ศรัทธาคนหนึ่งย่อมไม่รับประทานจนอิ่มแปร่ ในขณะที่พี่น้องของเขายังหิวโหยอยู่

• เขาผู้ซึ่งบริโภคเพียงเล็กน้อย ย่อมมีความคิดที่สะอาดบริสุทธิ์มากกว่า

• ความมีสตินับเป็นทรัพย์สมบัติของคนจน ในขณะที่ความรู้เป็นของปวงปราชญ์

• ความมีสติทำให้เพิ่มพูน

• ความมึนเมาของความอวดดี ก็คือความยิ่งยโสและทรนง มันซ่างช้ายิ่งกว่าการเมาเหล้าองุ่นเสียอีก

• การบริจาคเพียงเล็กน้อยในหนทางของพระผู้เป็นเจ้า ยอมจะนำผลตอบแทนอันยิ่งใหญ่มาให้ท่าน

• จงยับยั้งเสียก่อน ดีกว่าที่จะไปเสียใจในภายหลัง

• หากท่านประสงค์ที่จะวิงวอนของพรจากพระผู้อภิบาล เพื่อหนทางแห่งปัจจัยที่ดีกว่า ก็จงบริจาคบางสิ่งไปในทางกุศลเสียก่อน

• จงอย่าได้ละอายกับจำนวนเงินที่ได้บริจาคไปเพียงน้อยนิด เพราะการปล่อยให้คนยากจนขัดสนต้องกลับไปมือเปล่า นับเป็นความอับอายที่ยิ่งใหญ่กว่า

๔๖

ความใจบุญใจกุศล

• จงเป็นคนใจบุญแต่อย่าฟุ่มเฟือย จงละเอียดถี่ถ้วนแต่อย่าตระหนี่

• หากท่านได้ช่วยเหลือบุคคลที่เหมาะสม โดยที่เขายังมิได้ร้องขอ นั้นคือความใจบุญใจกุศล แต่หากท่านได้ช่วยเขาเพราะเขามาร้องขอ ส่วนใหญ่ก็เนื่องมาจากความรู้สึกละอายที่จะปฏิเสธเขา หรือเกรงว่าจะถูกต่อว่า

โอกาส

• โอกาสที่สูญเสียไปมักจะไม่หวนกลับมาอีก จนกระทั่งสายเกินไป

•โอกาสของบุคคลหนึ่งมักผ่านไปอย่างรวดเร็ว และจะกลับมาด้วยความเชื่องช้า

•โอกาสผ่านไปราวกับเมฆก้อนหนึ่ง ดังนั้นจงเอาประโยชน์เสียก่อนในสิ่งดีๆ ของมัน

•หากเป็นไปได้เมื่อมีโอกาสก็จงรีบคว้าเอาไว้ก่อนในขณะที่มันบินเข้ามา เพราะท่านจะไม่มีวันแซงหน้ามันไปได้

• วันและคืนมันกำลังทำงานกับตัวท่านอยู่ ดังนั้น จงทำตัวท่านให้ได้ใช้ประโยชน์จากมัน เพราะมันกำลังเอาไปจากท่าน ดังนั้น ท่านก็ควรจะเอาจากมันเช่นกัน

• ในทุกขณะจิตของท่าน ก็คือส่วนหนึ่งของชีวิตท่าน ดังนั้น จงใช้เวลานั้นเพื่อความจรรโลงใจของท่านเถิด

๔๗

ขันติธรรม

• เขาชนะเพราะเรียนรู้ศิลปะในการรอคอย

• ความอดทนอันขมขื่น ย่อมเป็นผลแห่งความสำเร็จ

• ผู้ใดที่เคาะประตูเรียกด้วยความเพียรพยาม ย่อมจบลงด้วยการได้เข้าไป

• มันขึ้นอยู่กับท่านที่จะแสดงความอดทนในยามเคราะห์กรรม และในยามหมดอาลัย

• เวลามีอยู่สองวัน วันหนึ่งเป็นของท่าน อีกวันหนึ่งต่อต้านท่าน จงอย่าจองหองหากพบกับความสำเร็จ และจงอดทนในความทุกข์ยาก แน่นอนยิ่ง เคราะห์กรรมมิใช่เรื่องที่เกิดขึ้นอยู่ตลอดไป มันจะต้องสิ้นสุดยุติลง ดังนั้น จงอดทนจนกว่าจุดจบของมันจะมาถึง

