อิมามมะฮ์ดี ความหวังใหม่ของโลก ตอนที่ 2

อิมามมะฮ์ดี ความหวังใหม่ของโลก ตอนที่ 2


ความศรัทธาในมะฮ์ดี ผู้ถูกสัญญา (อ.)จากหลักฐานต่างๆในอิสลาม

 

ท่านศาสนทูตแห่งอัลลอฮ์ (ศ็อลฯ)  และบรรดาอิมามผู้บริสุทธิ์ (อ) ได้รายงานเรื่องราวต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับท่านอิมามมะฮ์ดี ทั้งในแง่ที่เกี่ยวกับการหายตัว (ฆ็อยบะฮ์) การปรากฏตัวอีกครั้งหนึ่ง การต่อสู้ของท่าน และบุคลิกภาพต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับท่านอิมามมะฮ์ดี ซึ่งรายงานเหล่านี้ได้รับการถ่ายทอดอย่างแพร่หลายจากบรรดาสาวก และสหายของรอซูล และอิมามผู้บริสุทธิ์

 

 เจ้าของหนังสือ “อัลอิมามอัล-มะอ์ดี” ได้บันทึกชื่อของศอฮาบะอ์ ๕๐ ท่าน ชื่อของตาบิอีนอีก ๕๐ ท่านที่ได้ทำการรายงานหะดีษที่เกี่ยวกับอิมามมะฮ์ดี

 

บรรดากวีมุสลิมได้เขียนบทกวีไว้อย่างมากมายที่เกี่ยวกับท่านอิมาม และส่วนมากของบทกวีนั้นได้เขียนก่อนประสูติของท่านอิมามมะฮ์ดีนับศตวรรษ

 

“กูเมต อัลอะซะดีย์” นักกวีเอกคนหนึ่งของชีอะฮ์ ได้แต่งบทกวีบรรยายเกี่ยวกับท่านอิมามมะฮ์ดี ต่อหน้าท่านอิมามบากิร (อ) และยังได้ถามท่านอิมามบากิร (อ.) เกี่ยวกับเวลาที่อิมามจะปรากฏ

 

“ดิอ์บัล อัลคุซาอี” กวีเอกอีกท่านหนึ่งที่ได้แต่งบทกวีเกี่ยวกับท่านอิมามมะฮ์ดี ต่อหน้าท่านอิมามริฏอ (อ) ซึ่งคุซาอี ได้กล่าวขึ้นว่า

 

“ถ้าไม่ใช่ เพราะความหวังที่ฉันมีในวันนี้หรือพรุ่งนี้ (หมายถึงการมาของท่านอิมามมะฮ์ดี) หัวใจของฉันก็ต้องสลายไปกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับพวกเขา (หมายถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับอะฮ์ลุลบัยต์) (ความหวังนั้นก็คือ) การปรากฏของอิมามท่านหนึ่งซึ่งไม่มีข้อสงสัยในการปรากฏขึ้น

 

เขาจะยืนหยัดด้วยพระนามแห่งอัลลอฮ์ และจากบะรอกัตของพระองค์ (และเขา) จะเป็นผู้แยกแยะในหมู่พวกเราระหว่างสัจธรรมกับความเท็จ และเขาจะเป็นผู้ตอบแทนรางวัลและบทลงโทษ”


หลังจากที่ คุซาอี ได้อ่านกวีบทนี้จบ ท่านอิมามริฏอ (อ) จึงได้กล่าวกับเขาว่า

 

“โอ้ คุซาอี เอ๋ย บทกวีบทนี้ พระเจ้าเป็นผู้ใส่มันลงไปในปากของเจ้า


 เจ้ารู้ไหมว่าอิมาม คือใคร? คุซาอี ได้ตอบว่า : ฉันไม่รู้ ฉันรู้แต่เพียงว่า จะมีอิมามหนึ่งจากลูกหลานของท่าน ปรากฏขึ้นและเขาจะทำให้โลกนี้เต็มไปด้วยความสันติ และยุติธรรม”

 

ท่านอิมามริฏอ (อ) จึงกล่าวขึ้นว่า: โอ้ คุซาอี อิมามหลังจากฉันคือมุฮัมมัด

 

(อิมามญะวาด) บุตรชายของฉัน และหลังจากเขาก็คือบุตรชายของเขา ฮะซัน (อิมาม ฮาตี) และหลังจากเขา (อะลี) ก็คือบุตรชายของเขา ฮะซัน(อิมามอัสการี) และหลังจากเขา (ฮะซัน) ก็บุตรชายของเขา ซี่งในการเร้นหายของเขาจะต้องรอคอย และในการปรากฏของเขาจะต้องภักดี และถึงแม้ว่าโลกนี้จะมีเวลาเหลืออยู่อีกเพียงวันเดียว อัลลอฮ์ก็จะทำให้วันนั้นยืดยาวจนกระทั่งกออิม (อิมามมะฮ์ดี) ปรากฏและทำให้โลกเต็มไปด้วยความสันติ และยุติธรรมหลังจากที่มันได้เต็มไปด้วยความอธรรม และการกดขี่


