ชนรุ่นแรกของอิสลามในอัลกุรอาน ตอนที่ 1

ชนรุ่นแรกของอิสลามในอัลกุรอาน ตอนที่ 1

 

โองการอัลกุรอาน โองการนี้กล่าวถึงชนรุ่นแรกของอิสลาม และผู้ปฏิบัติตามที่แท้จริง พร้อมกับกล่าวถึงผลรางวัลตอบแทนของพวกเขา โดยกล่าวว่า

 

وَ السّابِقُونَ الأَوَّلُونَ مِنَ الْمُهاجِرينَ وَ الأَنْصارِ وَ الَّذينَ اتَّبَعُوهُمْ بِإِحْسان رَضِيَ اللّهُ عَنْهُمْ وَ رَضُوا عَنْهُ وَ أَعَدَّ لَهُمْ جَنّات تَجْري تَحْتَهَا الأَنْهارُ خالِدينَ فيها أَبَداً ذلِكَ الْفَوْزُ الْعَظيمُ

 

ความหมาย  :  บรรดาบรรพชนรุ่นแรกในหมู่ผู้อพยพ (ชาวมุฮาญิรีนจากมักกะฮ์) และในหมู่ผู้ให้ความช่วยเหลือ (ชาวอันซอรจากมะดีนะฮ์) และบรรดาผู้ดำเนิน ตามพวกเขาด้วยการทำดี อัลลอฮ์ทรงพอพระทัยพวกเขา และพวกเขาก็พอใจในพระองค์ด้วย และพระองค์ทรงเตรียมไว้ให้พวกเขาแล้ว บรรดาสวนสวรรค์ที่มีแม่น้ำหลายสายไหลผ่านอยู่เบื้องล่าง พวกเขาจะพำนักอยู่ในนั้นตลอดกาลนั่นคือ ชัยชนะอันใหญ่หลวง


  (โองการที่ 100 บทอัตเตาบะฮ์)

 

คำอธิบาย :

 

บุคคลรุ่นแรกในอิสลาม

 

โองการนี้ได้กล่าวประติดประต่อกับโองการก่อนหน้านั้นกล่าวคือ อธิบายถึงสถานภาพของบรรดาผู้ปฏิเสธ และบรรดาผู้กลับกลอก (มุนาฟิกีน) ทั้งหลาย โองการข้างต้นระบุถึงกลุ่มต่างๆ จากบรรดามุสลิมก่อนหน้านั้น ซึ่งได้แบ่งพวกเขาออกเป็น 3 กลุ่ม ด้วยกัน

 

กลุ่มแรก คือ บรรดาบรรพชนรุ่นแรกในหมู่ผู้อพยพ (ชาวมุฮาญิรีนจากมักกะฮ์)

 

กลุ่มที่สอง คือ ผู้ให้ความช่วยเหลือ (ชาวอันซอรจากมะดีนะฮ์ ผู้ให้ความช่วยเหลือท่านศาสดา และบรรดามุฮาญิรีน)

 

กลุ่มที่สาม คือ บรรดาผู้ที่มาหลังจากชนสองกลุ่มแรก ซึ่งพวกเขาได้ปฏิบัติตามชนสองกลุ่มแรกอย่างดี ประกอบกับได้ประกอบคุณงามความดีเป็นผู้ช่วยเหลืออิสลามและศาสดา (ศ็อล ฯ) ในเวลามต่อมา ( บรรดาผู้ดำเนิน ตามพวกเขาด้วยการทำดี )

 

จุดประสงค์ของคำว่า อิฮ์ซาน คือการอธิบายถึงการกระทำ และความเชื่อที่มีอยู่ในหมู่พวกเขา ในฐานะชนรุ่นแรกของอิสลาม หรืออาจกล่าวได้ว่า อิฮ์ซาน ในที่นี้เป็นการระบุถึง คุณลักษณะของโปรแกมต่างๆ ที่พวกเขาได้ยึดถือปฏิบัติตาม

 

แต่บางทีอาจเป็นไปได้ความหมายในโองการ อิฮ์ซาน เป็นการอธิบายถึงคุณลักษณะของการปฏิบัติตาม กล่าวคือ เนื่องจากพวกเขาเป็นผู้เชื่อฟังปฏิบัติตามชั้นดี ดังนั้น ในกรณีแรก บาอ์ ที่ติดอยู่กับคำว่า อิฮ์ซาน จึงให้ความหมายว่า ฟี (ใน) ส่วนในความหมายที่สอง ให้ความหมายว่า มะอะ (ด้วย)

 

ดังนั้น อัลกุรอานจึงได้กล่าวเน้นถึงชนทั้งสามกลุ่มว่า “อัลลอฮ์ทรงพอพระทัยพวกเขา และพวกเขาก็พอใจในพระองค์ด้วย”

 

คำว่า พอพระทัย (ริฎอ)  ที่กล่าวว่า อัลลอฮ์ทรงพอพระทัยพวกเขา ก็สืบเนืองมาจาก ความศรัทธาและการประพฤติคุณงามความดีของพวกเขา ขณะที่พวกเขาก็พอใจในพระองค์ ก็สืบเนื่องมาจากผลรางวัลต่างๆ  ที่มีความพิเศษและมีความสำคัญอย่างยิ่ง ที่ได้มอบให้แก่พวกเขา

 

