เว็บไซต์ อิมาม อัลฮะซะนัยน์ (อลัยฮิมัสลาม)เพื่อคุณค่าและสารธรรมอิสลาม

วิลายะตุลฟะกีฮ์ (ฉบับชาวบ้าน) ตอนที่ 4

0 ทัศนะต่างๆ 00.0 / 5

วิลายะตุลฟะกีฮ์ (ฉบับชาวบ้าน) ตอนที่ 4   

 

     

โครงสร้างของระบอบวิลายะตุลฟะกีฮ์


โครงสร้างของวิลายะตุลฟะกีฮ์อย่างแท้จริงนั้น  ต้องมีผู้นำสูงสุดเพียงคนเดียวเป็นผู้ชี้นำ  แต่ถ้าหากมีผู้คัดค้านว่าฮะดีษดังกล่าวนั้นหมายถึงมัรญิอ์โดยทั่วไป  ถ้าเป็นอย่างนั้นสมมุติว่ามีมัรญิอ์อยู่เจ็ดคน  เราจะเลือกตักลีดตามคนหนึ่งคนใดก็ได้ที่เราคิดว่าอะอ์ลัม  คำวินิจฉัยของมัรญิอ์คนอื่นก็ถือว่าไม่ถูกต้อง  หรือหากวินิจฉัยแล้วไม่ถูกใจเราก็ไม่ปฏิบัติตาม  ในที่สุดก็จะมีมัรญิอ์ที่อะอ์ลัมกว่าไปเรื่อยๆ ตามแต่ความพอใจของผู้ปฏิบัติตาม  เอกภาพของการปกครองจะเกิดขึ้นได้อย่างไร ?  จะสถาปนารัฐอิสลามได้อย่างไร ?  ระบบวิลายะตุลฟะกีฮ์จะทำอย่างไร ?   สุดท้ายสายธารชีอะฮ์จะอยู่กันอย่างไร ?      เพราะโดยสัจธรรมแล้วการปฏิบัติตามหลักการอิสลามทั้งหมดจะต้องคงอยู่  มวลมุสลิมทุกคนต้องยึดมั่นในหลักการที่เอกองค์อัลลอฮ์(ซ.บ.) ทรงประทานผ่านท่านศาสดา(ซ็อลฯ) และอะฮ์ลุลบัยต์(อ)  มิเช่นนั้นสายธารชีอะฮ์ก็ไม่แตกต่างอะไรกับสายธารอื่น  เช่น  สายธารซุนนีบอกว่า อุลิลอัมริมินกุม ไม่ได้แปลว่าอิมามเป็นใครก็ได้ที่จะเลือกขึ้นมา   สายธารชีอะฮ์จะละเอียดกว่าอยู่ตรงที่เลือกมาจากมัรญิอ์  การเชื่อในวิลายะตุลฟะกีฮ์มุก็อยยัด         จึงเป็นความล่มสลายของระบบปกครองอิสลาม  ประหนึ่งว่าอิสลามยุคหลังจากการเร้นหายของท่านอิมามมะฮ์ดี(อ) นั้นไม่ได้มีผู้นำที่มีอำนาจเบ็ดเสร็จสมบูรณ์อย่างแท้จริง  ถ้าพี่น้องชีอะฮ์จะเลือกมัรญิอ์ใดก็ได้  ก็คงไม่มีความแตกต่างจากพี่น้องสายธารอื่นดังกล่าวมาแล้ว

 

บรรดาอุลามาอ์ที่ยืนหยัดในระบอบวิลายะตุลฟะกีฮ์ต่างบอกว่าความเชื่อในเรื่องวิลายะฮ์มุฏลักของอะฮ์ลุลบัยต์(อ) เป็นรากฐานที่สืบทอดมาเป็นความเชื่อของอำนาจฟะกีฮ์  เหมือนกับท่านนบีมุฮัมมัด(ซ็อลฯ) มอบอำนาจการปกครองเป็นอำนาจมุฏลักให้กับอิมาม(อ)  เพียงแต่เมื่อถึงยุคของอิมามมะฮ์ดี(อ) เร้นหายท่านได้มอบอำนาจนี้ให้กับฟะกีฮ์  โดยในยุคต้นท่านเป็นผู้แต่งตั้งสี่คนแรกเป็นผู้สืบทอดอำนาจแทน  เพื่อให้ประชาชาติเห็นว่ามนุษย์จะอยู่ในวิลายะฮ์มุฏลักของมนุษย์ด้วยกัน ที่ไม่ใช่อิมามมะอ์ศูม(อ)ก่อน  ท่านอิมาม(อ) ต้องการให้เกิดความเคยชิน  แม้ว่าเขาไม่ใช่มะอ์ศูม(อ) ที่ถูกรับรองโดยพระมหาคัมภีร์อัลกุรอาน  แต่สามารถรับในวิลายะฮ์มุฏลักได้

