ความประเสริฐของท่านอะลี (อ.)ในอัลกุรอาน
- จัดพิมพ์ใน
-
- ผู้เขียน:
- เว็บไซต์อัชชีอะฮ์
ความประเสริฐของท่านอะลี (อ.)ในอัลกุรอาน
บางตอนของสุนทรพจน์ฆ่อดีรฺคุม ท่านศาสดา (ศ็อลฯ) ได้กล่าวถึงความประเสริฐของท่านอิมามอะลี (อ.) ดังที่อัล-กุรอานได้กล่าวถึงเช่นกัน ท่านศาสดา กล่าวว่า
“โอ้ประชาชนเอ๋ย แท้จริงแล้วความประเสริฐของอะลี บิน อบีฏอลิบที่อัลลอฮฺ (ซบ.) ทรงตรัสไว้ในอัล-กุรอานนั้นมีมากกว่าสิ่งที่ฉันจะพูดให้พวกท่านฟังเพียงหนึ่งการชุมนุม ดังนั้น บุคคลใดก็ตามที่แจ้งความประเสริฐเหล่านั้นให้ท่านทราบ และทำให้ท่านเข้าใจ ท่านจงยอมรับเถิด”
จะขอหยิบยกโองการที่กล่าวถึงความประเสริฐของท่านอะลี (อ.) โดยไม่อ้างอิงริวายะฮฺประกอบแต่จะกล่าวเฉพาะหนังสืออ้างอิงเท่านั้น
47 โองการที่ประทานให้ท่านอะลี (อ.)
يَا أَيُّهَا الَّذِينَ آمَنُواْ أَطِيعُواْ اللّهَ وَأَطِيعُواْ الرَّسُولَ وَأُوْلِي الأَمْرِ مِنكُمْ
ผู้ศรัทธาทั้งหลาย ! จงเชื่อฟังอัลลอฮฺ และเชื่อฟังร่อซูลเถิด และผู้ปกครองในหมู่พวกเจ้าด้วย[1]
إِنَّا عَرَضْنَا الْأَمَانَةَ عَلَى السَّمَاوَاتِ وَالْأَرْضِ وَالْجِبَالِ فَأَبَيْنَ أَن يَحْمِلْنَهَا وَأَشْفَقْنَ مِنْهَا
แท้จริงเราได้เสนอการอะมานะฮฺ แก่ชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดิน และขุนเขาทั้งหลาย แต่พวกมันปฏิเสธจะแบกรับมันและกลัวมัน (คือภาระอันหนักอึ้ง)[2]
فَإِذَا فَرَغْتَ فَانصَبْ وَإِلَى رَبِّكَ فَارْغَبْ
ดังนั้นเมื่อเจ้าเสร็จสิ้น (จากงานหนึ่งแล้ว) ก็จงลำบากต่อไปและยังพระเจ้าของเจ้าเท่านั้นก็จงมุ่งปรารถนาเถิด[3]
إِنَّ اللّهَ يَأْمُرُكُمْ أَن تُؤدُّواْ الأَمَانَاتِ إِلَى أَهْلِهَا وَإِذَا حَكَمْتُم بَيْنَ النَّاسِ أَن تَحْكُمُواْ بِالْعَدْلِ
แท้จริงอัลลอฮฺทรงใช้พวกเจ้าให้มอบคืนบรรดาของฝากแก่เจ้าของของมัน และเมื่อพวกเจ้าตัดสินระหว่างผู้คน พวกเจ้าก็จะต้องตัดสินด้วยความยุติธรรม[4]
وَالَّذِينَ آمَنُوا وَاتَّبَعَتْهُمْ ذُرِّيَّتُهُم بِإِيمَانٍ أَلْحَقْنَا بِهِمْ ذُرِّيَّتَهُمْ وَمَا أَلَتْنَاهُم مِّنْ عَمَلِهِم مِّن شَيْءٍ
