แนวความคิดที่ขัดแย้งที่มีต่อบรรดาศาสดา

แนวความคิดที่ขัดแย้งที่มีต่อบรรดาศาสดา

การเป็นปรปักษ์กับบรรดาศาสดาทั้งหลาย นอกจากแนวความคิดที่ว่าต้องการเป็นอิสระโดยปราศจากเว็บไซต์ อิมาม อัลฮะซะนัยน์ (อลัยฮิมัสลาม)เพื่อคุณค่าและสารธรรมอิสลามเงื่อนไขและการปฏิบัติตามอำนาจใฝ่ต่ำ ดั่งอัล-กุรอานกล่าวว่า

لقَدْ أَخَذْنَا مِيثَاقَ بَنِي إِسْرَائِيلَ وَأَرْسَلْنَا إِلَيْهِمْ رُسُلاً كُلَّمَا جَاءهُمْ رَسُولٌ بِمَا لاَ تَهْوَى أَنْفُسُهُمْ فَرِيقًا كَذَّبُواْ وَفَرِيقًا يَقْتُلُونَ

เมื่อเราได้เอาสัญญาแก่วงศ์วานอิสรออีล และเราได้ส่งบรรดาเราะซูลมายังพวกเขา (แต่) ทุกครั้งที่เราะซูลคนใดนำสิ่งที่ขัดกับจิตใจของพวกเขามายังพวกเขา กลุ่มหนึ่งก็จะปฏิเสธ และอีกกลุ่มหนึ่งก็สั่งฆ่าเขาเสีย (อัล-กุรอาน บทอัล-มาอิดะฮฺ / 70)

แล้วยังมีปัจจัยอื่นอีก เช่น ความเห็นแก่ตัว และความดื้อรั้นอวดดีที่ว่าตนเป็นประชาชาติที่ดีที่สุด ซึ่งส่วนใหญ่จะพบในกลุ่มของผู้มีฐานะและหน้าตาทางสังคม อัล-กุรอาน บทอัลอะอฺรอฟ โองการที่ 76 ได้เน้นย้ำเรื่องนี้ว่า

قَالَ الَّذِينَ اسْتَكْبَرُ‌وا إِنَّا بِالَّذِي آمَنتُم بِهِ كَافِرُ‌ونَ

บรรดาผู้ที่แสดงโอหังกล่าวว่า แท้จริงเราเป็นปฏิเสธศรัทธาต่อสิ่งที่พวกท่านได้ศรัทธากัน
อัลกุรอานยังกล่าวอีกว่า

إِنَّ الَّذِينَ يُجَادِلُونَ فِي آيَاتِ اللَّـهِ بِغَيْرِ‌ سُلْطَانٍ أَتَاهُمْ  إِن فِي صُدُورِ‌هِمْ إِلَّا كِبْرٌ‌ مَّا هُم بِبَالِغِيهِ  فَاسْتَعِذْ بِاللَّـهِ  إِنَّهُ هُوَ السَّمِيعُ الْبَصِيرُ

แท้จริง บรรดาผู้โต้เถียงในเรื่องโองการต่าง ๆ ของอัลลอฮฺ (อัลกุรอาน) ที่มีมายังพวกเขาโดยปราศจากเหตุผล ไม่มีอะไรในทรวงอกของพวกเขานอกจากความดื้อรั้นอวดดี ซึ่งพวกเขาจะไม่บรรลุถึงสิ่งนั้นได้เด็ดขาด ดังนั้น จงขอความคุ้มครองต่ออัลลอฮฺ แท้จริงพระองค์ทรงได้ยิน อีกทั้งทรงมองเห็น (อัล-กุรอาน บทฆอฟิร  / 56)

อีกประเด็นหนึ่ง เนื่องจากความอคติและความหลงงมงายอยู่กับแบบฉบับเดิมของบรรดาบรรพบุรุษ และเกียรติยศจอมปลอมอันผิดพลาดทั้งหลายซึ่งสิ่งเหล่านี้มีอยู่อย่างดาษดื่นทั่วไปทุกสังคม อัล-กุอาน บทอัลบะเกาะเราะฮฺ โองการที่ 170, บทอัล-มาอิดะฮฺ โองการที่ 104, บทอัล-อะอฺรอฟ โองการที่ 28, บทยูนุส โองการที่ 78, บทอัล-อัมบิยาอฺ โองการที่ 53, บทอัชชุอะรอ โองการที่ 74, บทลุกมาน โองการที่ 21, และบทอัซซุครุฟ โองการที่ 22,23 กล่าวเน้นถึงเรื่องนี้ว่า

بَلْ قَالُوا إِنَّا وَجَدْنَا آبَاءَنَا عَلَىٰ أُمَّةٍ وَإِنَّا عَلَىٰ آثَارِ‌هِم مُّهْتَدُونَ
وَكَذَٰلِكَ مَا أَرْ‌سَلْنَا مِن قَبْلِكَ فِي قَرْ‌يَةٍ مِّن نَّذِيرٍ‌ إِلَّا قَالَ مُتْرَ‌فُوهَا إِنَّا وَجَدْنَا آبَاءَنَا عَلَىٰ أُمَّةٍ وَإِنَّا عَلَىٰ آثَارِ‌هِم مُّقْتَدُونَ
 พวกเขากล่าวว่า เปล่าเลยแท้จริงเราได้พบเห็นบรรพบุรุษของเราอยู่ในแนวทางนี้ และเราได้รับทางนำให้เจริญรอยตามแนวทางของพวกเขา เช่นนั้นแหละ เรามิได้ส่งผู้ตักเตือนคนใดก่อนหน้าเจ้าไปยังเมืองใด เว้นแต่บรรดาผู้ฟุ่มเฟือย บรรดาผู้ดื้อรั้นกล่าวว่า แท้จริงเราได้พบเห็นบรรพบุรุษของเราอยู่ในแนวทางนี้ ดังนั้น เราจะดำเนินตามแนวทางของพวกเขา (อัล-กุรอานบทอัซซุครุฟ โองการที่ 22,23)

