เว็บไซต์ อิมาม อัลฮะซะนัยน์ (อลัยฮิมัสลาม)เพื่อคุณค่าและสารธรรมอิสลาม

การร้องไห้ แก่ผู้เสียชีวิตนั้นเป็นข้อห้ามหรือเปล่า?!

0 ทัศนะต่างๆ 00.0 / 5

การร้องไห้ แก่ผู้เสียชีวิตนั้นเป็นข้อห้ามหรือเปล่า?!


เรียบเรียง:เชคยูซุฟ เพชรกาหรีม
________________
การร้องไห้และแสดงความไว้อาลัยต่อผู้ที่เสียชีวิตไปแล้วนั้นมีกลายกลุ่มที่มีความเห็นที่ต่างกันออกไป
สำหรับข้ออ้างหลักจากกลุ่มชนที่เชื่อว่าร้องให้และแสดงความเสียใจนั้นเป็นข้อห้ามมาจากรายงานที่ว่า:
1-คำอ้างพวกเขาได้โยงไปหานบีว่าท่านนบีเคยกล่าวห้ามเอาไว้ว่าหากร้องให้แก่มัยยิดการอะซาบลงโทษนั้นจะเกิดแก่มัยยิดผู้นั้น..
‏ « الميّت يعذب فى قبره بما نيح عليه . »
"มัยยิดจะถูกลงโทษในหลุมกุบุร เมื่อมีการร้องให้แก่เขา"
ศออี้บุคคอรีย์ 1/223, ศออี้มุสลิม 3/44
หรืออีกต้นรายงานที่ว่า:
‏ « ان الميّت ليعذب ببكاء اهله عليه . »
"มัยยิดจะถูกลงโทษ เหตุเพราะครอบครัวร้องให้แก่เขา"
2-ท่าน สะอีด บิน มุซัยบ์ กล่าวว่า "ท่านหญิงอาอิชะฮเมื่อบิดาของนาง(อบูบักร)เสียชีวิต นางได้จัดมัจญลิสเพื่อไว้อาลัยขึ้น เมื่อข่าวคราวนี้ไปถึงหูของอุมัร อุมัรสั่งให้หยุดในทันที แต่อาอิชะฮไม่ฟังในคำสั่งห้ามนั้น"
อุมัรได้สั่งฮิชาม บินวะลีดไปหาอาอิชะฮ์เพื่อให้ห้ามจากการร้องให้แก่ผู้ที่เสียชีวิตมิเช่นนั้นจะถูกเฆี่ยน บรรดาเหล่าสตรีเมื่อรับทราบถึงภัยนั้นจึงหยุดและได้แยกย้ายกันไป
ณ.เวลานั้นอุมัรได้กล่าวกับพวกเขาว่า:
 تردن ان يعذب ابوبكر ببكائكن! ان الميت يعذب ببكاء اهله عليه ؛
"พวกท่านต้องการให้อบูบักรถูกลงโทษด้วยกับการร้องให้ของพวกท่านกระนั้นเหรอ แท้จริงแล้วมัยยิดจะถูกลงโทษเพราะการร้องให้เสียใจของคนในครอบครัว" ศออียติรมีซีย์ /1002
นี่คือเหตุผลหลักที่ของกลุ่มชนนี้ที่ไม่กล้าจะร้องให้หรือแสดงความเสียใจและไว้อาลัยแก่ผู้เสียชีวิต เพราะพวกเขาไม่อยากให้มัยยิดนั้นต้องถูกลงโทษเนื่องด้วยน้ำตาที่ไหลหยดออกมาของพวกเขา!!!
ข้อเท็จจริงคืออะไรไปดูในมุมมองของท่านหญิงอาอิชะฮกันว่านางมีทัศนะเช่นไร!!
