รู้จักนะฮ์ญุลบะลาเฆาะฮ์ ตอนที่ 5

รู้จักนะฮ์ญุลบะลาเฆาะฮ์ ตอนที่ 5

 


อิทธิพลของคำสอนจากนะฮ์ญุลบะลาเฆาะฮ์


 สำหรับนักแสวงหาสัจธรรม ผู้ต้องการสืบค้นหาความจริงไม่ว่าด้านอภิปรัชญา ด้านสังคมการเมือง หรือแม้แต่คำสอนทางด้านจิตวิญญาณเพื่อการบรรลุธรรม จาริกสู่พระผู้เมตตาอันนิรันดร์ นะฮ์ญุลบะลาเฆาะฮ์ คือตำราอันทรงพลังหนึ่งของโลกอิสลามที่สามารถให้คำตอบในทุกๆมิติ


  ซัยยิดรอฎีเมื่อได้นำคุฏบะฮ(บทเทศนาธรรม)ที่ชื่อว่า”อัลฆัรรอห์”มาบันทึก เขาได้กล่าวว่า
” ขณะที่ข้าพเจ้าได้นั่งบันทึกนั้น  ทำให้เนื้อตัวของฉันรู้สึกสั่นและมีความทึกทักและสร้างพลังดึงดูดต่อเนื้อหาและความเป็นโวหารของคำเทศนาธรรมนั้นยิ่งนัก เหมือนกับรู้สึกว่าหัวใจของฉันแทบจะสลายเลยทีเดียว”


 ฮัมมาม บินชุรัยห์ หนึ่งจากสาวกอิมามอะลี เขาเป็นบุคคลที่มีความจงรักภัคดีต่ออะลีเป็นอย่างมากและเป็นผู้แสวงหาความจริงทางด้านจิตวิญญาณเป็นนักปฎิบัติธรรมตัวจริงและบรรลุธรรมขั้นสูงอีกทั้งยังอยู่ในฐานะนักประจักษ์แจ้งแห่งจิต(อาริฟ) เขาได้รบเร้าให้อิมามอะลีกล่าวถึงคุณลักษณะของมนุษย์ที่สมบูรณ์ให้ฟัง อิมามอะลีจึงได้กล่าวถึงคุณลักษณะมนุษย์ที่สมบูรณ์เขาให้ฟัง แต่ทว่าฮัมมามเขารู้สึกว่ายังอยากจะฟังต่ออีก เป็นเพราะดวงไฟแห่งศรัทธาของเขาที่มันรุมเร้าในหัวใจแห่งแรงปรารถนานั้น เขาได้รบเร้าและขอร้องอิมามอะลี จนกระทั้งอิมามอะลีได้สัญญาว่าจะกล่าวคุณลักษณะของมนุษย์ที่สมบูรณ์ให้ฟังถึง ๑๐๕ คุณลักษณะ แต่เมื่ออิมามอะลีกำลังเล่าถึงบุคคลแห่งพระเจ้าและคุณลักษณะของมนุษย์ที่สมบูรณ์อยู่นั้น ก็เห็นสภาพของฮัมมามเหมือนจะหมดสติ ได้ตะโกนร้องด้วยความคลั่งไค้ลและมีความดื่มด่ำกับอรรถรสของการพรรณานั้น ทำให้ล้มลงไป มีรายงานกล่าวว่า เหมือนกับว่า หัวใจของเขาจะหยุดเต้นเลยทีเดียว


อิมามอะลีกล่าวว่า


"ฉันจึงรูสึกกลัวและกังวลใจยิ่งนักเมื่อฉันกล่าวอะไรไปต่อประชาชนแล้วจะพวกเขาจะไม่สามารถควบคุมอารมณ์หรือสติได้ แต่ก็จะเป็นเช่นนี้แหละ ชั่งแปลกประหลาดเสียนี่กระไร สำหรับคำตักเตือนของข้าฯที่สูงส่งนี้กับหัวใจที่เพียบพร้อมเช่นนั้น(อย่างฮัมมาม) ก็ยังเป็นอย่างนี้ได้เลย”

 

 อิบนิอะบิลฮะดีด (ابن ابي الحديد ) ได้เขียนรายงานหนึ่งน่าสนใจไว้ว่า  อับดุลฮะมีด กาติบ เป็นนักเขียนและนักกวีชื่อดังโลกอาหรับ มีชีวิตอยู่ในช่วงแรกๆศตวรรษที่สองแห่งฮิจเราะฮ์ กล่าวว่า “ฉันได้นำคุฏบะ(คำเทศนาธรรม)และคำคมสุภาษิตคติสอนใจของอิมามอะลีมาท่องจำถึงเจ็ดสิบบทเลยทีเดียว และหลังจากนั้นฉันรู้สึกว่า ฉันรู้สึกว่ามันมีพลังและความอยากเรียนรู้และแรงปรารถนาที่เกิดขึ้นกับฉันและมันสร้างแรงบันดาลใจอันยิ่งใหญ่แก่ฉันอย่างไม่เคยพบเจอมาก่อน”
 
 อับดุรเราะมาน บินนะบาตะฮ์ นักพูดและนักวิชาการชั้นสูงและลือชื่อของชาวอะหรับ ได้กล่าวยืนยันไว้ว่า พื้นฐานความรู้ทางด้านนิรุกติศาสตร์และความเข้าใจต่อคำพูดที่เป็นโวหารระดับสูงนั้น ข้าพเจ้าได้บทเรียนมาจากอิมามอะลี และข้าพเจ้าได้ท่องจำคำสุภาษิตของอิมามอะลี(จากนะญุลบะลาเฆาะฮ์)ถึงหนึ่งร้อยบท นั่นแหละที่ทำให้ข้าพเจ้ามีความชำนาญด้านอักษรศาสตร์ภาษาอาหรับและยังได้รับขุมทรัพย์ทางปัญญานี้อย่างไม่มีวันจบสิ้นเลยทีเดียว”


 ญาอีซ ปราชญ์มีชื่อเสียงและเป็นนักกวี นักวาทศิลป์โด่งดังของโลกอิสลามอีกคนหนึ่ง อาศัยอยู่ในช่วงศตวรรษฮิจเราะฮที่สาม เจ้าของหนังสือ”อัลบะยาน วัตตับยีน” เขาได้นำคำคมและคุฏบะฮของอิมามอะลีมาเผยแพร่แก่ประชาชน และใครก็ตามที่ได้กล่าวตำหนิมามอะลี เขาจะกล่าวโต้ตอบในทันทีว่า” มีคำพูดมากมายที่กล่าวตำหนิให้ร้ายแก่อิมามอะลี แต่ทว่าคำกล่าวเหล่านั้นเป็นคำพูดที่ไร้สาระ ไร้ความน่าเชื่อถือยิ่ง”


 อิบนิอะบิลฮาดีด นักภาษาศาสตร์ นักวิชาการระดับสูงและชื่อดังของสำนักคิดมุอ์ตะซีละฮ์ มีความนิยมในตัวของอิมามอะลีเป็นอย่างมาก เขาได้อรรถาธิบายหนังสือนะฮญุลบะลาเฆาะฮ ได้กล่าวถึงท่านอิมามอะลีว่า”ขอสาบานต่ออัลลอฮ แท้จริงคำพูดของอิมามอะลี ฐานะภาพต่ำกว่าถ้อยคำของพระเจ้า แต่สูงกว่าคำพูดของมนุษย์”

 

บทความโดย ดร.ประเสริฐ สุขศาสน์กวิน