เว็บไซต์ อิมาม อัลฮะซะนัยน์ (อลัยฮิมัสลาม)เพื่อคุณค่าและสารธรรมอิสลาม

การรู้จักศัตรู (นัฟซู) ตอนที่ 10

0 ทัศนะต่างๆ 00.0 / 5

การรู้จักศัตรู (นัฟซู) ตอนที่ 10

 

อารมณ์ใฝ่ต่ำตัณหาราคะ ตัวการพามนุษย์ดำดิ่งสู่ด้านมืด

 

การทำผิดประเวณี ในหลายๆศาสนาถูกบรรจุไว้ว่าเป็นเรื่องของการทำบาปที่ร้ายแรง ในศาสนาพุทธถูกบรรจุไว้ในศีล 5 ข้อที่ 3 “อย่าประพฤติผิดในกาม” ในคัมภีร์ไบเบิ้ลก็มีการกล่าวถึงเรื่องการผิดประเวณีไว้เช่นเดียวกัน “จงหลีกหนีจากการล่วงประเวณี บาปอย่างอื่นที่มนุษย์ทำนั้นเป็นบาปนอกกาย แต่คนที่ล่วงประเวณีนั้นทำผิดต่อร่างกายตนเอง (โครินท์6:18) , ถูกบรรจุอยู่ในบัญญัติ10ประการ “ห้ามล่วงประเวณีผัวเมียเขา”และ“อย่าโลภในการล่วงประเวณี” ตามพันธสัญญาเดิมของศาสนายูดาย ส่วนในศาสนาคริสต์ก็เป็นหนึ่งในเจ็ดบาป

 

ในศาสนาอิสลามก็เช่นเดียวกัน หนึ่งในบาปใหญ่ที่คัมภีร์อัลกุรอานกล่าวถึง คือ บาปในเรื่องทางเพศ การผิดประเวณี(การทำซินา) เป็นบาปใหญ่ที่มีบทลงโทษในโลกดุนยาที่เป็นรูปธรรม เช่น ถ้าหากมีชายและหญิงที่มิได้เป็นคู่สมรสกันทำซีนา ต้องถูกโบยตีต่อหน้าสาธารณชน และหากว่าใครมีครอบครัวแล้วให้ทำการประหารแต่มีรายละเอียดพอสมควร คือต้องมีพยานยืนยันที่เป็นชายถึง 4 คน และต้องเห็นทั้งคู่มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกันจริง (ชายต้องเป็นอาดิล - ผู้ที่เป็นบุคคลที่คนในสังคมให้การยอมรับโดยเป็นผู้ที่ยุติธรรม) บาปในเรื่องทางเพศอีกประการหนึ่งคือ เพศสัมพันธ์ระหว่างเพศเดียวกัน เพศสัมพันธ์ระหว่างชายกับชาย ที่ถือเป็นบาปใหญ่ในหลักการอิสลามไม่ยอมรับในเรื่องนี้ {เช่นเดียวกับคัมภีร์ไบเบิ้ลก็บอกชัดเจนว่า พระเจ้ามุ่ง หมายให้มีเพศสัมพันธ์กันเฉพาะระหว่างผู้ชาย กับผู้หญิง และในการสมรสเท่านั้น. (เยเนซิศ 1:27, 28; เลวีติโก 18:22; สุภาษิต 5:18, 19)

 


เราจะเห็นได้ว่าบาปในเรื่องทางเพศ การผิดประเวณี การล่วงละเมิดทางเพศ เป็นจุดร่วมในเรื่องของการทำบาปที่ร้ายแรงของในหลายๆศาสนา เพราะเหตุผลใด หากเป็นในทางศาสนาอิสลาม การทำบาปในเรื่องของการผิดประเวณี จะมีบทลงโทษที่รุนแรง ไม่อะลุ่มอล่วย ด้วยเหตุเพราะผลกระทบของการผิดประเวณี มิใช่จะส่งผลเสียแค่เฉพาะตัวบุคคลเท่านั้น แต่ยังส่งผลเสียต่อเนื่องไปถึงสังคม เช่น ปัญหาการตั้งครรภ์โดยที่ยังไม่พร้อม ปัญหาเด็กถูกทิ้ง ปัญหาการทำแท้ง เด็กที่เกิดมากลายเป็นเด็กที่ขาดความรัก ความเอาใจใส่ มีปัญหาเรื่องการเลี้ยงดู ซึ่งสิ่งเหล่านี้สามารถทำให้เกิดปัญหาทางสังคมตามมาอีกมากมาย และมิใช่แต่ปัญหาเรื่องที่เกี่ยวกับเด็กเท่านั้น การผิดประเวณีก็สามารถสร้างปัญหาการหย่าร้าง ความรุนแรงในครอบครัว เหตุหึงหวง ทะเลาะวิวาท ใครก็ตามที่ยอมให้ชัยฏอนและนัฟซูชักพาเราไปสู่การประพฤติผิดทางเพศ ก็เตรียมใจไว้ได้เลยว่าชีวิตจะพบเจอกับสิ่งเลวร้าย มันจะพาเราให้จมดิ่งและตกต่ำ ตามคำสาบานที่มันได้สัญญาไว้ว่าจะทำให้มนุษย์เดินออกห่างจากความเมตตาของพระองค์ เปรียบเสมือนคนที่ลอยเคว้งคว้างอยู่กลางทะเล ไร้เป้าหมาย ไร้ทิศทาง ด้วยเหตุนี้คำสั่งห้ามของอัลลอฮ์ในเรื่องของบาปในเรื่องเพศ จึงมีบทลงโทษที่รุนแรงและยังมีผลต่อการตัดสิทธิหลายๆอย่างทางสังคมต่อบุตรที่เกิดจากการผิดประเวณี เพราะสิ่งที่เป็นคุณเป็นโทษสำหรับมนุษย์พระองค์ย่อมรู้ดีกว่า แม้ในสังคมอื่นจะมองว่าเป็นเรื่องของการละเมิดเสรีภาพ มองว่ารุนแรงและป่าเถื่อน แต่เป้าประสงค์ ของบทบัญญัตินี้มิได้มุ่งไปที่การลงโทษ แต่มุ่งเน้นในเรื่องของการห้ามปรามมิให้ทำผิด คือเมื่อรู้อยู่แล้วว่าบทลงโทษรุนแรงก็ให้มีความยับยั้งชั่งใจ

