เอโดอาร์โด ทายาทมหาเศรษฐีที่เข้ารับชีอะห์ ตอนจบ
- จัดพิมพ์ใน
-
- ผู้เขียน:
- SiayidSulaiman Husaini
เอโดอาร์โด ทายาทมหาเศรษฐีที่เข้ารับชีอะห์ ตอนจบ
เอโดอาร์โด “ทายาทมหาเศรษฐีชาวอิตาลี” ชะฮีดผู้มอบชีวิตให้ศาสนา
(เรื่องเล่าผ่านวิถีชีวิตของ “เอโดอาร์โด (ชะฮีด มะห์ดี)” ทายาทมหาเศรษฐีชาวอิตาลีที่เข้ารับชีอะห์)
หนึ่งปีผ่านไป หลังจากการเป็นชะฮีด (เสียชีวิต) ของเอโดอาร์โด ทีมงานผลิตสารคดีแห่งอิหร่านได้เดินทางไปยังอิตาลี เพื่อทำการศึกษาเกี่ยวกับวิถีชีวิตของเอโดอาร์โด และจัดทำสารคดีเกี่ยวกับชะฮีดท่านนี้
ทีมจัดทำสารคดีได้พยายามติดต่อเพื่อนฝูง มิตรสหายของเอโดอาร์โด เพื่อที่จะทำการสัมภาษณ์ แต่ทุกคนได้ตอบปฏิเสธ เพราะกลัวว่าจะเป็นอันตรายต่อพวกเขา จะมีก็เพียงคนสองคนเท่านั้น ที่ยอมให้สัมภาษณ์ และแล้วเมื่อตำรวจอิตาลีได้รู้ข่าวดังกล่าว จึงได้มาหาทีมจัดทำสารคดี และจับกุมตัวในฐานะผู้ก่อการร้ายและหลังจากนั้นไม่กี่วันก็ได้เนรเทศออกจากอิตาลี
ราวกับว่า พวกเขาไม่ต้องการให้หลงเหลือสิ่งใดๆที่เกี่ยวกับเอโดอาร์โด แม้แต่การเอ๋ยชื่อของเขา
หลังจากที่ทีมงานสารคดีต้องเผชิญกับอุปสรรคปัญหาต่างๆอย่างมากมาย แต่สุดท้ายแล้วก็ประสบความสำเร็จในการสร้างสารคดีเอโดอาร์โด และพร้อมที่จะออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ในอิหร่าน เมื่อยิวไซออนิสต์รู้ข่าว ทางหน่วยมอสสาดก็ได้ทำการติดต่อกับผู้ผลิตสารคดี ชื่อ เซนเดะห์ บอด ฮะบีบุลลอฮ์ กาเซะห์ซอซ์ พร้อมคำกล่าวที่ว่า เราจะขอซื้อสารคดีดังกล่าวด้วยทองคำเท่ากับน้ำหนักตัวของคุณ เราขอเพียงอย่างเดียว คือ จงหยุดความตั้งใจที่จะฉายสารคดีนี้ และมอบเทปต้นฉบับนั้นให้กับเรา
เซนเดะห์ บอด ฮะบีบุลลอฮ์ กาเซะห์ซอซ์ ได้ตอบพวกเขาไปว่า “อย่าได้คิด อย่าได้หวังเลย ...เหล่าอิสระชนทั้งในอิหร่านและทั่วโลกต่างกระหายที่จะศึกษาแนวทางและแบบอย่างของเอโดอาร์โด”
เรื่องเล่าของชะฮีดเอโดอาร์โด ออเนลีย์ ได้ผ่านสายตาท่านผู้อ่านทั้งหลายไปแล้ว ไม่รู้ว่าพวกท่านทั้งหลายจะมีความรู้สึกเช่นไร เรื่องราวเหล่านี้เป็นเพียงเรื่องเล่าบางส่วนของเอโดอาร์โดเท่านั้นโดยผ่านการบอกเล่าของมิตรสหายบางคน
เพราะประมาณร้อยละเก้าสิบของบุคคลที่รู้จักเอโดอาร์โดในอิตาลี ไม่ยอมพูดถึงเรื่องราวของเขาแม้แต่น้อย เพราะพวกเขากลัวว่าจะถูกสังหารจากหน่วยสืบราชการลับของไซออนิสต์ และนี่ก็เป็นมุมหนึ่งจากเรื่องราวของการถูกกดขี่ของชะฮีดท่านนี้
เรื่องเล่าของเอโดอาร์โดมาถึงตอนสุดท้ายแล้ว บางท่านอาจมีข้อสงสัยหรืออาจมีคำถามว่า หลังจากวันนั้น เกิดอะไรขึ้นกับทรัพย์สมบัติอันมหาศาลของตระกูล อัญเญลี ?
