วิลายะตุลฟะกีฮ์ (ฉบับชาวบ้าน) ตอนที่ 5
วิลายะตุลฟะกีฮ์ (ฉบับชาวบ้าน) ตอนที่ 5
มุมมองจากหนังสือคำวินิจฉัยปัญหาศาสนาในเรื่องของวิลายะตุลฟะกีฮ์ มีบางคำถามที่ควรเป็นกรณีศึกษา เช่น
ปัญหาที่ 57 : ข้าพเจ้าเป็นผู้ตักลีดตามมัรญิอ์ท่านหนึ่ง และวะลียุลอัมรฺได้ประกาศสงครามต่อต้านผู้ปฏิเสธที่กดขี่หรือประกาศสงครามญิฮาด แต่มัรญิอ์ที่ข้าพเจ้าตักลีดอยู่ไม่อนุญาตให้เข้าร่วมในสงคราม ข้าพเจ้าจำเป็นต้องปฏิบัติตามคำสั่งมัรญิอ์ท่านนั้นหรือไม่ ?
คำวินิจฉัย : วาญิบให้ปฏิบัติตามคำสั่ง ของวะลียุลอัมรฺในเรื่องที่เกี่ยวกับส่วนรวมของมุสลิมในการป้องกันอิสลามและมุสลิมหรือการต่อต้านกาฟิรผู้รุกราน (คำวินิจฉัยปัญหาศาสนา หน้าที่15)
ปัญหาที่ 58 : ฮุกุ่มหรือฟัตวาของวิลายะตุลฟะกีฮ์ เมื่อขัดกับฟัตวามัรญิอ์ตักลีดที่อะอ์ลัม เราควรจะปฏิบัติตามคำฟัตวาหรือทัศนะของใคร ?
คำวินิจฉัย : การปฏิบัติตามฮุกุ่มของวิลายะตุลฟะกีฮ์เป็นวาญิบเหนือมุสลิมทุกคน เป็นไปไม่ได้ที่ฟัตวาของมัรญิอ์ตักลีดท่านอื่นจะแตกต่างถึงขนาดขัดแย้งกับคำฟัตวาหรือฮุกุมของวิลายะตุลฟะกีฮ์
ปัญหาที่65 : คำสั่งของวิลายะตุลฟะกีฮ์ จำเป็นหรือไม่ที่มุสลิมทุกคนต้องปฏิบัติตาม หรือเฉพาะผู้ที่ตักลีดตามเขาเท่านั้น และสำหรับผู้ที่ตักลีดตามผู้ที่ไม่เชื่อเรื่อง “วิลายะฮ์ มุฏลัก” จำเป็นหรือไม่ที่เขาต้องเชื่อฟังและปฏิบัติตามวะลียุลฟะกีฮ์ ?
คำวินิจฉัย : ตามหลักการฟิกฮ์ของชีอะฮ์ วาญิบสำหรับมุสลิมทุกคนที่จะต้องปฏิบัติตามคำสั่งแห่งอำนาจการปกครองตามหลักการศาสนาที่ออกมาจากวะลียุลอัมร์ และมอบตนต่อคำสั่งห้ามหรือใช้ของวะลียุลอัมร์ แม้แต่บรรดาฟะกีฮ์ผู้ทรงเกียรติทั้งหลายก็เช่นเดียวกัน แล้วนับประสาอะไรกับผู้ตักลีดตามท่านเหล่านั้น การปฏิบัติและยึดมั่นในคำสั่งของวิลายะตุลฟะกีฮ์ เป็นส่วนหนึ่งที่ไม่อาจแยกออกจากการปฏิบัติและยึดมั่นในอิสลามและอิมามมะอ์ศูม(อ)
ปัญหา ที่ 70 : เรื่องของวิลายะตุลฟะกีฮ์ เป็นบทบัญญัติที่มีพื้นฐานมาจากการตักลีดหรือเป็นเรื่องที่มาจากพื้นฐานของอะกีดะฮ์ และผู้ที่ไม่ศรัทธาในเรื่องนี้มีฮุกุ่มอย่างไร ?
