ฟะดัก เป็นมรดกของฟาติมะฮ จริงหรือ?

ฟะดัก เป็นมรดกของฟาติมะฮ จริงหรือ?


เรียบเรียง:เชคยูซุฟ เพชรกาหรีม
____________
ฟะดักเป็นทรัพย์สินส่วนหนึ่งของท่านนบี ศ.ที่ท่านได้ยึดมาจากการทำสงครามและทรัพย์สินส่วนตัวชิ้นนี้ท่านได้มอบให้กับฟาติมะฮบุตรสาวของท่านก่อนที่จะเสียชีวิต
ในเรื่องนี้มีนักรายงานฮะดิษและนักตัฟซีรทั้งซุนนีย์และชีอะห์ ต่างยืนยันเหมือนกันว่าทรัพย์สินส่วนดังกล่าวเป็นของฟาติมะฮซึ่งนบีได้มอบให้กับนางก่อนเสียชีวิตและเป็นที่ทราบกันดีในหมู่สาวกในวันที่นบีประกาศให้ และเหตุการณ์ในวันนั้นจึงเป็นที่มาของอายะฮนี้ซึ่งถูกประทานลงมาที่ว่า..
 «وَ آتِ ذَالْقربی حَقَّهُ وَ الْمِسْکینَ وَ ابْنَ السَّبیل»
"และจงให้สิทธิแก่ญาติที่ใกล้ชิด และผู้ขัดสน และผู้ที่เดินทาง" อิสรอ /26
เมื่อญิบรออีลนำโอการนี้มาประกาศแก่ท่านนบี ท่านนบี ศ.ก็เรียกหาฟาติมะฮบุตรสาวของตนให้มาหาท่าน และท่านก็ได้มอบสวนฟะดักนั้นแก่นาง"
อ้างอิง:
(مجمع البیان، ج3، ص 411؛ شرح ابن ابی الحدید، ج16، ص268؛ الدر المنثور، ج4، ص 177 کنزالعمّال، باب صله رحم، ج2، ص157 ، فتوح البلدان، ص46؛ معجم البلدان ج4، ص240)
และเนื้อหาสำคัญของโองการหลังจากที่ถูกประทานลงมาแล้วนั้นมีฮะดิษมายืนยันอีกทางถึงเรื่องนี้นั้นก็คือ...
لَمّا نُزِلَتْ هذِهِ الْآیةُ «وَ آتِ ذَاالْقُربی حَقَّهُ»دَعَا رَسُولُ اللهِ(ص) فاطِمَةً فَاَعْطاها فَدَک
"เมื่ออายะฮนี้ถูกประทานยังท่านนบี นบีจึงเรียกหาฟาติมะฮ และท่านก็ได้มอบสวนฟะดักเป็นทรัพย์สินแก่นาง"
คนที่รายงานฮะดิษต้นนี้คือ อบูสะอีด คอดรีย์ ผู้เป็นศอฮาบะฮที่ยิ่งใหญ่คนหนึ่งของท่านนบี ศ.และเป็นที่ยอมรับกันในหมู่นักตัฟซีรไม่ว่าจะเป็นซุนนีย์และชีอะห์ ท่านกล่าวว่า "อายะฮนี้ถูกประทานสิทธิให้แก่เคลือญาติผู้ใกล้ชิดนบี ศ.และคนที่ใกล้ชิดที่สุดนั้นคือฟาติมะฮผู้เป็นบุตรสาวของท่าน และฟาติมะฮคือตัวตนของคำว่า ذاالقربی(ญาติใกล้ชิด)"
#สรุปคืออายะฮข้างต้นถูกประทานมายังฟาติมะฮและลูกๆของนาง และเป็นที่ยอมรับกันของมุสลิมทั้งหลาย ว่าขณะที่อายะฮนี้ประทานลงมานั้น ท่านนบี ศ.ได้มอบสวนฟะดักแก่ฟาติมะฮ ซึ่งสวนฟะดักนี้ได้ถูกมอบให้กับนางสมัยที่นบี ศ.ยังมีชีวิตอยู่ และฟาติมะฮคือเจ้าของแต่เพียงผู้เดียว
และในหนังสือ ยะนายิอุลมะวัดดะฮ หน้า 441 ยังเล่าถึงเรื่องนี้ว่า...เมื่ออายะฮนี้
 «وَ آتِ ذَا الْقُرْبى حَقَّه»
ถูกประทานลงมานั้น นบี ศ.ได้เรียกหาฟาติมะฮและก็ได้มอบฟะดักแก่นาง จนใครหลายๆคนที่เห็นเหตุการณ์ในวันนั้นต่างประจักและเป็นพยานได้ทุกคนไม่ว่าจะเป็นอุมมุอัยมัน,รุบาห์, แต่คอลีฟะฮท่านแรก(ของอิสลาม)ก็จะยังยืนคลานที่จะไม่มอบมรดกชิ้นนี้คืนฟาติมะฮหลังจากที่นบีเสียชีวิตไปแล้ว จนทำให้ฟาติมะฮต้องเอ่ยคำสาบานออกมาว่า "จะไม่สนทนาใดๆกับคอลีฟะฮนั้น อีกเลย...จนนางเสียชีวิต"
ฝั่งคอลีฟะฮก็ได้แต่พยายามอ้างว่า นบี ศ.ไม่มีมรดกใดๆตกทอดแก่บุตรของท่านทั้งสิ้นโดยอ้างว่า....