• จงมองหาความอิ่มเอิบภายหลังจากความเศร้าหมอง และจงอย่าสิ้นหวังกับความรักที่มีต่อสวรรค์

• มันมีความดีตั้งเท่าใดแล้วที่มาถึงท่าน ในขณะที่ท่านไม่เคยคาดหวังจากมันเลย

• ความทุกข์ยากเป็นเรื่องง่ายที่จะแบกรับมันไว้ สำหรับผู้ที่รู้ถึงวิธี

• หากท่านมิใช่เป็นผู้ที่อดทน ก็จงแสดงออกประหนึ่งว่าท่านเป็น มันมีอยู่บ่อยครั้งทีเดียวที่ผู้หนึ่งเลียนแบบผู้คน โดยที่ตัวเขาเองก็ไม่เคยพัฒนาไปเหมือนกับพวกเขา

• การหมดความอดทนถือเป็นเรื่องที่ยอมรับได้ ก็เฉพาะเมื่อมันช่วยขจัดความรู้สึกที่ไม่ดีต่อระยะการเดินทาง หรือปัดเป่ามันให้ทุเลาเบาบางลง

๔๘

• จงอดทนต่อความเศร้าโศกและวิกฤติการณ์ด้วยขันติธรรม หาไม่แล้วท่านก็จะไม่มีความสุข

• บุคคลที่ปฏิบัติด้วยความขันติ จะไม่ถูกลิดรอนไปจากความสำเร็จ ถึงแม้ความสำเร็จอาจต้องใช้เวลายาวนานกว่าที่จะมาถึง

• จงแสวงหาความอดทนและการยืนหยัด เพราะความสัมพันธ์ของมันที่มีต่อการศรัทธาที่แท้จริง

เป็นเช่นเดียวกับศีรษะที่มีต่อร่างกาย ซึ่งร่างกายย่อมไม่มีประโยชน์หากปราศจากศีรษะ ในทำนองเดียวกัน

ศรัทธาที่แท้จริง ย่อมหาประโยชน์อันใดมิได้หากปราศจากคุณสมบัติของการยอมตน การยืนหยัด และความอดทน

การให้อภัย

• การให้อภัยนับเป็นมงกุฎของคุณภาพที่ยิ่งใหญ่

• จงยอมรับในการขออภัย สำหรับผู้ที่เขาแสวหาการอภัยโทษจากท่าน

•นับเป็นการดีที่ไม่กระทำบาปหนึ่ง มากกว่าที่จะไปขอให้ผู้หนึ่งอภัยให้กับเรา

•คนที่ชั่วที่สุด คือผู้ที่ไม่เคยให้อภัยกับใคร หรือไม่เคยแม้แต่จะขออภัยใคร

•จงอย่ารีบเร่งไปสู่การลงโทษ ในความผิดที่บุคคลหนึ่งได้กระทำ แต่จงปล่อยให้มีโอกาสเพื่อการขออภัยในระหว่างการทำผิดและการลงโทษ

๔๙

•จงลงโทษคนรับใช้ของท่าน หากเขาฝ่าฝืนคำสั่งของพระผู้เป็นเจ้า แต่จงอภัยให้กับเขาที่ดื้อดึงไม่ปฏิบัติตามท่าน

 เมื่อท่านมีชัยชนะเหนือศัตรูของท่าน ก็จงให้อภัยกับเขา ซึ่งเป็นหนทางที่ท่านจะตอบแทนการขอบคุณต่อพระผู้เป็นเจ้า ที่พระองค์ได้ทรงประทานพลังอำนาจในการพิชิตให้กับท่าน