และบรรดาผู้ศรัทธา บรรดาลูกหลานของพวกเขาจะดำเนินตามพวกเขาด้วยการศรัทธา เราจะให้ลูกหลานของพวกเขาอยู่ร่วมกับพวกเขา และเราจะไม่ให้การงานของพวกเขาลดหย่อนลงจากพวกเขาแต่อย่างใด[๕]
أَلَمْ تَرَ إِلَى الَّذِينَ بَدَّلُواْ نِعْمَةَ اللّهِ كُفْرًا وَأَحَلُّواْ قَوْمَهُمْ دَارَ الْبَوَارِ
เจ้าไม่เห็นดอกหรือ บรรดาผู้เปลี่ยนความโปรดปรานของอัลลอฮ เป็นการปฏิเสธศรัทธาและได้นำกลุ่มชนของพวกเขาลงสู่ที่พำนักอันหายนะ[6]
إِنَّ فِي ذَلِكَ لآيَاتٍ لِّلْمُتَوَسِّمِينَ وَإِنَّهَا لَبِسَبِيلٍ مُّقيمٍ
แท้จริงในการนั้น แน่นอนเป็นสัญญาณแก่บรรดาผู้พินิจพิเคราะห์ และมัน(สถานที่นั้น)ยังคงเป็นสถานที่พักอาศัยอย่างแน่นอน[7]
وَقُلِ اعْمَلُواْ فَسَيَرَى اللّهُ عَمَلَكُمْ وَرَسُولُهُ وَالْمُؤْمِنُونَ
จงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด) ว่า พวกท่านจงทำงานเถิดอัลลอฮฺทรงเห็นการงานของพวกท่าน และร่อซูลของพระองค์และบรรดามุอ์มิน[8]
وَأَنْ لَوِ اسْتَقَامُوا عَلَى الطَّرِيقَةِ لَأَسْقَيْنَاهُم مَّاء غَدَقًا
และหากพวกเขาธำรงมั่นอยู่บนแนวทางที่เที่ยงธรรม แน่นอนเราก็จะให้พวกเขามีริซกีกว้างขวาง[9]
وَمَا يَعْلَمُ تَأْوِيلَهُ إِلاَّ اللّهُ وَالرَّاسِخُونَ فِي الْعِلْمِ
แลไม่มีใครรู้ในการตีความโองการนั้นได้นอกจากอัลลอฮฺ และบรรดาผู้ที่มั่นคงในความรู้เท่านั้น[10]
يَا أَيُّهَا الَّذِينَ آمَنُواْ اتَّقُواْ اللّهَ وَكُونُواْ مَعَ الصَّادِقِينَ
โอ้ศรัทธาชนทั้งหลาย พึงยำเกรงอัลลอฮ์เถิด และจงอยู่อยู่ร่วมกับบรรดาผู้ที่พูดจริง[11]
عَمَّ يَتَسَاءَلُونَ عَنِ النَّبَإِ الْعَظِيمِ
๑๒. พวกเขาต่างถามกันถึงเรื่องอะไร ถึงข่าวอันยิ่งใหญ่สำคัญ[๑๒]
وَمَا تُغْنِي الآيَاتُ وَالنُّذُرُ عَن قَوْمٍ لاَّ يُؤْمِنُونَ
๑๓. และสัญญาณทั้งหลาย และการตักเตือนทั้งหลาย จะไม่อำนวยผลแก่กลุ่มชนที่ไม่ศรัทธา[๑๓]