ในตำราอะลิสุนนะฮอาอิชะฮมีทัศนะมุมมองเรื่องนี้สวนทางกับข้ออ้างข้างต้นเหตุผลคือ:
1-นางเชื่อว่าริวายัตข้างต้นนั้นเป็นรายงานที่ผิดพลาดไม่มีมูลแห่งความเป็นจริงที่ว่าท่านนบีห้ามในการร้องให้ เรื่องนี้ท่านนะวาวีย์กล่าวว่า "อาอิชาะฮไม่ยอมรับรายงานข้างต้น(ที่ห้ามไม่ให้ร้องให้)นางให้เหตุผลว่าผู้รายงานคือผู้รายงานผิดพลาดและหลงลืมเพราะคอลีฟะฮคนที่สอง(อุมัร)และลูกของเขา(อับดุลลอฮ)ได้ฟังมาจากนบีอย่างผิดๆมารายงาน ซึ่งเรื่องนี้ท่านอิบนิอับบาสก็ยืนยันว่า ริวายัตข้างต้นนั้นมาจากตัวของคอลีฟะฮเองไม่ได้มาจากท่านนบีเลย"
ชะเราะห์ อัลนะวาวีย์ 5/308
2-อิบนิ มาลัยกะฮ์ได้เป็นพยานถึงเรื่องดังว่าการสร้างเรื่องขึ้นมาในการห้ามมิให้ร้องให้กับคนตาย เขากล่าวว่า "เมื่อลูกสาวคนหนึ่งของอุสมานเสียชีวิตฉันได้ร่วมแห่ญะนาซะฮพร้อมกับท่านอับดุลลอฮ์ อิบนิอุมัร และท่านอับดุลลอฮ อิบนิ อับบาสไปพร้อมกัน จากนั้นฉันได้นั่งลงระหว่างเขาทั้งสองจากนั้นอับดุลลอฮ อิบนิอุมัรได้ยินเสียงร้องของประชาชน เขาได้กล่าวกับบุตรของอุสมานอีกคนว่า "ทำไมไม่ห้ามผู้คนไม่ให้ร้องให้ เพราะครั้งหนึ่งฉันเคยได้ยินท่านนบีกล่าวว่า คนตายเขาจะถูกอะซาบลงโทษเนื่องด้วยเสียงร้องของญาติเขา" ในขณะนั้นท่านอับบาสได้อยู่ในเหตุการณ์นั้นด้วยเขากล่าวขึ้นว่า "อุมัรเอง(ไม่ใช่เป็นคำสั่งในบี)เป็นผู้กล่าวประโยคนี้" สาเหตุที่เขากล่าวประโยคนี้ขึ้นมานั้นเพราะว่าเมื่อเขาได้รับบาดเจ็บอย่างหนักเมื่อซุอัยบ์ได้มาเยี่ยมเขาเมื่อเห็นสภาพของอุมัรเขาก็ได้ร้องให้เป็นอย่างมาก อุมัรเมื่อเห็นเช่นนั้นได้โกรธเคืองต่อปฏิกิริยาของซุอัยบ์ และพูดขึ้นว่า เจ้าร้องให้แก่ฉันเหรอในขณะที่นบีเคยกล่าวว่าคนตายจะถูกอะซาบเพราะเสียงร้องให้ของญาติเขา และหลังจากที่อุมัรได้เสียชีวิตฉันได้เอาคำพูดของเขานี้ไปพูดให้อาอิชะฮฟัง อาอิชะฮเมื่อได้ยินนางพูดขึ้นว่า....
« رحم اللَّه عمر ، واللَّه ما حدث رسول اللَّه ، ليعذب . . و لكن رسول اللَّه ( ص ) قال : ان اللَّه ليزيد الكافر ببكاء اهله عليه ؛
"พระองค์ทรงเมตตาแก่อุมัร ขอสาบานต่อพระองค์ท่านนบีไม่เคยกล่าวประโยคนี้เลย แต่ทว่าท่านนบีเคยกล่าวเช่นนี้ต่างหากนั้นคือ "แท้จริงอัลลอฮจะลงโทษผู้ปฏิเสธเนื่องเพราะเสียงกรีดร้องของญาติเขา" มุสนัด อะหมัด 1/41
3-วันหนึ่งอาอิชะฮ์ได้ยินคำพูดหนึ่งจาก อับดุลลอฮ อิบนิ อุมัร กล่าวว่า ท่านนบีกล่าวว่า มัยยิดจะถูกลงโทษในหลุมเนื่องด้วยเสียงร้องให้ของญาติ อาอิชะฮเมื่อได้ยินเช่นนั้นพูดว่า....