: «نَحْنُ مَعاشِرَ الأَنْبِيَاءِ لا نُورَثُ»؛
"เราชาวนบี ไม่มีมรดกตกทอดให้ใคร"
ฟาติมะฮก็พยายามจะชี้แจงให้เข้าใจว่า คำอ้างนั้นขัดแย้งกับกรุอาน เพราะ(ฮะดิษใดที่ค้านกับกรุอานนำมาใช้เป็นหลักฐานไม่ได้)จริงๆแล้วกรุอานก็ยังกล่าวเรื่องมรดกของนบีซักกะรียา ไว้ว่า...
فَهَبْ لِي مِنْ لَدُنْكَ وَلِيًّا  يَرِثُنِي وَ يَرِثُ مِنْ آلِ يَعْقُوبَ
"ดังนั้นขอพระองค์โปรดประทานทายาทที่ดีจากพระองค์แก่ข้าพระองค์ด้วยเถิด ผู้ที่จะสืบทายาทแทนข้าพระองค์ แลัสืบทายาทจากตระกูลของยะกูบ" มัรยัม/5-6
จากอายะฮเข้าใจได้ว่า นบีซะการียา มีมรดกสืบทอด...
และอีกรายงานที่ว่า...
أفي اللهِ أَن تَرِثَ أَباكَ وَلا أَرِثَ أَبي، أَما قالَ رَسُولُ الله: المَرءُ يَحفَظُ في وُلدِه؟
อ้างอิง:
 تاريخ يعقوبي، ج 2، ص2
"กฏเกนณ์ของพระองค์ที่วางไว้นั้นคือ ท่านมีสิทธิในการสืบต่อมรดกจากบิดาของท่าน!! และฉันไม่มีสิทธิที่จะสืบทอดมรดกจากบิดาของฉันเลยกระนั้นหรือ??
หรือว่านบี ศ.ไม่เคยกล่าวกระนั้นหรือว่า ให้ผู้ที่เป็นบิดาทั้งหลายรักษาสิทธินี้ให้ดีแก่ลูกๆ(หมายถึงจะต้องมอบมรดกแก่ลูกๆก่อนจะเสียชีวิต)
จากนั้นคอลีฟะฮเมื่อได้ยินสิ่งที่ฟาติมะฮพูดเช่นนั้นท่านถึงกับร้องให้...
ดังนั้นสวนฟะดักคือมรดกชิ้นหนึ่งของฟาติมะฮที่บิดาของนางทิ้งให้กับนางก่อนที่ท่านจะเสียชีวิตไม่มีใครมีสิทธิในการที่จะไปริดรอนสิทธินั้นของนางได้เลย นอกเสียจากผู้ไม่หวังดีเท่านั้น.
#เหตุการณ์นี้ท่านสามารถไปศึกษาเรียนรู้ได้ในประวัติศาตร์และท่านจะเข้าใจว่า ฟะดักคือมรดกของฟาติมะฮจริงๆที่ถูกริดรอนไป และเรื่องนี้ก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้นางจากไปด้วยความระทมทุกข์และนางก็ไม่ยอมพูดจาและอภัยแก่ผู้ที่ริดรอนอีกเลย จนนางเสียชีวิต...