๑๔. หรือว่าพวกเขาอิจฉาคนอื่น ในสิ่งที่อัลลอฮฺทรงประทานให้แก่พวกเขา จากความกรุณาของพระองค์ แท้จริงพระองค์ได้ประทานให้แก่วงศ์วานของอิบรอฮีมมาแล้วซึ่งคัมภีร์และความรู้เกี่ยวกับศาสนา และได้ทรงให้แก่พวกเขาซึ่งอำนาจอันยิ่งใหญ่[๑๔]
وَاتَّبَعُواْ النُّورَ الَّذِيَ أُنزِلَ مَعَهُ أُوْلَئِكَ هُمُ الْمُفْلِحُونَ
๑๕. และปฏิบัติตามแสงสว่าง (นูรฺ) ที่ถูกประทานลงมายังเขา ชนเหล่านี้แหละคือบรรดาผู้ที่สำเร็จ[๑๕]
إِنَّمَا أَنتَ مُنذِرٌ وَلِكُلِّ قَوْمٍ هَادٍ
๑๖. แท้จริงเจ้าเป็นเพียงผู้ตักเตือนเท่านั้น และสำหรับทุกๆ หมู่ชนย่อมมีผู้นำ[๑๖]
أَفَمَن كَانَ عَلَى بَيِّنَةٍ مِّن رَّبِّهِ وَيَتْلُوهُ شَاهِدٌ مِّنْهُ
๑๗. ดังนั้น ผู้ที่อยู่บนหลักฐานอันชัดแจ้งจากพระเจ้าของเขา และผู้เป็นพยาน พระองค์จะสาธยายมัน[๑๗]
إِنَّ الَّذِينَ آمَنُوا وَعَمِلُوا الصَّالِحَاتِ أُوْلَئِكَ هُمْ خَيْرُ الْبَرِيَّةِ
๑๘. แท้จริง บรรดาผู้ศรัทธาและประกอบความดีทั้งหลาย ชนเหล่านั้น พวกเขาเป็นมนุษย์ที่ดียิ่ง[๑๘]
وَاعْتَصِمُواْ بِحَبْلِ اللّهِ جَمِيعًا وَلاَ تَفَرَّقُواْ
๑๙.และพวกเจ้าจงยึดสายเชือกของอัลลอฮฺโดยพร้อมกันทั้งหมดและจงอย่าแตกแยกกัน[๑๙]
فَمَنْ يَكْفُرْ بِالطَّاغُوتِ وَيُؤْمِن بِاللّهِ فَقَدِ اسْتَمْسَكَ بِالْعُرْوَةِ الْوُثْقَىَ
๒๐. ดังนั้นผู้ใดปฏิเสธศรัทธาต่อฎอฆูต และศรัทธาต่ออัลลอฮฺ แน่นอนเขาได้ยึดห่วงอันมั่นคงไว้แล้ว[๒๐]
نَزَلَ بِهِ الرُّوحُ الْأَمِينُ عَلَى قَلْبِكَ لِتَكُونَ مِنَ الْمُنذِرِينَ
๒๑.อัรรูห์ ผู้ซื่อสัตย์ได้นำมันลงมา ยังหัวใจของเจ้าเพื่อเจ้าจักได้เป็นผู้ตักเตือนคนหนึ่ง[๒๑]
بَلْ تُؤْثِرُونَ الْحَيَاةَ الدُّنْيَا وَالْآخِرَةُ خَيْرٌ وَأَبْقَى إِنَّ هَذَا لَفِي الصُّحُفِ الْأُولَى صُحُفِ إِبْرَاهِيمَ وَمُوسَى
๒๒. หามิได้ แต่พวกเจ้าเลือกเอาการมีชีวิตอยู่ในโลกนี้ต่างหากทั้ง ๆ ที่ปรโลกนั้นดีกว่าและจีรังกว่. แท้จริง (ข้อตักเตือนสติ) นี้มีอยู่ในคัมภีร์ก่อนหน้านั้นคือคัมภีร์ของอิบรอฮีมและมูซา[๒๒]
قُلْ إِنَّمَا أَعِظُكُم بِوَاحِدَةٍ
๒๓. จงบอกเถิดว่า แท้จริงฉันขอเตือนพวกท่านสักประการหนึ่ง[๒๓]
