ฆอดีรคุมซีรี่ย์ ตอนที่ 2:  พิสูจน์ฆอดีร ด้วยโองการอัลกุรอาน

 

~ จากคำกล่าวของท่านผู้นำสูงสุดรัฐอิสลามฯ อิมาม ซัยยิดอาลี คาเมเนอี

ในพระมหาคัมภีร์อัลกุรอาน มีโองการมากมาย ที่สามารถถูกนำมาจับคู่กับเรื่องฆอดีรกุมเพียงเรื่องเดียวเท่านั้น โดยไม่อาจสอดคล้องกับประเด็นอื่น ๆ

มีโองการหนี่ง ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดี ความว่า:

الْيَوْمَ يَئِسَ الَّذِينَ كَفَرُوا مِن دِينِكُمْ فَلَا تَخْشَوْهُمْ وَاخْشَوْنِ ۚ الْيَوْمَ أَكْمَلْتُ لَكُمْ دِينَكُمْ وَأَتْمَمْتُ عَلَيْكُمْ نِعْمَتِي وَرَضِيتُ لَكُمُ الْإِسْلَامَ دِينًا ۚ

วันนี้ บรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธา ได้หมดหวังในศาสนาของพวกเจ้าแล้ว ดังนั้นพวกเจ้าจงอย่ากลัวพวกเขา และจงกลัวข้าเถิด วันนี้ข้าได้ให้สมบูรณ์แก่พวกเจ้าแล้ว ซึ่งศาสนาของพวกเจ้าและข้าได้ให้ครบถ้วนแก่พวกเจ้าแล้ว ซึ่งความกรุณาเมตตาของข้า และข้าได้เลือกอิสลามให้เป็นศาสนาแก่พวกเจ้าแล้ว”  [อัลกุรอาน 5: 3]  

โองการนี้อยู่ในช่วงต้นของบทซูเราะฮ์ อัล-มาอิดะฮ์ และเป็นโองการที่ไม่สอดคล้องกับเรื่องอื่นใด นอกจากเรื่องฆอดีรกุม ในแง่ของความหนัก ความสำคัญ และคุณค่า

เฉพาะเรื่องฆอดีรกุมเท่านั้น ที่จะเหมาะเจาะกับประโยคที่ว่า “วันนี้ผู้ที่ปฏิเสธศรัทธา ได้หมดหวังในศาสนาของเจ้า”  — บรรดาผู้ที่ตั้งคำถาม ในเนื้อหาของโองการเหล่านี้ และผู้ที่แสดงความคิดเห็นบางประการ เพื่อปฏิเสธเรื่องราวนี้อย่างเจาะจง – ผู้คัดค้านฆอดีร และเหล่าผู้ที่ไม่เชื่อถือในเรื่องนี้ – ได้ตีความโองการนี้ไปในวิธีอื่น แต่ทว่า ส่วนนี้ของโองการนี้นั้น ก็ไม่สามารถตีความเป็นอื่นได้ —วันนี้เป็นวันที่ศัตรู - กาเฟร (ผู้ปฏิเสธศรัทธา) - สิ้นหวังกับศาสนาของเจ้า มันมีอะไรเพิ่มเข้ามาในศาสนาหรือ ที่ทำให้ศัตรูต้องสิ้นหวัง?

กฎเกณฑ์ทางศาสนาที่ปรากฏในโองการนี้ และในตอนต้นของซูเราะฮ์อัล-มาอิดะฮ์ มีความสำคัญเพียงใด ทั้งก่อนและหลังจากส่วนนี้ของโองการ? ส่วนนี้ของโองการไม่ได้หมายถึง การละหมาดประจำวัน ซะกาต และการญิฮาด และไม่ได้หมายถึงกฎเกณฑ์ภายนอกใดๆ เลย: “วันนี้ผู้ปฏิเสธศรัทธา สิ้นหวังในศาสนาของเจ้า โดยสิ้นเชิง”  ดังนั้น มันจึงมีอีกประเด็นหนึ่งที่เข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งไม่เกี่ยวกับกฎเกณฑ์ทางศาสนา ที่ปรากฏในซูเราะฮ์ ประเด็นนั้นคืออะไรหรือ?

