เว็บไซต์ อิมาม อัลฮะซะนัยน์ (อลัยฮิมัสลาม)เพื่อคุณค่าและสารธรรมอิสลาม

ศาสดามุฮัมมัด แบบฉบับแห่งมนุษย์ผู้เปี่ยมด้วยคุณงามความดี ตอนที่ 12

0 ทัศนะต่างๆ 00.0 / 5

ศาสดามุฮัมมัด แบบฉบับแห่งมนุษย์ผู้เปี่ยมด้วยคุณงามความดี ตอนที่ 12

 

การอพยพ (ฮิจเราะห์)

 

ท่านนบีมุฮัมหมัด (ซ็อลฯ) ได้พยายามที่จะพัฒนาชาวเมืองเมกกะ โดยการเชิญชวนพวกเขาไปสู่การพัฒนาจากภายนอกและภายใน (ไปสู่ความสมบูรณ์ทางจิตวิญญาณ) โดยหลีกเลี่ยงการนองเลือด ประณามและความเสื่อมเสียใดๆอันที่จะเกิดขึ้นได้หลังจาก ๑๓ ปีของการเผยแพร่ศาสนาอิสลามได้ผ่านไป ผู้นำของชาวกุเรชต้องผิดหวังในการขัดขวางท่านนบีมุฮัมหมัด (ซ็อลฯ) ในการเชิญชวนเรียกร้องไปสู่ศาสนาอิสลาม พวกเขาตัดสินใจที่จะสังหารศาสดาแห่งอิสลามในเวลากลางคืน คนเหล่านี้เป็นกลุ่มคนที่เคยสร้างความเจ็บปวดให้แก่ท่านนบีมุฮัมหมัด (ซ็อลฯ) และสหายของท่านเป็นเวลา๑๓ ปี แต่พระองค์อัลลอฮ์ (ซบ.) ผู้ทรงเดชานุภาพทรงทำให้ท่านนบีมุฮัมหมัด (ซ็อลฯ) สามารถล่วงรู้อุบายของศัตรูผ่านทางเทวทูต (มะลาอิกะห์) และสั่งให้ท่านอพยพออกจากนครเมกกะในเวลากลางคืน


ดังนั้น ท่านนบีมุฮมั หมัด (ซ็อลฯ)จึงเรียกท่านอะลี บุตรอบูตอลิบ สาวกผู้ภักดีของท่านและเป็นคนแรกที่แสดงความภักดีต่อศาสดา พร้อมทั้งได้บอกแผนการลับให้ท่านอะลีทราบและกล่าวกับเขาว่า

 

“เจ้าพร้อมที่จะนอนบนเตียงของข้าฯแทนข้าฯ ไหม”

 

ท่านอะลีถามว่า

 

“และจากนั้น ท่านจะปลอดภัยและได้รับการปกป้องใช่ไหม?”

 

และท่านนบีมุฮัมหมัด (ซ็อลฯ) ตอบว่า

 

“ใช่ ข้าฯอยู่ในอุ้งพระหัตถ์อันปลอดภัยแห่งพระผู้เป็นเจ้า”

 

จากนั้นท่านนบีมุฮัมหมัด (ซ็อลฯ) จึงอพยพออกจากเมืองเมกกะไปยังเมืองยัสริบตั้งอยู่ในระยะทาง ๔๐๐ กิโลเมตรจากนครเมกกะ โดยศัตรูได้รีบรุดไปยังบ้านของท่านนบีมุฮัมหมัด (ซ็อลฯ) และกวาดดาบในมือของพวกเขามายังเตียงนอนของท่าน แต่ต้องประหลาดใจเมื่อพบท่านอะลีนอนอยู่บนเตียงของท่านแทน

 

พวกเขาถามท่านอะลีว่า

“มุฮัมหมัดอยู่ที่ไหน?”


ท่านอะลี ตอบว่า

“พวกท่านมอบหมายให้ข้าพเจ้าเฝ้าดูท่านนบีมุฮัมหมัดหรือ?”

 

ทันใดนั้นพวกเขาได้ไล่ตามท่านนบีมุฮัมหมัด (ซ็อลฯ) ไป แต่ท่านได้เข้าไปหลบภัยอยู่ในถ้ำใกล้กับเมืองเมกกะ

 

ด้วยพระประสงค์ของพระองค์อัลลอฮ์ (ซบ.) ผู้ทรงเดชานุภาพ ทำให้ทางเข้าถ้ำถูกขวางกั้นด้วยใยแมงมุมและมีนกพิราบป่าวางไข่ไว้บริเวณปากถ้ำ ศัตรูที่ตามล่าท่านนบีมุฮัมหมัด (ซ็อลฯ) ตามรอยเท้าของศาสดาแห่งอิสลามมายังปากถ้ำและเมื่อพวกเขาเห็นใยแมงมุมและนกพิราบ เขาจึงกล่าวกับพวกของตนว่า

 

“แมงมุมและนกพิราบจะไม่ทำรังของพวกมันหากมีคนอยู่ในถ้ำอีกทั้ง ถ้าใยแมงมุมมีอยู่ที่นี่ก่อนแล้ว จะต้องถูกทำลายหากมีผู้ใดเข้าไปในถ้ำ

ดังนั้น แสดงว่าในช่วงเวลาที่ผ่านมานี้ไม่มีผู้ใดเข้าไปในถ้ำนี้เลย จากนั้นพวกเขาได้เดินทางออกไปและทำให้ท่านนบีมุฮัมหมัด (ซ็อลฯ) ปลอดภัย
สองถึงสามวัน หลังจากนั้น ท่านได้ออกจากถ้ำไปยังเมืองยัสริบ เนื่องจากว่า ท่านนบีมุฮัมหมัด (ซ็อลฯ) ได้ส่งผู้แทนของท่านนามว่า

 

มัสอับ บุตรอุมัยร์( مصعب بن عمير)ไปยังเมืองยัสริบเป็นเวลาสองปีมาแล้ว จึงทำให้ประชาชนในเมืองนั้นค่อนข้างเตรียมพร้อมที่จะเข้ารับศาสนาอิสลาม เมื่อท่านเดินทางเข้าไป แต่ละเผ่าที่ท่านเดินทางผ่าน ปรารถนาที่จะให้เกียรติในการมาของท่านและพยายามให้เครื่องเทียมกับอูฐของท่านและให้ท่านพักอยู่กับพวก-เขา หลังจากนั้นไม่นาน บรรดาสหายของท่านนบีมุฮัมหมัด(ซ็อลฯ) ได้อพยพไปยังเมืองยัสริบและชื่อของเมืองนี้ก็ถูกเปลี่ยนเป็น

เมืองมะดีนะตุ้ลนะบี (มะดีนะห์) มีความหมายว่า “เมืองของศาสดาแห่งศาสนาอิสลาม” เพื่อให้ชาวมุสลิมมารวมตัวกันและทำการนมาซของพวกเขา

 

เขียนโดย เชค มุฮ์ซิน ชะรีอัต

กรุณาแสดงความคิดเห็นด้วย

ความคิดเห็นของผู้ใช้งานทั้งหลาย

ไม่่มีความคิดเห็น
*
*

เว็บไซต์ อิมาม อัลฮะซะนัยน์ (อลัยฮิมัสลาม)เพื่อคุณค่าและสารธรรมอิสลาม