เรื่องราวโดยสังเขปของ “ฆอดีรคุม”


เรื่องราวโดยสังเขปของ “ฆอดีรคุม”


     ในปีฮิจเราะฮ์ศักราชที่ 10 ขณะที่ท่านศาสดามุฮัมมัด ศ.  เดินทางกลับจากการทำฮัจญ์ครั้งสุดท้าย (ฮัจญะตุ้ลวิดาอ์) มวลมหาประชาชนซึ่งมีจำนวนถึง 124,000 คน ต่างเดินทางมาส่งท่าน จนกระทั้งมาถึงยังพื้นที่แห่งหนึ่งซึ่งมีชื่อว่า “ฆอดีรคุม” ในช่วงเที่ยงของวันที่ 18 เดือนซุลฮิจญะฮ์ ซึ่งทันใดนั้นเอง ญิบรออีลได้ลงมายังท่านศาสนทูตแห่งอัลลอฮ์ ศ. และนำโองการจากพระผู้เป็นเจ้าลงมายังท่านว่า
 يَا أَيُّهَا الرَّسُولُ بَلِّغْ مَا أُنْزِلَ إِلَيْكَ مِنْ رَبِّكَ ۖ وَإِنْ لَمْ تَفْعَلْ فَمَا بَلَّغْتَ رِسَالَتَهُ ۚ وَاللَّهُ يَعْصِمُكَ مِنَ النَّاسِ ۗ إِنَّ اللَّهَ لَا يَهْدِي الْقَوْمَ الْكَافِرِينَ
“โอ้ศาสนทูตเอ๋ย! จงประกาศสิ่งที่ถูกประทานลงมายังเจ้าจากพระผู้อภิบาลของเจ้า และถ้าเจ้าไม่ปฏิบัติ ก็เท่ากับเจ้าไม่ได้ประกาศสาส์นของพระองค์เลย และอัลลอฮ์จะทรงปกป้องเจ้าให้พ้นจากมนุษย์ แท้จริงอัลลอฮ์จะไม่ทรงนำทางหมู่ชนผู้ปฏิเสธ” (อัลกุรอานบทอัลมาอิดะฮ์ โองการที่ 67)
   ท่านศาสดา ศ. จึงออกคำสั่งให้กองคาระวานหยุดการเดินทาง ประชาชนทั้งหมดจึงหยุดพัก ณ ท้องทุ่งทะเลทรายที่แห้งแล้งภายใต้แสงแดดที่ร้อนจัด ประชาชนได้ใช้อานอูฐเรียงกันเป็นมิมบัร (แท่นเทศนา) ท่านศาสนทูตแห่งอัลลอฮ์ ศ. ได้ขึ้นไปยืนบนนั้น และหันหน้าไปยังประชาชน ในช่วงเริ่มต้นท่านได้กล่าวสรรเสริญสดุดีต่อพระผู้เป็นเจ้า และขอความคุ้มครองต่อพระองค์ให้พ้นจากความชั่วร้ายต่างๆ ของอารมณ์ใฝ่ต่ำ พร้อมกับกล่าวว่า

“โอ้ ประชาชนเอ๋ย! ฉันกำลังจะจากพวกท่านไปในเวลาอันใกล้นี้” จากนั้นท่านได้กล่าวเสริมว่า
ایهاالنَّاسُ، مَنْ اَوْلی بِکُمْ مِنْ اَنْفُسِکُمْ ؟
“โอ้ประชาชนเอ๋ย! ผู้ใดที่มีอำนาจปกครองเหนือชีวิตพวกท่าน มากยิ่งกว่าตัวของพวกท่านเอง” ?
   ทุกคนตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า “อัลลอฮ์และศาสนทูตของพระองค์ย่อมทราบดียิ่ง” ท่านศาสนทูตแห่งอัลลอฮ์ ศ. ได้กล่าวว่า
“โอ้ประชาชาติทั้งหลาย ฉันมิใช่หรือที่มีอำนาจปกครองพวกเจ้ามากกว่าตัวของพวกเจ้าเอง พวกเขาตอบว่า ใช่ครับ
ท่านศาสนทูต ศ. จึงกล่าวว่า

