เว็บไซต์ อิมาม อัลฮะซะนัยน์ (อลัยฮิมัสลาม)เพื่อคุณค่าและสารธรรมอิสลาม

"เอกภาพและภราดรภาพ" ชัยชนะเหนือความขัดแย้งในหมู่ประชาชาติมุสลิม

0 ทัศนะต่างๆ 00.0 / 5

"เอกภาพและภราดรภาพ" ชัยชนะเหนือความขัดแย้งในหมู่ประชาชาติมุสลิม


 
ส่วนหนึ่งจากเครื่องมือที่บรรดาศัตรูใช้มาโดยตลอดสำหรับการสร้างความขัดแย้งในหมู่ประชาชาติมุสลิม นั่นก็คือ ความขัดแย้งทางด้านมัซฮับ (นิกาย) ชีอะฮ์และซุนนี และอื่น ๆ ในลักษณะเดียวกันนี้ พวกเขาจะสร้างความแตกแยกและความขัดแย้งให้เกิดขึ้น ทำให้พี่น้อง (มุสลิม) ห้ำหันชีวิตกันเอง ทำให้ความขัดแย้งต่าง ๆ เป็นเรื่องใหญ่โตและร้ายแรง ทำให้ประเด็นต่าง ๆ ที่เหมือนกันและเรื่องเอกภาพเป็นเรื่องเล็กน้อยและไม่มีความสำคัญ ทำให้เรื่องเล็กกลายเป็นเรื่องใหญ่และดูโดดเด่น พวกเขาจะทำให้ประเด็นต่าง ๆ ที่สอดคล้องตรงกันซึ่งมีอยู่ในระหว่างพี่น้องซุนนีและชีอะฮ์กลายเป็นเรื่องเล็กและก่อให้เกิดความอ่อนแอ นี่คืองานที่กระทำมาตลอดเวลา และขณะนี้พวกเขาก็กำลังกระทำอยู่

 

      

สาธารณรัฐอิสลามนับตั้งแต่วันแรกได้ยืนหยัดทัดทานแผนการร้ายดังกล่าวนี้ เหตุผลก็คือ เราไม่ได้พิจารณา (และเชื่อ) ตามใครทั้งสิ้น สิ่งนี้เป็นความเชื่อมั่นของเราเอง นับตั้งแต่ก่อนที่ระบอบสาธารณรัฐอิสลามจะถูกสถาปนาขึ้น บรรดาพี่น้องของเรา บรรดาผู้นำขบวนการการเคลื่อนไหวของเรา บรรดาผู้นำผู้เป็นนักต่อสู้แห่งการปฏิวัติในช่วงเวลานั้น ซึ่งยังไม่มีข่าวคราวใด ๆ เกี่ยวกับรัฐอิสลามและสาธารณรัฐอิสลามเลยแม้แต่น้อย พวกเขาเหล่านั้นได้ใช้ความอุตสาห์พยายามเพื่อสร้างเอกภาพระหว่างชีอะฮ์และซุนนี ข้าพเจ้าเองในขณะที่ถูกเนรเทศไปอยู่ในเมืองบาลูจิสถาน นับจากช่วงเวลานั้นจวบจนถึงบัดนี้ข้าพเจ้าเองเป็นสหาย เป็นเพื่อนสนิทและเป็นมิตรที่จริงใจต่อกันกับบรรดานักวิชาการ (อุละมาอ์) ชาวซุนนีมัซฮับฮะนะฟีของเมืองบาลูจิสถาน อีหร่านชะฮัร จอเบฮอร์ ซะรอวอนและซอฮิดอน ซึ่งบางคนของพวกเขายังคงมีชีวิตอยู่

      

