รู้จักนะฮ์ญุลบะลาเฆาะฮ์ ตอนที่ 9

รู้จักนะฮ์ญุลบะลาเฆาะฮ์ ตอนที่ 9

 

ผู้นำทางการเมือง


สหประชาชาติได้แนะนำให้ชาติอาหรับใช้แบบอย่างของผู้นำที่ยิ่งใหญ่ในอดีต โดยนำหลักการปกครอง คาลิป(คอลีฟะฮ์)ผู้ทรงธรรม คือ อิมามอะลี บินอะบีฏอลิบ(อ)  


     นั่นก็คือว่าสหประชาชาติได้เห็นถึงคุณค่าและหลักการที่อิมามอะลีได้สำแดงออกถึงหลักการปกครองและการบริหารบ้านเมืองที่ดี เพื่อให้ชั้นผู้ปกครองทั้งหลายของกลุ่มประเทศอาหรับได้ตระหนักถึงความรู้ต่อเรื่องหลักธรรมาภิบาล และหลักการปกครอง  การเมืองแบบอิสลาม และเรียกร้องให้สถาปนาความยุติธรรมและความเที่ยงธรรมและเสรีภาพ อิสรภาพให้เกิดขึ้นในประเทศของตน


     โครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ(United Nation Development Programe- UNDP )ได้จัดพิมพ์ สุนทรโรวาทของท่านอิมามอะลี(อ) เกี่ยวกับความรู้ ความยุติธรรมและการปกครองที่ถูกต้อง  นั่นหมายความว่า หลักธรรมาภิบาล คือ รัฐที่ถูกต้อง


    ในรายงานประจำปีค.ศ. ๒๐๐๒ เกี่ยวกับการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ของประเทศอาหรับ ที่แจกจ่ายออกไปนั้น  ทาง UNDPได้คัดเลือกคำสอนสำคัญของหลักธรรมภิบาลในอุดมคติ ที่ได้รับการเน้นโดยอิมามอะลี บินอะบีฎอลิบ เราจะนำมากล่าวดังนี้


    “ผู้นำทางสังคมและผู้นำทางการเมืองในระดับต่างๆนับว่าเป็นฟันเฟืองและกลไกที่สำคัญยิ่งในการพัฒนาและสร้างความเจริญรุ่งเรืองและความผาสุก ตลอดจนสถาปนาความยุติธรรมขึ้นในสังคม อย่างไรก็ตามผู้นำที่อยู่ในวิสัยที่จะสร้างสรรค์สิ่งดังกล่าวได้ ต้องมีคุณสมบัติและคุณลักษณะหลายประการ เช่น ต้องเป็นผู้ยึดมั่นเชื่อฟัง ปฏิบัติตามคำสอนและบทบัญญัติทางศาสนาอย่างเคร่งครัด มีความยำเกรงต่อความผิดบาป และไม่ฝ่าฝืนข้อห้ามทางศาสนา ต้องกระทำทุกวิถีทางให้ทุกอย่างดำเนินไป ตามที่ได้รับการบัญญัติไว้คำสอนของศาสนาและกฎหมายบ้านเมือง ตลอดจนขนบธรรมเนียมประเพณีที่ดีงาม เพราะไม่มีบุคคลใดที่จะได้รับความสุขและความสำเร็จได้ นอกจากต้องเชื่อฟังปฏิบัติตามบัญญัติทั้งหลายของศาสนาและกฎหมายเท่านั้น บุคคลใดหรือสังคมใดก็ตามที่ไม่ได้นำพาต่อคำสั่งใช้และข้อบัญญัติห้ามของศาสนาและตัวบทของกฎหมาย บุคคลและสังคมนั้นๆย่อมพบกับชะตากรรมอันเลวร้าย และความย่อยยับอับโชคอย่างแน่นอน ดังมีตัวอย่างให้เห็นมาแล้วอย่างมากมายในอดีต


     ผู้นำต้องทุ่มเททั้งกำลังกายและกำลังใจและกำลังความคิดเพื่อทานุบำรุงสิ่งเหล่านั้น ต้องเป็นผู้กำจัดกิเลสต่างๆได้  มีความอดกลั้นควบคุมตนเอง  เมื่อได้รับการยั่วยวนจากสิ่งต่างๆที่จะนำไปสู่ความเลวร้ายและความผิดบาป สำรวมระวัง ควบคุมความอยากในทางเนื้อหนังมังสา มีความยุติธรรมต่อตนเองและผู้อื่น ซึ่งคุณสมบัติสองประการหลังนี้ ผู้นำจะต้องถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัดเป็นพิเศษ