فَاسْتَمْسِكْ بِالَّذِي أُوحِيَ إِلَيْكَ إِنَّكَ عَلَى صِرَاطٍ مُّسْتَقِيمٍ
๒๔. ดังนั้นจงยึดมั่นตามที่ได้ถูกวะฮียฺแก่เจ้า แท้จริงเจ้านั้นอยู่บนแนวทางอันเที่ยงตรง[๒๔]
وَبَشِّرِ الَّذِينَ آمَنُواْ أَنَّ لَهُمْ قَدَمَ صِدْقٍ عِندَ رَبِّهِمْ
๒๕. แจ้งข่าวดีแก่บรรดาผู้ศรัทธาว่าแท้จริงพวกเขา จะได้รับตำแหน่งอันสูง ณ ที่พระผู้อภิบาลของพวกเขา[๒๕]
هُنَالِكَ الْوَلَايَةُ لِلَّهِ الْحَقِّ هُوَ خَيْرٌ ثَوَابًا وَخَيْرٌ عُقْبًا
๒๖. ด้วยเหตุนั้น การคุ้มครองเป็นของอัลลอฮฺอย่างแท้จริง และพระองค์ทรงดียิ่งในการตอบแทน และทรงดียิ่งในบั้นปลาย[๒๖]
هَذَانِ خَصْمَانِ اخْتَصَمُوا فِي رَبِّهِمْ فَالَّذِينَ كَفَرُوا قُطِّعَتْ لَهُمْ ثِيَابٌ مِّن نَّارٍ
๒๗.ผู้โต้เถียงทั้งสองฝ่ายนี้ต่างก็โต้เถียงกันเกี่ยวกับพระเจ้าของพวกเขา(*1*) สำหรับบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธานั้น มีอาภรณ์ที่ทำด้วยไฟถูกตัดไว้สำหรับพวกเขา[๒๗]
يَعْرِفُونَ نِعْمَتَ اللّهِ ثُمَّ يُنكِرُونَهَا
๒๘.พวกเขาตระหนักดีในความโปรดปรานของอัลลอฮฺ แต่แล้วพวกเขาปฏิเสธมัน[๒๘]
بَلَى مَن كَسَبَ سَيِّئَةً وَأَحَاطَتْ بِهِ خَطِيئَتُهُ فَأُوْلَئِكَ أَصْحَابُ النَّارِ هُمْ فِيهَا خَالِدُونَ
๒๙. หาใช่เช่นนั้นไม่ ผู้ใดที่แสดวงหาความชั่วและความผิดของเขาได้ล้อมเขาไว้นั้น(*1*) ชนเหล่านี้คือชาวรกโดยที่พวกเขาจะอยู่ในนรกนั้นตลอกกาล[๒๙]
وَأَوْفُواْ بِعَهْدِي أُوفِ بِعَهْدِكُمْ
๓๐. และจงรักษาข้อสัญญาของฉันให้ครบถ้วน ฉันก็จะรักษาสัญญาของพวกเจ้าให้ครบถ้วน[๓๐]
إِنَّ الَّذِينَ آمَنُوا وَعَمِلُوا الصَّالِحَاتِ سَيَجْعَلُ لَهُمُ الرَّحْمَنُ وُدًّا
๓๑. แท้จริง บรรดาผู้ศรัทธาและประกอบคุณงามความดีทั้งหลาย พระองค์ทรงประทานความเมตตาและความรักแก่พวกเขา[๓๑]
يُرِيدُونَ لِيُطْفِئُوا نُورَ اللَّهِ بِأَفْوَاهِهِمْ وَاللَّهُ مُتِمُّ نُورِهِ وَلَوْ كَرِهَ الْكَافِرُونَ
๓๒. พวกเขาปรารถนาที่จะดับรัศมีของอัลลอฮฺด้วยปากของพวกเขา แต่อัลลอฮฺเป็นผู้ทำให้รัศมีของพระองค์สมบูรณ์ แม้ว่าพวกปฏิเสธจะเกลียดชังก็ตาม[๓๒]
