ตัฟซีรอัลกุรอาน โองการที่ 90 บทยูนุส

  ตัฟซีรอัลกุรอาน โองการที่ 90 บทยูนุส

 

อัลกุรอาน โองการนี้กล่าวถึงชัยชนะของศาสดามูซา (อ.) ความพ่ายแพ้และการสำนึกผิดของฟิรเอานฺ โองการกล่าวว่า

90. وَجَاوَزْنَا بِبَنِي إِسْرَائِيلَ الْبَحْرَ فَأَتْبَعَهُمْ فِرْعَوْنُ وَجُنُودُهُ بَغْياً وَعَدْواً حَتَّى‏ إِذَا أَدْرَكَهُ الْغَرَقُ قَالَ آمَنْتُ أَنَّهُ لَا إِلهَ إِلَّا الَّذِي آمَنَتْ بِهِ بَنُوا إِسْرَائِيلَ وَأَنَا مِنَ الْمُسْلِمِينَ‏

คำแปล :

90. และเราได้พาวงศ์วานของอิสรออีล (ลูกหลานของยะอฺกูบ) ข้ามทะเลไป ดังนั้น ฟิรเอานฺและพลพรรคของเขาได้ติดตามพวกเขาไปด้วยความอธรรมและการละเมิด จนกระทั่งเขาเกือบจะจมน้ำตายจึงกล่าวว่า ฉันศรัทธาแล้วว่า ไม่มีพระเจ้าอื่นใด นอกจากพระผู้ซึ่งวงศ์วานของอิสรออีลได้ศรัทธา และฉันคือคนหนึ่งในหมู่ผู้สวามิภักดิ์

คำอธิบาย :

1. โองการนี้บ่งบอกถึงขั้นตอนสุดท้ายของการต่อสู้ของบนีอิสราอีลกับฟิรเอานฺ และได้ชี้ชะตากรรมของพวกเขาโดยประโยคสั้นๆ แต่มีความละเอียดอ่อน เป็นที่ชัดเจน ดังนั้น ขั้นตอนที่สี่ของการต่อสู้ของศาสดามูซา (อ.) กับวงศ์วานอิสราอีล ได้เริ่มต้นขณะที่พวกเขาได้เคลื่อนตัวออกจากอียิปต์ไปยังปาเลสไตน์ โดยมีปาฏิหาริย์เกิดขึ้นคือทะเลได้แยกออกเป็นช่องว่างให้มูซาและวงศ์วานอิสราอีลเดินผ่านไป นับเป็นชัยขนะอันยิ่งใหญ่ที่มีเหนือฟิรเอานฺ

2.ฟิรเอานฺเนื่องจากเป็นผู้อธรรมจึงได้ไล่ติดตามมูซา (อ.) กับพรรคพวกไปอย่างกระชั้นชิด จากประโยคที่กล่าวว่า (فَأَتْبَعَهُمْ) แสดงให้เห็นว่า ฟิรเอานฺและทหารของเขาได้ติดตามมูซา (อ.) และวงศ์วานอิสราอีลไปด้วยความสมัครใจ ทั้งที่วงศ์วานของอิสราอีลเป็นคนอ่อนแอ พวกเขาไม่มีความผิดอันใดนอกเสียจากมีศรัทธาต่อมูซา (อ.)

3. การไล่ติดตามมูซา (อ.) กับวงศ์วานอิสราอีลยังคงดำเนินต่อไป จนกระทั่งว่าฟิรเอานฺและพรรคพวกเกือบจะจมน้ำตาย และขณะที่เขากำลังว่ายอยู่บนน้ำนั้นทำให้ความยโสโอหังและความดื้อรั้นได้หายไปจนหมดสิ้น เขาได้มองเห็นรัศมีแห่งเตาฮีด และธรรมชาติดั้งเดิมของเขาได้กลับมาทันที เขาจึงร้องตะโกนว่า “ฉันศรัทธาแล้วว่า ไม่มีพระเจ้าอื่นใด นอกจากพระผู้ซึ่งวงศ์วานของอิสรออีลได้ศรัทธา”

ขณะนั้น ฟิรเอานฺ ไม่ได้ศรัทธาด้วยใจเพียงอย่างเดียว ทว่าเขาได้แสดงปฏิกิริยาออกมาด้วย โดยอมรับอย่างดุษณีต่อพระเจ้าผู้ทรงอำนาจยิ่ง และกล่าวว่า ฉันคือคนหนึ่งในหมู่ผู้สวามิภักดิ์

4. ความศรัทธาของฟิรเอานฺ ที่เกิดขึ้นขณะที่เขากำลังจะสิ้นใจตาย หรือเกิดขึ้นเพราะความกลัว หรืออาจเป็นเพราะว่าในช่วงนั้นม่านแห่งความยโสโอหังได้ถูกเปิดออกจนหมดสิ้นแล้ว เขาจึงจำเป็นต้องยอมรับความเป็นเอกะของพระเจ้าโดยปริยาย

5. จะเห็นว่าการสำนึกของฟิรเอานฺ หรือการมีศรัทธาของเขาได้ถูกกล่าวไว้ด้วยประโยค 3 ประโยคที่มีความแตกต่างกัน ที่เป็นเช่นนั้นเพื่อว่าบางที่พระเจ้าอาจจะยอมรับ แต่เนื่องจากความศรัทธาของเขาเกิดขึ้นบนความจำเป็นที่ไม่มีทางเลือกอื่นใดอีกแล้ว  หรือเป็นเพราะว่าเขาได้เห็นการลงโทษที่กำลังเกิดขึ้นและตนเองกำลังจะสิ้นใจจึงยอมศรัทธา ดังนั้น ความศรัทธาของเขาไม่เป็นที่ยอมรับ ณ พระเจ้า ถ้าหากเขายอมศรัทธาขณะที่มีเจตคติสมบูรณ์แค่สารภาพเพียงครั้งเดียวว่า ศรัทธา ก็ถือว่าเพียงพอแล้ว