اَلا من کُنْتُ مَوْلاهُ فَهذا عَلی مَوْلاهُ

 ผู้ใดก็ตามที่ฉันเป็นผู้ปกครองของเขา อะลีผู้นี้ก็เป็นผู้ปกครองของเขาด้วยเช่นกัน

 จากนั้นท่านกล่าวว่า “โอ้อัลลอฮ์ ! โปรดเป็นมิตรต่อผู้ที่เป็นมิตรต่อเขา และโปรดเป็นศัตรูต่อผู้ที่เป็นศัตรูต่อเขา และโปรดช่วยเหลือผู้ที่ช่วยเหลือเขา และโปรดทอดทิ้งผู้ที่ทอดทิ้งเขา”
   ด้วยกับวิธีการดังกล่าวนี้เองที่ท่านอิมามอะลี อ. ได้ถูกแต่งตั้งจากพระผู้เป็นเจ้าให้เป็นผู้สืบทอดอำนาจต่อจากท่านศาสดา ศ.

ฮะดิษฆอดีรคุม เป็นฮะดิษปลอมตามคำอ้างของคนบางคนจริงหรือ ?

ข้าพเจ้าจะไม่ขอตอบเอง แต่อยากจะให้สมาชิกทุกท่านได้เห็นคำยืนยันถึงความถูกต้อง ความสมบูรณ์ของฮะดิษฆอดีรคุมจากปากของปวงปราชญ์ชาวซุนนะห์เอง...

อุลามามากมายของชาวซุนนะห์ยืนยันว่า ฮะดิษฆอดีรคุม เป็นฮะดิษที่อยู่ในระดับมุตะวาตีร ฮะดีษมุะตะวาติร /متواتر คือฮะดีษที่มีบุคคลจำนวนมากในทุกสมัยได้รายงานสืบทอดกันมายังต่อเนื่อง โดยไม่มีความเป็นไปได้เลยว่าบุคคลจำนวนมากเหล่านั้นจะสมคบกันกล่าวเท็จ /สถานภาพของฮะดีษมุตะวาติร ถือว่าเป็นสุดยอดของความถูกต้องโดยไม่มีข้อสงสัยเคลือบแคลงใดๆ

1. รายชื่อของปราชญ์ชาวซุนนะห์ที่ยืนยันว่า ฮะดิษฆอดีรคุม อยู่ในระดับฮะดิษมุตะวาตีร เช่น

1.1-   ชัมซุดดีน อัซซะฮ์บี้ (เสียชีวิต ฮ.ศ. 748)กล่าวว่า
มุฮัมมัด  บิน ญะรีร ฏอบรีฮ์ ได้รวบรวมสายรายงานเกี่ยวกับฮะดิษฆอดีรคุมไว้ใน 4 เล่ม ซึ่งฉันได้อ่านมันบางส่วน ทำให้แปลกใจถึงการรายงานที่แพร่หลายนี้ จนสิ่งนี้ทำให้ฉันมั่นใจว่า "เหตุการณ์ฆอดีรคุม คือเหตุการที่เกิดขึ้นจริงอย่างแน่นอน

قلت: جمع طرق حديث غدير خم في أربعة أجزاء رأيت شطره فبهرني سعة رواياته وجزمت بوقوع ذلك
الذهبي ، شمس الدين محمد بن أحمد بن عثمان بن قايماز ، سير أعلام النبلاء ، ج 14 ، ص 277 ، تحقيق : شعيب الأرناؤوط و محمد نعيم العرقسوسي ، ناشر : مؤسسة الرسالة - بيروت ، الطبعة التاسعة ، 1413 هـ .

อิบนิกะซีร ดะเมชกีอ์ ซะลาฟีอ์ ผู้เป็นศิษย์ของซะฮ์บีอ์ ได้รายงานคำพูดของผู้เป็นอาจารย์ของเขา ไว้ว่า ท่านซะฮ์บี ได้กล่าวว่า ฮะดิษฆอดีรคุมเป็นฮะดิษที่ถูกรายงานอยู่ในระดับมุตะวาตีร.......

قال : وصدر الحديث متواتر أتيقن أن رسول الله صلى الله عليه وسلم قاله ، وأما : «اللهم وال من والاه» فزيادة قوية الاسناد .
ابن كثير الدمشقي ، أبو الفداء إسماعيل بن عمر القرشي ، السيرة النبوية ، ج 4 ، ص 426 و البداية والنهاية ، ج 5 ، ص 214 ، ناشر : مكتبة المعارف – بيروت