และบางครั้งบรรดานักกวี หรือ ลูกศิษย์ของบรรดาอิมามผู้บริสุทธิ์ได้ถามกับท่านอย่างตรงไปตรงมาว่าท่าน หรือเปล่าที่เป็น “กออิม” หรือท่านหรือเปล่า คือ มะฮ์ดี ผู้ถูกรอคอย (อัลมุนตะซ็อร) ดังนั้นบรรดาอิมามผู้บริสุทธิ์ ก็จะทำการตอบชี้แจง สิ่งที่เกี่ยวกับอิมาม กออิม (มะฮ์ดี) ตามความเหมาะสมของเวลาและโอกาส


และจากการที่ฮะดีษที่เกี่ยวกับท่านอิมามมะฮ์ดี (อ) เป็นที่ยอมรับกันอย่างแพร่หลายในหมู่สลิม จึงเป็นสาเหตุทำให้เกิดมีการกล่าวอ้างเท็จขึ้นเกี่ยวกับการเป็น อัล-มะฮ์ดี หรือ นาเอาสิ่งนี้ไปใช้ประโยชน์ในทางที่ผิด ตั้งแต่ในสมัยที่อิมามมะฮ์ดีจริงยังไม่ประสูติ อย่างเช่นพวก “กิซานียะฮ์” แต่ซึ่งพวกนี้นั้นเกิดขึ้นมาก่อนที่ท่านอิมามมะฮ์ดี จะถือกำเนิดถึง ๒๐๐ ปี โดยพวกเขาได้อ้างว่า “มุฮัมมัด อัลฮะนาฟียะฮ์” คืออิมามมะฮ์ดี ผู้ถูกรอคอย และได้เชื่อกันว่าได้เร้นหายไป และจะกลับมาปรากฏอีกครั้งหนึ่งโดยได้นำฮะดีษ และหลักฐานต่าง ๆ จากท่านรอซูล(ศ็อลฯ) และอิมามผู้บริสุทธิ์ได้พูดถึงมะฮ์ดีตัวจริง มาเป็นข้อกล่าวอ้าง และพวกราชวงศ์อับบาซียะฮ์ ก็ได้สร้างเรื่องเท็จในทำนองนี้ขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งในสมัยของเคาะลีฟะห์ “มะฮ์ดี อับบาซีย์” ซึ่งได้ตั้งชื่อตัวเองว่า “มะฮ์ดี” เพื่อที่จะได้ใช้ประโยชน์จากการที่ประชาชาติรอคอยท่านอิมามมะฮ์ดีตัวจริง


อุละมาอ์สุนนี และชีอะฮ์ได้บันทึกฮะดีษที่เกี่ยวกับท่านอิมามมะฮ์ดีไว้อย่างมากมาย จาก “มุสนัด อะห์มัด อิบนิ ฮัมบัล” และ “เศาะฮีย์บุคอรี” เป็นส่วนหนึ่งจากหนังสือฮะดีษที่มาตรฐานของ อะฮ์ลิซซุนนะห์ ที่ได้เขียนขึ้นก่อนการถือกำเนิดของท่านอิมามมะฮ์ดี และหนังสือ ทั้งสองเล่มนี้ก็ได้รายงานหะดีษต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับอิมามมะฮ์ดีไว้เป็นจำนวนมาก

 

หนังสือ “มะชีเคาะฮ์ เขียนโดย ฮะสัน บิน มะฮ์บูบ ซึ่งเชคฏ็อบริซีย์ ได้กล่าวไว้ว่า “หนังสือเล่มนี้ได้เขียนขึ้น ๑๐๐ ปี ก่อนการเร้นหายครั้งใหญ่

(ฆ็อยบะตุลกุบรอ) ของท่านอิมามมะฮ์ดี ซี่งในหนังสือเล่มนี้ได้รายงานเรื่องราวต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการเร้นหายของท่านอิมามมะฮ์ดี”

 

และเชคฏูซีได้กล่าวต่อไปอีกว่า “ฮะดีษต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการเร้นหายของท่านอิมามมะฮ์ดี ได้ถูกบันทึกไว้อย่างมากมายโดยนักฮะดีษชาวชีอะฮ์ ตั้งแต่สมัยของท่านอิมามบากิร และอิมาม ญะอ์ฟัร (อ)

 

นักวิชาการชาวชีอะฮ์และสุนนี ได้เขียนหนังสือไว้อย่างมากมายเกี่ยวกับอิมามมะฮ์ดีผู้ถูกสัญญา ซึ่งบางเล่มได้เขียนขึ้นก่อนการถือกำเนิดของท่านอิมามมะฮ์ดี (อ)

 

