คำรายงาน “ฟาฏิมะฮ์ คือ ก้อนเนื้อส่วนหนึ่งของฉัน” ในตำราของอะฮ์ลิซซุนนะฮ์

คำรายงาน “ฟาฏิมะฮ์ คือ ก้อนเนื้อส่วนหนึ่งของฉัน” ในตำราของอะฮ์ลิซซุนนะฮ์


 
ท่านศาสดามูฮัมมัด (ศ็อลฯ) กล่าวว่า

 

فَاطِمَةُ بَضْعَةٌ مِنِّي ، فَمَنْ أَغْضَبَهَا أَغْضَبَنِي
 

ฟาติมะฮ์ คือ ก้อนเนื้อส่วนหนึ่งที่มาจากฉัน ผู้ใดทำให้นางโกรธ เท่ากับเขาทำให้ฉันโกรธ


อัลลามะฮ์ อับดุลเราะอูฟ อัลมุนาวี (เสียชีวิต ฮิจเราะฮ์ 1031) อธิบายฮะดีษนี้โดยเขียนว่า

 

استدل به السهيلي على أن من سها كفر لأنه يغضبه وأنها أفضل من الشيخين

 

ท่านซุฮัยลี (เสียชีวิต ฮิจเราะฮ์ 581) ได้ให้เหตุผลว่า ผู้ใดที่เพิกเฉย (มองข้ามเรื่องนี้) เขาได้เป็นกาฟิร (ผู้ปฏิเสธ) (ทำไม จงพิเคราะห์) สาเหตุเพราะว่าเขาได้ทำให้ท่านรอซูล (ศ) โกรธ และท่านหญิงฟาติมะฮ์ นั้นอัฟฎ็อล (ประเสริฐ) กว่าเชคทั้งสอง (หมายถึง อบูบักรและอุมัร)

 

อัลมุนาวี กล่าวว่า


قال ابن حجر : وفيه تحريم أذى من يتأذى المصطفى صلى الله عليه وآله وسلم بتأذيه فكل من وقع منه في حق فاطمة شيء فتأذت به فالنبي صلى الله عليه وعلى آله وسلم يتأذى به بشهادة هذا الخبر ولا شيء أعظم من إدخال الأذى عليها من قبل ولدها
 

อิบนุฮะญัร กล่าวว่า ในฮะดีษนี้แสดงให้เห็นว่า  เป็นการฮะรอม(ต้องห้าม)ในการอะซียะฮ์(การรังแก และทำร้าย) ต่อผู้ใดที่ได้รังแกต่อท่านศาสดา ดังนั้น ทุกๆคนที่ได้กระทำการอะไรก็ตามที่เกี่ยวข้องกับสิทธิของท่านหญิงฟาติมะฮ์ ถือการกระทำนั้นจะเป็นการอะซียะฮ์ท่านศาสดา ด้วยการยืนยันของฮะดีษบทนี้ และไม่มีสิ่งใดที่หนักไปกว่าการอะซียะฮ์ท่านหญิงฟาติมะฮ์ ต่อหน้าลูกๆของนาง

 

قال السبكي : الذي نختاره و نَدِينُ اللَّهَ بِهِ أَنَّ فَاطِمَة أَفْضَل ثُمَّ خَدِيجَة ثُمَّ عَائِشَة
 

ตะกียุดดีน อัซซุบกี (เสียชีวิต ฮิจเราะฮ์ 756)  กล่าวว่า สิ่งที่เราเลือกมันและเรายึดศาสนาแห่งอัลลอฮ์ต่อสิ่งนั้นก็คือ ท่านหญิงฟาติมะฮ์นั้นประเสริฐกว่า หลังจากนั้นคือท่านหญิงคอดียะฮ์ หลังจากนั้นคือ ท่านหญิงอาอิชะฮ์

 

قال شهاب الدين ابن حجر : ولوضوح ما قاله السبكي تبعه عليه المحققون
 

อิบนุฮะญัร อัลอัสกอลานี กล่าวว่า เนื่องจากความชัดเจนในสิ่งที่ท่านซุบกี(ครูอิบนุฮะญัร)ได้กล่าวเอาไว้ บรรดามุฮักกิกูน(ผู้ตรวจสอบความจริง)จึงได้ดำเนินตามคำพูดของเขา

 

وذكر العلم العراقي أن فاطمة وأخاها إبراهيم أفضل من الخلفاء الأربعة بالاتفاق
 

อิมามอิลมุดดีน อัลอิรอกี ได้กล่าวว่า ท่านหญิงฟาติมะฮ์และท่านอิบรอฮีมพี่ชายของนาง นั้น ประเสริฐกว่าคอลีฟะฮ์ทั้งสี่ท่านด้วยฉันทามติ

 

บทสรุป


 เพราะฉะนั้น เราคงไม่มีความขัดแย้งใดที่หลงเหลืออีกต่อไปในโลกมุสลิมว่า หลังจากการวะฝาต(อสัญกรรม)ของท่านศาสดามูฮัมมัด (ศ็อลฯ)  ผู้ที่มีความประเสริฐมากที่สุด ก็คือ ท่านหญิงฟาติมะฮ์ ดังนั้น การอะซียัต(รังแก) นาง จะส่งผลให้เขาผู้นั้นได้เข้าสู่ไฟนรกนั่นเอง

 

 

ที่มา หนังสือฟัยฎุลเกาะดีร ฟี ชะเราะฮ์อัลญามิอ์ อัศเศาะฆิร เขียนโดย อัลลามะฮ์ อัลมุนาวี เล่ม 4 หน้า 421 - 422 ฮะดีษที่ 5833