เว็บไซต์ อิมาม อัลฮะซะนัยน์ (อลัยฮิมัสลาม)เพื่อคุณค่าและสารธรรมอิสลาม

เป้าหมายและปรัชญา (ฮิกมะฮ์) ของชีวิตทางโลก ในวจนะของอิมามฮาดี (อ.)

0 ทัศนะต่างๆ 00.0 / 5


เป้าหมายและปรัชญา (ฮิกมะฮ์) ของชีวิตทางโลก ในวจนะของอิมามฮาดี (อ.)


 


  การรู้จักตนเอง สภาพแวดล้อมและจุดหมายสุดท้ายของการดำเนินชีวิต คือหนึ่งในสิ่งที่มนุษย์มีความกังวลมากที่สุด มุมมองหรือโลกทัศน์ที่มีต่อประเด็นเหล่านี้จะเป็นตัวกำหนดทิศทางของการดำเนินชีวิตของมนุษย์แต่ละคน คนที่มีความศรัทธาต่อพระเจ้าและเชื่อมั่นว่าพระองค์คือผู้สร้างสรรพสิ่ง เขาจะเข้าใจได้อย่างถูกต้องว่า มีเป้าหมายและปรัชญา (ฮิกมะฮ์) ที่สูงส่งได้ถูกกำหนดไว้ในการสร้างนี้

 

    เนื่องจากการที่มนุษย์มีที่มีความเชื่อมั่นว่า โลกแห่งการดำรงอยู่นี้มีเป้าหมาย ดังนั้นเขาจะไม่มองว่าชีวิตของตนเองว่างเปล่าและไร้เป้าหมายใดๆ เขาจะมีมุมมองเฉพาะต่อโลก เป็นมุมมองแบบผู้ที่ศรัทธามั่นในพระเจ้า และเขาจะไม่หลงลืมจากฮิกมะฮ์ (ปรัชญา) ของพระเจ้าในโลกนี้

 

     มนุษย์ยิ่งมีความศรัทธาและความเชื่อมั่นในพระเจ้ามากเท่าใด มุมมองของเขาที่มีต่อชีวิตทางโลกนี้ก็จะมีความเที่ยงแท้และถูกต้องมากเพียงนั้น ไม่ต้องสงสัยเลยว่าผู้ที่มีความศรัทธา (อีหม่าน) มากที่สุดและสมบูรณ์ที่สุดนั้นคือบรรดามะอ์ซูม (อ.) เนื่องจากเราอยู่ในช่วงของการรำลึกถึงวันครบรอบปีการเป็นชะฮีดของท่านอิมามอะลี อันนะกี ในเนื้อหาต่อไปนี้เราจะมาพิจารณาถึงวจนะต่างๆ ของอิมาม (อ.) ท่านนี้ เกี่ยวกับการรู้จักโลก ในบางวจนะของท่านอิมามฮาดี (อ.) ท่านได้อธิบายถึงโลกนี้ว่าเป็นเหมือนสถานที่ทำการค้า โดยกล่าวว่า :

 

الدُّنیا سوقٌ، رَبِحَ فیها قَومٌ وخَسِرَ آخَرونَ

 

"โลกนี้คือตลาดที่ชนกลุ่มหนึ่งได้รับผลกำไรในมัน และชนอีกกลุ่มหนึ่งได้รับความขาดทุน" (1)

 

      มนุษย์ทุกคนที่ถือกำเนิดขึ้นมา ในความเป็นจริงแล้วเขาได้ย่างก้าวเข้าสู่ตลาดหนึ่งแล้ว ดังนั้นจำเป็นต้องอุตสาห์พยายามที่จะแสวงหาผลกำไรจากการดำเนินชีวิตให้ได้มากที่สุด การมองโลกด้วยมุมมองนี้จะเป็นสื่อทำให้มนุษย์ถือว่าตนเองมีเป้าหมายและมุ่งมั่นพยายามที่จะนำหน้าบุคคลอื่นๆ แน่นอนยิ่งว่าพ่อค้าทุกคนนั้นปรารถนาที่จะได้รับผลกำไรให้ได้มากที่สุด และจะต้องไม่ล้าหลังบุคคนอื่นๆ ทุกคนรู้ดีว่าการดำเนินชีวิตของมนุษย์ในโลกนี้นั้นมีความจำเป็นต่อกรณีต่างๆ อันเป็นเฉพาะ และมนุษย์เพื่อที่จะได้รับมาซึ่งสิ่งเหล่านี้จำเป็นต้องอุตสาห์พยายาม ในวจนะอีกบทหนึ่งท่านอิมามอะลี อัลฮาดี (อ.) พร้อมกับการชี้ถึงประเด็นข้างต้นท่าน ซึ่งได้ชี้ถึงสิ่งที่มีความจำเป็นสำหรับชีวิตในปรโลกไว้ดังนี้ว่า :

 

اَلنّاسُ فِی الدُّنْیا بِالاَمْوالِ وَ فِی الآْخِرَةِ بِالاَعْمالِ

 

"มนุษย์มีชีวิตอยู่ในโลกนี้โดยอาศัยทรัพย์สิน และจะมีชีวิตอยู่ในปรโลกโดยอาศัยการกระทำความดี (อะอ์มาล)" (2)

 

     หมายความว่าการมีทรัพย์สินเงินทองและปัจจัยจำเป็นต่างๆ ทางด้านวัตถุเป็นสิ่งที่มีคุณค่าสำหรับชีวิตทางโลกนี้ และการมีอะมั้ลซอและห์ (การกระทำที่เป็นสิ่งดีงาม) ต่างๆ ก็เป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นสำหรับชีวิตในปรโลกเช่นเดียวกัน และทำนองเดียวกับที่มนุษย์เราจะคิดหาทางขจัดความต้องการต่างๆ ในชีวิตทางโลกนี้ของเขา ก็จำเป็นที่เขาจะต้องครุ่นคิดในการสนองตอบความต้องการต่างๆ สำหรับชีวิตในปรโลกของตนด้วยเช่นเดียวกัน และควรจะใช้โอกาสของชีวิตในโลกนี้เพื่อตระเตรียมเสบียงที่ดีงามสำหรับชีวิตปรโลกของตัวเองด้วย แต่ทว่าสิ่งใดที่มีความสำคัญกว่า ความพยายามเพื่อโลกนี้หรือว่าความพยายามเพื่อปรโลก?