มันคือ ประเด็นการเป็นผู้นำแห่งประชาคมอิสลาม
มันคือ ประเด็นว่าด้วยการปกครอง และระบอบอิมามัตในประชาคมอิสลาม  แน่นอน มันเป็นไปได้ ที่มวลมุสลิมจะไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนี้ และแท้จริงแล้ว พวกเขาก็ไม่ได้ทำอย่างนั้น!  เป็นเวลาหลายศตวรรษ ที่บนีอุมัยยะฮ์ บนีอับบาส และกลุ่มอื่น ๆ เช่นนั้น ดำรงอยู่เยี่ยงกษัตริย์ และปกครองประชาชนในนามของอิมาม คอลีฟะฮ์ (ผู้ปกครองอิสลาม) และอื่น ๆในทำนองเดียวกัน อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้ ไม่อาจทำอันตรายต่อปรัชญาแห่งฆอดีรได้ เหตุการณ์แห่งการกำหนดฆอดีร คือ เหตุการณ์แห่งการกำหนดกฎเกณฑ์ และข้อบังคับ

มีการนำเสนอกฎระเบียบบางประการที่เฉพาะเจาะจงในศาสนาอิสลาม ในช่วงเดือนสุดท้ายของชีวิตของท่านศาสดา(ศ็อลฯ) ท่านได้ออกกฎระเบียบ ระเบียบนั้นคืออะไร?  มันคือ ระเบียบแห่งระบอบอิมามัต, ระเบียบแห่งวิลายัต

นานก่อนกาลของท่านศาสดา(ศ็อลฯ) สังคมมนุษย์มีการปกครอง(/รัฐบาล) มนุษยชาติได้ประสบพบกับการปกครอง (/รัฐบาล)ทุกประเภท แต่อิสลามไม่เชื่อถือในระบบดังกล่าว และในอำนาจดังกล่าว และในรัฐบาลดังกล่าว  อิสลามเชื่อมั่นในระบอบอิมามัต  นี่เป็นข้อบังคับของศาสนาอิสลาม และเหตุการณ์ฆอดีร ก็ได้ประกาศระเบียบนี้

และมันชัดเจนว่าหมายถึงใคร อิมาม อมีรุลมุอฺมีนีนอาลี (อ.) ประมุขเหนือบรรดาผู้ศรัทธา คือบุคคลที่มีบุคลิกภาพและสถานะ ในฐานะตัวแทนของพระผู้เป็นเจ้า ในแนวความคิด และคำสอนของอัลกุรอาน ซึ่งไม่สามารถถูกตำหนิได้โดยผู้ใดก็ตาม ที่มีชีวิตอยู่ในช่วงเวลานั้น หรือภายหลังจากนั้น พวกเขาเคยสาปแช่งท่าน ทว่าพวกเขาก็สาปแช่งพระผู้เป็นเจ้า และท่านศาสดาผู้บริสุทธิ์ด้วย นะอูซูบิลลาฮ์ฯ การสาปแช่งใครสักคน ไม่ใช่เหตุผลที่ดีที่จะปฏิเสธพวกเขา

เมื่อทุกคนขบคิด เมื่อทุกคนละทิ้งความรู้สึกเบี่ยงเบน พวกเขาจะไม่อาจสร้างความเสียหาย แม้แต่เพียงเล็กน้อย ต่อเรือนร่างที่รู้แจ้งและมีเกียรติ ซึ่งมิอาจล่วงเกินได้นี้ ท่านศาสดา(ศ็อลฯ) ได้เลือกบุคคลนั้น (คือท่านอิมามอาลี อ.) ให้เป็นศูนย์รวมของระบอบอิมามัต สิ่งนี้ได้กลายเป็นระเบียบ

จนกว่าจะถึงวันสิ้นโลก เมื่อใดก็ตามที่มวลมุสลิมต้องการได้รับการชี้นำจากพระผู้เป็นเจ้า เพื่อให้พวกเขาสามารถปฏิบัติตามอิสลาม และบรรลุถึงประชาคมอิสลาม นี่จะเป็นกฎเกณฑ์และข้อบังคับ: พวกเขาควรฟื้นคืนระบอบอิมามัต..

อิมาม ซัยยิดอาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่าน เมื่อวันที่ 20 กันยายน ค.ศ. 2016

แปลและเรียงเรียงโดย อุมมุลชูฮาดา ธำรงทรัพย์