คำวินิจฉัย : เรื่องของวิลายะตุลฟะกีฮ์เป็นที่มาจากพื้นฐานของวิลายะฮ์และอิมามัต ซึ่งเป็นรากฐานอุศุลลุดดีน เว้นแต่ว่ากฎเกณฑ์รายละเอียด (อะฮ์กาม) ของเรื่องนั้นได้มาจากการวินิจฉัยจากหลักฐานตามหลักการศาสนาเหมือนกับเรื่องอื่นๆ ในฟิกฮ์ และถ้าใครสามารถพิสูจน์และวินิจฉัยได้ว่าสิ่งนี้เขาไม่มี เขาก็จะได้รับการอภัย
หมายความว่า ความเชื่อของวิลายะตุลฟะกีฮ์อยู่ในบทเดียวกันของความเชื่อในอิมามัต คำตอบที่สมบูรณ์ที่สุด คือ คนที่ไม่เชื่อในวิลายะตุลฟะกีฮ์ ก็คือ คนที่ไม่เชื่อในวิลายะฮ์ของอิมาม(อ) คนที่ไม่ยอมรับในวิลายะฮ์ของอิมาม(อ) ก็คือคนที่ไม่ยอมรับวิลายะฮ์ของศาสดา(ซล) เขาเหล่านี้ถือว่าท่านศาสดา(ซล) ไม่มีสิทธิ์แต่งตั้งใครหลังจากท่าน สมมุติว่าคนที่ไม่ยอมรับวิลายะฮ์ของอิมามมะอ์ศูม(อ) กลายเป็นซุนนี แล้วคนกลุ่มหนึ่งมาเป็นชีอะฮ์ ซุนนีถูกทดสอบจากวิลายะฮ์ของบรรดาอะอิมมะฮ์(อ) ชีอะฮ์ถูกทดสอบกับวิลายะฮ์ของบรรดาฟะกีฮ์ รากฐานอันนี้มาจากเรื่องของอิมามัต เป็นเรื่องของอุศุลลุดดีนที่เป็นรากฐานของศาสนา เว้นแต่ว่าอะฮ์กามรายละเอียดนั้นได้มาจากการวินิจฉัยว่าวิลายะตุลฟะกีฮ์ต้องมี เพราะเป็นคำสั่งของอิมาม(อ) ว่าจะมียุคหนึ่งที่มวลมุสลิมจะต้องถูกปกครองจากฟะกีฮ์ที่ไม่ใช่ อิมาม(อ) ฟะกีฮ์มีอำนาจในการชี้นำภายใต้อำนาจวิลายะฮ์มุฏลัก
ประเด็นนี้จะแก้ปัญหาอย่างไร? จะพิสูจน์ความเป็นฟะกีฮ์ที่แท้จริงและสมบูรณ์แบบอย่างไร? จึงได้เกีดคำวินิจฉัยของอะลิมอุลามาอ์ในเรื่องขอบเขตและคุณสมบัติของวิลายะตุลฟะกีฮ์ตามวิลายะฮ์ มุฏลัก รากฐานของความศรัทธาวิลายะตุลฟะกีฮ์คือหลักศรัทธาในบรรดาอิมาม(อ) รายละเอียดในเรื่องนี้เกีดจากการวินิจฉัยที่ได้มาจากหลักการศาสนา
หากมีข้อสงสัยในเรื่องนมาซ เช่น ต้องทำน้ำนมาซอย่างไร? ทำไมต้องรูกัวอ์แบบนี้? ทำไมต้องซูญูดอย่างนี้? ก็ต้องไปค้นจากฮะดีษ ค้นจากอัลกุรอาน การวินิจฉัยในเรื่องของวิลายะตุลฟะกีฮ์ ก็เช่นเดียวกัน ต้องกลับไปสู่ฮะดิษและอัลกุรอาน หากอะลิมอุลามาอ์คนใดพิสูจน์ได้ว่าวิลายะตุลฟะกีฮ์ไม่มีเพียงมัรญิอ์เท่านั้น ท่านอิมามโคมัยนี(ร.ฎ) ได้กล่าวว่า เขาได้รับการอภัยในเรื่องนี้ เมื่อผิดแล้วยอมรับผิดก็ต้องให้อภัย อะลิมอุลามาอ์ยุคก่อนอิมามโคมัยนี(ร.ฎ) ก็ได้ยืนยันจากประสบการณ์การค้นคว้า และการปุจฉาวิสัชนา จนสามารถสรุปได้ว่าวิลายะตุลฟะกีฮ์ที่มีอำนาจมุฏลักนั้นจะต้องมีอยู่ทุกยุคทุกสมัย แต่ปัญหาที่เกีดขึ้นกว่าพันปี คือ ยังไม่มีการสถาปนารัฐเกิดขึ้น ในหมู่มัรญิอ์ทั้งหลายก็จะต้องมีคนๆ หนึ่งเป็นวิลายะตุลฟะกีฮ์ เป็นตัวแทนของอิมาม(อ)
แต่เพราะมีหลายมัรญิอ์หลายคนอำนาจต่างๆ จึงถูกบดบังไม่สามารถบอกได้ว่าใคร คือ วิลายะตุลฟะกีฮ์แห่งยุคสมัย
โปรดติดตามอ่านตอนที่ 6
บทความโดย เชคอิบรอฮีม อาแว