• ผู้ใดที่สามารถมองเห็นความผิดของตนเองได้ ย่อมเป็นผู้นิ่มนวลต่อความผิดของผู้อื่น

• เขาเพียงผู้เดียวเท่านั้นที่สามารถให้อภัย ก็คือผู้ที่มีอำนาจในการจัดการลงโทษ

• หากท่านมีโอกาสและมีอำนาจเหนือศัตรูของท่าน ก็จงให้อภัยกับเขาเพื่อเป็นการขอบคุณต่อพระผู้เป็นเจ้าในชัยชนะนี้

• กิจกรรมที่ดีเลิศของบุคคลหนึ่งที่ยิ่งใหญ่ คือการให้อภัยและการลืม

ความอาลัยรัก

• ผู้หนึ่งที่ไม่เคยมีความสงสารต่อผู้ใด ย่อมไม่เคยได้รับความสงสาร

• ผู้ที่มีความอาลัยรักต่อเด็กกำพร้า ย่อมจะได้เห็นลูกๆ ของเขาได้รับการปรนนิบัติอย่างการุณ

ความอ่อนโยน

• บุคคลที่ปฏิบัติในทางสายกลางและมีความอ่อนโยน จะไม่ประสบกับความยุ่งยากอันเนื่องมาจากความยากจน

๕๐

คำสัญญา

• คำสัญญาหนึ่งก็คือหนี้สินที่ต้องชำระให้มันเสร็จสิ้นไป

• คำสัญญาของคนใจกว้างถือว่าเป็นเงินสด

• จงอย่าให้คำมั่นสัญญาในสิ่งที่ท่านไม่สามารถรักษามันไว้ได้

• การปฏิเสธที่แฝงไว้ด้วยความกรุณา มีค่ายิ่งกว่าคำสัญญาที่ยังอีกยาวไกล

• คนใจบุญย่อมปฏิบัติตามที่เขาสัญญา และเมื่อเขามีอำนาจเขาก็ไว้ชีวิตแก่ศัตรูของเขา

• จงยอมรับคำสัญญา จากผู้ที่สามารถยึดถืออย่างมั่นคงในคำสาบานของพวกเขาเท่านั้น

โมหะ

• จงระวังโมหะ ซึ่งจะเริ่มต้นจากความบ้าคลั่ง และจบลงด้วยกับความเสียใจ

• โมหะเป็นไฟที่เผาผลาญ ผู้ใดก็ตามที่สามารถระงับยับยั้งความโกรธของเขาได้ เท่ากับเป็นการดับไฟลงได้ แต่หากผู้ใดไม่สามารถทำได้ ตัวเขาเองก็จะถูกเผาผลาญ

• โมหะเป็นพันธุ์หนึ่งของความบ้า ส่วนการสำนึกผิดเป็นสิ่งที่ติดตามมันมา หรือหากมันมิเป็นเช่นนั้น ก็หมายความว่าความบ้าได้เกาะกุมมันไว้อย่างมั่นคงแล้ว

๕๑

• จงเป็นเจ้านายเหนือความโกรธเคืองและความรุนแรงในความมีโมหะของท่าน จนกระทั่งโมหะของท่านได้ละไปจากท่าน และสติปัญญาได้กลับคืนมา

• บุคคลที่มีคุณธรรมอันยิ่งใหญ่ คือผู้ที่สามารถทำให้โมหะของเขาอ่อนละมุนลง และไม่ถือเอาความได้เปรียบด้วยกับกำลังอำนาจของเขา

ความสุภาพอ่อนโยน

• มารยาทที่สุภาพ นับเป็นมรดกตกทอดที่บิดาสืบต่อถึงบุตร

• ไม่มีเครื่องประดับอันใดที่จะเสมอเหมือนกับความสุภาพอ่อนโยน

• ทุกๆ สิ่งนั้นจะต้องว่ากันไปตามเหตุผล และเหตุผลด้วยตัวของมันเองนั้นก็จะต้องสุภาพ

• ไม่มีความสูงศักดิ์ในชาติกำเนิดใดๆ ที่จะทำให้ผู้หนึ่งสูงเด่นขึ้นมาได้ หากความไม่สุภาพที่มีอยู่ในตัวของเขา ทำให้เขาต้องตกต่ำลง

• จงให้ความเคารพเหมือนๆ กัน ไม่ว่าเขาจะเป็นครูของท่าน หรือผู้ที่ท่านได้สั่งสอนพวกเขา