‏ « ذهل ابن عمر! انما قال رسول اللَّه ( ص ) انه ليعذب بخطيئته و ذنبه و انّ اهله ليبكون عليه الان ؛
"บุตรของอุมัรลืมไปแล้ว! แท้ที่จริงนบีกล่าวเช่นนี้ว่า ผู้ตายเนื่องด้วยบาปของเขาจะถูกลงโทษในกุบูร ในขณะที่ผู้ใกล้ชิดเขาต่างร้องให้แก่เขา" ชะเราะห์นะวาวีย์ 5/308
4-ในอีกรายงานอาอิชะฮกล่าวถึงบุตรของอุมัรว่า....
‏ « انكم لتحدثون عن غير كاذبين و لا مكذوبين و لكن السمع يخطى ؛
"อุมัรและบุตรของเขา ไม่ได้ตั้งใจที่จะกล่าวโกหกพาดพิงไปยังท่านนบี แต่ทว่าเขาทั้งสองได้ฟังฮะดิษนี้แบบผิดๆมาจากท่านนบีเท่านั้น" มุสนัด อะหมัด 1/42
#เลยสรุปเบื้องต้นในตรงนี้ได้ว่า สิ่งที่เชื่อกันอยู่ว่าการร้องให้กับคนที่เสียชีวิตนั้นเป็นบาปและเป็นข้อห้ามนั้น ท่านนบีไม่เคยได้ห้ามไว้เลย แต่สาวกบางท่านฟังจากท่านนบีผิดๆมาเลยมาสั่งห้ามต่อๆกันจนถึงทุกวันนี้ แต่ความเป็นจริงแล้วถือว่าไม่ได้ห้ามแต่ประการใด
#ต่อไปเราไปดูหลักฐานในการอนุญาติร้องให้ และแสดงความเสียใจในการจากไปของคนที่เรารักและศรัทธานั้นว่าอนุญาติหรือไม่? หรือว่ามันเป็นบาปจริงๆที่ถูกห้ามไว้? ไปดูในตำราสุนนะฮ ได้บันทึกว่านบี ศ.ร้องให้และเสียน้ำตาให้กับใครบ้าง!!
1-ท่านนบี ศ.ร้องให้แก่ท่านฮัมะซะฮ์
ท่านฮัมซะฮเป็นบุตรของท่านอับดุลมุฏฏอลิบ ท่านคือแม่ทัพผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่งแห่งอิสลาม ท่านได้เสียชีวิตในสนามรบแห่งอุฮุดเนื่องด้วยการเสียชีวิตของท่านฮัมซะฮ(ผู้เป็นลุงของท่านนบี)นบีต้องเศร้าสลดเสียใจในการจากไปจนบางครั้งท่านต้องร้องให้ออกมา..
« لمّا رأى النبى حمزة قتيلا ، بكى فلمّا راى ما مثّل به شهق ؛
"เมื่อท่านนบี ได้เห็นถึงการเสียชีวิตของท่านฮัมซะฮ์ท่านร้องให้ออกมาเสียงดัง" ซีรอตุล หะลาบียะฮ์ 2/247
และเมื่อสงครามแห่งอุฮูดผ่านพ้นไปเมื่อท่านกลับมาที่มะดีนะฮ์บรรดาสตรีชาวอันศอรต่างร้องให้แสดงความเสียใจต่อผู้ที่จากไป เมื่อนบีได้ยินเสียงครวญร้องเหล่านั้น ท่านก็นึกถึงท่านฮัมซะฮ์ ท่านกล่าวว่า...
‏و لكن حمزة لا بواكى له
"แต่ทว่าไม่มีใครร้องให้ให้กับฮัมซะฮลุงของฉันเลย" จากนั้นท่านได้หยุดครู่หนึ่ง เมื่อท่านได้ยินเสียงร้องสตรีชาวอันศอรท่านก็ร้องให้กับการจากไปของท่านฮัมซะฮ์"
อิบนิ อับดุรบาร กล่าวว่า "จนถึงวันนี้สตรีชาวอันศอร ก่อนที่พวกเขาจะร้องให้แก่คนในครอบครัวที่เสียชีวิตไปพวกนางร้องให้แก่ท่านฮัมซะฮก่อน"
มุสนัด อะหมัด 2/40
2-ท่านนบี ศ.ร้องให้แก่ท่านญะฟัร ฏอยยัร
หลังจากที่ญะฟัร ฏอยยัรได้เสียชีวิตในสงครามมูตะฮ์ท่านนบีได้ไปที่บ้านของเขา และท่านก็ได้ทำการปลอบใจคนในครอบครัวของท่านญะฟัร ฏอยยัร ในขณะที่ท่านจะลากลับท่านกล่าวประโยคหนึ่งว่า...