อีกนัยหนึ่ง สิ่งที่พระเจ้าทรงประสงค์ พวกเขาได้กระทำจนหมดสิ้น และสิ่งที่พวกเขาปรารถนาจากพระเจ้า พระองค์ก็ทรงประทานให้แก่พวกเขา ด้วยเหตุนี้ พระเจ้าจึงทรงพอพระทัยในพวกเขา และพวกเขาก็พอใจในพระองค์

 

ด้วยประโยคที่ผ่านมาจะเห็นว่า โองการได้โอบอุ้มเอาความเมตตาและความโปรดปรานทั้งหมดเอาไว้ (ความโปรดปรานทั้งวัตถุปัจจัย จิตวิญญาณ และกายภาพ) แต่ในฐานะที่ต้องการเน้นย้ำ และอธิบายโดยละเอียดหลังจากได้อธิบายโดยรวมอีกครั้งหนึ่ง พระองค์ทรงตรัสอีกว่า “พระองค์ทรงเตรียมไว้ให้พวกเขาแล้ว บรรดาสวนสวรรค์ที่มีแม่น้ำหลายสายไหลผ่านอยู่เบื้องล่าง”

 

ความพิเศษของความโปรดปรานดังกล่าวคือ เป็นนิรันดร และจะอยู่ร่วมกับพวกเขาตลอดไป “พวกเขาจะพำนักอยู่ในนั้นตลอดกาล” ฉะนั้น ประมวลความโปรดปรานทั้งหมดทั้งด้านจิตวิญญาณและวัตถุปัจจัย ถือเป็นชัยชนะอันยิ่งใหญ่สำหรับพวกเขา “นั่นคือชัยชนะอันใหญ่หลวง” จะมีชัยชนะใดที่ยิ่งใหญ่และดีไปกว่านี้อีก ในความรู้สึกที่สัมผัสได้ว่า พระผู้ทรงสร้างพวกเขา ผู้ทรงคู่ควรต่อการเคารพภักดี ผู้เป็นนาย มีความพึงพอพระทัยในพวกเขา ทรงลงลายเซ็นกำกับใบรับรองการกระทำที่ถูกตอบรับของพวกเขา

 

จะมีชัยชนะใดที่สูงส่งไปกว่านี้อีก ซึ่งพวกเขาได้ปฏิบัติในช่วงเวลาอันจำกัดเพียงไม่กี่วันของชีวิตที่สั้นเพียงน้อยนิดและมีการจบสิ้น แต่กลับได้รับรางวัลตอบแทนอันเป็นอมตะนิรันดรตลอดไป

 

และอาจเป็นไปได้เช่นกันที่ว่า สาเหตุที่อัลลอฮ์ทรงพึงพอพระทัยในพวกเขา ก็สืบเนื่องจากการเข้ารับอิสลามของพวกเขา และความพอใจของพวกเขา ก็สืบเนืองจากว่า พวกเขาได้รับการช่วยเหลือให้รอดพ้นจากวัฒนธรรมอันเลวร้าย สภาพสังคมที่ย่ำแย่ การกดขี่ และความโง่เขลาไปสู่ความสูงส่งและอำนาจอันยิ่งใหญ่นั่นเอง

 

บทเรียนจากโองการ :

 

    โองการได้กล่าวว่า อัลลอฮ์(ซบ.) ทรงพึงพอพระทัยบรรดาผู้อพยพรุ่นแรก ผู้ให้ความช่วยเหลือท่านศาสดา และบรรดาผู้เชื่อฟังปฏิบัติตาม เนื่องจากพวกเขามีศรัทธาและประกอบคุณงามความดี


    โองการกล่าวว่าบรรดาผู้อพยพ ผู้ให้การช่วยเหลือ และผู้เชื่อฟังปฏิบัติตาม ต่างพอใจในอัลลอฮ์อันเนื่องจากไม่ว่าสิ่งใดที่พวกเขามีความต้องการ พระองค์จะทรงประทานให้พวกเขา


    บรรดาผู้อพยพและผู้ให้การช่วยเหลือคือ ผู้ปฏิวัติรุ่นแรกของอิสลามพร้อมกับท่านศาสดา (ศ็อล ฯ) ครั้นเมื่อท่านศาสดาต้องถูกปิดล้อมโดยพวกมุชริกชาวมักกะฮฺ ท่านต้องถูกโดดเดี่ยวและตกอยู่ในอันตราย พวกเขาได้ให้ความช่วยเหลืออย่างดี บรรดาผู้อพยพรุ่นแรกต่างต้องทนทุกข์ทรมานร่วมกับศาสดา (ศ็อล ฯ) พวกเขาได้อยู่ร่วมกับท่านศาสดาด้วยความรักและความอาลัย พวกเขาได้ละทิ้งญาติพี่น้องและครอบครัว อพยพไปพร้อมกับท่านศาสดา (ศ็อล ฯ) ยังเมืองมะดีนะฮ์ ชณะที่ชาวอันซอรได้ให้การต้อนรับท่านศาสดาและพวกอพยพรุ่นแรกอย่างดี พวกเขาได้ให้สถานที่พักพิงและอาหาร ที่สำคัญพวกเขาได้ปกป้องท่านศาสดาสุดกำลังความสามารถที่มีอยู่

 

โปรดติดตามตอนต่อไป


ขอขอบคุณเว็บไซต์เลิฟฮุเซน