• จงมีความสุภาพกับศัตรูของท่าน และจงมีความจริงใจกับเพื่อนของท่าน ท่านก็จะเชิดชูความเป็นพี่น้องและธำรงไว้ซึ่งความมีน้ำใจได้เช่นกัน

• จงมีความประพฤติในลักษณะที่เป็นคนอลุ่มอล่วย เพื่อว่าเมื่อท่านตายไป ผู้คนจะได้แสดงความเสียใจให้กับท่าน และสะอื้นหาเมื่อท่านไม่อยู่

• จงมีความสุภาพนิ่มนวลกับผู้คน เพื่อจะได้ดึงเอาผลประโยชน์จากจิตใจที่ดีงามของพวกเขา และจงแสดงใบหน้าที่ยิ้มแย้ม เพื่อฆ่าความรู้สึกเป็นศัตรูของพวกเขา

๕๒

• ความสุภาพอ่อนโยนย่อมชนะใจผู้คน และทำให้พวกเขามาอยู่ฝ่ายตน

การควบคุมตนเอง

• คนที่แข็งแรงที่สุด คือคนที่สามารถต่อสู้กับตัวของเขาได้

• คนที่แข็งแรงที่สุด คือคนที่สามารถทำให้เหตุผลของเขาพิชิตราคะจริตของเขาได้

• การปล่อยให้เหตุผลถูกครอบงำด้วยตัณหาราคะของท่าน ก็เท่ากับท่านได้สวมใส่ความน่ารังเกียจให้กับตัวของท่านเอง

• ผู้ใดยอมจำนวนต่อตัณหาราคะของเขา ก็เท่ากับเป็นการทุบทำลายเหตุผลของเขา

• จงระมัดระวังราคะหนึ่ง ที่มันมีพลังแก่กล้าในเรื่องของสตรีเพศ และจงอย่าหิวกระหายในความรื่นรมย์ ในกรณีแรกนั้นท่านจะต้องถูกทดสอบด้วยกับเคราะห์กรรม และในประการที่สอง ท่านจะต้องถูกชิงชังและได้รับความต่ำต้อย

• ความหวานชื่นของความรื่นรมย์หรรษา ย่อมไม่คุ้มค่ากับความทุกข์ยากที่ขมขื่น

• ผู้ใดก็ตามที่ถวิลหาเพื่อให้ได้มาซึ่งตำแหน่งสูงๆ ก็จงบำราบราคะของเขาเอาไว้

ความอิจฉาริษยา

• ความอิจฉาริษยา คือคุกของวิญญาณ

• ความอิจฉาริษยา นำมาซึ่งความเศร้าหมอง

• ความอิจฉาริษยา ทำให้ร่างกายผุผัง

•ความอิจฉาริษยาเป็นโรคชนิดหนึ่ง หากไม่หยุดยั้งก็ไม่สามารถรักษาได้ จนกว่าความตายของผู้อิจฉา หรือผู้ที่ถูกเขาอิจฉาริษยาจะมาเยือน

•คนขี้อิจฉาริษยา ย่อมเป็นสหายที่แย่ที่สุด

•คนตระหนี่มักรู้สึกต่ำต้อยอยู่เสมอ และคนที่อิจฉาตาร้อนก็จะมีโรคภัยอยู่ตลอดไป

•มันช่างเป็นสิ่งที่ใจแคบอะไรเช่นนี้ ที่ไปอิจฉาริษยา แม้กระทั้งความสุขของเพื่อนของตนเอง

ความบาดหมาง

• ความบาดหมาง เป็นน้ำพุแห่งความเศร้าหมองอันเหลือคณา

• การทุ่มเถียงกัน เป็นน้ำพุแห่งความพินาศ

• กิจการที่มีระเบียบที่ดีที่สุด ย่อมถูกทำให้เสียหายไร้ระเบียบ เนื่องจากความเห็นที่ไม่ลงรอยกัน

ความกตัญญูรู้คุณ

จงแสดงการขอบคุณต่อผู้ที่มีพระคุณของท่าน และจงหยิบยื่นผลประโยชน์ให้กับผู้ใดก็ตามที่เขามีบุญคุณต่อท่าน