وَمَنْ أَعْرَضَ عَن ذِكْرِي فَإِنَّ لَهُ مَعِيشَةً ضَنكًا وَنَحْشُرُهُ يَوْمَ الْقِيَامَةِ أَعْمَى
๓๓. และผู้ใดผินหลังจากการรำลึกถึงฉัน สำหรับเขาคือ การมีชีวิตอยู่อย่างคับแค้น และเราจะให้เขาฟื้นคืนชีพในวันกิยามะฮ์ในสภาพของคนตาบอด[๓๓]
وَمَن يُرِدْ فِيهِ بِإِلْحَادٍ بِظُلْمٍ نُذِقْهُ مِنْ عَذَابٍ أَلِيمٍ
๓๔. ถ้าผู้ใดปรารถนาที่จะออกนอกทางด้วยความอธรรมเราก็จะให้เขาลิ้มรสการลงโทษอย่างเจ็บปวด[๓๔]
وَقِفُوهُمْ إِنَّهُم مَّسْئُولُونَ
๓๕. และจงยับยั้งพวกเขาไว้ เพราะพวกเขาจะต้องถูกสอบสวน[๓๕]
إِنَّ الْمُتَّقِينَ فِي جَنَّاتٍ وَنَهَرٍ فِي مَقْعَدِ صِدْقٍ عِندَ مَلِيكٍ مُّقْتَدِرٍ
๓๖.แท้จริงบรรดาผู้ยำเกรงอยู่ในสวนสวรรค์หลากหลาย และแม่น้ำหลายสายในสถานที่อันทรงเกียรติ ณ ที่พระเจ้าผู้ทรงอานุภาพ[๓๖]
وَالسَّابِقُونَ السَّابِقُونَ أُوْلَئِكَ الْمُقَرَّبُونَ فِي جَنَّاتِ النَّعِيمِ
๓๗.และกลุ่มแนวหน้า คือกลุ่มแนวหน้าเขาเหล่านั้น คือบรรดาผู้ใกล้ชิดพำนักในสวนสวรรค์อันบรมสุข[๓๗]
๓๘. ในหมู่ผู้ศรัทธามีบุรุษผู้มีสัจจะต่อสิ่งที่พวกเขาได้สัญญาต่ออัลลอฮฺเอาไว้ ) ดังนั้นในหมู่พวกเขามีผู้ปฏิบัติตามสัญญาของเขา และในหมู่พวกเขามีผู้รอคอย และพวกเขามิได้เปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด[๓๘]
الزَّكَوةَ وَارْكَعُواْ مَعَ الرَّاكِعِينَ
๓๙.และจงก้มโค้งร่วมกับผู้บรรดผู้ก้มโค้งทั้งหลาย[๓๙]
وَاجْعَل لِّي لِسَانَ صِدْقٍ فِي الْآخِرِينَ
๔๐. และทรงทำให้ฉันได้รับการรำลึกอย่างดีในหมู่ชนรุ่นต่อ ๆ ไป[๔๐]
مَن جَاء بِالْحَسَنَةِ فَلَهُ عَشْرُ أَمْثَالِهَا
๔๑. ผู้ใดที่นำความดีมา เขาก็จะได้รับสิบเท่าของความดีนั้น[๔๑]
يَا أَيُّهَا الَّذِينَ آمَنُواْ اسْتَجِيبُواْ لِلّهِ وَلِلرَّسُولِ إِذَا دَعَاكُم لِمَا يُحْيِيكُمْ
๔๒. จงตอบรับอัลลอฮฺ และร่อซูลเถิด เมื่อได้เชิญชวนพวกเจ้าสู่สิ่งที่ทำให้พวกเจ้ามีชีวิตชีวา[๔๒]