 

ฮะดีษอีกบทหนึ่งที่ท่านอิมามมะฮ์ดี(อ) พูดกับเนาวาบ อัรบาอะฮ์  คือ ตัวแทน คอสโดยตรง และกับนาอีบุลอามที่บอกว่า “จงปฏิบัติตามพวกเขา  คนที่รายงานริวายะฮ์ต่างๆ ของเรา”      โดยบรรดาอะลิมอุลามาอ์ต่างก็สรุปฮะดีษบทนี้ว่า ผู้ที่รายงานริวายะฮ์ต่างๆ ของเรา คือ ฟะกีฮ์ หรือ มัรญิอ์ ที่อิมามมะฮ์ดี(อ)   ต้องการบอกว่า “ฮูวา ฮุจญะตี อลัยกุม”    “บุคคลเหล่านี้  ฟะกีฮ์คนนี้   คือ ฮุจญัตของฉันสำหรับพวกเจ้า  เขาเป็นตัวแทนของฉัน  เขาจะพูดแทนฉัน  คำสั่งของเขา คือ คำสั่งของฉัน  และฉันเป็นฮุจญัตของอัลลอฮ์(ซ.บ.)”


   
ความหมายก็คือ   หากอยากรู้ว่าเอกองค์อัลลอฮ์(ซ.บ.)   ทรงสั่งอะไรก็จงฟังคำสั่งของฉัน          และถ้าอยากรู้ว่าฉันสั่งอะไรก็ให้ฟังจากฟะกีฮ์ที่มีคุณสมบัติดังกล่าว  เพราะว่าเขาคือฮุจญะตีอลัยกุม เขาเป็นฮุจญัตของฉัน  ถ้าเราเชื่อเพียงว่าฮุจญะตีตรงนี้ คือ ฮุจญัต ในเรื่องฟิกฮ์เท่านั้นความไม่สมบูรณ์ก็จะเกิดขึ้น  เพราะฉะนั้นฮะดีษบทนี้ของอะอิมมะฮ์(อ)  ฮุจญัตจึงครอบคลุมในเรื่องหลักการอิสลามทุกเรื่อง

 

พี่น้องสายธารชีอะฮ์เองก็มีปัญหาเรื่องความเชื่อในวิลายะฮ์มุก็อยยัด  หากมัรญิอ์ คือ นาอิบุล            อิมาม  เขาคือตัวแทนของอิมาม(อ) เราก็ต้องปฏิบัติตามคำสั่งของเขา  แต่โดยภาคปฏิบัติเมื่อเขาเป็นเพียง วิลายะฮ์มุก็อยยัด  แสดงว่าเขาจะปฏิบัติตามข้อใดและไม่เลือกปฏิบัติข้อใดก็ได้

 

โลกอิสลามปัจจุบันมีปัญหาเร่งด่วนที่ต้องรีบตัดสินใจแก้ไข เช่น การรุกรานของอิสราเอล  การรุกรานของประเทศนักล่าอาณานิคมตะวันตก  และปัญหาอื่นๆ ที่หมักหมมมาจากศัตรูผู้รุกราน  กรณีพี่น้องปาเลสไตน์  พี่น้องฮิซบุลลอฮ์ในเลบานอน  และพี่น้องในซีเรียเป็นอาทิ  ถ้ามัรญิอ์คนหนึ่งฟัตวาว่าเราต้องลุกขึ้นต่อสู้ปลดปล่อยพี่น้องเหล่านั้นจากการถูกกดขี่ข่มเหงแล้วไม่มีใครปฏิบัติตาม เพราะเชื่อในหลักวิลายะฮ์มุก็อยยัด คือ จะตามก็ได้ไม่ตามก็ได้  แต่ถ้าเชื่อในอำนาจวิลายะฮ์มุฏลัก  จะไม่ปฏิบัติตามคำสั่งโดยชอบของผู้นำไม่ได้  ความเชื่อในวิลายะฮ์มุก็อยยัดจึงนำไปสู่การล่มสลายของสายธารชีอะฮ์ เราจะปล่อยให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้กระนั้นหรือ?