จงมองดูด้วยความตั้งใจในปมด้อยของท่านอยู่เนื่องๆ เพราะมันเป็นหนทางหนึ่งของการแสดงออกถึงการขอบคุณต่อพระองค์ผู้ทรงสูงส่ง

๕๓

ความประพฤติที่สุขุมรอบคอบ

•ในทุกๆ สิ่งย่อมมีวิธีการที่ประเสริฐของมัน ความสุขุมคัมภีรภาพตื่นอยู่เสมอ ในขณะที่การเพิกเฉยหลับใหล

• จงเก็บออมเสียตั้งแต่วันนี้ เพื่อว่าพรุ่งนี้ท่านจะได้ใช้มัน

• การมีความห่วงใยต่อผลกระทบ ก็คือการหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุ

•ด้วยกับการคิดคำนึงถึงผลกระทบ มันจะทำให้ท่านรักษาตัวของท่านให้พ้นจากอันตรายได้

• จงระมัดระวัง เพราะมันจะขจัดปัดเป่าให้ท่านพ้นจากอันตราย

 จงอย่าสับสนในกิจการต่างๆ ของสุลต่าน ขณะที่ต้องเผชิญกับความยุ่งยาก นักเดินเรือผู้หนึ่งก็ไม่อาจปลอดภัยได้เสมอไปแม้ในทะเลที่สงบแล้ว เขาจะหลบหลีกให้พ้นไปจากความพินาศได้อย่างไรเมื่อลม

ปะทะเข้ามา และเมื่อลูกคลื่นกำลังโหมกระหน่ำ!

จงอย่าเลือกไปในทางใด หากมีความหวาดกลัวว่าท่านจะต้องสูญเสียตัวของท่านไป

• ผู้ใดที่เขาหลงออกไปจากทางเดิน ย่อมตกลงไปในหุบเหว

• ใครที่เร่งร้อน ย่อมพลัดตกลงไป

• การล้มคะมำ เป็นผลจากความรีบเร่ง

• ถึงแม้จะขึ้นนั่งอย่างมั่นคงที่สุดแล้ว ก็อาจร่วงตกลงมาได้

• ใครที่ขุดหลุมพรางไว้กับพี่น้องของเขา ย่อมตกลงไปในหลุมนั้นเอง

•หากผู้หนึ่งขึ้นคุมบังเหียนด้วยความอยุติธรรม มันก็จะนำเขาไปสู่การหลงทาง

๕๔

•ผู้ใดก็ตามที่ขึ้นคุมบังเหียนด้วยกับความดื้อรั้น ย่อมถามหาถึงความยุ่งยาก

• จงอย่าปิดประตูบานที่ท่านไม่สามารถจะเปิดมันออกไปได้อีก

• จงอย่าต่อสู้กับผู้ที่ท่านไม่สามารถปกป้องตัวของท่านเองได้

• จงอย่าพูดในสิ่งที่ท่านกลัวว่ามันจะไม่เหมาะสม

• จงอย่ายิ้มเยาะในความล้มเหลวของผู้อื่น เพราะท่านไม่อาจทราบได้ว่า ในชีวิตนั้นมีอะไรเก็บรอไว้ให้ท่านอยู่

• หากเกลียดชังผู้คนแล้วท่านจะเสียใจในภายหลัง

• หากท่านเห็นลักษณะนิสัยที่น่าตำหนิของบุคคลอื่น ก็จงป้องกันอย่าให้มันมาปรากฏอยู่ในตัวของท่านเอง

• จงอย่าได้รีบเร่งไปสู่ที่นั่งที่สูงเด่นที่สุดในงานเลี้ยง

• ผู้หนึ่งที่เข้าผิดประตู ย่อมก่อให้เกิดความน่าสงสัย

• การประหยัด เป็นครึ่งหนึ่งของอาหารของบุคคลหนึ่ง

• จงอย่าแสดงถึงขนาดที่ว่า ผู้ประพันธ์ยังรู้สึกตะขิดตะขวงใจและจำต้องปฏิเสธ

• มันเป็นคุณธรรมอันยิ่งใหญ่ ที่ไม่ควรไปวางแผนอะไรไว้อย่างลับๆ เพราะเมื่อมันถูกเปิดเผยออกมาแล้ว ท่านจะรู้สึกกระดากอาย