๔๓. บรรดาผู้ทีอพยพ และที่ถูกขับไล่ให้ออกจากบ้านของพวกเขา และได้รับความเดือดร้อนในทางของฉันได้ต่อสู้และถูกฆ่าตาย แน่นอนฉันจะลบล้างความผิดบาปทั้งหลายของพวกเขา และฉันจะให้พวกเขาเข้าสวนสวรรค์ที่มีแม่น้ำหลายสายไหลอยู่เบื้องล่าง ทั้งนี้เป็นรางวัลตอบแทนจากอัลลอฮฺ และ ณ อัลลอฮฺนั้นคือ การตอบแทนอันดีงาม[๔๓]
وَقُلِ الْحَقُّ مِن رَّبِّكُمْ فَمَن شَاءَ فَلْيُؤْمِن وَمَن شَاءَ فَلْيَكْفُرْ إِنَّا أَعْتَدْنَا لِلظَّالِمِينَ نَارًا أَحَاطَ بِهِمْ سُرَادِقُهَا
๔๔. และจงกล่าวเถิดมุฮัมมัด สัจธรรมนั้นมาจากพระผู้อภิบาลของพวกเจ้า ดังนั้น ผู้ใดปรารถนาศรัทธา จงศรัทธา และผู้ใดปรารถนาที่จะปฏิเสธจงปฏิเสธ แท้จริง เราได้เตรียมไฟนรกไว้สำหรับพวกอธรรมทั้งหลาย ซึ่งกำแพงของมันล้อมรอบพวกเขา [๔๔]
وَأَوْفُواْ بِعَهْدِ اللّهِ إِذَا عَاهَدتُّمْ وَلاَ تَنقُضُواْ الأَيْمَانَ بَعْدَ تَوْكِيدِهَا وَقَدْ جَعَلْتُمُ اللّهَ عَلَيْكُمْ كَفِيلاً
๔๖.และพวกเจ้าจงปฏิบัติให้ครบตามพันธสัญญาของอัลลอฮ เมื่อพวกเจ้าได้ให้สัญญาไว้ และพวกเจ้าอย่าได้ทำลายคำสาบานหลังจากได้ยืนยันมัน และแน่นอน พวกเจ้าได้มอบให้อัลลอฮฺเป็นพยานแก่พวกเจ้า[๔๕]
قُلْ كَفَى بِاللّهِ شَهِيدًا بَيْنِي وَبَيْنَكُمْ وَمَنْ عِندَهُ عِلْمُ الْكِتَابِ
๔๖. เพียงพอแล้วที่อัลลอฮฺทรงเป็นพยานระหว่างฉันกับพวกท่าน และผู้ที่เขามีความรู้ในคัมภีร์[๔๖]
سَلَامٌ عَلَى آلْ يَاسِينَ
๔๗. ศานติจงมีแด่วงศ์วานของยาซีน[๔๗]
อ้างอิง
[๑] นิซาอ์/๕๙, อุศูลุลกาฟีย์ เล่มที่ ๑ หน้าที่ ๘๖๒
[๒] อะหฺซาบ/๗๒, อิษบาตุลฮุดา เล่มที่ ๓ หนี้ที่ ๒๙๓
[๓] ชัรฺห์/๗-๘, อุศูลุดกาฟีย์ เล่มที่ ๑ หน้าที่ ๒๙๓
[๔] นิซอ์/๕๘, อ้างแล้ว หน้าที่ ๕๘
[๕] ฏูร/๒๑,อ้างแล้ว หน้าที่ ๒๗๕
[๖] อิบรอฮีม/๒๘,อ้างแล้ว หน้าที่ ๒๑๗
[๗] หิจร์/๗๕-๗๖,อ้างแล้วเล่มเดิม
[๘] เตาบะฮฺ/๑๐๕,อ้างแล้ว หน้าที่ ๒๑๙
[๙] ญิน/๑๖, อ้างแล้ว หน้าที่ ๒๒
[๑๐] อาลิอิมรอน/๗, อ้างแล้ว หน้าที่ ๒๑๓
[๑๑] เตาบะฮฺ/๑๒๐,กัชฟุลฆอมมะฮฺ เล่มที่ ๑ หน้าที่ ๔๒๙
[๑๒] นะบะฮฺ /๑-๒,อุศูลกาฟีย์ เล่มที่ ๑ หน้าที่ ๒๑๖
[๑๓] ยูนุส/๑๐๑,อ้างแล้ว หน้าที่ ๒๐๗
