สาเหตุอันใดที่ฟาติมะฮบุตรีผู้เป็นดั่งแก้วตาดวงใจของรอซูลต้องฝังร่างในตอนกลางคืน?!!

เรียบเรียง:เชคยูซุฟ เพชรกาหรีม
____________________
ท่านหญิงฟาติมะฮเป็นบุตรีคนเดียวที่สืบทอดมาจากท่านนบีกับท่านหญิงคอดียะฮสตรีที่ท่านนบีได้กล่าวไว้ถึงความยิ่งใหญ่ในสถานะภาพของนาง ท่านนบีได้กล่าวสอนแก่ประชาชาติให้รู้จักการให้เกียติแก่นาง อย่ากดขี่นาง เช่น "ฟาติมะฮ คือหัวหน้าสตรีในสวงสวรรค์" หรือ "ฟาติมะฮเป็นเนื้อก้อนหนึ่งจากฉันใครทำให้นางเจ็บ เท่ากับทำให้ฉันเจ็บ และใครที่ทำให้ฉันเจ็บเท่ากับเขาทำให้พระองค์เจ็บเช่นกัน" หรือฮะดิษอื่นๆอีกมากมายที่ได้กล่าวถึงนางเอาไว้ แต่หลังจากนบีเสียชีวิดไปเหตุการณไม่ได้เป็นไปตามที่นบีสั่งเสีย มันเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตของนาง?!! ใครคือผู้ทำร้ายดวงใจของนบีขนาดนั้น? จนนางต้องลาตามบิดาของนางไปในระยะเวลาเพียงไม่กี่วัน!!
เหตุใดที่ฟาติมะฮ์ อัซซะฮรอ บุตรีแห่งรอซูลุลลอฮ ต้องฝังในตอนกลางคือ?!!
นี่คือคำถามที่ต้องการคำตอบ ใช่!!มันเป็นคำสั่งเสียของนางที่นางต้องการให้เป็นเช่นนั้น!!
แล้ว..เป็นเพราะอะไรที่นางต้องการให้เป็นเช่นนั้น?!!
คำตอบเรื่องนี้มีริวายัตมากมายทั้งทางชีอะห์และซุนนีย์ได้บันทึกรายงานถึงสาเหตุที่นางได้สั่งเสียชีวิตและเป็นคำสั่งเสียให้ฝังร่างของนางในตอนกลางคืน ก็ด้วยสาเหตุดังต่อไปนี้
#หลักฐานในตำราซุนนีย์:
1-มูฮำหมัด บิน อิสมาอีล บุคอรีย์ บันทึกไว้ว่า:
وَعَاشَتْ بَعْدَ النبي صلى الله عليه وسلم سِتَّةَ أَشْهُرٍ فلما تُوُفِّيَتْ دَفَنَهَا زَوْجُهَا عَلِيٌّ لَيْلًا ولم يُؤْذِنْ بها أَبَا بَكْرٍ وَصَلَّى عليها.
"ช่วงหกเดือนหลังจากที่นบีเสียชีวิตฟาติมะฮได้ใช้ชีวิตในขณะที่นางจากดุนยานี้ไป อลีคือสามีของนางได้ฝังนางในตอนกลางคืน และไม่ได้ส่งข่าวให้อบูบักรรับทราบ(ในการฝังนาง)"
อ้างอิง:
البخاري الجعفي، محمد بن إسماعيل أبو عبدالله (متوفاي256هـ)، صحيح البخاري، ج 4، ص 1549، ح3998، كتاب المغازي، باب غزوة خيبر، تحقيق د. مصطفى ديب البغا، ناشر: دار ابن كثير، اليمامة - بيروت، الطبعة: الثالثة، 1407 - 1987.
2-อิบนิ คุตัยบะฮ์ ได้บันทึกไว้ว่า:
وقد طالبت فاطمة رضي الله عنها أبا بكر رضي الله عنه بميراث أبيها رسول الله صلى الله عليه وسلم فلما لم يعطها إياه حلفت لا تكلمه أبدا وأوصت أن تدفن ليلا لئلا يحضرها فدفنت ليلا.