     ผู้นำต้องใช้มโนธรรมที่เปี่ยมด้วยความเมตตา ปราณีต่อประชาชน สร้างความรักและความกรุณาขึ้นในจิตใจเพื่อประชาชน ปฏิบัติต่อประชาชนด้วยความเป็นมิตรและอำนวยประโยชน์สุขแก่คนเหล่านั้นโดยถ้วนหน้า


    อย่าปฏิบัติกับประชาชนอย่างสัตว์ร้ายที่มีความเคียดแค้น โดยโน้มเอียงไปสู่การเบียดเบียนให้ร้าย แม้ว่าประชาชนเหล่านั้นบางส่วนจะมีอุดมการณ์ ความเชื่อ ศรัทธาและทัศนะคติบางอย่างแตกต่างไปจากผู้นำก็ตาม  ผู้นำต้องไม่รู้สึกละอายในการให้อภัย และความพยาบาท ไม่กระหยิ่มหรือทะนงตนในอำนาจ ต้องไม่คิดว่า ตัวเองเป็นของประชาชน ที่พวกเขาจะต้องยอมรับ เชื่อฟังปฏิบัติตามอย่างจำนน เพราะว่าทัศนะเช่นนี้ เป็นมิจฉาทิฐิ ทุจริตต่อวิตวิญญาณของตนเอง  และประทุษร้าย ต่อหลักความเชื่อแห่งศาสนาและอุดมการณ์ทางการเมืองอันเป็นเหตุทำให้รัฐบาลตกอยู่ในสภาพสับสนปั่นป่วนขาดไร้เสถียรภาพ


    หากผู้นำล้มเหลวในการปกครองด้วยความยุติธรรม ย่อมเป็นการเปิดรับความอยุติธรรมให้เข้ามาแทรกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และผู้ใดก็ตามที่อยุติธรรมต่อสรรพสิ่งที่พระผู้เป็นเจ้าทรงสร้าง และมีฐานะอันเป็นที่เกลียดชังของบรรดาผู้ถูกกดขี่ บุคคลเหล่านั้นอยู่ในภาวะเป็นปรปักษ์กับพระผู้เป็นเจ้า เว้นแต่เขาจะสำนึกผิดด้วยความเสียใจ และยุติการกดขี่ข่มเหงประชาชน


     ผู้นำต้องปรับนโยบายไม่แข็งกร้าวจนเกินไปหรืออ่อนนุ่มเกินไป วางนโยบายอยู่บนหลักการความเสมอภาคและความยุติธรรม ซึ่งนโยบายนั้นจะได้รับการยอมรับโดยสาธารณชนทั่วไป ผู้นำพึงเข้าใจด้วยว่าความไม่พอใจของสามัญชนส่วนใหญ่ ย่อมขัดกับความพอใจของกลุ่มชนกลุ่มน้อยผู้มีอภิสิทธิ์ และสิ่งที่เป็นความพอใจของสามัญชนส่วนใหญ่ก็ย่อมก่อให้เกิดความไม่พอใจ แก่กลุ่มอภิสิทธิ์ชนเช่นกัน ซึ่งลักษณะสำคัญของชนส่วนน้อยที่เป็นอภิสิทธิ์ชน คือคนกลุ่มนี้เป็นภาระอันหนักหน่วงที่สุดแก่รัฐบาล ในยามที่บ้านเมืองมีความสงบสุข เพราะความฟุ้งเฟื้อ และอวดอำนาจของพวกเขา เป็นผู้ที่ช่วยเหลือน้อยที่สุดแก่รัฐบาล ในยามบ้านเมืองวิกฤติ เพราะพวกเขาจะเป็นคนกลุ่มแรกที่ละทิ้งบ้านเมืองไปยังที่อื่น และจะไม่กลับมาจนกว่าวิกฤติการณ์จะสงบลง เป็นผู้ที่เอื้อแก่ความยุติธรรมและความเสมอภาคน้อยที่สุด เป็นผู้ที่รบร้าวที่สุดในสิ่งที่พวกเขาเรียกร้องต้องการ

 

บทความโดย ดร.ประเสริฐ สุขศาสน์กวิน