เว็บไซต์ อิมาม อัลฮะซะนัยน์ (อลัยฮิมัสลาม)เพื่อคุณค่าและสารธรรมอิสลาม

ตัฟซีรอัลกุรอาน บทฮูด โองการที่ 79

0 ทัศนะต่างๆ 00.0 / 5

ตัฟซีรอัลกุรอาน บทฮูด โองการที่ 79

 


อัลกุรอาน โองการนี้กล่าวถึงคำพูดที่ไม่มียางอายของหมู่ชนของลูฎ โองการกล่าวว่า

 

قَالُوا لَقَدْ عَلِمْتَ مَا لَنَا فِي بَنَاتِكَ مِنْ حَقٍّ وَإِنَّكَ لَتَعْلَمُ مَا نُرِيدُ

 

คำแปล:

 

79. พวกเขา (หมู่ชนลูฏ) กล่าวว่า ท่านก็รู้ดีว่าเราไม่มีสิทธิ์ (ความใคร่) ในลูกสาวของท่าน และแท้จริงท่านรู้ดีถึงสิ่งที่เราปรารถนา

 

คำอธิบาย:

 

1. การที่หมู่ชนของลูฏผู้หลงใหลในรักร่วมเพศกล่าววา “เราไม่มีความใคร่ในลูกสาวของท่าน” อาจเป็นเพราะว่าการหลงผิดของเขาได้เลยเถิดไปถึงขั้นสูงสุดที่ว่ามองเห็น ความถูกต้องเป็นสิ่งผิด และมองเห็นสิ่งผิดเป็นความถูกต้อง กล่าวคือ การแต่งงานกับเพศตรงข้ามหญิงสาวบริสุทธิ์ลูกสาวของลูฎ เป็นสิ่งไม่ถูกต้องสำหรับพวกเขา แต่สำหรับการแสดงความรักร่วมเพศ เป็นความถูกต้อง สาเหตุที่เป็นเช่นนี้เนื่องจากพวกเขาเคยชินกับการทำความผิดนั่นเอง

 

หรืออาจเป็นเพราะว่าพวกนิยมในเพศเดียวกันต่างรู้ดีว่า ชายผู้ปฏิเสธไม่มีสิทธิแต่งงานกับหญิงผู้ศรัทธา และจากการที่พวกเขาไม่พร้อมที่จะศรัทธานั่นเอง จึงไม่มีสิทธิ์แต่งงานกับลูกสาวของลูฎ ประกอบกับพวกเขาไม่ปรารถนาที่จะแต่งกับเพศตรงข้ามอยู่แล้วด้วย เพราะพวกเขาหลงใหลและนิยมในเพศเดียวกัน

 

2. อัลกุรอาน โองการนี้ได้ชี้ให้เห็นถึงความเร้นลับประการหนึ่งที่ห้ามไม่ให้หลับนอนกับเพศเดียวกัน เนื่องจากว่ารักร่วมเพศมิใช่อารมณ์ที่เป็นธรรมชาติของมนุษย์ เป็นความวิตถารอย่างหนึ่ง ซึ่งเบี่ยงเบนความต้องการในต่างเพศ ไปสู่เพศเดียวกัน และจะค่อยๆ ถอดถอนความรักในต่างเพศให้หมดไปจากเขา หลังจากเวลาผ่านไประยะหนึ่งเขาจะหมดสมรรถภาพ และหมดความรู้สึกที่จะร่วมหลับนอนกับต่างเพศซึ่งถือเป็นธรรมชาติของมนุษย์ ซึ่งการหลงผิดเหล่านี้ถ้าดำเนินต่อไปเรื่อยจะเกิดอันตรายใหญ่หลวงกับเผ่าพันธุ์มนุษย์ หรืออาจทำให้มนุษย์สูญพันธุ์ไปจากโลกก็ได้ ถ้าหากสังคมยอมรับความวิตถารนี้อย่างออกหน้าออกตาทุกสังคม

 

ด้วยเหตุนี้เอง อิสลามจึงได้วางกฎเกณฑ์ไว้อย่างแข็งแรงยิ่ง เพื่อเตรียมไว้จัดการกับกลุ่มชนวิตถารที่นิยมในเพศเดียวกัน ตามคำสอนของอิสลามถือว่า รักร่วมเพศ เป็นบาปใหญ่ซึ่งต้องถูกลงโทษหนัก และในบางกรณีมีโทษทัณฑ์ถึงขึ้นประหารชีวิต

 

3. รายงานฮะดีษจากท่านอิมามซอดิก (อ.) โดยมีผู้ถามท่านว่า

 

لِمَ حَرَّمَ اللّهُ اللَّواطَ مِنْ أَجْلِ أَنَّهُ لَوْ كانَ إِتْيانُ الْغُلامِ حَلالاً لاَسْتَغْنَى الرِّجالُ عَنِ النِّساءِ وَ كانَ فِيهِ قَطْعُ النَّسْلِ وَ تَعْطِيلُ الْفُرُوجِ وَ كانَ فِي إِجازَةِ ذلِكَ فَسادٌ كَثِيرٌ

 

เพราะเหตุใดอัลลอฮ์ จึงห้ามเรืองการรักร่วมเพศและถือว่าเป็นฮะรอม (บาป) ?

 

ท่านอิมาม (อ.) ตอบว่า ถ้าหากการร่วมหลับนอนระหว่างชายกับชายด้วยกันเป็นที่อนุมัติ ผู้ชายก็จะไม่ต้องการผู้หญิงอีกต่อไป ซึ่งการกระทำเช่นนี้เป็นสาเหตุทำให้เผ่าพันธุ์มนุษย์ต้องถูกตัดขาด และในที่สุดก็จะสูญพันธุ์ไปตามกาลเวลา อีกอย่างเป็นความเสียหายอย่างใหญ่หลวงนัก (ทั้งในแง่ของศีลธรรมและสังคม)

 

นอกจากนั้นแล้ว สิ่งจำเป็นต้องกล่าวถึงตรงนี้คือ หลักการอิสลามได้สอนว่า การลงโทษบุคคลที่ได้กระทำการรักร่วมเพศ ไม่อนุญาตให้พี่สาว หรือน้องสาว มารดา หรือบุตรสาวของฝ่ายที่ถูกร่วมประตูหลัง  แต่งงานกับฝ่ายที่ทำการร่วมประตูหลัง (คิงส์) ตลอดไป กล่าวคือถ้าหากได้กระทำรักร่วมเพศก่อนแต่งงานหญิงตามที่กล่าวมาเป็นฮะรอม (บาป) สำหรับเขาไปตลอดกาล

 

บทเรียนจากโองการ:

 

1.การรักร่วมเพศคือความหน้าไม่อาย เป็นการประจารตัวเองกับสังคม บางครั้งมีการประกาศอย่างชัดเจน

 

2. จงอย่าเป็นผู้นิยมในเพศเดียวกัน เพราะท่านถูกสร้างขึ้นมาในลักษณะที่สอดคล้องกับธรรมชาติ ดังนั้น จงแต่งงานกับเพศเดียวกัน

 

กรุณาแสดงความคิดเห็นด้วย

ความคิดเห็นของผู้ใช้งานทั้งหลาย

ไม่่มีความคิดเห็น
*
*

เว็บไซต์ อิมาม อัลฮะซะนัยน์ (อลัยฮิมัสลาม)เพื่อคุณค่าและสารธรรมอิสลาม