"ฟาติมะฮ์ต้องการมรดก(ฟะดัก)ที่บิดาทิ้งให้แก่นางจากอบูบักร แต่อบูบักรปฏิเสธที่จะให้คืน นางจึงสาบานตนไว้ว่านางจะไม่พูดคุยกับอบูบักรอีก และนางได้สั่งเสียไว้ว่าเมื่อนางเสียชีวิตให้ฝังนางในช่วงกลางคืน และอย่าให้เขา(อบูบักร)เข้าร่วมในการฝังนาง"
ที่มา:
الدينوري، أبو محمد عبد الله بن مسلم ابن قتيبة (متوفاي276هـ)، تأويل مختلف الحديث، ج 1، ص 300، تحقيق: محمد زهري النجار، ناشر: دار الجيل، بيروت، 1393هـ، 1972م.
3-อับดุล ซัรรอค ศันอานีย์ บันทึกไว้ว่า:
عن بن جريج وعمرو بن دينار أن حسن بن محمد أخبره أن فاطمة بنت النبي صلى الله عليه وسلم دفنت بالليل قال فرَّ بِهَا علي من أبي بكر أن يصلي عليها كان بينهما شيء.
"ฟาติมะฮบุตรีของรอซูลถูกฝังในยามกลางคืน เพื่อมิให้อบูบักรร่วมนมาซแก่นาง เพราะระหว่างนางกับเขา(อบูบักร)มีอะไรที่ติดค้างกันอยู่"
อ้างอิง:
الصنعاني، أبو بكر عبد الرزاق بن همام (متوفاي211هـ)، المصنف، ج 3، ص 521، حديث شماره 6554 و حديث شماره: 6555، تحقيق حبيب الرحمن الأعظمي، ناشر: المكتب الإسلامي - بيروت، الطبعة: الثانية، 1403هـ.
4-อิบนิ บัฏฏอล ได้บันทึกไว้ว่า:
أجاز أكثر العلماء الدفن بالليل... ودفن علىُّ بن أبى طالب زوجته فاطمة ليلاً، فَرَّ بِهَا من أبى بكر أن يصلى عليها، كان بينهما شىء.
"ส่วนมากอุลมาได้อนุญาติในการฝังศพในตอนกลางคืน และอลี อิบนิ อบีฏอลิบได้ฝังร่างฟาติมะฮในตอนกลางคืน นั้นก็เพราะไม่ต้องการให้อบูบักรมาร่วมนมาซแก่นาง เพราะระหว่างนางกับอบูบักรนั้นมัอะไรติดค้างกันอยู่"
อ้างอิง:
إبن بطال البكري القرطبي، أبو الحسن علي بن خلف بن عبد الملك (متوفاي449هـ)، شرح صحيح البخاري، ج 3، ص 325، تحقيق: أبو تميم ياسر بن إبراهيم، ناشر: مكتبة الرشد - السعودية / الرياض، الطبعة: الثانية، 1423هـ - 2003م.
5-อิบนิ อบี ฮะดีด บันทึกว่า:
وظهرت الشكية، واشتدت الموجدة، وقد بلغ ذلك من فاطمة ( عليها السلام ) أنها أوصت أن لا يصلي عليها أبوبكر.
"ความโกรธแค้นของฟาติมะฮ(จากผู้ที่กดขี่นาง)จนถึงขั้นที่ว่านางได้สั่งเสียว่า อย่าให้อบูบักรมาร่วมนมาซแก่นาง"
อ้างอิง:
إبن أبي الحديد المدائني المعتزلي، أبو حامد عز الدين بن هبة الله بن محمد بن محمد (متوفاي655 هـ)، شرح نهج البلاغة، ج 16، ص 157، تحقيق محمد عبد الكريم النمري، ناشر: دار الكتب العلمية - بيروت / لبنان، الطبعة: الأولى، 1418هـ - 1998م.
#หลักฐานในตำราชีอะห์:.