• จงระมัดระวังที่จะไม่กระทำกิจกรรมหนึ่ง ซึ่งเมื่อเป็นที่รู้จักแล้วจะทำให้ผู้กระทำต้องเสียความน่าเชื่อถือ และทำให้เขาตกต่ำ

• ผู้ใดที่วิ่งไล่เงาสะท้อนที่คิดว่าเป็นบ่อน้ำ ก็เท่ากับว่าเขากำลังดึงเอาความทุกข์ทรมานของเขาออกมา และยังเพิ่มความกระหายให้กับเขาอีก

๕๕

• จงอย่าคบค้ากับคนขี้ขลาดตาขาว เพราะเขาจะทำให้การกระทำของท่านอ่อนแอลง และจะทำให้ดูประหนึ่งว่ามันใหญ่โต ทั้งๆ ที่มันมิได้ใหญ่โตแต่อย่างใด

• การไล่ตามความสนุกรื่นเริงอย่างเร้าร้อน ย่อมทำให้ผู้หนึ่งหลงทางและนำความเสียหายมาให้

• จงอย่าให้หัวใจของท่านรับรู้ในความเศร้าหมองของอดีต เพราะหากเป็นเช่นนั้น ท่านก็จะไม่มีเวลาที่จะหมกมุ่นกับตัวเองในเรื่องของอนาคต

• นับเป็นเรื่องน่าสนเท่ห์ที่ว่า ชายผู้หนึ่งหากเขาพูดถึงเรื่องๆ หนึ่ง เมื่อมีการรายงานถึงคำพูดของเขา ก็จะทำให้เขาได้รับความปวดร้าว และหากมิได้มีการรายงานอันใด ก็ไม่เป็นการดีอะไรสำหรับเขาเลย

• จงเชื่อฟังผู้ที่มีอำนาจเหนือท่าน และผู้ที่อยู่ใต้บังคับบัญชาของท่านก็จะเชื่อฟังท่าน

• ผู้ใดก็ตามที่ทำให้ตัวของเขาเจ็บปวดโดยไม่จำเป็น ย่อมเป็นการทำร้ายตัวของเขาเอง

• จงหลีกห่างจากสังคมของผู้ที่มีการพูดถึงคนอื่น อันเป็นความชั่วของบุคคลผู้หนึ่ง เพราะสมาชิกทุกคนในหมู่พวกเขา ย่อมมีส่วนแบ่งในความชั่วนั้นๆ

• จงหลีกห่างจากสังคมของผู้ที่ชั่วร้าย พวกเขาเปรียบได้ดั่งไปที่เผาผลาญทุกคนที่เข้าไปใกล้

• จงหลีกห่างจากพวกเสเพล เพราะหากเห็นด้วยกับความประพฤติของผู้คนเหล่านั้น ก็คือการยอมตนไปเป็นคนหนึ่งของพวกเขา

• จงหลีกห่างจากการกระทำที่เสเพลอย่างเปิดเผย เพราะหากกระทำเช่นนั้น ก็เท่ากับการกระทำบาปหนึ่งที่รุนแรงที่สุด

๕๖

การสารภาพบาป

• เมื่อท่านกระทำบาปก็จงสารภาพบาป

• ผู้สารภาพบาป ย่อมแสวงหาทางกลับคืนสู่พระผู้เป็นเจ้าได้

• การสารภาพบาป ย่อมปลดเปลื้องผู้หนึ่งให้พ้นไปจากทุกๆ บาป

ปกิณกะ

• ความถูกต้องเป็นดาบที่ไม่เคยทื่อ

• การทำอะไรบ่อยๆ ก็จะกลายเป็นนิสัยไป

• ผู้ใดก็ตามที่มีปฐมภูมิที่เลวทราม ย่อมมีสายตาที่เกลียดชัง

• จะไปนำผู้อื่นได้อย่างไร หากตนเองยังหลงทางอยู่

• จุดอ่อนของท่านยังคงถูกปิดบัง ตราบใดที่โชคยังเข้าข้างท่านอยู่

• ผิวหนังช่างอ่อนนุ่มเหลือเกิน จะทนทานต่อไฟนรกได้อย่างไร

• ความหวังเป็นเสมือนเงาสะท้อน มันหลอกลวงผู้ที่มองดูมัน และยังโกหกกับผู้ใดก็ตามที่เชื่อถือมัน