 

ก่อนการปฏิวัติอิสลามอันรุ่งโรจน์ของท่านอิมามโคมัยนี(รฎ)  อุลามาอ์ส่วนหนึ่งพยายามชี้ให้เห็นว่าคำสั่งต่างๆ ของมัรญิอ์ไม่ได้เป็นคำสั่งโดยตรงจากท่านอิมามมะฮ์ดี(อ)ทัศนะต่างกันของมัรญิอ์ก็เกิดขี้น  เมื่อหลักการอิสลามถูกเบี่ยงเบนจึงเกิดความบกพร่อง  ความอ่อนแอทั้งในเชิงสังคมและการเมืองการปกครองโดยรวม
กรณีเงินคุมุสก็กระจัดกระจายไม่เป็นกลุ่มก้อน  ขาดการบริหารอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม  จนท่านอิมามโคมัยนี(รฎ)  บอกว่า  เงินคุมุสนั้นถ้าบริหารตามหลักการอิสลามอย่างถูกต้องแล้วจะเป็นสวัสดีการให้กับมวลมุสลิมทั้งโลกได้

 

บรรดาอิมาม(อ)   จึงได้วางรากฐานเรื่องวิลายะตุลฟะกีฮ์     เพื่อที่จะให้ยุคสมัยหนึ่งมีมัรญิอ์เพียงคนเดียว  ท่านอิมามโคมัยนี(รฎ)  เขียนไว้ชัดเจนว่า เมื่อสถาปนารัฐอิสลามขึ้นมาแล้วมัรญิอ์ทั้งหมดไม่มีสิทธิ์ที่จะรับคุมุส  เพราะทั้งหมดจะต้องส่งไปยังผู้ปกครองรัฐอิสลามเป็นผู้วินิจฉัยสั่งการ  นี่คือวิลายะตุลฟะกีฮ์  ท่านเขียนไว้ก่อนหน้าการปฏิวัติจะสำเร็จด้วยซ้ำ ทั้งนี้เพราะผู้ที่จะรับคุมุสได้จะต้องเป็นผู้นำที่เป็นตัวแทนของอิมาม(อ)  โดยตรง  เป็นทายาทแห่งอำนาจของอิมามมะอ์ศูม(อ) โดยตรง  หลักการทางวิชาการจริงๆ ต้องเป็นอย่างนี้  แต่เนื่องจากปัญหาทางสังคมจึงทำให้ภาวะของผู้นำสูงสุดจึงถูกสั่นคลอน


 
จากการมีมัรญิอ์หลายคนแล้วให้เลือกตักลีดคนที่อะอ์ลัมที่สุด  ความอะอ์ลัมที่สุดดังว่านั้นหากมวลมุสลิมแต่ละกลุ่มต่างอ้างว่ามัรญิอ์ของตนอะอ์ลัมที่สุดแล้วก็จะเกิดที่สุดหลายที่สุด  สมมุติว่า อิรักมีมัรญิอ์เจ็ดคน อิหร่านมีสิบคน  และอินเดียอีกหนึ่งคน  หากต่างไม่ยอมรับในผู้นำสูงสุดเพียงคนเดียว  ตามหลักเกณฑ์วิลายะตุลฟะกีฮ์ที่อิมามมะอ์ศูม(อ) เคยวางรากฐานไว้  ความเป็นหนึ่งในการชี้นำจะเกิดขึ้นได้อย่างไร


 
ดังนั้นถ้าเราเชื่อในวิลายะฮ์มุก็อยยัดก็จะมีปัญหาเกิดขึ้นไม่รู้จักสิ้นสุดเพราะต่างคนต่างฟัตวาไปตามความเห็นของตนเอง  ในที่สุดก็นำไปสู่ความร้าวฉาน  สภาพการณ์เช่นนี้เป็นยอดปรารถนาของศัตรูอิสลามอย่างยิ่ง    นอกจากปัญหาทางสังคมแล้วจะลุกลามไปสู่ปัญหาทางการเมืองการปกครอง   เพราะนักล่าอาณานิคมตะวันตกพยายามพูดอยู่เสมอว่าศาสนากับการเมืองการปกครองต้องแยกออกจากกัน  ซึ่งเป็นเรื่องที่ขัดกับหลักการอิสลามอันบริสุทธิ์อย่างร้ายแรง     มวลมุสลิมต้องยึดมั่นไว้เสมอว่ารากฐานเดีมที่แท้จริงนั้นอำนาจมุฏลักที่ท่านอิมาม(อ) ให้มา  และท่านอิมามมะฮ์ดี(อ)  สืบทอดเจตนารมณ์นี้ เพื่อเป็นหลักประกันว่าผู้นำสูงสุดของสายธารจะเป็นผู้ดูแลสังคมชีอะฮ์ทั้งมวล  จนกว่าการกลับมาของท่านเอง  เป็นการปรากฏกายของท่านอิมามมะฮ์ดี(อ) ที่รอคอยและถูกรอคอย

 

โปรดติดตามอ่านตอนที่5
บทความโดย เชคอิบรอฮีม อาแว

 

กรุณาแสดงความคิดเห็นด้วย

ความคิดเห็นของผู้ใช้งานทั้งหลาย

ไม่่มีความคิดเห็น
*
*

เว็บไซต์ อิมาม อัลฮะซะนัยน์ (อลัยฮิมัสลาม)เพื่อคุณค่าและสารธรรมอิสลาม