เว็บไซต์ อิมาม อัลฮะซะนัยน์ (อลัยฮิมัสลาม)เพื่อคุณค่าและสารธรรมอิสลาม

ประวัติศาสตร์ มุบาฮะละฮ์ ตอนที่ 2

0 ทัศนะต่างๆ 00.0 / 5

ประวัติศาสตร์ มุบาฮะละฮ์ ตอนที่ 2

 

2.ทำการมุบาฮะละฮ์กัน ณ สถานที่ใด?

 

ฝ่ายมุสลิมกับฝ่ายคริสเตียนได้ตกลงกันว่า จะไปมุบาฮะละฮ์กันที่นอกเมืองมะดีนะฮ์กลางทะเลทราย

 

ท่านนบีมุฮัมมัด(ศ็อลฯ)ได้คัดเลือกบุคคลที่จะไปมุบาฮะละฮ์เพียงสี่คนเท่านั้นโดยไม่มีผู้ใดมีส่วนร่วมในการไปมุบาฮะละฮ์ครั้งนี้

 

ฮะดีษที่ 1


ท่านสะอัด บิน อบีวักกอศ เล่าว่า

 

لَمَّا نَزَلَتْ هذِهِ الْآيَةُ : {.. فَقُلْ تَعَالَوْاْ نَدْعُ أَبْنَاءنَا وَأَبْنَاءكُمْ ..} دَعَا رَسُوْلُ الله (ص) عَلِيًّا وَ فَاطِمَةَ وَ حَسَنًا وَ حُسَيْنَا فَقَالَ : اللّهُمَّ هؤُلاَءِ أَهْلِيْ

 

ขณะที่โองการนี้ประทานลงมา ( ดังนั้นจงมาเถิด เราก็จะเรียกลูก ๆ ของเรา และลูกของพวกท่าน...)

ท่านรอซูลุลลอฮ์(ศ)ได้เรียกอะลี ฟาฏิมะฮ์ ฮะซันและฮุเซนมาแล้วกล่าวว่า โอ้อัลลอฮ์ พวกเขาเหล่านี้คือครอบครัวของฉัน
ดูซอฮิฮ์มุสลิม หะดีษที่ 4420

 

ฮะดีษที่ 2


ท่านอามิร บิน สะอัด บิน อบีวักกอศ จากบิดาเขาเล่าว่า

 

لَمَّا أَنْزَلَ اللهُ هذِهِ الْآيَةُ :{ تَعَالَوْاْ نَدْعُ أَبْنَاءنَا وَأَبْنَاءكُمْ وَنِسَاءَنَا وَنِسَاءَكُمْ } الآية دَعَا رَسُوْلُ الله صلى الله عليه وسلم عَلِيًّا وَ فَاطِمَةَ وَ حَسَنًا وَ حُسَيْنَا فَقَالَ : اللّهُمَّ هؤُلاَءِ أَهْلِيْ

 

ขณะที่โองการนี้ประทานลงมาคือ ( ดังนั้นจงมาเถิด เราก็จะเรียกลูก ๆของเรา และลูกของพวกท่าน และบรรดาสตรีของเราและบรรดาสตรีของพวกท่าน)
 บท อาลิ อิมรอน : 61

 

ท่านรอซูลุลลอฮ์(ศ)ได้เรียกอะลี ฟาฏิมะฮ์ ฮะซันและฮุเซนมา แล้วกล่าวว่า :


 โอ้อัลลอฮ์ พวกเขาเหล่านี้คือครอบครัวของฉัน

 

ซุนัน ติรมิซี เล่ม 5 : 225 หะดีษที่ 2999 เชคอัลบานีกล่าวว่า ซอฮิฮ์

 

ฮะดีษที่ 3


ท่านฮะซัน ได้เล่าว่า บาทหลวงแห่งนัจญะรอนได้มาหาท่านนบี(ศ) ท่านรอซูลุลลอฮ์ได้กล่าวกับทั้งสองว่า

 

«أَسْلَمَا تَسْلَمَا»

 

ท่านทั้งสองจงรับอิสลามเถิด แล้วท่านจะได้รับสันติ

 

قَدْ أَسْلَمْنَا قَبْلَكَ

 

ทั้งสองตอบว่า เรารับอิสลามก่อนท่านอีก


ท่านนบี(ศ)ได้กล่าวว่า

 

كَذَبْتُمَا مَنَعَكُمَا مِنَ الْإِسْلَامِ ثَلَاثٌ، سُجُودُكُمَا لِلصَّلِيبِ، وَقَوْلُكُمَا: {اتَّخَذَ اللَّهُ وَلَدًا} [البقرة: 116] ، وَشُرْبُكُمَا الْخَمْرَ

 

ท่านทั้งสองมุสา มีสามสิ่งที่ได้ขัดขวางท่านออกจากอิสลามคือ ท่านกราบไหว้ไม้กางเขน ท่านทั้งสองกล่าวว่า อัลลอฮ์ทรงยึดบุตร(มีบุตร) และท่านทั้งสองดื่มสุรา
แล้วเขาทั้งสองได้ถามว่า

 

فَمَا تَقُولُ فِي عِيسَى؟

 

ท่านจะกล่าวอะไรเกี่ยวกับอีซา(เยซู)