• การหลงใหลในภรรยา เป็นเหมือนกับลูกดอกของคนเซ่อซ่า

• อะไรที่เป็นชะตากรรม ย่อมจะไม่อาจปัดทิ้งไปได้ ดังนั้น การป้องกันของบุคคลหนึ่งจึงเป็นเรื่องที่ไม่มีประโยชน์อันใด

• ผู้ใดก็ตามที่ถูกตัวแทนของเขาหักหลัง ย่อมจะได้เห็นโครงการต่างๆ ของเขาเสียหาย

๕๗

• ผู้ใดก็ตามที่ความทะเยอทะยานของเขาได้บรรลุสู่ขั้นสูงสุด ก็ควรที่จะตระเตรียมเพื่อเผชิญหน้ากับความเดียดฉันท์ในขั้นสูงสุด

• ผู้ที่ตกเป็นเครื่องมืออยู่ประจำ ย่อมถูกรังเกียจ

• การผูกพยาบาทต่อการกระทำทั้งมวลของผู้มีอำนาจ ย่อมเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจที่สุด

• ความถ่อมตนย่อมสูงส่ง ความหยิ่งทะนงนำไปสู่ความตกต่ำ

• จงอย่ากินแหนงแคลงใจ

• การเก็บเอาความระแวงสงสัยต่อผู้มีพระคุณของบุคคลหนึ่งเอาไว้ ถือว่าเป็นบาปที่ดำมืดที่สุด และเป็นความอยุติธรรมที่น่ารังเกียจที่สุด

• หากปล่อยให้ตัวของท่านต้องยอมจำนนกับความเฉยเมย ก็เท่ากับเป็นการเก็บเอาความเสียใจเอาไว้

• ความเฉยเมยเพราะความเกียจคร้าน

• จงรังเกียจในความต่ำช้า ถึงแม้มันจะนำพาใจของท่านไปสู่ความอยากใคร่ของหัวใจก็ตาม

• มันช่างน่ารังเกียจสักปานใด สำหรับผู้ที่หันไปทั้งสองทาง

• ความตายของบุตรของบุคคลหนึ่ง ทำให้กระดูกสันหลังของบุคคลนั้นหักลง

• มิใช่ว่านักแม่นธนูทุกคนจะยิงเข้าเป้าก็หาไม่

• ในเรื่องคดีความนั้น มันย่อมเป็นไปไม่ได้ เมื่อข้อกล่าวหานั้นมันไม่ยุติธรรม

• อาชญากรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดประการหนึ่ง ก็คือการทำลายงานหนึ่งๆ ทางด้านศิลปะ

๕๘

• ผู้ที่มีความรักในสิ่งๆ หนึ่ง ย่อมจะเร่งรีบเพื่อนำเอาความทรงจำของมันกลับคืนมา

• จงวางมือจากความผูกพยาบาทเสีย แล้วท่านจะมีจิตและหัวใจที่สงบ

• ความกล้าแค่เพียงครั้งเดียวต่อหน้ากษัตริย์ ย่อมเผยตัวของเขาไปสู่การถูกจองจำอย่างไม่ถูกต้อง

• หากบุคคลหนึ่งรักท่าน เขาก็จะวิจารณ์ถึงตัวท่าน

• บุคคลหนึ่งที่รู้สึกว่าเกียรติยศของเขาเริ่มลดลง ย่อมเห็นได้ว่ากำลังของศัตรูของเขาจะเพิ่มมากขึ้น

• บุคคลใดก็ตามที่ขอมากไปกว่าที่เขาควรจะได้ ย่อมพบกับความผิดหวัง (โลภมากลาภหาย)

