บุรุษที่ถูกสาบแช่งในอิสลาม

บุรุษที่ถูกสาบแช่งในอิสลาม

 

ริวายัตมีมากมายที่ได้กล่าวถึงบุรุษที่บกพร่องถึงภาระหน้าที่ของตนที่มีต่อภรรยาและคนในครอบครัวและผู้ที่อยู่ภายใต้การดูแล ไปดูว่าอิสลามได้ตำหนิพวกเขาไว้อย่างไร!!
1-บุรุษที่ทำให้ภรรยาของตนเองไม่พึงพอใจ.


ท่านนบี ศ็อลฯกล่าวเรื่องนี้ว่า "สตรีคนใดที่นางได้ทำให้สามีไม่พอใจ(ทราบใดที่สามีไม่พึงพอใจ)ละหมาดและการงานทั้งหลายที่ดีงามของนางนั้นพระองค์จะไม่ตอบรับ แม้กระทั้งอายุใขของนางนางได้ถือศิลอด หรือแม้ยามกลางคืนนางได้หมกหมุ่นอยู่กับการทำอิบาดัตมากแค่ไหนก็ตาม หรือนางจะได้ปล่อยทาส อีกทั้งทรัพย์สินได้จ่ายไปในหนทางของพระองค์ก็ตามที นางจะเป็นคนแรกที่ถูกนำพาเข้าไปในนรก" จากนั้นท่านนบี ศ.ยังกล่าวอีกว่า "กฏอุกุมนี้รวมไปถึงบรรดาบุรุษทั้งหลายเช่นกันเมื่อเขาได้ทำการกดขี่(ไม่ให้ความเป็นธรรม)กับภรรยาของตนเอง พระองค์ก็จะนำพาเขาเข้านรกเป็นคนแรก"
2-บุรุษที่เลือกสตรีเป็นคู่ครองเนื่องเพราะหน้าตา.
เรื่องนี้นบี ศ.ได้กล่าวว่า"ชายใดที่แต่งงานเพราะทรัพย์สินที่มากมายของนาง เขาก็จะได้พบเพียงแค่ทรัพย์สินนั้น และใครที่แต่งงานกับนางเพราะความสวยงามของนางเขาก็จะได้พบกับความสวยงามเพียงเท่านั้นโดยไม่เห็นสิ่งใดดีเลยเว้นแต่ความสวยนั้น และชายใดที่เขาแต่งงานเพราะศาสนาที่นางมี พระองค์ก็จะทำให้เขาพบทั้งความงามและทรัพย์สินในตัวนาง"
3-ชายที่ให้ร้ายแก่ภรรยาของตนในสิ่งไม่ดีงามต่างๆ.
เรื่องนี้กรุอานได้กล่าวไว้ว่า..
إِنَّ الَّذِینَ یَرْمُونَ الْمُحْصَنَاتِ الْغَافِلَاتِ الْمُۆْمِنَاتِ لُعِنُوا فِی الدُّنْیَا وَالْآخِرَةِ وَلَهُمْ عَذَابٌ عَظِیمٌ
"แท้จริงบรรดาผู้กล่าวโทษบรรดาหญิงบริสุทธิ์หญิงที่ไม่รู้เรื่องอะไร หญิงผู้ศรัทธา พวกเขาถูกสาบแช่งทั้งในโลกนี้และโลกหน้า และสำหรับพวกเขาจะได้รับการลงโทษอย่างมหันต์" นูร/23
นบี ศ.กล่าวว่า "ชายใดที่ใส่ร้ายภรรยาตนเองว่านางประพฤติในสิ่งไม่ดี เขาคือมุนาฟิก"
นบี ศ.ยังกล่าวอีกว่า "ชายใดที่เขาได้ใส่ร้ายภรรยาของตนเองว่าทำซินา การสาบแช่งทั้งหลายจะบรรจบแก่เขาผู้นั้น และการงานที่ดีต่างๆของชายผู้นั้นจะไม่ถูกตอบรับ"
4-บุรุษที่แสดงมารยาทไม่ดีต่อภรรยา.
เรื่องนี้ท่านฮุเซน บิน บะชาร เล่าว่า ฉันได้เขียนจดหมายขึ้นมาฉบับหนึ่งไปยังอิมามริฏอ อ.เพื่อขอคำปรึกษาถึงชายผู้หนึ่งที่จะมาสู่ขอลูกสาวของตน แต่ชายผู้นั้นเป็นคนที่มีมารยาทไม่ค่อยดี จะทำอย่างไร? อิมามให้คำแนะนำว่า จงอย่ามอบบุตรสาวให้กับคนที่มีมารยาทที่ไม่ดี และจงอย่ายกบุตรให้แต่งงานกับเขาเป็นอันขาด..
5-ชายที่ชอบสำส่อนภรรยาของผู้อื่น.
นบี ศ.กล่าวว่า "ใครที่ชอบยุ่งกับภรรยาของผู้อื่น เขาผู้นั้นไม่ใช่มาจากเรา"