‏ على مثل جعفر فلتبك البواكى ؛
"เป็นการบังควรยิ่งนักที่จะหลั่งน้ำตาให้กับคนอย่างญะฟัร ฏอยยัร จากนั้นผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างก็ร้องให้กับท่านญะฟัร ฏอยยัร" อินซาบุล อัชรอฟ 2/298
3-คัดค้านของท่านอุมัรจากการที่เขาได้ห้ามร้องให้ต่อเหตุการณ์โศรกเศร้า
วันหนึ่งท่านนบีได้เข้าร่วมแห่ญะนาซะฮของมุสลิมคนหนึ่งซึ่งอุมัรก็อยู่ร่วมกับนบีด้วย เมื่ออุมัรได้ยินเสียงร้องให้เสียใจของบรรดาสตรี ท่านได้สั่งห้ามให้หยุดร้อง ท่านนบีได้หันมาที่ท่านอุมัร และกล่าวเช่นนี้ว่า...
‏ يا عمر! دعهُنَّ ، فان العين دامعة و النفس مصابة و العهد قريب ؛
"โอ้อุมัร เจ้าอย่าไปยุ่งกับพวกเขาเลย!ปล่อยให้พวกเขาร้องให้ไปเถิด เพราะพวกเขามีความโศรกเศร้า พวกเขาอยากจะร้องให้แก่ผู้ใกล้ชิดที่จากพวกเขาไป" มุสตัดรอค ฮากิม 1/381,มุสนัด อะหมัด 2/323
4-นบี ศ.ร้องให้กับการจากไปของท่านอับดุล มุฏฏอลิบ
หลังจากที่ท่านอับดุลมุฏฏอลิบจากไป ท่านนบีได้ร้องให้เสียใจในการจากไปของท่านเป็นอย่างมาก อุมมุอัยมัน กล่าวว่า...
‏ « أَنا رأيت رسول اللَّه يمشى تحت سريره و هو يبكى ؛
"ฉันเห็นท่านนบีร้องให้ขณะที่ท่านเดินแห่ญะนาซะฮของท่านอับดุลมุฏฏอลิบ" ตัสกิรอตุล คาวอส หน้า 7
5-ท่านนบี ศ.ร้องให้แก่ท่านอบู ฏอลิบ
เมื่อท่านอบู ฏอลิบเสียชีวิต ท่านก็ร้องให้เป็นอย่างมาก ท่านอลี อ.กล่าวว่า: เมื่อฉันบอกข่าวการเสียชีวิตของบิดาของฉันแก่ท่านนบี ท่านร้องให้เป็นอย่างมาก พร้อมกล่าวว่า..
‏ « اذهب فاغسله و كفّنه و واره غفراللَّه له و رحمه ؛
"จงฆุซุลและห่อกะฝั่นแก่เขาแล้วนำเขาไปฝัง พระองค์อภัยโทษแก่เขาและให้เขาได้อยู่ภายใต้ความเมตตาของพระองค์" อัล ฏอบากอตุล กุบรอ อิบนิ สะอัด 1/123
6- ท่านนบี ศ.ร้องให้แก่อามีนะฮ์มารดาของท่าน
"ครั้งเมื่อท่านนบีได้ไปเยี่ยมซิยารัตหลุมมารดาของท่าน ท่านได้ร้องให้ ผู้ติดตามท่านก็ร้องให้ด้วย" มุสตัดรอค ฮากิม 1/357
7-ท่านนบี ศ.ร้องให้แก่อิบรอฮีมบุตรของท่าน
อิบรอฮีมเป็นบุตรชายของท่านนบีที่เสียชีวิตไปจากการจากไปของอิบรอฮีมทำให้นบีเสียใจและร้องให้เช่นกัน ตอนหนึ่งที่นบีได้พูดถึงเรื่องร้องให้เสียใจเมื่อมีคนถามท่าน ท่านจึงตอบว่า:
‏ « تدمع العينان و يحزن القلب و لانقول مايسخط الربّ ؛
"น้ำตาแห่งดวงตาย่อมหลั่งไหล ความระทมทุกข์ย่อมบังเกิด สิ่งใดที่ทำให้พระองค์ทรงโกรธเคือง ฉันจะไม่พูด" อัล อักดุลฟะรีด 3/19
8-ท่านนบี ศ.ร้องแก่นางฟาติมะฮ บินติ อะซัด
ฟาติมะฮ บินติ อะซัดเป็นภรรยาของท่านอบู ฏอลิบ ซึ่งเป็นมารดาของท่านอลี อ.ท่านนบีรักนางมาก เมื่อนางเสียชีวิตในปีที่สามอิจญเราะฮ์ ท่านนบีได้ร้องให้เนื่องจากการจากไปของนางเป็นอย่างมากเพราะนางเปรียบดังมารดาคนหนึ่งของท่าน ช่วงหนึ่งที่ถูกกล่าวยืนยันเรื่องนี้ไว้คือ...