 

และเมื่อเรารู้ว่าชะฮ์วัต อารมณ์ใฝ่ต่ำในเรื่องของทางเพศจะนำพาไปสู่เป็นบาป เราจะสู้กับมันอย่างไร เพราะโอกาสที่จะพลาดพลั้งมีมาก ด้วยกับสังคมที่แวดล้อมเราอยู่ทุกวันนี้ ด้วยกับทั้งสังคมออนไลน์ สิ่งเร้าภายนอกจากวิถีชีวิตสังคมในปัจจุบัน เช่น การแต่งกายล่อแหลมในที่สาธารณะ แฟชั่นของเหล่าดารา โฆษณาและสื่อต่างๆที่มุ่งเน้นขายในเรื่องของสรีระทางเพศ สถานที่อโคจรที่เปิดอย่างอิสระไร้การควบคุมที่สุ่มเสี่ยงต่อการละเมิดในเรื่องเพศ วัฒนธรรมตะวันตกทำให้เราเสพติดกับสิ่งเหล่านี้ มองเรื่องเพศเป็นเรื่องเสรีภาพส่วนบุคคล พยายามยัดเยียดความคิดเรื่องเพศให้เป็นเรื่องธรรมดา เป็นเรื่องที่ไม่ผิด ไม่บาป จนมองข้ามบทบัญญัติทางศาสนา โดยมองข้ามไปว่าหากเราเดินตามอารมณ์ใฝ่ต่ำเหล่านี้จะทำให้เราได้รับผลกระทบดังต่อไปนี้(ในมุมมองของศาสนา) 1.ขาดสติ 2.ทำลายบุคลิกภาพ 3.เป็นทาสนัฟซู 4.ได้รับความอัปยศ 5.ความอ่อนแอทางศร้ทธา 6.ทำให้เราหลับใหล ออกห่างจากพระองค์

 

ฉะนั้นเพื่อไม่ให้ตัณหาราคะหรือชะฮ์วัตเข้าครอบงำก็ควรหลีกเลี่ยงสิ่งแวดล้อมที่พาไปสู่ความเลวร้ายนี้ ,ควรรักนวลสงวนตัว,ใช้เวลาว่างให้ก่อเกิดประโยชน์ แต่ดังที่กล่าวในบทเรียนก่อนหน้านี้ก็คือ ในศาสนาอิสลามไม่ได้สอนให้เหยียบความรู้สึกทางเพศไว้ใต้เท้าจนมิด แต่มีทางออกให้ก็คือการแต่งงาน การสร้างครอบครัว เพราะนอกจากจะควบคุมความรู้สึกทางเพศไปสู่หนทางที่ถูกต้องแล้ว ก็ยังสามารถสร้างสังคมไปในทางที่ดีได้อีกด้วย

 

อิมามอาลี เปรียบชะฮ์วัตเสมือนกับยาพิษที่คอยเข่นฆ่าเรา , ความต้องการทางเพศเหมือนกับดักของชัยฏอนมารร้าย หากแต่เราสามารถใช้สติปัญญาก็สามารถต่อสู้กับนัฟซูได้ แม้พลังด้านลึกที่ซุกซ่อนอยู่ภายในจะสั่งการควบคุมกองทัพทั้งเจ็ดให้ออกมาปฏิบัติการในทางลบ แต่หากเราระลึกถึงและมีพระองค์อยู่ในทุกห้วงคำนึง นัฟซูหรือชัยฏอนก็ไม่สามารถเข้ามาแทรกแซง ชักนำเราไปสู่ความมืดมนได้ เมื่อเรามีพระองค์อยู่ในหัวใจ พระองค์เท่านั้นที่จะทรงช่วยเหลือเราให้รอดพ้นจากบาปทั้งปวง...

 


เรียบเรียงโดย จิตรา อินทร์เพ็ญ


บทความโดย เชคกอซิม อัสกะรี

 

กรุณาแสดงความคิดเห็นด้วย

ความคิดเห็นของผู้ใช้งานทั้งหลาย

ไม่่มีความคิดเห็น
*
*

เว็บไซต์ อิมาม อัลฮะซะนัยน์ (อลัยฮิมัสลาม)เพื่อคุณค่าและสารธรรมอิสลาม