 

    แน่นอนยิ่งว่าเราสามารถเปลี่ยนการงานต่างๆ ทางโลกทั้งหมดให้เป็นอะมั้ลซอและห์ (การงานที่ดีงาม) ได้ด้วยเจตนา (เหนียต) เพื่อพระผู้เป็นเจ้า และเราจะส่งมันล่วงหน้าไปในฐานะเสบียงสำหรับชีวิตในปรโลก แต่อย่างไรก็ตามสิ่งที่จะคงทนถาวรกว่าและจะสนองตอบและขจัดความต้องการต่างๆ ของมนุษย์ได้ยาวนานมากว่า ย่อมเป็นสิ่งที่มีความสำคัญมากกว่า ท่านอิมามฮาดี (อ.) ด้วยการพิจารณาถึงประเด็นนี้ ท่านได้เน้นย้ำให้เรารำลึกถึงช่วงเวลาแรกหลังความตาย ซึ่งเป็นสภาพที่ในช่วงเวลาดังกล่าวไม่มีใครที่จะให้การช่วยเหลือแก่เขาได้ ท่านได้กล่าวว่า :

 

اُذکُرْ مَصرَعَكَ بینَ یَدَی أهلِكَ؛ ولا طَبیبَ یَمنَعُكَ، ولا حَبیبَ یَنفَعُكَ

 

"จงรำลึกถึงช่วงเวลาแห่งความตายของท่าน ณ เบื้องหน้าครอบครัวของท่าน โดยที่ไม่มีหมอคนใดจะยับยั้งท่าน (จากความตาย) ได้ และไม่มีเพื่อนคนใดจะยังคุณประโยชน์ต่อท่านได้" (3)

 

    เมื่อมนุษย์รำลึกถึงช่วงเวลาเช่นนี้เขาก็จะเห็นถึงความสำคัญของการทำงานและความพยายามเพื่อชีวิตในปรโลก และจะเตรียมพร้อมตนสำหรับช่วงเวลาดังกล่าวและจะใช้ประโยชน์จากเหตุการณ์ต่างๆ ของโลกนี้เพื่อปรโลกของตน มนุษย์ที่ตระหนักถึงความยากไร้และความต้องการแห่งปรโลกของตนนั้น เขาจะแสดงใบหน้าแห่งความอดทนของตนในการเผชิญหน้ากับปัญหาอุปสรรคต่างๆ โดยมุ่งหวังความพึงพอพระทัยจากพระผู้เป็นเจ้า และจะย่างก้าวเข้าสู่สนามของปัญหาต่างๆ เยี่ยงวีรบุรุษได้มากกว่าคนอื่น ๆ ท่านอิมามฮาดี (อ.) ยังได้กล่าวในเรื่องนี้อีกว่า :

 

إنَّ اللهَ جَعَلَ الدُّنیا دارَ بَلوی وَ الآخِرَةَ دارَ عُقبی وَ جَعَلَ بَلوَی الدُّنیَا لِثَوابَ الآخِرَةِ سَبَباً، وَ ثَوابَ الآخِرَةِ مِن بَلوَی الدُّنیا عِوَضاً

 

"แท้จริงอัลลอฮ์ได้ทรงกำหนดให้โลกนี้เป็นสถานที่แห่งการทดสอบ และทรงกำหนดให้ปรโลกเป็นสถานที่แห่งการตอบแทน และพระองค์ทรงกำหนดให้ความทุกข์ยากของโลกนี้เป็นสื่อสำหรับผลรางวัลแห่งปรโลก และผลรางวัลแห่งปรโลกนั้นคือสิ่งทดแทนจากความทุกข์ยากแห่งโลกนี้" (4)

 

     โดยความคิดเช่นนี้นั่นเองที่จะทำให้ผู้ศรัทธา (มุอ์มิน) มีความสามารถอย่างสูงที่จะเผชิญหน้ากับความทุกข์ยากต่างๆ และจะอดทนต่อความยากลำบากในโลกนี้เพื่อที่จะทำให้ตนมีค่าในปรโลก

 

เชิงอรรถ :

 

(1) ตุหะฟุลอุกูล, หน้าที่ 483 ; บิฮารุลอันวาร, เล่มที่ 78, หน้าที่ 366, ฮะดีษที่ 6

(2) บิฮารุลอันวาร เล่มที่ 78, หน้าที่ 368, ฮะดีษที่ 3

(3) บิฮารุลอันวาร, เล่มที่ 78, หน้าที่ 370, ฮะดีษที่ 64

(4) ตุหะฟุลอุกูล  หน้าที่ 772

 

บทความ : เชคมุฮัมมัดนาอีม ประดับญาติ

 

กรุณาแสดงความคิดเห็นด้วย

ความคิดเห็นของผู้ใช้งานทั้งหลาย

ไม่่มีความคิดเห็น
*
*

เว็บไซต์ อิมาม อัลฮะซะนัยน์ (อลัยฮิมัสลาม)เพื่อคุณค่าและสารธรรมอิสลาม