1.2 - ท่านอิบนิ ฮะยัร อัซกอลานี (เสียชีวิต 852 ฮ.ศ.) ปราชญ์ผู้ลือนามของชาวซุนนะห์โดยเฉพาะด้านอิลมุลริยาล ถือได้ว่าเป็นหนึ่งใสสองปีกหลักของชาวซุนนะห์ก็ว่าได้ ท่านได้กล่าวถึงฮะดิษฆอดีรคุมไว้ว่า " ฮะดิษฆอดีรคุม ตีรมีซี และนิซาอีฮ์ ได้รายงานจากสายงานงานที่ศ่อฮิห์ และมีสายรายงานเป็นจำนวนมาก ซึ่งท่าน อิบนุ อุกดะฮ์ ได้รวบรวมไว้เป็นเล่มๆเป็นการเฉพาะ และมีสายรายงานจำนวนมากที่อยู่ในระดับศ่อฮิห์ และฮะซัน

واما حديث «من كنت مولاه فعلي مولاه» فقد أخرجه الترمذي والنسائي وهو كثير الطرق جداً وقد استوعبها بن عقدة في كتاب مفرد وكثير من اسانيدها صحاح وحسان
ابن حجر عسقلاني ، أحمد بن علي بن حجر أبو الفضل الشافعي ، فتح الباري شرح صحيح البخاري ، ج 7 ، ص 74 ، تحقيق : محب الدين الخطيب ، ناشر : دار المعرفة - بيروت .

1.3- ท่านอิบนิ ฮะญัร อัลฮัยษามีอ์ (เสียชีวิต 974 ฮ.ศ.)
อิบนิ ฮะญัร ได้ประพันธุ์หนังสือเพื่อโจมตีชีอะห์เล่มหนึ่งขึ้นมา แต่ก็ต้องยอมรับในความหลากหลายของสายรายงานฮะดิษฆอดีรคุม โดยกล่าวว่า ในความถูกต้อง(ศ่อฮิห์)ของฮะดิษฆอดีรคุม ถือว่าไม่เป็นที่สงสัยเลย ก็เพราะบุคลากรจำนวนมากได้รายงาน เช่น ตีรมีซี ,นิซาอี ,อะห์มัด และสายรายงานอื่นอีกจำนวนมาก ซึ่งมีศ่อฮาบะฮ์นบี รายงานฮะดิษนี้ถึง 15 คน แต่ในส่วนของท่านอะห์มัด กล่าวไว้ว่า ศ่อฮาบะฮ์กว่า 30 คนได้รายงานฮะดิษบทนี้ ซึ่งในยุคสมัยของท่านอะลี เมื่อเขาต้องการให้ศ่อฮาบะฮ์เหล่านั้นยืนยันว่าเหตุการณ์ในวันนั้น พวกเขาได้มายืนยันให้กับอะลีว่าได้ยินมาจากท่านนบี ศ.  ซึ่งมีสายรายงานมากมายที่อยู่ในระดับศ่อฮิห์ และฮะซัน และให้ถือว่าอย่าได้ไปสนใจกับบุคคลที่ต้องการจะท้วงติงในเรื่องสะนัต
أنه حديث صحيح لا مرية فيه وقد أخرجه جماعة كالترمذي والنسائي وأحمد و طرقه كثيرة جدا ومن ثم رواه ستة عشر صحابيا وفي رواية لأحمد أنه سمعه من النبي صلى الله عليه وسلم ثلاثون صحابيا وشهدوا به لعلي لما نوزع أيام خلافته كما مر وسيأتي وكثير من أسانيدها صحاح وحسان ولا التفات لمن قدح في صحته
ابن حجر الهيثمي ، أبو العباس أحمد بن محمد بن علي ، الصواعق المحرقة على أهل الرفض والضلال والزندقة ، ج 1 ، ص 106ـ 107 ، تحقيق : عبد الرحمن بن عبد الله التركي و كامل محمد الخراط ، ناشر : مؤسسة الرسالة - لبنان ، الطبعة الأولى ، 1417هـ - 1997م .