อัลฮัมดุลิลลาฮ์ (มวลการสรรเสริญเป็นสิทธิแด่อัลลอฮ์) เมื่อข้าพเจ้าถูกเนรเทศไปอยู่ที่นั่น หน่วยงานต่าง ๆ (ของรัฐบาลในสมัยนั้น) ไม่ปล่อยให้มีความพยายามในการเคลื่อนไหวใด ๆ เกิดขึ้นจากพวกเรา แต่กระนั้นก็ตามพวกเรากล่าวกันว่า พวกเราต้องมาร่วมกันทำอะไรสักอย่างหนึ่งเถิด เราต้องแสดงสัญลักษณ์สักอย่างหนึ่งที่แสดงถึงความเป็นเอกภาพระหว่างชีอะฮ์และซุนนีให้เกิดขึ้นในเมืองนี้เถิด ซึ่งในช่วงเวลานั้นประเด็นที่ฉุกขึ้นมาในความคิดของพวกเราก็คือประเด็นสัปดาห์ของเอกภาพ ช่วงวันวิลาดัต (การถือกำเนิด) ของท่านศาสดา (ศ็อลฯ) ในวันที่ 12 ร่อบีอุลเอาวัล ตามรายงานของพี่น้องอะฮ์ลิซซุนนะฮ์ และวันที่ 17 ร่อบีอุลเอาวัล ตามการรายงานของชีอะฮ์ และพวกเราได้ดำเนินการเรื่องนี้ในเมืองอีหร่านชะฮัร กล่าวคือพวกเราได้จัดงานเฉลิมฉลองตั้งแต่วันที่ 12 ถึงวันที่ 17 สิ่งนี้เป็นความคิดลึกซึ้งมาแต่เดิม ไม่ใช่เป็นเรื่องในวันนี้หรือเมื่อวานนี้

      

พี่น้องมุสลิมทั้งหลายจะต้องพิจารณาให้ดีว่า ความเป็นเอกภาพของพวกเราวางอยู่บนพื้นฐานอะไร? มันเป็นเพียงคำพูดที่ดูสวยหรูเท่านั้นหรือ หรือว่ามันมีข้อเท็จจริงอยู่? เมื่อเราพิจารณาดูจะพบว่าคำสอนต่าง ๆ ของพวกเราก็เป็นหนึ่งเดียวกัน การยอมรับในเตาฮีด (ความเป็นหนึ่งเดียวของพระผู้เป็นเจ้า) ก็เป็นหนึ่งเดียวกัน ความเชื่อในเรื่องมะอาด (วันแห่งการฟื้นคืนชีพในปรโลก) ก็เป็นหนึ่งเดียวกัน ยอมรับในศาสดาท่านเดียวกัน มีการนมาซและการถือศีลอดที่เหมือนกัน การประกอบพิธีฮัจญ์ของเราก็เหมือนกัน เรามีบรรดาศัตรูคนเดียวกัน เป้าหมาย อุดมคติและผลประโยชน์ต่าง ๆ ของพวกเรามีความเชื่อมโยงและเกี่ยวเนื่องกัน

      

ประชาชาติมุสลิมไม่ว่าจะเป็นชีอะฮ์หรือซุนนี พวกเราจะสามารถแยกออกจากกันได้อย่างไร? ศัตรูต้องการที่จะสร้างอาชญากรรมนี้ให้เกิดขึ้นให้จงได้ ด้วยเหตุนี้เองนับจากวันแรก สาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่านได้อยู่เคียงข้างกับพี่น้องชาวปาเลสไตน์มาโดยตลอด ในขณะที่ในปาเลสไตน์ ตามที่ข้าพเจ้ารับรู้มานั้น ที่นั่นไม่มีชีอะฮ์อยู่เลย หรือถ้ามีอยู่ก็มีจำนวนน้อยมาก พี่น้องชาวปาเลสไตน์ถือว่าที่นี่ (อิหร่าน) เป็นเหมือนบ้านของพวกเขา ถึงปัจจุบันนี้ก็ยังคงเป็นเช่นนั้น พวกเขาเดินทางไปมา ซึ่งไม่มีประเทศอิสลามจากมัซฮับต่าง ๆ ของอะฮ์ลิซซุนนะฮ์เลย ที่จะแสดงออกต่อชาวปาเลสไตน์ด้วยความจริงใจ ด้วยความเอื้ออาทร และไม่หวังผลตอบแทนเช่นนี้ ศัตรูได้เห็นสิ่งนี้ ดังนั้นพวกเขาไม่ต้องการให้เกิดสิ่งนี้ขึ้น พวกเขาไม่ต้องการให้ประชาชาติอิสลาม (อุมมะฮ์) มีเอกภาพ