• เป็นเพราะการทดสอบที่นำไปของสิ่งหนึ่ง ว่ามันควรจะมีคุณค่าหรือไร้คุณค่า

• จงปกป้องการเคารพในตัวตนของท่าน จากความต่ำช้าทั้งมวล แม้การกระทำเช่นนั้นจะเป็นการเปิดตัวท่านไปสู่อันตรายก็ตาม แต่ท่านจะไม่เคยพบเลยว่า จะมีสิ่งใดมาเทียบได้กับเกียรติยศที่ต้องได้มาด้วยกับการบาดเจ็บ

• จงปฏิบัติต่อผู้อื่น ดังที่ท่านกระทำกับตัวของท่านเอง

• จงวางตัวของท่านลงบนตราชั่ง ระหว่างตัวของท่านกับบุคคลอื่น จงมีความรักต่อพวกเขา ไม่ว่าอะไรก็ตามที่ท่านมีความรักต่อตัวของท่านเอง และเกลียดชังในตัวเขา เช่นเดียวกับในสิ่งที่ท่านเกลียดชังในตัวท่าน จงทำความดีกับผู้ที่ท่านรัก เช่นที่ท่านทำให้กับตนเอง และจงอย่ากดขี่ ดังนั้นจงอย่ารักที่จะถูกกดขี่ จงเคารพในสิทธิ์ของผู้ใดก็ตามที่เคารพท่าน ไม่ว่าเขาจะมีตำแหน่ง อายุ และยศศักดิ์ขนาดไหนก็ตาม

๕๙

• จงทำดีกับสัตว์ทั้งหลาย ไม่สมควรทรมานมันหรือให้มันบรรทุกของหนักจนเกินกำลังของมันที่จะทนทานได้

• การไม่ทำความผิดต่างๆ ยังดีเสียกว่าการไม่ทำความดี

• การทรยศคดโกง เลวกว่าการกระทำความผิดในรูปอื่นๆ

• สัตว์เดรัจฉานไม่ต้องเกี่ยวข้องกับสิ่งใด ยกเว้นเรื่องของท้องที่หิวของพวกมันเท่านั้น และสัตว์ป่าที่ดุร้ายมิได้คิดถึงสิ่งใดนอกจากจะทำร้ายสัตว์อื่น

• ถามว่า จากตะวันออกไปถึงตะวันตก มันไกลกันสักขนาดไหน ท่านอิมามอะลี กล่าวตอบว่า การเดินทางของดวงอาทิตย์ในวันหนึ่ง

• ผู้ที่มีความสุข คือผู้ที่รำลึกถึงชีวิตหลังความตายอยู่เสมอๆ ผู้ที่รำลึกถึงวันแห่งการตัดสินพิพากษา

โดยผ่านการกระทำทั้งมวลของเขา ผู้ที่ใช้ชีวิตอย่างพึงพอใจ และผู้ที่มีความสุขอยู่กับสิ่งที่พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงกำหนดให้กับเขา

• ตราบเท่าที่โชคยังเข้าข้างท่านอยู่ ความบกพร่องของท่านก็จะยังคงถูกปิดบังอยู่จากสายตาของชาวโลก

• โลกที่ได้นำเสนอความรื่นเริงที่ชั่วร้ายให้กับท่าน ก็เป็นเสมือนดังอสรพิษที่มันดูนิ่มนวลน่าสัมผัส

แต่มากด้วยพิษร้ายถึงตาย ผู้คนที่โง่เขลามักถูกมันลวงล่อและถูกมันดึงดูดเข้าไปหา แต่คนฉลาดจะหลีกเลี่ยงมัน และหันห่างจากผลลัพธ์อันเป็นพิษร้ายของมัน

• ผู้ที่ได้รับความจำเริญ คือผู้ที่สยบตนเองต่อพระพักต์ของพระผู้เป็นเจ้า ผู้ที่แหล่งรายได้ของเขาบริสุทธิ์ ผู้ที่เจตนารมณ์ของเขามีเกียรติอยู่เสมอ ผู้ที่กริยาของเขาสูงส่งเสมอ ผู้ที่อุปนิสัยของเขามีความยั้งคิด

๖๐