อิมามบาเก็ร อ.กล่าวว่า "พระองค์ได้กล่าวกับ มูซา บุตรของอิมรอนว่า โอ้มูซา เจ้าจงหักห้ามชาวบนีอิสรออีลในเรื่องการทำซินาเถิด และจงกล่าวกับพวกเขาเถิดว่า ใครก็ตามที่ทำซินา ลูกหลานของพวกเขาก็จะถูกทำซินากลับในภายภาคหน้า และจงบอกพวกเขาไปว่าหากกระทำกับเขาเช่นไร พวกเขาก็จะกระทำกับพวกเจ้าเช่นนั้น"
6-บุรุษที่ชอบหนีห่าง(ไม่เข้าใกล้)ภรรยา หรือไม่รับผิดชอบ.
ท่านอลี อ.กล่าวว่า "มีกี่อย่างที่เป็นเหตุต้องให้ถูกลงโทษในหลุมกุบูร และหนึ่งในนั้นคือการทำตัวเหินห่างและไม่รับผิดชอบในหน้าต่อจากภรรยา"
นบี ศ.กล่าวว่า "ชายที่เลวที่สุดคือบุคคลที่ปัดภาระหน้าของตนเองที่มีต่อภรรยาให้ใครอื่นรับผิดชอบ"
นบี ศ.ยังกล่าวต่ออีกว่า "การสาบแช่งพึงมีแด่ผู้ที่ได้โยนภาระหน้าที่ของตนเองในการดูแลครอบครัวไปยังบุคคลอื่น"
7-ชายผู้ที่มีความต้องการอย่างมากมายเป็นเหตุให้ต้องอย่าร้างภรรยาของตนเอง.
เรื่องนี้อิมามศอดิก อ.กล่าวว่า "จงแต่งงาน แต่จงอย่าเลิกรากัน แท้ที่จริงแล้วพระองค์ไม่ทรงรักต่อชายหรือหญิงที่ต้องแยกทางกัน"
8-ชายที่กดขี่และพยายามหาเรื่องภรรยาของตนเองเพื่อให้เกิดการเลิกรากัน.
เรื่องนี้ท่านนบี ศ.กล่าวว่า "ชายใดที่พยายามหาเรื่องเพื่อที่จะหาข้ออ้างในการที่เลิกรากับภรรยาของตนเอง พระองค์จะไม่ทรงพอพระทัยเขาผู้นั้น"
9-ชายที่ได้สาบานในขณะโกรธเคืองว่าจะอย่าร้างกับภรรยาของตนเอง.
นบี ศ.กล่าวถึงผู้ชายแบบนี้ว่า "ชายใดที่สาบานตนเพื่อที่จะเลิกกับภรรยาของตนเอง เขาผู้นั้นคือมุนาฟิก"
อิมามศอดิก อ.กล่าวว่า "การสาบานว่าจะเลิกกับภรรยา คนเหล่านั้นคือพลพรรคของชัยฏอน"
10-บุรุษที่กดขี่ข่มเหงภรรยา.
ท่านนบี ศ.กล่าวว่า"ชายใดที่เขาทำการกดขี่ภรรยาเป็นเหตุต้องทำให้พระองค์นั้นต้องกริ้วโกรธ ดังเช่นที่พระองค์ทรงกริ้วโกรธต่อผู้ที่ได้กดขี่เด็กยะตีมทั้งหลาย"
11-ชายที่มีภรรยาหลายคน แต่เขามิได้มีความเป็นธรรม(เสมอภาค)ระหว่างภรรยาทั้งหมด.
นบี ศ.กล่าวในเรื่องนี้ไว้ว่า "ชายใดที่เขามีภรรยาสองคน แต่(ไม่มีความเสมอภาคแม้เรื่องการมองหรืออื่นๆ)เขามีความรักชอบไม่เท่าเทียมกันระหว่างภรรยาทั้งสอง ในวันกิยามัตชายผู้นั้นจะออกมาในสภาพที่เรือนร่างของเขามีครึ่งซีกตัวไร้เรี่ยวแรง และไม่มีความรู้สึกใดๆล้มลุกคลุกคลาน เขาจะออกมาในสภาพนั้น"
12-ชายที่อิ่มท้องเพียงคนเดียวโดยไม่สนใจใยดีกับภรรยาในเรื่องปากท้อง.
ท่านอลี อ.กล่าวว่า"พระองค์ทรงละนัตสาบแช่งบุคคลสามประเภทด้วยกัน หนึ่งในสามบุคคลนั้นคือ ผู้ที่ทำให้ท้องตัวเองอิ่มเพียงคนเดียวโดยไม่สนใจภรรยาและครอบครัว"
13-ชายที่พึงพอใจจากสาเหตุต่างๆที่ทำให้ภรรยาของตนเสียหาย แต่มิไม่ห้ามพลาม.