2. รายชื่อปวงปราชญ์ของชาวซุนนะห์ที่ยืนยันว่า ฮะดิษฆอดีรคุม คือฮะดิษที่อยู่ในระดับศ่อฮิห์ร้อยเปอร์เซ็น เช่น
2.1- ท่านตีรมีซีอ์ (หนึ่งในเจ้าของตำราศ่อฮิหุลซิตตะฮ์)กล่าวว่า ฮะดิษนี้อยู่ในระดับฮะซัน และศ่อฮิห์
حدثنا محمد بن بَشَّارٍ حدثنا محمد بن جَعْفَرٍ حدثنا شُعْبَةُ عن سَلَمَةَ بن كُهَيْلٍ قَال سمعت أَبَا الطُّفَيْلِ يحدث عن أبي سَرِيحَةَ أو زَيْدِ بن أَرْقَمَ شَكَّ شُعْبَةُ عن النبي صلى الله عليه وسلم قال : «من كنت مَوْلَاهُ فَعَلِيٌّ مَوْلَاهُ» .
قال : أبو عِيسَى هذا حَدِيثٌ حَسَنٌ صحيح وقد رَوَى شُعْبَةُ هذا الحديث عن مَيْمُونٍ أبي عبد اللَّهِ عن زَيْدِ بن أَرْقَمَ عن النبي صلى الله عليه وسلم وأبو سَرِيحَةَ هو حُذَيْفَةُ بن أَسِيدٍ الْغِفَارِيُّ صَاحِبُ النبي
2.2- ท่านอิบนิมาญะฮ์(หนึ่งในเจ้าของตำราศ่อฮิหุลซิตตะฮ์) กล่าวว่า สายรายงานของฮะดิษบทนี้ ศ่อฮิห์

حدثنا عَلِيُّ بن مُحَمَّدٍ ثنا أبو مُعَاوِيَةَ ثنا مُوسَى بن مُسْلِمٍ عن بن سَابِطٍ وهو عبد الرحمن عن سَعْدِ بن أبي وَقَّاصٍ قال قَدِمَ مُعَاوِيَةُ في بَعْضِ حَجَّاتِهِ فَدَخَلَ عليه سَعْدٌ فَذَكَرُوا عَلِيًّا فَنَالَ منه فَغَضِبَ سَعْدٌ وقال تَقُولُ هذا لِرَجُلٍ سمعت رَسُولَ اللَّهِ صلى الله عليه وسلم يقول من كنت مَوْلَاهُ فَعَلِيٌّ مَوْلَاهُ وَسَمِعْتُهُ يقول أنت مِنِّي بِمَنْزِلَةِ هَارُونَ من مُوسَى إلا أَنَّهُ لَا نَبِيَّ بَعْدِي وَسَمِعْتُهُ يقول لَأُعْطِيَنَّ الرَّايَةَ الْيَوْمَ رَجُلًا يُحِبُّ اللَّهَ وَرَسُولَهُ
«من كنت مولاه فعلىّ مولاه» .
«انت منّى بمنزلة هارون من موسى الّا أنّه لا نبىّ بعدى»
«لاعطينّ الرّاية رجلا يحبّ اللّه و رسوله ؛
ابن ماجه القزويني ، محمد بن يزيد (متوفاي275 هـ) ، سنن ابن ماجه ، ج 1 ، ص 45 ، ح121 ، باب فَضْلِ عَلِيِّ بن أبي طَالِبٍ رضي الله عنه ، تحقيق : محمد فؤاد عبد الباقي ، ناشر : دار الفكر - بيروت .
أخرجه ابن ماجة ( 121 ) . قلت : و إسناده صحيح .
ألباني، محمّد ناصر ، سلسة الأحاديث الصحيحة‌ ، ج 4 ، ص 249 ، طبق برنامه المكتبة الشاملة .

และนี้คือรายชื่อของปราชญ์ชาวซุนนะห์ทียืนยันว่า ฮะดิษฆอดีรคุม ศ่อฮิห์ร้อยเปอร์เซ็นครับ (หากให้ลงรายละเอียดของทุกคนก็บอกนะครับ เดี่ยวจัดเพิ่มให้)

1 . ترمذي از أبو طفيل
2 . ابن ماجه قزويني عن سعد بن أبي وقاص
3 . ابن ماجه قزويني عن براء بن عازب
4 . ابن حجر عسقلاني عن امير مؤمنان عليه السلام
5 . احمد بن حنبل عن رياح بن الحرث
6 . احمد بن حنبل عن أبي طفيل
7 . احمد بن حنبل عن سعيد بن وهب و زيد بن يسع
8 . نسائي عن زيد بن أرقم
9 . نسائي عن سعد بن أبي وقاص
10 . حاكم نيشابوري عن زيد بن أرقم
11 . بزار عن زيد بن يثيع
12 . بزار عن سعد بن أبي وقاص
13 . ابن أبي عاصم عن امير مؤمنان عليه السلام
14 . طبراني عن زيد بن أرقم

 

บทความโดย เอกภาพ ชัยศิริ