[๑๔] นิซาอ์ / ๕๔, ตัฟซีรฺกุมมี เล่มที่ ๑ หน้าที่ ๑๔๐
[๑๕] อะอ์รอฟ / ๑๕๗, อุศูลกาฟีย์ เล่มที่ ๑ หน้าที่ ๑๙๔
[๑๖] เราะอ์ดุ / ๗,อ้างแล้วเล่มเดิม หน้าที่ ๑๙๒
[๑๗] ฮูด / ๑๗, อ้างแล้วเล่มเดิม หน้าที่ ๑๙๐
[๑๘] บัยยินะฮฺ / ๗,อัดดุรุนมันษูรฺ เล่มที่ ๖ หน้าที่ ๓๗๙
[๑๙] อาลิอิมรอน / ๑๐๓, ฆอยะตุลมะรอม หน้าที่ ๒๔๓ บาบที่ ๓๖ หะดีษที่ ๔
[๒๐] บะก่อเราะฮฺ / ๒๕๖, นูรุษษะก่อลัยนฺ เล่มที่ ๑ หน้าที่๒๖๓
[๒๑] ชุอ์อะรอ / ๒๕๖, ตัฟซีรฺกุมมี เล่มที่ ๒ หน้าที่ ๑๒๔
[๒๒] อะอ์ลา / ๑๖-๑๙, ตัฟซีรฺบุรฮาน เล่มที่ ๔ หน้าที่ ๔๕๑
[๒๓] สะบะอ์ / ๔๖, ตัฟซีรฺกุมมี เล่มที่ ๒ หน้าที่ ๒๐๔
[๒๔] ซุครุฟ / ๔๓, ตัฟซีรฺบุรฮาน เล่มที่ ๔ หน้าที่ ๑๔๕
[๒๕] ยูนุส / ๒, อ้างแล้ว เล่มที่ ๒ หน้าที่ ๑๗๗
[๒๖] อัล-กะฮฺฟิ / ๔๔, อ้างแล้ว หน้าที่ ๔๖๙
[๒๗] หัจญ์ / ๑๙, อ้างแล้วเล่มที่ ๓ หน้าที่ ๘๐
[๒๘] นะห์ลิ / ๘๓ อ้างแล้ว เล่มที่ ๒ หน้าที่ ๓๗๘
[๒๙] บะก่อเราะฮฺ /๘๑, อ้างแล้ว เล่มที่ ๑ หน้าที่ ๑๒
[๓๐] บะก่อเราะฮฺ / ๔๐, อ้างแล้วหน้าที่ ๙
[๓๑] มัรยัม / ๙๖,อ้างแล้วเล่ม ๒ หน้าที่ ๓๐๒
[๓๒] ศ็อฟ / ๘ อ้างแล้วเล่มที่ ๔ หน้าที่ ๓๒๙
[๓๓] ฏอฮา / ๑๒๔, อ้างแล้ว เล่มที่ ๓ หน้าที่ ๔๕
[๓๔] หัจญ์ / ๒๕, อ้างแล้วหน้าที่ ๘๔
[๓๕] ศอฟาต / ๒๔, กัชฟุลฆอมมะฮฺ เล่มที่ ๑ หน้าที่ ๔๒๑
[๓๖] ก่อมัรฺ / ๕๕,อ้างแล้วเล่มเดิม
[๓๗] วากิอะฮฺ /๑๐-๑๒, อ้างแล้วเล่มเดิม
[๓๘] อหฺซาบ / ๒๓,เล่มเดิมหน้าที่ ๔๒๕
[๓๙] บะก่อเราะฮฺ / ๔๓,เล่มเดิมหน้าที่ ๔๒๗
[๔๐] ชุอ์อะรอ / ๘๔, กัชฟุลฆอมมะฮฺ เล่มที่ ๓หน้าที่ ๔๓๘
[๔๑] อันอาม / ๑๖๐,อ้างแล้วเล่มเดิม เล่มที่ ๑ หน้าที่ ๔๔๐
[๔๒] อันฟาล / ๒๔,อ้างแล้วเล่มเดิม
[๔๓] อาลิอิมรอน / ๑๙๕, ตัฟซีรฺนูรุษษะก่อลัยนฺ เล่มที่ ๑ หน้าที่ ๔๒๕
[๔๔] กะฮฺฟิ / ๒๙,ตัฟซีรฺ อะลีบิน อิบรอฮีม เล่มที่ ๒ หน้าที่ ๓๕
[๔๕] นะห์ลิ / ๙๑, ตัฟซีรฺอะลีบินอิบรอฮีม เล่มที่ ๒ หน้าที่ ๓๘๙
[๔๖] อัรฺเราะอ์ดุ / ๔๓,กัชฟุลฆอมมะฮฺ เล่มที่ ๑ หน้าที่ ๔๒๙
[๔๗] ศอฟาต / ๑๓๐, เล่มเดิม หน้าที่ ๔๓๐
ขอขอบคุณเว็บไซต์อัชชีอะฮ์