ท่านนบี ศ.กล่าวว่า "ชายใดที่พึงพอใจในสิ่งที่ไม่ดีต่างๆ(สิ่งเป็นบาป)เกิดขึ้นในบ้านของตนแต่เขาไม่หักห้ามสิ่งนั้น พระองค์จะส่งนกตัวหนึ่งมาอยู่ที่หน้าบ้านของเขาและนกตัวนั้นจะเรียกร้องเจ้าของบ้านให้หยุดต่อการกระทำนั้นถึงสี่สิบวัน หากว่าชายเจ้าของบ้านนั้นยังไม่หักห้ามความชั่วร้ายที่เกิดขึ้นในบ้านของเขาแล้วนั้น นกตัวนั้นจะเอาปีกนั้นมาปิดที่ดวงตาและเมื่อนั้นชายผู้นั้นเขาจะไม่เห็นความดีใดว่ามันเป็นความดีอีกเลย และทางกลับกันเขาก็จะไม่เห็นความเลวร้ายใดว่ามันเป็นความเลวร้ายอีกต่อไปเลยเช่นกัน"
นบี ศ.ยังกล่าวอีกว่า "ในวันกิยามัตพระองค์จะไม่ตอบรับอะหม้าลและการเตาบะฮ์ของใครคนหนึ่ง! ถูกถามขึ้นว่าคนประเภทนั้นเป็นใคร?นบี ศ.ตอบว่า คือคนที่เขาปล่อยให้ชายอื่นชอบมาคลุกคลี(ที่ก่อให้เกิดการทำผิดประเวณี)กับภรรยาของตนแต่เขาไม่หักห้าม"
14-ชายที่ชอบใช้กำลังและตบตีภรรยา.
ท่านนบี ศ.กล่าวว่า "ชายใดที่ชอบใช้กำลังตบตีภรรยาของตนเอง ในวันกิยามัตพระองค์จะทำให้เกียรติและศักศรีของเขานั้นต้องหมดไป"
อีกฮะดิษนบี ศ.กล่าวว่า "ชายใดที่เขาได้ตีไปที่ใบหน้าภรรยาของตนเองเพียงหนึ่งครั้งพระองค์ทรงสั่งมายังมะลาอิกะฮที่เฝ้าขุมนรกให้นำชายผู้นั้นเข้าสู่นรก และให้เฆี่ยนตีเขาถึงเจ็ดสิบที"
และนบียังได้กล่าวไว้อีกบทที่ว่า "ใครที่เขาชกต่อยไปที่ใบหน้าของพี่น้องมุสลิมด้วยกันในวันกียามัตพระองค์จะทรงบดกระดูกของเขาให้เป็นผง และให้ไฟนรกได้เผาผลาญเขา เขาจะได้เข้านรกในสภาพที่มือทั้งสองของเขานั้นถูกมัด เว้นเสียแต่เขาได้กลับใจ"
15-ชายที่เขาได้ใช้กำลังกระชากผมของภรรยา.
นบี ศ.กล่าวว่า "ชายใดที่เขาได้กระชากผมของภรรยา ในวันกิยามัตมือของเขาทั้งสองถูกตอกให้ติดอยู่กับตะปูแห่งขุมนรก"
16-ชายที่ปล่อยให้ครอบครัวต้องหิวโหย.
เรื่องนี้อิมามศอดิก อ.กล่าวว่า "ท่านนบีเคยห้ามชายประเภทที่ให้ตัวเองอิ่มหนำสำราญแต่ปล่อยให้ภรรยาและคนในครอบครัวต้องหิวกระหาย" นบี ศ.กล่าวว่า "ใครที่เขาไม่นึกถึงภรรยาและลูกๆ(อิ่มคนเดียว)เขาจะพบกับความวิบัติ"
17-ชายที่มีเจตนาไม่มอบ(โกง)มะฮรียะฮ(ค่าสินสอด)แก่ภรรยา.
เรื่องนี้อิมามศอดิก อ.กล่าวว่า "ชายผู้หนึ่งที่ได้แต่งงานโดยที่เขามีเจตนาว่าจะไม่มอบมะฮรียะฮทั้งหมดที่ตกลงกันไว้นั้นให้แก่นาง ณ.พระองค์เขาคือผู้เปรียบดังผู้ที่ได้ทำซินา"
อิมามศอดิก อ.ยังกล่าวอีกว่า "
"ชายผู้หนึ่งที่ได้แต่งงานโดยที่เขามีเจตนาว่าจะคดโกงมะฮรียะฮทั้งหมดที่ตกลงกันโดยไม่มอบให้แก่นาง สถานะของเขาผู้นั้นเปรียบดังโจรผู้ขโมย"
ท่านอิมามอลี อ.กล่าวเรื่องนี้ว่า "อัลลอฮ์ไม่ทรงอภัยบาปแก่ชนกลุ่มเหล่านี้ คือกลุ่นคนที่เขาไม่มอบคืนมะฮ์ฮัรแก่ภรรยาของเขา(คดโกง)"
และอีกมากมายที่อิสลามได้สั่งสอนถึงภาระหน้าที่ของสามีต่อภรรยาและครอบครัวของตนเอง ในทางตรงกันข้ามก็ยังมีไม่น้อยเช่นกันหน้าที่ของภรรยาต้องปฏิบัติต่อสามีและคนครอบครับ จะขอกล่าวในโอกาสต่อไป... 

อินชาอัลลอฮ์ฯ

เรียบเรียงโดย: เชคยูซุฟ เพชรกาหรีม