‏ « صلّى عليها و تمرغ فى قبرها و بكى ؛
"นบีได้นมาซแก่นาง และได้นอนในหลุมของนาง และได้ร้องให้แก่นาง" สะกอ อิรุล อุกบา หน้า 56
9-ท่านนบี ศ.ร้องให้แก่สาวกที่จากไป
บางครั้งท่านนบีได้ร้องให้และเสียใจจากการจากไปของสาวกของท่านและหนึ่งในนั้นคือ การจากไปของท่าน อุสมาน บิน มัซอูน นบีร้องให้แก่เขา
 « ان النبى قبّل عثمان بن مظعون و هو ميت و هو يبكى »
"แท้จริงนบีได้ร้องให้หลั่งน้ำตาจากการจากไปของ อุสมาน บิน มัซอูน" มุสตัดรอค ศออิหัย 1/261
และช่วงหนึ่งที่ท่านนบีได้ไปเยี่ยมครอบครัวของ สะด์ บินรอเบียะ เนื่องจากเขาเสียชีวิตในสงครามอุฮุดท่านได้รำพึงความโศรกเศร้าจากการจากไปของสะด์จนทำให้คนในครอบครัวของสะด์ต้องร้องให้ออกมา และท่านนบีก็ร้องให้ออกมาเช่นกันท่านไม่ได้ห้ามพวกเขาแต่อย่างใดว่าห้ามไม่ให้ร้อง...
« فجلسنا و رسول اللَّه ( ص ) يحدِّثنا عن سعد بن ربيع ، يترحّمُ عليه و يقول لقد رأيتُ الأَسنَّة شرعت اِليه يومئذٍ حتّى قُتِل فلما سمع ذلك النسوة ، بكين فدمعت عينا رسول اللَّه ، و ما نهاهن عن شى‏ء »
อัล มะฆอซีย์ 1/329
#นี่คือเหตุผลหลักบางส่วน ที่อยากจะบอกว่าการร้องให้และแสดงความไว้อาลัยแก่ผู้เสียชีวิตนั้นสามารถกระทำได้และเป็นที่อนุมัติ เพราะตัวของท่านนบี ศ ได้ร้องให้และแสดงความเสียใจกับคนใกล้ชิดของท่านที่ได้จากไป และท่านก็ไม่ได้ห้าม แล้วมีเหตุผลอันใดที่อุมมัตประชาชาติของท่านจะร้องให้และแสดงความเสียใจไม่ได้?!!!
หรือว่า...จะให้หัวเราะดีใจหรือเฉลิมฉลองเมื่อมีญาติของเราคนหนึ่งเสียชีวิตแทนดี?!!
ด้วยสลามและดุอาห์
เชคยูซุฟ เพชรกาหรีม

กรุณาแสดงความคิดเห็นด้วย

ความคิดเห็นของผู้ใช้งานทั้งหลาย

ไม่่มีความคิดเห็น
*
*

เว็บไซต์ อิมาม อัลฮะซะนัยน์ (อลัยฮิมัสลาม)เพื่อคุณค่าและสารธรรมอิสลาม