 

ท่านนบี(ศ)ได้นิ่ง(ไม่ตอบอะไร)จนอัลกุรอานได้ประทานลงมาว่า

 

{ذَلِكَ نَتْلُوهُ عَلَيْكَ مِنَ الْآيَاتِ وَالذَّكَرِ الْحَكِيمِ}

 

[3.58] ดังกล่าวนั้นแหละ เราอ่านมันให้เจ้าฟัง อันได้แก่ โองการต่างๆ และคำเตือนรำลึกที่มีฮิกมะฮ์อย่างชัดเจน

 

[3.59] แท้จริงอุปมาของอีซา ดั่งอุปมัยของอาดัม พระองค์ทรงสร้างเขาจากดิน และได้ทรงประปาศิตแก่เขาว่า จงเป็นขึ้นแล้วเขาก็เป็นขึ้น

 

[3.60] ความจริง นั้นมาจากพระผู้อภิบาลของเจ้า (มุฮัมมัด) ดังนั้นเจ้าจงอย่าเป็นคนหนึ่งในหมู่ผู้สงสัยเป็นอันขาด จนมาถึง

 

إِلَى قَوْلِهِ: {أَبْنَاءَنَا وَأَبْنَاءَكُمْ} [آل عمران: 61]

 

ดังนั้นผู้ใดที่โต้เถียงเจ้า(มุฮัมมัด)ในเรื่องของอีซา(ว่าเป็นบุตรของพระเจ้า) หลังจากที่ได้มีความรู้มายังเจ้าแล้ว จงกล่าวเถิด(มุฮัมมัด)ว่า


ท่านทั้งหลาย(ชาวคริสต์)จงมาเถิด


เราก็จะเรียกลูก ๆ ของเรา และลูกของพวกท่านและเรียก


บรรดาผู้หญิงของเรา และบรรดาผู้หญิงของพวกท่าน


และตัวของเรา และตัวของพวกท่าน


และเราจะมาวิงวอน (ต่อพระเจ้า)กัน ด้วยความนอบน้อม โดยที่เราจะขอให้อัลลอฮ์ทรงลงโทษทัณฑ์แก่บรรดาผู้โกหก


 (อาลิอิมรอน : 59 – 61)

 

فَدَعَاهُمَا رَسُولُ اللَّهِ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ إِلَى الْمُلَاعَنَةِ

 

แล้วท่านรอซูลุลลอฮ์(ศ)จึงได้ชวนเขาทั้งสอง(ชาวคริสต์)ออกไปสาบานสาปแช่งกัน

 

قَالَ: وَجَاءَ بِالْحَسَنِ، وَالْحُسَيْنِ، وَفَاطِمَةَ أَهْلِهِ وَوَلَدِهِ "

 

เขาเล่าว่า แล้วท่านรอซูลได้พาฮะซัน ฮุเซน และฟาฏิมะฮ์ ครอบครัวของเขา(อะลี)และบุตรของเขา(ออกไปสาบานมุบาฮะละฮ์)

 

قَالَ: فَلَمَّا خَرَجَا مِنْ عِنْدَهُ قَالَ أَحَدُهُمَا لِصَاحِبِهِ: أَقْرِرْ بِالْجِزْيَةِ وَلَا تُلَاعِنْهُ قَالَ: فَرَجَعَا، فَقَالَا: نُقِرُّ بِالْجِزْيَةِ وَلَا نُلَاعِنُكَ قَالَ: فَأَقَرَّا بِالْجِزْيَةِ
 

เขาเล่าว่า เมื่อชาวคริสต์ทั้งสองได้ออกมา คนหนึ่งของเขาได้กล่าวกับสหายของเขาว่า


จงยอมจ่ายบรรณาการเถิด อย่าไปสาบานสาปแช่งกับเขา(ท่านนบี)เลย


ทั้งสองจึงเปลี่ยนใจ แล้วทั้งสองได้กล่าวว่า เราจะยอมจ่ายบรรรณาการและเราจะไม่สาบานสาปแช่งกับท่าน


แล้วทั้งสองก็ได้ตกลงสัญญายอมจ่ายบรรณาการ

 

หนังสือ ฟะฎออิลุซ ซอฮาบะฮ์ เล่ม 2 : 776 ฮะดีษที่ 1374

 

สรุป

 

เรื่องลงเอยลง ด้วยการที่ฝ่ายคริสเตียนย่อมจ่ายญิซยะฮ์แทนการสาบานมุบาฮะละฮ์


อันเป็นมติบันทึกของนักประวัติศาสตร์ นักอธิบายอัลกุรอานและนักรายงานฮะดีษ

 

บทความโดย เชคอับดุลญะวาด สว่างวรรณ

 

 โปรดรออ่านตอนต่อไป

 

ประวัติศาสตร์ มุบาฮะละฮ์ ตอนที่ 1

 

กรุณาแสดงความคิดเห็นด้วย

ความคิดเห็นของผู้ใช้งานทั้งหลาย

ไม่่มีความคิดเห็น
*
*

เว็บไซต์ อิมาม อัลฮะซะนัยน์ (อลัยฮิมัสลาม)เพื่อคุณค่าและสารธรรมอิสลาม