    

โชคดีที่ในสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่านสามารถทำให้แผนการนี้ล้มเหลวลงได้ ทั้งชาวชีอะฮ์และชาวซุนนีในประเทศของเราได้ใช้ความอุตสาห์พยายามอย่างจริงจัง ซึ่งเป็นอีกด้านหนึ่งที่ทรงพลังในความงดงามและความยิ่งใหญ่นี้ พวกท่านประชาชนชาวเคริดผู้เป็นซุนนีสังกัดมัซฮับชาฟิอีที่อยู่ในพื้นที่นี้ พวกท่านได้แสดงเห็นถึงความเป็นเอกภาพนี้ พวกท่านได้แสดงให้เห็นถึงความสามัคคี ความบริสุทธิ์ใจและความจริงใจเหล่านี้ พวกท่านได้ชกกำปั้นเข้าไปที่ปากของศัตรูแล้ว สิ่งนี้เป็นการกระทำที่ยอดเยี่ยมมาก

    

ข้าพเจ้าขอย้ำว่า ในทั่วทุกมุมของประเทศ ไม่ว่าจะในพื้นที่ที่มีซุนนีและชีอะฮ์ที่ใช้ชีวิตอยู่เคียงข้างกัน หรือไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ที่มีเฉพาะชาวชีอะฮ์ หรือในพื้นที่ที่มีแต่เพียงชาวซุนนีก็ตาม ขอให้ทุกคนแสดงให้ศัตรูได้เห็นว่า ในประเทศนี้พวกเขาไม่สามารถที่จะหาเหตุผลความแตกต่างใด ๆ ทางด้านมัซฮับ มาสร้างความแตกแยกให้เกิดขึ้นระหว่างมัซฮับทั้งหลายของอิสลามได้ มิฉะนั้นศัตรูก็คงประสบความสำเร็จแล้ว (ในการสร้างความแตกแยก)

    

ท่านทั้งหลายพึงรู้เถิดว่า พวกเขาจะไม่หยุดเพียงแค่นี้ โอ้อัลลอฮ์ โปรดอย่าทรงทำให้มันเป็นเช่นนั้นเลย! หากพวกเขาสามารถสร้างความแตกแยกให้เกิดขึ้นในระหว่างชีอะฮ์และซุนนีได้แล้ว ต่อไปพวกเขาก็จะกระทำสิ่งนี่ต่อชาวซุนนี แต่หากชาวซุนนียังมีความเป็นเอกภาพอยู่ พวกเขาก็จะสร้างความขัดแย้งให้เกิดขึ้นในระหว่างกลุ่มชนเหล่านั้น กลุ่มหนึ่งเป็นมัซฮับชาฟิอี กลุ่มหนึ่งเป็นฮะนะฟี อีกกลุ่มหนึ่งเป็นมาลิกี อีกกลุ่มหนึ่งยึดถือตามสำนักทางความเชื่อนั้น และอีกกลุ่มหนึ่งยึดถือตามสำนักทางความเชื่อนี้ ศัตรูจะไม่ปล่อยให้เป็นอิสระอย่างแน่นอน!!


ที่มา : ส่วนหนึ่งจากคำปราศรัยของท่านผู้นำสูงสุดทางจิตวิญญาณในเมืองยอเวฮ์ สาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่าน


ขอขอบคุณ เว็บไซต์ islamicstudiesth

 

กรุณาแสดงความคิดเห็นด้วย

ความคิดเห็นของผู้ใช้งานทั้งหลาย

ไม่่มีความคิดเห็น
*
*

เว็บไซต์ อิมาม อัลฮะซะนัยน์ (อลัยฮิมัสลาม)เพื่อคุณค่าและสารธรรมอิสลาม