รอวาญานี อุละมาอฺชาวสุนนี มรณะในปีที่ ๒๕๐ ฮิจเราะฮ์ ได้เขียนหนังสือ “อัคบารรุลมะฮ์ดี” ไว้ตั้งแต่ก่อนการถือกำเนิดของท่านอิมามมะฮ์ดี ในหมู่อุละมาอฺชีอะฮ์ ก็เช่นกัน ท่านอันมาฏีและ มุฮัมมัด บิน อัลฮะซัน บิน มะฮ์บูบ ได้เขียนหนังสือเกี่ยวกับการถือกำเนิด และการเร้นหายของท่านอิมามมะฮ์ดี ไว้ตั้งแต่ก่อนการถือกำเนิด และเร้นหายของท่านอิมาม
ฮะดีษ และเรื่องของท่านอิมามมะฮ์ดีนั้นมีมากมาย และเป็นเรื่องชัดแจ้งที่สุดเรื่องหนึ่งในอิสลาม ซี่งเป็นการยากที่จะหาเรื่องอื่น มาเปรียบเทียบถึงความชัดแจ้งของมัน นอกเหนือจากอุละมาอ์ชีอะฮ์เองแล้ว อุละมาอ์สุนนีจำนวนมากยอมรับว่า ฮะดีษที่เกี่ยวกับท่านอิมามมะฮ์ดี นั้นชัดแจ้งถึงขั้นมุตะวาติร อย่างเช่นท่านบัยฮะกีย์  อุลามะอ์ชาวสุนนะฮ์ เจ้าของหนังสือ “มะนากิบุชชาฟิอี” มรณภาพ เมื่อปีที่ 363 แห่งฮิจเราะฮ์

 

ท่านได้กล่าวไว้ว่า : ฮะดีษที่เกี่ยวกับอิมามมะฮ์ดี ที่รายงานจากท่านรอซูลแห่งอัลลอฮ์นั้นความชัดแจ้งของมันถึงขั้น “มุตะวาติร”

 

เจ้าของหนังสือ “อิมามมะฮ์ดี” ได้เขียนไว้ในหนังสือของท่านว่า:

 

 ถ้าเรารวบรวมริวายะฮ์ต่างๆ ที่รายงานโดยทั้งชีอะฮ์ และสุนนีที่เกี่ยวกับท่านอิมามมะฮ์ดี เราจะพบว่ามันมีมากกว่าหกพันฮะดีษ ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่ยิ่งใหญ่อย่างมากตัวหนึ่ง ซึ่งแม้แต่เรื่องสำคัญอื่นๆ ในอิสลามที่เป็นที่ยอมรับกันทั่วไปไม่มีข้อแย้ง และสงสัยเลยในการยอมรับมัน ก็ยังไม่มีรายงานถึงหกพันฮะดีษ

 

ดังนั้น บนพื้นฐานเหล่านี้ มุสลิมตั้งแต่ยุคแรกของอิสลามได้รับรู้ และเข้าใจถึงสัญญาอันยิ่งใหญ่นี้ และโดยเฉพาะชีอะฮ์ ผู้ได้รับการฝึกฝนจากครอบครัวอันบริสุทธิ์ (อะฮ์ลุลบัยต์) มีความเชื่อที่มั่นคง และสมบูรณ์ได้ทำการรอคอยการกำเนิด และการกลับมาอีกครั้งหนึ่งของท่านอิมามมะฮ์ดี ทุกยุคทุกสมัยที่ผ่านมา


หลักฐานจากฮะดีษต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับท่านอิมามมะฮ์ดี นั้นได้ชี้ชัดให้รู้ว่า ท่านอิมามมะฮ์ดีนั้นมาจากบะนีฮาชิม เป็นลูกหลานของท่านหญิงฟาฏิมะฮ์ (อ) สืบเชื้อสายมาจากสายเลือดของผู้นำแห่งบรรดาซะฮีดอิมามฮุเซน (อ)


พ่อของท่านชื่อ ฮะซัน (อิมามอัสการี) ส่วนชื่อท่านอิมามมะฮ์ดีนั้นมีชื่อ และฉายา เหมือนกับชื่อ และฉายาของท่านศาสดามุฮัมมัด (ศ็อด) การกำเนิด และการมีชีวิตของท่านเป็นความลับ

การเร้นหาย (ฆ็อยบะฮ์) มีสองครั้งซึ่งครั้งแรกเป็นระยะเวลาอันสั้น (ฆ็อยบะตุลศุฆรอ) และครั้งที่สองเรียกกว่า “ฆ็อยบะตุลกุบรอ” ซึ่งเป็นการเร้นหายที่มีระยะเวลาอันยาวนานตราบเท่าที่อัลลอฮฺทรงประสงค์ และด้วยคำสั่งของพระองค์จะกลับมาปรากฏตัวอีกครั้งหนึ่ง เพื่อทำการปฏิวัติ และนำโลกเข้าสู่การปกครองของอิสลาม และจะทำให้โลกเต็มไปด้วยความสันติ และยุติธรรมหลังจากที่มันได้เต็มไปด้วยความ อยุติธรรม และการกดขี่

 

โดยในฮะดีษเหล่านี้ ได้อธิบายอย่างละเอียดถึงบุคลิกรูปร่าง และหน้าตาของอิมามคนที่สิบสองท่านนี้

 

จากหนังสือ อิมามมะฮ์ดี ความหวังใหม่ของโลก
ถอดความและเรียบเรียง โดย ฮุจญตุลอิสลาม ซัดยิดสุไลมาน ฮูซัยนี