ทำนองเดียวกันการปกป้องรายได้ทางเศรษฐกิจ และฐานภาพทางสังคมทำให้แนวความคิดของผู้มีอำนาจทั้งหลายมุ่งอยู่กับการระวังรักษาทรัพย์สิน ชื่อเสียง อำนาจบารมีและกลุ่มนักปราชญ์ผู้รู้
อัล-กุรอานในบทฮูด โองการที่ 84-86, เกาะซ็อซ โองการที่ 76-79, และเตาบะฮฺ โองการที่ 24 กล่าวเน้นย้ำว่า

قُلْ إِن كَانَ آبَاؤُكُمْ وَأَبْنَاؤُكُمْ وَإِخْوَانُكُمْ وَأَزْوَاجُكُمْ وَعَشِيرَ‌تُكُمْ وَأَمْوَالٌ اقْتَرَ‌فْتُمُوهَا وَتِجَارَ‌ةٌ تَخْشَوْنَ كَسَادَهَا وَمَسَاكِنُ تَرْ‌ضَوْنَهَا أَحَبَّ إِلَيْكُم مِّنَ اللَّـهِ وَرَ‌سُولِهِ وَجِهَادٍ فِي سَبِيلِهِ فَتَرَ‌بَّصُوا حَتَّىٰ يَأْتِيَ اللَّـهُ بِأَمْرِ‌هِ  وَاللَّـهُ لَا يَهْدِي الْقَوْمَ الْفَاسِقِينَ

จงกล่าวเถิดว่า (มุฮัมมัด)หากบรรดาบิดาของพวกเจ้า บรรดาลูก ๆ ของพวกเจ้า บรรดาพี่น้องของพวกเจ้า บรรดาคู่ครองของพวกเจ้า บรรดาญาติของพวกเจ้า บรรดาทรัพย์สมบัติที่พวกเจ้าแสวงหาไว้ สินค้าที่พวกเจ้ากลัวว่าจะจำหน่ายมันไม่ได้และบรรดาที่อยู่อาศัยที่พวกเจ้าพึงพอใจเป็นที่รักใคร่แก่พวกเจ้ายิ่งกว่าอัลลอฮฺ เราะซูลของพระองค์ และการต่อสู้ในทางของพระองค์แล้วก็จงรอคอยเถิด อัลลอฮฺจะทรงนำมาซึ่งกำลังของพระองค์ และอัลลอฮฺจะไม่ทรงนำทางแก่กลุ่มชนที่ละเมิด (อัล-กุรอานเตาบะฮฺ โองการที่ 24)

อีกด้านหนึ่งความโง่เขลาและความไม่เข้าใจต่าง ๆ ประกอบกับความดันทุรังของประชาชน เป็นปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนให้ประชาชนตกเป็นเหยื่อของเหล่าบรรดาผู้นำที่ปฏิเสธ และทำให้สังคมส่วนใหญ่ปฏิบัติตามแนวทางของบรรพบุรุษ อันเป็นสาเหตุทำให้หัวใจและความคิดอ่านของพวกเขามืดบอด เฉพาะชนส่วนน้อยเท่านั้นที่มีศรัทธาต่อศาสนาหรือแนวทางอันถูกต้อง ส่วนผู้คนส่วนใหญ่ต่างแย่งชิงกันเพื่อหยิบฉวยโอกาสทางสังคมที่เหล่าบรรดาผู้นำได้หยิบยื่นให้เท่านั้น และต้องไม่ลืมการบีบบังคับจากฝ่ายผู้นำด้วย อัล-กุรอาน กล่าว บทอิบรอฮีม โองการที่ 21, บทฟาฏิร โองการที่ 47, บทฮูด โองการที่ 27, และบทอัชชุอะรอ โองการที่ 111 กล่าวถึงประเด็นนี้ว่า

وَبَرَ‌زُوا لِلَّـهِ جَمِيعًا فَقَالَ الضُّعَفَاءُ لِلَّذِينَ اسْتَكْبَرُ‌وا إِنَّا كُنَّا لَكُمْ تَبَعًا فَهَلْ أَنتُم مُّغْنُونَ عَنَّا مِنْ عَذَابِ اللَّـهِ مِن شَيْءٍ  قَالُوا لَوْ هَدَانَا اللَّـهُ لَهَدَيْنَاكُمْ  سَوَاءٌ عَلَيْنَا أَجَزِعْنَا أَمْ صَبَرْ‌نَا مَا لَنَا مِن مَّحِيصٍ

 และพวกเขาได้ออกมาพร้อมกันต่อหน้าอัลลอฮ พวกอ่อนแอกล่าวกับหัวหน้าของพวกเขาว่า แท้จริงพวกเราเป็นผู้ตามพวกท่าน พวกท่านจะช่วยพวกเราให้พ้นจากการลงโทษของอัลลอฮได้อย่างไร พวกเขากล่าวว่า หากอัลลอฮ ทรงชี้แนะทางแก่เรา แน่นอน เราก็จะชี้แนะทางแก่พวกท่านซึ่งมีผลเท่ากันสำหรับเรา ถึงแม้ว่าเรากระวนกระวายหรือเราอดทน สำหรับพวกเรานั้นไม่มีทางรอดไปได้ (อัล-กุรอาน บทอิบรอฮีม โองการที่ 21)

ขอขอบคุณเว็บไซต์อัชชีอะฮ์