1-เชคศอดูก ได้กล่าวและบันทึกเรื่องนี้ไว้ว่า:
عَنِ الْحَسَنِ بْنِ عَلِيِّ بْنِ أَبِي حَمْزَةَ عَنْ أَبِيهِ قَالَ سَأَلْتُ أَبَا عَبْدِ اللَّهِ عليه السلام لِأَيِّ عِلَّةٍ دُفِنَتْ فَاطِمَةُ (عليها السلام) بِاللَّيْلِ وَ لَمْ تُدْفَنْ بِالنَّهَارِ قَالَ لِأَنَّهَا أَوْصَتْ أَنْ لا يُصَلِّيَ عَلَيْهَا رِجَالٌ [الرَّجُلانِ‏].
"อลี บิน อบูฮัมซะ ได้ถามจาก อิมาม ศอดิก อ.ว่า ทำไมฟาติมะฮจึงต้องฝังกลางคืน ท่านตอบว่า เพราะนางได้สั่งเสียเอาไว้ก่อนเสียว่าให้ฝังร่างของนางในกลางคืน เพื่อไม่ให้อบูบักรและอุมัรมาร่วมนมาซแก่นาง"
ที่มา:
الصدوق، أبو جعفر محمد بن علي بن الحسين (متوفاي381هـ)، علل الشرايع، ج‏1، ص185، تحقيق: تقديم: السيد محمد صادق بحر العلوم، ناشر: منشورات المكتبة الحيدرية ومطبعتها - النجف الأشرف، 1385 - 1966 م .
2- อัลมูซาวีย์ อัลอามิลีย์ กล่าวว่า:
إنّ سبب خفاء قبرها ( عليها السلام ) ما رواه المخالف والمؤالف من أنها ( عليها السلام ) أوصت إلى أمير المؤمنين ( عليه السلام ) أن يدفنها ليلا لئلا يصلي عليها من آذاها ومنعها ميراثها من أبيها ( صلى الله عليه وآله وسلم ).
"สาเหตุที่ไม่ระบุสถานที่ที่ชัดเจนในการฝังนางก็เพราะว่า นางได้สั่งเสียแก่ท่านอลีไว้ว่า ให้ฝังนางในตอนกลางคืนเพื่อไม่ให้ใครที่กดขี่นางและริดรอนสิทธิในมรดกของนาง มาร่วมนมาซให้แก่นาง"
แหล่งอ้างอิง:
الموسوي العاملي، السيد محمد بن علي (متوفاي1009هـ)، مدارك الأحكام في شرح شرائع الاسلام، ج 8، ص279، نشر و تحقيق مؤسسة آل البيت عليهم السلام لإحياء التراث، الطبعة: الأولي، 1410هـ.
#จึงพอสรุปได้ว่า: ฟาติมะฮเสียได้ชีวิตไป และสาเหตุที่นางไม่อยากให้ผู้กดขี่นางร่วมนมาซแก่นางเพราะ..
1-นางไม่พอใจคนกลุ่มนี้เป็นอย่างมากจนกระทั้งนางเสียชีวิต
2-นางไม่อยากให้คนที่เป็นสาเหตุให้นางต้องเสียชีวิตมาร่วมนมาซแก่นาง และนางก็ไม่อยากให้คนพวกนี้รู้ว่าสถานที่ฝังของนางอยู่ที่ไหน
3-ทุกคนรู้ดีว่า ฟาติมะฮ์คือแก้วตาดวงใจแห่งรอซูล ใครทำให้นางพอใจ พระองค์ก็จะทรงพอใจแก่พวกเขา แต่..ถ้าใครทำให้นางต้องเจ็บช้ำใจหรือเสียใจ แน่นอน พระองค์ก็จะตอบแทนพวกเขาอย่างสาสมเช่นกัน...
และอื่นๆ....
ท้ายสุดแล้วไม่มีบุคคลที่ฝ่าฝืนในคำสั่งของท่านนบี แน่นอนที่สุดพวกเขาจะต้องไปตอบคำถามจากการกระทำที่มีต่อลูกหลานนบี ต่อพระองค์อย่างแน่นอน ทุกสิ่งทุกอย่างต้องเป็นไปตามกลไก ที่พระองค์ทรงวางมันเอาไว้แล้ว และนั้นคือสาเหตุที่นางสั่งเสียว่าให้ฝังร่างของนางในตอนกลางคืน