เป็นที่น่าสนใจคือ หลังจากที่เอโดอาร์โด ถูกปลดออกจาการเป็นประธานบริษัทเฟียต และลูกพี่ลูกน้องเขาที่ชื่อ “จีวานีย์ โอมบาร์โต” ขึ้นมาทำหน้าที่แทน แต่ทว่าหลังจากนั้น ด้วยการสมรู้ร่วมคิดของยิวไซออนิสต์ “จีวานีย์ โอมบาร์โต” ได้เสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำด้วยกับโรคมะเร็ง และหลังจากนั้นธุรกิจบริษัทเฟียตก็ตกอยู่ในมือ ของ จอหน์ อัลโกล์ วัย20 ปี ซึ่งเป็นหลานของเอโดอาร์โด และเป็นชาวยิว
หลังจากที่บิดาของเอโดอาร์โดเสียชีวิต สมบัติและทรัพย์สินอันมหาศาลทั้งหมด ก็ตกเป็นของจอหน์ อัลโกล์ ที่เป็นชาวยิว และหลังจากเขา แน่นอนว่า มันต้องตกอยู่ในมือของยิวไซออนิสต์ อย่างไม่ต้องสงสัย แหละนี่คือแผนการร้ายของยิวไซออนิสต์ที่ได้วางแผนมาอย่างยาวนาน......
สุดท้ายนี้ ผู้เขียน เชื่อมั่นว่า เอโดอาร์โด ที่มีความรักและถวิลหาต่ออิมามมะห์ดี (อ) ผู้มาโปรดอย่างแท้จริง วันหนึ่งเขาจะถูกฟื้นคืนชีพขึ้นมาพร้อมกับเหล่าคาราวานของบรรดาชะฮีด ร่วมสู้รบเคียงบ่าเคียงไหล่กับท่านอิมามมะห์ดี (อ) เพื่อบรรลุถึงพันธะสัญญาในการสร้างความยุติธรรมที่แท้จริงให้เกิดขึ้นมาในโลกนี้
إِنَّمَا هَٰذِهِ الْحَيَاةُ الدُّنْيَا مَتَاعٌ وَإِنَّ الْآخِرَةَ هِيَ دَارُ الْقَرَارِ
แท้จริงชีวิตแห่งโลกนี้เป็นเพียงแค่ความเพลิดเพลินเท่านั้นและแท้จริงปรโลกนั้นมันเป็นที่อยู่อันนิรันดร์
ทั้งนี้ มีความเชื่อมั่นว่าในปรโลก เอโดอาร์โดจะเป็นหนึ่งในบุคคลที่มีความมั่งคั่งอย่างแท้จริง และอยู่ภายใต้ร่มธงของท่านศาสดามุฮัมมัด (ศ) และท่านอิมามมะห์ดี (อ) ผู้มาโปรด อย่างแน่นอน.....
ค่าของคน มิได้นับ เพราะทรัพย์มาก
หรือนับจาก รูปลักษณ์ สูงศักดิ์ศรี
หากเกิดจาก คุณงาม และความดี
ผลงานที่ จรรโลงให้ โลกไพบูลย์
จบบริบูรณ์
ขอขอบคุณ เฟซบุ๊ก SiayidSulaiman Husaini